ราคา ลิป Laura Mercier รุ่นไหนสีสวย เนื้อดี? ซื้อที่ไหนได้โปรโมชั่น?

สวัสดีจ้าสาวๆ ชาวซิสต้าที่เลิฟลิปสติกทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกแบรนด์โปรดของใครหลายๆ คน นั่นก็คือ Laura Mercier (ลอร่า เมอซิเอ) ในหมวดลิปสติกสุดปัง! ใครที่กำลังตามหาลิปสีสวย เนื้อดี ติดทนทาน ไม่ทำให้ปากแห้ง แถมยังอยากรู้ว่าซื้อที่ไหนจะได้ราคาดี โปรโมชั่นเด็ดๆ บ้าง มามุงตรงนี้เลยจ้า รับรองว่าอ่านจบปุ๊บ กระเป๋าสตางค์สั่น อยากพุ่งตัวไปช้อปทันทีแน่นอน!

1. ลิป Laura Mercier มันดียังไง ทำไมต้องมี?

มาเริ่มกันที่ตัวตนของน้องลิป Laura Mercier ก่อนเลย แบรนด์นี้เค้าเป็นแบรนด์เครื่องสำอางระดับโลกจากอเมริกา ก่อตั้งโดยเมคอัพอาร์ติสชาวฝรั่งเศสชื่อเดียวกันคือ Laura Mercier ซึ่งมีปรัชญาที่เน้นการสร้าง "ผิวสวยไร้ที่ติ" หรือ "Flawless Face" แต่ใช่ว่าจะมีดีแค่เรื่องผิวสวยนะจ๊ะ เรื่องลิปสติกเค้าก็ปังไม่แพ้กัน! ลิปของ Laura Mercier เนี่ย เค้าขึ้นชื่อเรื่อง เม็ดสีแน่น สีชัดเจน ตั้งแต่ปาดครั้งแรก ไม่ว่าจะปากคล้ำแค่ไหนก็เอาอยู่ เนื้อสัมผัสก็มีให้เลือกหลากหลาย แล้วแต่รุ่นเลย ทั้งแบบ เนื้อซาตินนุ่มๆ เบาสบายปาก หรือจะเป็น เนื้อแมตต์แบบกำมะหยี่ ที่ไม่แห้งตึง ที่สำคัญคือหลายๆ รุ่นเค้าใส่ส่วนผสมบำรุงมาให้ด้วย ทาแล้วปากดูอิ่มเอิบ ไม่ตกร่องระหว่างวัน

กลุ่มคนที่เหมาะกับลิป Laura Mercier ก็มีตั้งแต่สาวๆ ที่ชอบแต่งหน้า Everyday Look ใสๆ ไปจนถึงสายจัดเต็มที่ต้องการความเป๊ะ ความแน่น เพราะเค้ามีเฉดสีให้เลือกเยอะมากกกก ไม่ว่าจะโทนชมพู ส้ม แดง นู้ด น้ำตาล หรือแม้แต่โทนม่วงๆ ก็มี แถมหลายๆ เฉดก็ออกแบบมาให้เข้ากับสีผิวของสาวเอเชียอย่างเราด้วยนะ ใครที่กำลังมองหาลิปคู่ใจที่คุณภาพดี ใช้ได้ทุกวัน หรือวันพิเศษ ก็ต้องลองลิป Laura Mercier เลยจ้า

2. ราคาในไทยประมาณเท่าไหร่ กดที่ไหนคุ้มสุด?

มาถึงเรื่องที่ทำให้ใจสั่น นั่นก็คือเรื่องราคา! ลิปสติก Laura Mercier ในไทยเนี่ย ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงราคาประมาณ ฿1,100 - ฿1,800 โดยประมาณนะจ๊ะ ราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นและโปรโมชั่นของแต่ละที่ รุ่นฮิตๆ อย่าง Rouge Essentiel Silky Crème Lipstick ราคาเต็มจะอยู่ที่ประมาณ ฿1,100 ส่วน Caviar Smoothing Matte Lipstick ที่เป็นเนื้อแมตต์กำมะหยี่ ก็จะราคาประมาณ ฿1,800. บางรุ่นที่เป็นลิปกลอส (Lip Glace) ราคาจะน่ารักลงมาหน่อย เริ่มต้นประมาณ ฿1,290.

แล้วจะซื้อที่ไหนให้คุ้ม? แหล่งช้อปหลักๆ ที่มีโปรโมชั่นดีๆ ก็หนีไม่พ้นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada และ Shopee เลยจ้า เค้ามักจะมีร้านที่เป็น Official Store หรือร้านที่นำเข้าของแท้มาขาย ซึ่งราคาจะมีการปรับลดอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงแคมเปญใหญ่ๆ. ส่วนตามห้างสรรพสินค้าอย่าง Central หรือ The Mall (Beauty Hall) ก็เป็นอีกช่องทางหลักในการซื้อ ข้อดีคือเราได้ลองสี ลองเนื้อก่อนตัดสินใจซื้อ แต่ราคาอาจจะไม่ได้ลดเท่าออนไลน์ ยกเว้นจะมีโปรโมชั่นของห้างเองจ้า

ถ้าเทียบกับราคาเคาน์เตอร์ในต่างประเทศ ราคาก็อาจจะมีส่วนต่างบ้างตามค่าเงินและภาษีนำเข้า แต่โดยรวมแล้วราคาในไทยก็ถือว่าสมเหตุสมผล ไม่ได้แพงโดดจนเกินไปนะจ๊ะ.

3. เทียบกับแบรนด์อื่นแล้วเป็นไง น่าสอยมั้ย?

ถ้าให้เทียบกับลิปสติกแบรนด์ Hi-End ตัวอื่นๆ ในตลาดที่อยู่ในช่วงราคาใกล้เคียงกันอย่าง MAC, NARS หรือ Estee Lauder เนี่ย ลิป Laura Mercier ก็ถือว่า คุณภาพดีไม่แพ้กันเลยจ้า บางคนอาจจะชอบเนื้อสัมผัสของ Laura Mercier มากกว่า เพราะรู้สึกว่ามันสบายปากกว่า ไม่ทำให้ปากแห้งเท่าบางแบรนด์ หรือบางคนก็อาจจะเลิฟสีของ Laura Mercier ที่มีความเป็นเอกลักษณ์และเข้ากับผิวคนไทยได้ดี.

ถ้าเทียบกับลิปสติกแบรนด์ Drugstore ที่ราคาถูกลงมาเยอะๆ แน่นอนว่าคุณภาพและแพ็คเกจจิ้งของ Laura Mercier ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว ทั้งในเรื่องของเม็ดสี ความติดทน และส่วนผสมบำรุง. คือถ้ามีงบประมาณถึงระดับหนึ่งแล้วอยากขยับมาใช้ลิปที่คุณภาพดีขึ้น ติดทนขึ้น แพ็คเกจสวยหรู พกแล้วไม่อายใคร Laura Mercier ก็เป็นตัวเลือกที่ น่าลงทุน มากๆ เลยจ้า!

4. ซื้อแล้วได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง?

อันนี้ก็แล้วแต่ช่องทางที่ซื้อเลยจ้า ถ้าซื้อตามเคาน์เตอร์ในห้าง ส่วนใหญ่เราก็จะได้ลิปสติกพร้อมกล่องสวยๆ กลับมา บางทีช่วงโปรโมชั่นของห้างอาจจะมีของแถมพิเศษเล็กๆ น้อยๆ หรือถ้าซื้อครบยอดที่กำหนดก็อาจจะได้ของขวัญชิ้นใหญ่ขึ้น.

ถ้าซื้อออนไลน์ผ่าน Official Store ใน Lazada หรือ Shopee ก็จะได้ของแท้แน่นอนจ้า ส่วนใหญ่จะมีการแพ็คสินค้ามาอย่างดี เรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อถึงยอดที่ร้านกำหนดก็มักจะได้ ส่งฟรี ด้วยนะ ซึ่งเป็นอะไรที่ถูกใจนักช้อปออนไลน์อย่างเราๆ สุดๆ!. บางร้านอาจจะมีของแถมเป็นพวกไซส์มินิของสินค้าตัวอื่น หรือคูปองส่วนลดสำหรับการซื้อครั้งต่อไปด้วย.

ส่วนเรื่อง การรับประกัน สำหรับลิปสติกโดยตรงอาจจะไม่ได้มีการรับประกันแบบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นะจ๊ะ แต่ถ้าสินค้ามีปัญหา เช่น เนื้อลิปหัก หรือแพ็คเกจชำรุดจากการขนส่ง อันนี้สามารถติดต่อร้านค้าเพื่อขอเปลี่ยนหรือคืนสินค้าได้ตามเงื่อนไขของแพลตฟอร์มนั้นๆ จ้า (ส่วนใหญ่จะมีนโยบายคืนสินค้าหากสินค้าไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์นะ).

5. ช่วงไหนน่าช้อปโปรโมชั่นเด็ดสุด?

ใครเป็นสายรอโปรบอกเลยว่าลิป Laura Mercier ก็มีช่วงลดราคาให้เราได้เสียเงิน เอ้ย! ได้ช้อปคุ้มๆ เหมือนกันนะจ๊ะ! ช่วงที่จัดหนักจัดเต็มที่สุดก็มักจะเป็นช่วง Double Digit Sale ยอดฮิตประจำปีอย่าง 11.11 และ 12.12 บน Lazada และ Shopee นี่แหละ นอกจากนี้ก็ยังมีช่วงเทศกาลสำคัญๆ อื่นๆ อีก เช่น ปีใหม่, สงกรานต์, หรือช่วง Mid-Year Sale ที่ทางแบรนด์หรือห้างสรรพสินค้าอาจจะจัดโปรโมชั่นพิเศษ.

ร้านที่เป็น Official Store บนแพลตฟอร์มออนไลน์ก็มักจะมีส่วนลดหรือโปรโมชั่นออกมาเรื่อยๆ ไม่ต้องรอถึงช่วงเทศกาลใหญ่ก็ได้นะ ลองกดติดตามร้านค้าไว้ แล้วตั้งแจ้งเตือนเวลาเค้ามีโปรใหม่ๆ รับรองไม่พลาดจ้า! สรุปคือถ้าไม่รีบมาก รอช้อปช่วงมีโปรโมชั่น เนี่ย จะช่วยให้เราประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้เยอะเลยนะจ๊ะ!

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวของสาวไทยที่ใช้ลิป Laura Mercier เนี่ย ฟีดแบ็กส่วนใหญ่คือ ดีงามพระรามแปด! เลยจ้า จุดที่คนไทยเลิฟเป็นพิเศษก็คือ:

• สีสวยมากกกก! หลายๆ เฉดคือทำมาเพื่อผิวคนไทยโดยเฉพาะ ทาแล้วขับผิว หน้าดูไบร์ทขึ้นทันที
• เนื้อดี สบายปาก ไม่หนัก ไม่เหนอะหนะ บางรุ่นเนื้อแมตต์ก็ยังให้ความรู้สึกนุ่มๆ ไม่แห้งผาก
• ติดทนระดับหนึ่ง แม้จะไม่ใช่ลิปแมตต์ที่ติดทนแบบกินข้าวแล้วไม่หลุดเลย แต่ก็ถือว่าติดทนใช้ได้เลยจ้า เติมระหว่างวันนิดหน่อยก็เป๊ะแล้ว
• แพ็คเกจสวยหรู ถือแล้วดูดี ดูแพง พกไปเติมระหว่างวันก็คือเริ่ด!
• ไม่ทำให้ปากแห้ง/ตกร่อง อันนี้คือจุดเด่นที่หลายคนประทับใจ เพราะลิปบางแบรนด์ทาแล้วปากลอก ปากเป็นขุย แต่น้อง Laura Mercier ทำได้ดีเลยในจุดนี้ เพราะมีส่วนผสมบำรุง.

สรุปคือสาวไทยส่วนใหญ่แฮปปี้กับ สีสัน, เนื้อสัมผัส และ คุณภาพที่ไม่ทำให้ปากพัง ของลิป Laura Mercier จ้า

7. พุ่งตัวไปซื้อที่ไหนดีนะ?

ช่องทางการซื้อลิป Laura Mercier ที่แนะนำในไทยก็มีหลายทางให้เลือกตามความสะดวกเลยจ้า:

• เคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า: อันนี้คือช่องทางคลาสสิกเลยจ้า ไปลองสีได้แบบจุกๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ ได้ปรึกษาบิวตี้แอดไวเซอร์โดยตรง ข้อดีคือได้เห็นของจริง แต่ราคาอาจจะไม่ได้ลดเยอะเท่าออนไลน์ ยกเว้นช่วงมีโปรโมชั่นใหญ่ของห้าง.
• Sephora (เซโฟรา): Sephora ก็มีเคาน์เตอร์ของ Laura Mercier นะจ๊ะ เป็นอีกทางเลือกที่ดีในการไปลองสี แถม Sephora เองก็มีโปรโมชั่นและระบบสะสมแต้ม Beauty Pass ที่น่าสนใจด้วยนะ.
• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (Lazada/Shopee): อันนี้คือแหล่งรวมดีลเด็ด โปรโมชั่นเพียบ เหมาะกับคนที่รู้สีที่ต้องการอยู่แล้ว ไม่ต้องลองสี สามารถกดสั่งออนไลน์ได้เลย สะดวกสบาย รอรับที่บ้านได้เลยจ้า. อย่าลืมเลือกซื้อจากร้านที่เป็น Official Store หรือร้านที่มีรีวิวดีๆ เพื่อความชัวร์ว่าเป็นของแท้นะจ๊ะ.
• เว็บไซต์ Central Online / M Online: เป็นช่องทางออนไลน์ของห้างสรรพสินค้า สะดวกสำหรับคนที่ไม่สะดวกไปห้างบ่อยๆ มีสินค้าครบครัน บางทีก็มีโปรโมชั่นร่วมกับห้างด้วยนะ.

ไม่ว่าจะเลือกช่องทางไหน ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปจ้า เลือกที่สะดวกและสบายใจได้เลยนะ!

8. สรุปแล้วคุ้มไหม? ใครควรซื้อรุ่นไหนดี?

มาถึงคำถามสุดท้าย! ลิป Laura Mercier คุ้มค่าน่าซื้อไหม? ตอบเลยว่า คุ้มค่ามากๆ จ้า โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่:

• อยากได้ลิปคุณภาพดี สีสวย เม็ดสีชัด
• มองหาลิปที่เนื้อสบายปาก ไม่ทำให้ปากแห้ง
• ชอบแพ็คเกจที่ดูหรูหรา ถือแล้วไม่ก๊องแก๊ง
• ต้องการลิปที่ติดทนระดับหนึ่ง ไม่ต้องเติมบ่อยเกินไป
• อยากได้ลิปที่มีเฉดสีหลากหลาย เข้ากับสีผิวคนไทย

สำหรับใครที่ควรซื้อรุ่นไหนดีนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความชอบในเนื้อสัมผัสเลยจ้า:

• ถ้าชอบ เนื้อซาติน นุ่มๆ เบาสบายปาก และต้องการความชุ่มชื้นด้วย ลองดูรุ่น Rouge Essentiel Silky Crème Lipstick เลยจ้า รุ่นนี้คือเป็น Best Seller ของเค้าเลยนะ.
• ถ้าเป็นสาย เนื้อแมตต์ แต่ยังอยากได้ความสบายปาก ไม่แห้งตึง แนะนำรุ่น Caviar Smoothing Matte Lipstick จ้า เนื้อเค้าจะเป็นแมตต์แบบกำมะหยี่ สวยหรูมากๆ.
• ส่วนใครที่ชอบความ ฉ่ำวาว ปากดูอิ่มๆ ก็ต้องลิปรุ่น Lip Glace เลยจ้า เป็นลิปกลอสที่สีสวย ชุ่มชื้น ปากดูสุขภาพดีสุดๆ.

ลองไปเลือกเฉดสีที่ใช่ เนื้อสัมผัสที่ชอบ แล้วคุณจะหลงรักลิป Laura Mercier แบบถอนตัวไม่ขึ้นเลยจ้า! หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจช้อปของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้สนุกกับการเลือกลิปคู่ใจ แล้วมาสวยปังไปด้วยกันค่า!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• 𝐆𝐆 | สวอชลิปรุ่นใหม่จาก LAURA MERCIER💋 CAVIAR ...
• เปรียบเทียบลิป YSL 3 รุ่นยอดนิยม
• มนต์เสน่ห์ของ LAURA ในกล่องสุ่ม
• LUMI GLOW TINT OIL สีสวยในราคาพิเศษ 199.-
• ทำบลัชเทา: ความน่าสนใจในโลกเมคอัพ