BMW 320d GT รีวิว: ใหม่จริงหรือแค่ Minor Change? ยังน่าเล่นอยู่ไหม?

BMW 320d GT: ใหม่จริงหรือแค่ Minor Change? ยังน่าเล่นอยู่ไหมในปีนี้?

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวแก๊งคนรักรถ (และคนที่กำลังมองหารถมือสองสภาพดี)! วันนี้ผมมีเรื่องเม้าท์มอยเกี่ยวกับรถยนต์เยอรมันสุดหล่อ รุ่นนึงที่เคยฮิตติดลมบนอยู่ช่วงนึง นั่นก็คือ BMW 320d GT หรือชื่อเต็มๆ คือ Gran Turismo นั่นเอง หลายคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ รุ่นนี้มันยังไงกันแน่? เห็นรูปทรงแปลกตาไม่เหมือนซีรีส์ 3 ปกติ แล้วตอนนี้มันยังน่าสอยมาใช้ในชีวิตประจำวันอยู่รึเปล่า? ใหม่จริง หรือแค่ปรับปรุงจากรุ่นเดิมนิดๆ หน่อยๆ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจ พร้อมรีวิวให้เห็นภาพชัดๆ เหมือนนั่งอยู่บนเบาะข้างคนขับไปด้วยกันเลย!

1. ภาพรวมของสินค้า: รู้จักเจ้า BMW 320d GT ให้มากขึ้น

ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าเจ้า BMW 3 Series GT (รหัสตัวถัง F34) เนี่ย ไม่ได้เป็นรถใหม่ป้ายแดงที่ออกจากโชว์รูม BMW ณ ตอนนี้แล้วนะจ๊ะ เพราะเค้าเลิกผลิตไปตั้งแต่ประมาณปี 2019 แล้วจ้า แต่ตลาดรถมือสองบ้านเรายังคึกคัก มีให้เห็นเพียบเลยล่ะ

แบรนด์: BMW
รุ่น: 320d Gran Turismo (GT) (รหัสตัวถัง F34)
ปีที่ผลิต: ส่วนใหญ่ที่เห็นในตลาดมือสองจะเป็นช่วงปี 2013 - 2019
ช่วงราคาขาย (มือสอง): ตอนนี้ราคาลงมาน่ารักน่าลุ้นแล้วนะ เจอตั้งแต่หลักหกแสนปลายๆ ไปจนถึงล้านต้นๆ ขึ้นอยู่กับปี สภาพ และออปชัน

การวางตำแหน่งสินค้า (ในตอนที่ยังขาย): เค้าวางมาเป็นตัวเลือกที่อยู่ระหว่างซีรีส์ 3 ซีดาน (F30) กับซีรีส์ 3 Touring (แวกอน) โดยเน้นความกว้างขวาง นั่งสบาย และพื้นที่เก็บสัมภาระที่เยอะกว่าซีดาน แต่ก็ยังมีความสปอร์ตตามสไตล์ BMW

สรุปจุดเด่นหลักๆ (ที่น่าสนใจในตลาดมือสอง):

• พื้นที่ภายในกว้างขวาง: โดยเฉพาะพื้นที่วางขาด้านหลัง นั่งสบายกว่าซีดานอย่างเห็นได้ชัด
• ช่วงล่างนุ่ม นั่งสบาย: ปรับปรุงให้มีความนุ่มนวลในการเดินทางไกลมากกว่าซีดาน
• ฝาท้ายไฟฟ้าแบบ Hatchback: ขนของใหญ่ๆ สะดวกสบายมาก
• เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร: ให้กำลังดี แถมยังประหยัดน้ำมันใช้ได้เลย
• รูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์: จะว่าแปลกก็ได้ จะว่ามีสไตล์ก็ได้ ไม่ซ้ำใครดี

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: ใหญ่กว่าที่คิด แต่มีสไตล์

พอเห็นคันจริงครั้งแรก อาจจะรู้สึกว่า "โห ตัวใหญ่กว่า 3 ซีดานเยอะเลยนี่นา!" ใช่แล้วครับ ตัวถังเค้ายาวกว่าและสูงกว่าซีดานพอสมควรเลย ทำให้รถดูเต็มขึ้น ดูภูมิฐานขึ้น วัสดุภายนอกตามสไตล์ BMW คือแข็งแรงทนทานหายห่วง

การออกแบบ: ทรงมันจะออกแนวกึ่งซีดาน กึ่งแฮทช์แบ็ก ท้ายลาดๆ หน่อย มีสปอยเลอร์หลังที่สามารถยกขึ้น-ลงได้ด้วยไฟฟ้า (เท่ป่ะล่ะ!) บางคนอาจจะชอบในความไม่เหมือนใคร แต่บางคนก็อาจจะมองว่ามันดูอุ้ยอ้ายไปหน่อย อันนี้แล้วแต่คนชอบเลย

วัสดุที่ใช้: คุณภาพตามมาตรฐานรถยุโรประดับพรีเมียม แข็งแรง แน่นหนา

ขนาดและน้ำหนัก: อย่างที่บอกว่าใหญ่กว่าซีดาน ความยาวตัวถังอยู่ที่ประมาณ 4.8 เมตร น้ำหนักตัวก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

สีที่มีให้เลือก: ตอนเป็นรถใหม่มีหลายสีเลย แต่ในตลาดมือสองก็เจอสีขาว สีดำ สีเงิน เป็นหลัก

ความสะดวกในการพกพา/เหมาะกับวางไว้ที่ไหนในบ้าน: อันนี้เป็นรถยนต์นะจ๊ะ ไม่ได้พกพาไปไหนง่ายๆ แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่าซีดานเล็กน้อย ก็อาจจะต้องดูพื้นที่จอดรถที่บ้านหรือที่ทำงานนิดนึง แต่โดยรวมก็ยังจอดในที่จอดรถมาตรฐานได้สบายๆ

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ถ้าซื้อมือสองก็คงได้แต่ตัวรถ กุญแจ และคู่มือ (ถ้าเจ้าของเดิมเก็บไว้) แต่ตอนเป็นรถใหม่ก็จะมีพวกคู่มือ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฯลฯ

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ขับดี เครื่องแรง ประหยัดใช้ได้

หัวใจหลักของเจ้า 320d GT ก็คือเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร TwinPower Turbo ที่ให้กำลังถึง 190 แรงม้า และแรงบิด 400 นิวตันเมตร ตัวเลขนี้บอกเลยว่า เหลือเฟือสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ออกตัว เร่งแซง ไปจนถึงเดินทางไกล

อัตราเร่ง: จังหวะออกตัวพุ่งดีแบบหลังติดเบาะ กดคันเร่งแซงรถบรรทุกสบายหายห่วง ข้อมูลจากหลายแหล่งบอกว่าทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ประมาณ 7.7 - 8.1 วินาที ซึ่งถือว่าเร็วใช้ได้เลยสำหรับรถดีเซล

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน: จุดเด่นเลยคือความประหยัด! ด้วยความที่เป็นเครื่องดีเซล ขับขี่นอกเมืองทำตัวเลข 20 กม./ลิตร+ ได้สบายๆ ในเมืองอาจจะลดลงมาหน่อย แต่โดยรวมถือว่าประหยัดมากๆ เมื่อเทียบกับขนาดและสมรรถนะ

ระบบต่างๆ: มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic ที่ทำงานฉับไว เปลี่ยนเกียร์ได้สมูทมากๆ มีโหมดการขับขี่ให้เลือกหลายแบบ ทั้ง ECO PRO, Comfort, Sport ปรับได้ตามใจชอบ พวงมาลัยไฟฟ้าก็น้ำหนักดี ขับสนุก แม่นยำตามสไตล์ BMW

ยกตัวอย่างสถานการณ์จริง: ขับจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ช่วงเทศกาลปีใหม่ นั่ง 4 คน พร้อมสัมภาระเต็มท้ายรถ เครื่องยนต์ดีเซลนี่แหละตัวช่วยชั้นดี กำลังไม่ตก เร่งแซงได้มั่นใจ แถมแวะปั๊มน้ำมันน้อยกว่ารถเบนซินเยอะ ประหยัดตังค์ไปได้อีก!

4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน

ถึงจะเป็นรถยุโรป แต่ BMW 320d GT ก็ไม่ได้ใช้งานยากอย่างที่คิดครับ ระบบต่างๆ ออกแบบมาให้ผู้ขับขี่คุ้นเคยได้ไม่ยาก

ใช้ง่ายมั้ย?: ตัวรถขับง่าย ควบคุมง่าย พวงมาลัยเบาในความเร็วต่ำ หนักแน่นขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูง ระบบเกียร์ฉลาด ใช้งานได้เลย ไม่ต้องเรียนรู้อะไรซับซ้อน

ระบบซอฟต์แวร์ลื่นมั้ย เป็นมิตรกับผู้ใช้หรือเปล่า?: ระบบ iDrive ของ BMW เป็นที่ยอมรับว่าใช้งานง่าย หน้าจอสัมผัสใหญ่ (บางรุ่น) ควบคุมด้วยปุ่ม iDrive ที่คอนโซลกลางก็สะดวก ไม่ต้องละสายตาจากถนนเยอะ รองรับภาษาไทยด้วยนะ (อันนี้สำคัญ!)

เสียงดังมั้ย ร้อนเร็วมั้ย สบายเวลาถือ/สวมใส่หรือไม่: เสียงเครื่องยนต์ดีเซลอาจจะมีดังเข้ามาบ้างตอนสตาร์ทหรือเร่งเครื่อง แต่โดยรวมถือว่าเก็บเสียงได้ดีพอสมควร นั่งในรถสบายครับ ไม่ได้รู้สึกร้อนอะไรผิดปกติ

รองรับภาษาไทยมั้ย ใช้กับแอปในไทยได้หรือเปล่า: รองรับภาษาไทยในระบบ iDrive และเชื่อมต่อ Bluetooth กับมือถือเพื่อฟังเพลง รับสายได้ปกติ ส่วนแอปนำทางต่างๆ บนมือถือก็ใช้ได้อยู่แล้ว

5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ประหยัดน้ำมัน แต่ค่าดูแลต้องมีงบ

มาถึงเรื่องสำคัญสำหรับคนเล่นรถมือสอง นั่นก็คือเรื่องค่าใช้จ่ายระยะยาวครับ

ระยะเวลาการใช้งานต่อการชาร์จ 1 ครั้ง / ความเร็วในการชาร์จ / เติมพลังงาน: อันนี้เป็นรถดีเซล ก็ใช้น้ำมันดีเซลเติมปกติเลยครับ ถังน้ำมันจุประมาณ 57-60 ลิตร เติมเต็มถังวิ่งได้ไกล 700-1,000 กม. สบายๆ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่

ค่าใช้จ่ายระยะยาว เช่น การเปลี่ยนอะไหล่: BMW เป็นรถยุโรป ค่าบำรุงรักษาและค่าอะไหล่ก็จะสูงกว่ารถญี่ปุ่นแน่นอน แนะนำว่าควรเตรียมงบสำหรับตรงนี้ไว้ด้วย หรือหาสูตรเข้าร้านซ่อมอู่นอกที่เชี่ยวชาญ BMW จะช่วยประหยัดได้เยอะครับ

วิเคราะห์ความคุ้มค่า เปรียบเทียบกับของที่ราคาใกล้เคียง: ถ้ามองหารถยนต์นั่งที่กว้างขวาง นั่งสบาย ขับสนุก และประหยัดน้ำมัน ในงบประมาณไม่เกินล้านบาท เจ้า 320d GT มือสองถือว่า คุ้มค่าน่าสนใจมาก เพราะได้รถแบรนด์พรีเมียม ได้สมรรถนะที่ดีเยี่ยม ได้ความประหยัดน้ำมันในแบบที่รถยุโรปน้ำมันไม่ค่อยมี และได้พื้นที่ใช้สอยที่หลากหลายกว่าซีดานทั่วๆ ไป ในราคาที่ถูกลงจากตอนเป็นรถใหม่เยอะมากๆ

6. สรุปข้อดี-ข้อเสีย (วิเคราะห์แบบกลางๆ ไม่อวยเกิน)

อะไรจะดี จะไม่ดีบ้าง มาดูกันแบบตรงไปตรงมา

ข้อดี (ที่คนไทยน่าจะชอบ):

• ช่วงล่างนุ่ม ขับสบาย นั่งทางไกลไม่เมื่อย: อันนี้ถูกใจคนไทยแน่นอน เพราะถนนเมืองไทยบางทีก็ไม่ได้เรียบเหมือนสนามแข่ง
• พื้นที่โดยสารด้านหลังกว้างขวาง: นั่ง 3 คนด้านหลังยังพอไหว พื้นที่วางขาเหลือเฟือ เหมาะกับครอบครัว หรือคนที่ต้องเดินทางกับเพื่อนฝูงบ่อยๆ
• ฝาท้ายใหญ่ ขนของสะดวก: จะย้ายบ้าน ขนจักรยาน หรือซื้อของเข้าบ้านเยอะๆ แฮทช์แบ็กท้ายใหญ่ช่วยได้เยอะ
• ประหยัดน้ำมันจริงจัง: ยุคน้ำมันแพง ดีเซลประหยัดๆ แบบนี้คือคำตอบ
• ได้รถ BMW ในราคาจับต้องได้: ความภูมิฐาน ความหล่อของแบรนด์นี้ ยังไงก็มีผลต่อการตัดสินใจ

ข้อเสีย (ที่อาจทำให้ลังเลใจ):

• ค่าบำรุงรักษา/ซ่อมแซมอาจจะสูงกว่ารถญี่ปุ่น: อันนี้ต้องทำใจและวางแผนงบไว้หน่อย
• รูปทรงอาจจะไม่ถูกใจทุกคน: บางคนอาจจะยังติดภาพซีดานท้ายสั้น หรือแวกอนไปเลย ทรง GT มันจะดูป้อมๆ หน่อย
• เป็นรถที่เลิกผลิตแล้ว: อะไหล่บางชิ้นอาจจะต้องใช้เวลาหาบ้าง แต่โดยรวมอะไหล่เครื่องยนต์ ช่วงล่าง ยังหาไม่ยาก เพราะใช้ร่วมกับซีรีส์ 3 และรุ่นอื่นๆ ในแพลตฟอร์มเดียวกัน
• ถ้าเจอคันที่ดูแลไม่ดี อาจจะมีปัญหาจุกจิก: รถยุโรปมือสองสำคัญที่ประวัติการดูแลครับ ต้องเลือกดีๆ
• เบาะหลังบางคนอาจจะรู้สึกว่าแข็งไปหน่อย: บางรีวิวก็บอกว่าเบาะหลังแบนและแข็งนิดนึง

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ถ้าชอบความสบายและพื้นที่ นี่คือตัวเลือกที่ดี

แล้วเจ้า 320d GT มือสอง เหมาะกับใครบ้างล่ะ?

เหมาะกับผู้ใช้แบบไหน:

• คนที่มองหารถยนต์นั่งสบาย เน้นเดินทางไกล: ช่วงล่างนุ่ม พื้นที่ภายในกว้าง นั่งยาวๆ ไม่อ่อนเพลีย
• คนที่ต้องการรถยนต์ใช้งานหลากหลาย: ขนของได้เยอะ เหมาะกับคนที่มีกิจกรรมหลากหลาย
• คนที่ชอบรถยุโรป แต่มีงบจำกัด: ได้รถ BMW คุณภาพดี สมรรถนะเยี่ยม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
• คนที่รับได้กับค่าบำรุงรักษาตามสไตล์รถยุโรป: มีงบสำรองไว้ดูแลน้องบ้างเป็นครั้งคราว

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน:

• ขับในเมืองและเดินทางไกลสลับกัน: ประหยัดน้ำมันทั้งในเมืองและนอกเมือง
• ใช้เป็นรถครอบครัว: พื้นที่กว้างขวาง บรรจุคนและสัมภาระได้สบาย
• ใช้ทำงานที่ต้องขนของเยอะๆ: เช่น ช่างภาพ อีเวนต์ออร์แกไนเซอร์ ที่ต้องพกอุปกรณ์เยอะๆ

ควรซื้อเลยไหม? หรือรอช่วงโปรโมชั่นจะดีกว่า?: ในฐานะรถมือสอง ราคาขึ้นอยู่กับตลาดและสภาพรถแต่ละคันเป็นหลักครับ ถ้าเจอคันที่ถูกใจ สภาพดี ราคาเหมาะสมกับงบที่มี ก็จัดได้เลย ไม่ต้องรอโปรฯ เหมือนรถใหม่ แต่ถ้าไม่รีบ จะติดตามเต็นท์รถหรือเจ้าของที่ประกาศขาย อาจจะมีจังหวะได้ราคาพิเศษบ้างก็ได้ครับ

8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (ในตลาดมือสอง)

ถ้าเทียบกับรถอื่นๆ ในตลาดมือสองที่ราคาใกล้เคียงกัน เจ้า 320d GT มีความโดดเด่นเรื่องพื้นที่ภายในและความสบายในการขับขี่ที่มากกว่าซีดานอย่าง BMW 3 Series (F30) รุ่นปกติ หรือคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz C-Class (W205) หรือ Audi A4

ถ้าเทียบกับรถ SUV ในราคาใกล้เคียงกัน เจ้า 320d GT จะได้ความรู้สึกขับขี่แบบรถเก๋งที่เกาะถนนและขับสนุกกว่า แต่รถ SUV ก็จะได้ความสูงโปร่ง ทัศนวิสัยที่ดีกว่า และลุยน้ำได้ดีกว่าเล็กน้อย

ส่วนถ้าเทียบกับ BMW 320d รุ่นซีดาน (F30) หรือ Touring (F31) ในปีใกล้ๆ กัน GT จะให้พื้นที่โดยสารด้านหลังที่กว้างขวางกว่า และช่วงล่างที่นุ่มนวลกว่า แต่ซีดานจะมีความคล่องตัวมากกว่าเล็กน้อย ส่วน Touring ก็จะเน้นพื้นที่เก็บของด้านท้ายเป็นหลัก แต่ทรง GT จะได้ความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ (สำหรับรถมือสอง)

ซื้อรถมือสอง การดูแลหลังการขายก็เป็นเรื่องสำคัญครับ

มีการรับประกันหรือไม่?: ส่วนใหญ่รถมือสองจะไม่มีการรับประกันจากศูนย์ BMW แล้วครับ แต่บางเต็นท์รถอาจจะมีรับประกันเครื่องยนต์ เกียร์ ให้ช่วงสั้นๆ ลองสอบถามผู้ขายดู

เครือข่ายการให้บริการเป็นอย่างไร?: สามารถนำรถเข้าศูนย์บริการ BMW ได้ปกติ แต่ค่าบริการก็จะตามมาตรฐานศูนย์ฯ ซึ่งอาจจะสูง ทางเลือกยอดนิยมสำหรับคนเล่นรถยุโรปมือสองคือการเข้าร้านซ่อมอู่นอกที่เชี่ยวชาญ BMW โดยเฉพาะ ซึ่งมีอยู่หลายแห่งในไทย ค่าบริการมักจะย่อมเยากว่า

มีบริการลูกค้าในพื้นที่ / การรับประกันการคืนสินค้าและเปลี่ยนสินค้า หรือไม่: อันนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของผู้ขายแต่ละรายครับ ถ้าซื้อจากเต็นท์ใหญ่ๆ อาจจะมีนโยบายรับประกันหรือการเปลี่ยนรถให้ภายในเงื่อนไขที่กำหนด แต่ถ้าซื้อจากเจ้าของโดยตรงก็ต้องตรวจเช็คสภาพให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ

โปรโมชั่นล่าสุดในช่องทางต่างๆ: สำหรับรถมือสอง โปรโมชั่นมักจะเป็นเรื่องของราคาพิเศษจากผู้ขาย หรือเงื่อนไขไฟแนนซ์ที่น่าสนใจ เช่น ดอกเบี้ยพิเศษ หรือผ่อนยาวๆ ลองดูตามเว็บไซต์ขายรถมือสอง หรือเต็นท์รถต่างๆ ครับ

ตัวเลือกผ่อนชำระ, คูปองส่วนลด, เงินคืน: การผ่อนชำระทำได้อยู่แล้วผ่านไฟแนนซ์รถยนต์มือสอง ส่วนคูปองส่วนลดหรือเงินคืนอาจจะต้องลุ้นจากแคมเปญของเต็นท์รถ หรือผู้ขายแต่ละราย

ระยะเวลาการจัดส่งและค่าจัดส่งโดยประมาณ: ถ้าซื้อจากเต็นท์รถในพื้นที่ ก็ขับกลับได้เลย แต่ถ้าอยู่ต่างจังหวัดอาจจะต้องคุยเรื่องการขนส่งกับผู้ขาย ซึ่งมักจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ถ้าชอบความสบาย ความกว้าง และความประหยัด ดีเซล GT ตอบโจทย์

สรุปกันเลยว่า BMW 320d GT มือสอง ยังน่าเล่นอยู่ไหม?

ถ้าคุณกำลังมองหารถยนต์นั่งสไตล์ยุโรป ที่ให้ความ สบายในการขับขี่และโดยสาร โดยเฉพาะเบาะหลังที่กว้างขวางกว่าซีดานทั่วไป ต้องการรถที่ ประหยัดน้ำมันมากๆ สำหรับการเดินทางไกล และต้องการ พื้นที่เก็บสัมภาระที่ยืดหยุ่น ขนของได้เยอะ ใน งบประมาณที่จับต้องได้ กว่าตอนเป็นรถใหม่เยอะมากๆ

แนะนำให้ซื้อ! โดยเฉพาะถ้าเจอคันที่ประวัติดี วิ่งน้อย และผ่านการตรวจเช็คสภาพมาอย่างละเอียดแล้ว

คำแนะนำเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้งาน:

• สำหรับคนมีครอบครัว หรือมีผู้ใหญ่นั่งด้วยบ่อยๆ: ตัวนี้ตอบโจทย์เรื่องความสบายและพื้นที่ด้านหลังได้ดีเยี่ยมครับ
• สำหรับคนที่เดินทางไกลบ่อยๆ: ความประหยัดน้ำมันของเครื่องดีเซล และความสบายของช่วงล่าง จะทำให้การเดินทางของคุณมีความสุขขึ้นเยอะ
• สำหรับคนงบจำกัด แต่ฝันอยากขับ BMW: การสอยมือสองคือทางออกที่ดีครับ ได้รถดี สมรรถนะเยี่ยม ในราคาที่ยิ้มได้ แต่อย่าลืมเผื่องบสำหรับดูแลรักษาไว้ด้วยนะครับ

อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจซื้อ ย้ำอีกครั้งว่าควรตรวจสอบประวัติรถให้ดี พาผู้เชี่ยวชาญไปช่วยดู หรือนำเข้าศูนย์ BMW ตรวจเช็คสภาพก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้รถมือสองที่คุ้มค่าและพร้อมใช้งานไปอีกนานๆ ครับ ขอให้ได้รถที่ถูกใจกันทุกคนนะ!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• BMW 320d GT พูดคุยคนใช้จริง series นี้ดีไหม มีปัญหาหรือเปล่า ...
• รีวิว BMW 320d GT LUXURY ราคา 2699000.
• BMW 320d GT พูดคุยคนใช้จริง series นี้ดีไหม มีปัญหาหรือเปล่า ...
• The Coup Channel : รถยนต์สายพันธุ์ใหม่ BMW 320d GT
• ลอง BMW Series3 ไมเนอร์เชนจ์ (MY2022) เปลี่ยนโคตรเยอะ หน้า ...