ราคา Saucony Ride ISO รองเท้าวิ่งสาย Support นุ่มสบาย รีวิว

สวัสดีชาวนักวิ่งและคนรักสนีกเกอร์ทุกคนจ้า! วันนี้เราจะมาแกะกล่อง เอ้ย! ไม่ใช่แกะกล่อง แต่จะมาเม้าท์มอยเจาะลึกเรื่องรองเท้าวิ่งตัวเก่งอีกหนึ่งรุ่นที่นักวิ่งหลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดี นั่นก็คือ Saucony Ride ISO นั่นเอง! เห็นหัวข้อแล้วอาจจะงงๆ ว่าเอ๊ะ รองเท้าสายซัพพอร์ตยังไงนะ เพราะปกติ Ride เค้าเป็นกลางๆ นี่นา ไม่ต้องห่วงจ้า เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังแบบหมดเปลือก พร้อมแนะนำทริคช้อปยังไงให้ได้ราคาดีๆ แบบโดนใจ เหมือนคุยกับเพื่อนที่รู้ใจเรื่องรองเท้าเลยล่ะ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปซิ่ง เอ้ย! ไปลุยกันเลย!
1. รองเท้าวิ่ง Saucony Ride ISO นี่มันคืออะไรกันนะ?
มาเริ่มกันที่พระเอกของเราในวันนี้เลย นั่นก็คือเจ้า Saucony Ride ISO นี่แหละ พูดง่ายๆ มันคือรองเท้าวิ่งประเภท Neutral Trainer หรือรองเท้าวิ่งสายกลางๆ ที่ให้สมดุลระหว่างการรองรับแรงกระแทกกับการตอบสนองที่ดี แบรนด์ Saucony เนี่ยเค้าเป็นแบรนด์รองเท้าวิ่งเก่าแก่จากประเทศอเมริกา มีชื่อเสียงมายาวนานในวงการวิ่ง จุดเด่นของเค้าคือการพัฒนานวัตกรรมโฟมและเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้นักวิ่งวิ่งได้สบายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับเจ้า Ride ISO ตัวนี้ ความพิเศษตามชื่อเลยคือเค้าใส่เทคโนโลยี ISOFIT และ FORMFIT เข้ามาที่อัปเปอร์ (หน้าผ้ารองเท้า) ซึ่งไอ้เจ้าสองตัวนี้แหละที่ช่วยให้รองเท้ามันปรับเข้ากับรูปเท้าที่แตกต่างกันได้ดีขึ้น เหมือนรองเท้ามันโอบรับเท้าเราอย่างนุ่มนวลและกระชับขึ้น ส่วนพื้นชั้นกลางก็ใช้โฟม PWRFOAM ผสานกับแผ่น EVERUN Topsole ที่ช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดีและยังส่งแรงคืนกลับมาให้เราด้วย ทำให้วิ่งแล้วรู้สึกนุ่มสบายเท้า แต่ก็ยังมีความเด้งๆ ไม่ยวบยาบจนเกินไป เหมาะมากๆ สำหรับนักวิ่งที่ต้องการรองเท้าคู่ใจสำหรับวิ่งซ้อมทุกวัน จะระยะสั้น กลาง หรือไกลหน่อยก็พอได้อยู่ ใครที่เท้าไม่ได้มีปัญหาเรื่องการบิดเข้าด้านใน (Pronation) หรือบิดออกด้านนอก (Supination) เยอะแยะมากมาย เจ้า Ride ISO เนี่ยเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยจ้า
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?
เอาล่ะ มาถึงเรื่องที่หลายคนอยากรู้ที่สุด นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! ต้องบอกก่อนว่าเจ้า Saucony Ride ISO เนี่ยเป็นรุ่นที่ออกมาได้สักพักแล้วนะ (มี Ride ISO 1 และ Ride ISO 2) ตอนนี้รุ่นใหม่ล่าสุดที่ขายในตลาดคือ Ride 17 หรือ Ride 18 แล้ว เพราะฉะนั้นเนี่ย ราคาของ Ride ISO ที่เราจะเจอในตลาดไทยส่วนใหญ่มักจะเป็นราคาตอนมีโปรโมชั่น ลดราคา หรืออาจจะเจอเป็นสินค้ารุ่นค้างสต็อก หรืออาจจะเจอในตลาดรองเท้ามือสองด้วยนะ
ถ้าเป็น ราคาเปิดตัว สมัยที่ยังเป็นรุ่นล่าสุดเนี่ย คู่หนึ่งก็มีประมาณ 4,xxx - 5,xxx บาท (฿) เลยทีเดียว แต่ตอนนี้ถ้าลองไปส่องตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee เราอาจจะเจอราคาที่ลดลงมาเยอะมากๆ บางทีเจอต่ำกว่า 3,xxx บาท หรืออาจจะมีบางร้านที่ยังขาย Ride ISO 2 อยู่ในราคาโปรโมชั่น ส่วนตามร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่าง Supersports หรือร้านวิ่งโดยเฉพาะอย่าง Ari Running ตอนนี้ส่วนใหญ่เค้าจะเน้นขายรุ่น Ride 17, Ride 18 หรือรุ่นใหม่กว่าแล้ว แต่ก็ไม่แน่ว่าอาจจะมีช่วง Clearance Sale ที่เอารุ่นเก่ามาลดราคาล้างสต็อกก็ได้นะ ต้องคอยส่องดีๆ จ้า
ถามว่ามีส่วนต่างกับราคาต่างประเทศไหม? แน่นอนว่ามีบ้างจ้า แต่ก็ไม่ถึงกับน่าตกใจมาก ถ้าซื้อช่วงโปรโมชั่นในไทย บางทีก็พอๆ กับซื้อตอนลดราคาที่ต่างประเทศเลยนะ แถมไม่ต้องเสียค่าส่งข้ามประเทศหรือกังวลเรื่องภาษีนำเข้าด้วย
3. เปรียบเทียบราคากับรองเท้าวิ่งยี่ห้ออื่น รุ่นใกล้เคียงกันล่ะ?
ถ้าให้เทียบราคาของ Saucony Ride ISO ในปัจจุบัน (ที่มักจะเจอในราคาลด) กับรองเท้าวิ่งยี่ห้ออื่นในประเภทเดียวกันอย่าง Neutral Trainer ที่กำลังวางขายเป็นรุ่นปัจจุบันเนี่ย เจ้า Ride ISO ถือว่ามีราคาที่ เป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์ มากกว่าพอสมควรเลยนะ
ยกตัวอย่างรองเท้าวิ่งยอดนิยมในกลุ่มเดียวกัน เช่น Brooks Ghost, Hoka Clifton, New Balance 880, Asics GEL-Cumulus ซึ่งรุ่นใหม่ๆ ของพวกนี้ราคาเปิดตัวก็อยู่ที่ประมาณ 4,xxx - 5,xxx บาท ขึ้นไปทั้งนั้นเลย ในขณะที่ถ้าเราเจอ Ride ISO ในราคาโปรโมชั่นหรือราคาล้างสต็อกเนี่ย อาจจะถูกกว่าเกือบครึ่งเลยก็ได้นะ แน่นอนว่ารุ่นใหม่ๆ อาจจะมีเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า มีการปรับปรุงวัสดุหรือฟังก์ชันต่างๆ แต่สำหรับนักวิ่งที่ไม่ซีเรียสว่าต้องเป็นรุ่นล่าสุดเสมอไป และต้องการรองเท้าวิ่งคุณภาพดีในงบที่จำกัด Saucony Ride ISO ในราคาดีๆ ถือเป็นตัวเลือกที่ คุ้มค่า มากๆ เลยล่ะจ้า!
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ? แถมอะไรบ้าง?
เวลาที่เราซื้อรองเท้าวิ่งใหม่แกะกล่องเนี่ย สิ่งที่เราจะได้มาหลักๆ ก็คือตัวรองเท้า 1 คู่ พร้อมกล่อง บางทีอาจจะมีกระดาษดันทรงรองเท้ามาให้ด้วย ส่วนเรื่องอุปกรณ์เสริมอื่นๆ อย่างถุงเท้าวิ่ง, เชือกผูกรองเท้าสำรอง หรือกระเป๋าใส่รองเท้า อันนี้แล้วแต่ร้านค้าเลยจ้า บางร้านอาจจะมีโปรโมชั่นแถมให้ บางร้านก็ไม่มี ต้องลองสอบถามดูนะ
จุดที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ ก็คือเรื่อง ค่าขนส่ง และ การรับประกัน สำหรับการซื้อออนไลน์บนแพลตฟอร์มใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย หลายร้านมักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อครบยอดที่กำหนด ซึ่งอันนี้สะดวกมากๆ ไม่ต้องเสียค่าส่งให้วุ่นวาย ส่วนเรื่องการรับประกัน สำหรับรองเท้าวิ่งส่วนใหญ่จะเน้นการรับประกันความเสียหายที่เกิดจากการผลิตนะ เช่น กาวหลุด พื้นเปิด ตะเข็บขาด ซึ่งระยะเวลารับประกันก็แล้วแต่ร้านหรือตัวแทนจำหน่ายเลย บางร้านอาจจะมีประกันร้านให้ 7 วัน หรือ 30 วันสำหรับการเปลี่ยนไซส์หรือคืนสินค้าหากมีปัญหา (โดยที่รองเท้ายังไม่ผ่านการใช้งาน) แต่ถ้าเป็นตำหนิที่เกิดจากการใช้งานของเราเอง อันนี้มักจะอยู่นอกเหนือการรับประกันนะจ๊ะ
ส่วนเรื่องของแถมหรือคูปองส่วนลด อันนี้ก็ต้องคอยติดตามโปรโมชั่นของแต่ละร้านเลย บางทีช่วงเทศกาลจะมีโค้ดส่วนลดพิเศษ หรือซื้อครบยอดแล้วมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ เช่น เจลพลังงาน หรือถุงเท้าวิ่ง ก็ถือเป็นโบนัสที่ดีเลยล่ะ
5. มีโปรโมชั่นช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?
ถ้าถามว่าช่วงไหนน่าซื้อ Saucony Ride ISO เป็นพิเศษ (ในกรณีที่ยังมีของและมีโปรโมชั่นนะ) แน่นอนว่าต้องเป็นช่วง เทศกาลลดราคา นี่แหละคือโอกาสทองเลยจ้า! เมืองไทยเรามีเทศกาลช้อปปิ้งเยอะแยะมากมาย ทั้งเทศกาลใหญ่ประจำปีอย่าง ปีใหม่ไทย (สงกรานต์), วันปีใหม่สากล หรือช่วงโปรโมชั่นกลางปี ปลายปี ที่ร้านค้าต่างๆ เค้าพร้อมใจกันลดกระหน่ำ
และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือช่วง Double Digit Sale ยอดฮิตบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง 11.11 (วันที่ 11 เดือน 11) และ 12.12 (วันที่ 12 เดือน 12) รวมถึง Payday Sale ช่วงสิ้นเดือน ช่วงเหล่านี้แหละที่ร้านค้าบน Lazada และ Shopee โดยเฉพาะร้านที่เป็นทางการของแบรนด์ (ถ้ายังมี Saucony Official Store อยู่และขายรุ่นนี้) หรือร้านตัวแทนจำหน่าย มักจะจัดโปรโมชั่นลดราคาแรงๆ หรือมีโค้ดส่วนลดพิเศษออกมาเพียบ การซื้อในช่วงโปรโมชั่นเหล่านี้มีโอกาสได้รองเท้าในราคาที่ถูกลงเยอะมากๆ เลยล่ะจ้า ถ้าไม่รีบใช้ รองช่วงนี้รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน!
6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทยเป็นยังไงบ้างนะ?
จากการลองส่องๆ ดูตามกระทู้รีวิว หรือคอมเมนต์ต่างๆ ของนักวิ่งในไทย (อาจจะไม่ตรงรุ่น ISO เป๊ะๆ แต่อาจจะเป็น Ride รุ่นใกล้เคียง) เสียงตอบรับส่วนใหญ่เกี่ยวกับรองเท้าวิ่งตระกูล Ride ของ Saucony ถือว่าค่อนข้างดีเลยนะ จุดที่ผู้ใช้คนไทยมักจะพูดถึงและชอบก็คือ:
- ความนุ่มสบาย: หลายคนบอกว่าใส่แล้วรู้สึกนุ่มเท้า ซัพพอร์ตดี วิ่งสบาย เหมาะกับการวิ่งระยะไกลพอสมควร
- ความสมดุล: แม้จะไม่ใช่รองเท้าสายซัพพอร์ตจัดๆ แบบพวก stability shoe แต่ Ride ก็ให้ความรู้สึกมั่นคงในระดับหนึ่ง วิ่งแล้วไม่โคลงเคลง
- ความทนทาน: ผู้ใช้บางคนบอกว่ารองเท้า Saucony ค่อนข้างทนทาน ใช้งานได้นานหลายร้อยกิโลเมตร พื้นสึกช้า
- ราคาคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับคุณภาพและเทคโนโลยีที่ได้ โดยเฉพาะถ้าซื้อได้ในราคาโปรโมชั่น ถือว่าคุ้มค่ามากๆ
- น้ำหนักไม่มากเกินไป: แม้จะไม่ใช่รองเท้าสายซิ่ง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกหนักเทอะทะจนเกินไปสำหรับรองเท้าเทรนเนอร์
โดยรวมแล้ว คนไทยที่ได้ลองใช้ Saucony Ride ISO หรือรุ่นใกล้เคียงมักจะประทับใจกับ ความสบายในการวิ่ง และ ความคุ้มค่า ที่ได้รับในราคาที่จ่ายไปจ้า
7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ ซื้อที่ไหนดี?
สำหรับใครที่เล็งเจ้า Saucony Ride ISO หรือรองเท้า Saucony รุ่นอื่นๆ อยู่เนี่ย ช่องทางการซื้อหลักๆ ในไทยที่แนะนำก็มีหลายทางเลยจ้า:
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ: เช่น Lazada และ Shopee อันนี้เป็นแหล่งรวมร้านค้าเยอะมากๆ ทั้งร้านทางการของแบรนด์ (ถ้ามี) ร้านตัวแทนจำหน่าย และร้านค้าอื่นๆ ข้อดีคือมีตัวเลือกหลากหลาย ราคาแข่งขันสูง หาโปรโมชั่นง่าย มีระบบการจ่ายเงินและการคืนสินค้าที่ค่อนข้างสะดวก แต่ข้อเสียคือเราไม่สามารถลองรองเท้าจริงได้ ต้องดูจากรูปและรายละเอียดเป็นหลัก และต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือหน่อยนะจ๊ะ ดูคะแนนร้านและรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นช่วยได้เยอะเลย
- ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: เช่น Supersports หรือร้านมัลติแบรนด์สำหรับอุปกรณ์วิ่งโดยเฉพาะอย่าง Ari Running ข้อดีของช่องทางนี้คือเราสามารถไป ลองสวม ลองวิ่งบนลู่วิ่ง เพื่อดูความพอดีและความรู้สึกของรองเท้าได้เลย มีพนักงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำเรื่องการเลือกรองเท้าให้เหมาะกับรูปเท้าและท่าวิ่งของเราด้วย ส่วนเรื่องราคา อาจจะไม่ได้ถูกเท่าซื้อออนไลน์ตอนจัดโปรหนักๆ แต่ก็มั่นใจได้ว่าเป็นของแท้แน่นอน และมักจะมีโปรโมชั่นหน้าร้านออกมาเรื่อยๆ ด้วยจ้า
- เว็บไซต์ของตัวแทนจำหน่ายในไทย: บางทีตัวแทนจำหน่ายในไทยอาจจะมีเว็บไซต์ของตัวเอง เช่น Revigo (ที่นำเข้า Saucony) การซื้อผ่านช่องทางนี้ก็มั่นใจเรื่องของแท้ได้เช่นกัน และบางทีอาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษบนเว็บไซต์ด้วย
การซื้อผ่านช่องทางที่เป็นทางการหรือตัวแทนจำหน่ายใหญ่ๆ มักจะมาพร้อมการรับประกันที่ชัดเจนกว่า และบริการหลังการขายที่อุ่นใจกว่านะ แต่ถ้าเน้นราคาเป็นหลัก การสอยจากแพลตฟอร์มออนไลน์ช่วงโปรโมชั่นก็เป็นทางเลือกที่ไม่ควรมองข้ามจ้า
8. สรุปหรือคำแนะนำเรื่องราคา คุ้มไหม ใครควรซื้อ?
มาถึงบทสรุปกันแล้วจ้า! ถามว่าเจ้า Saucony Ride ISO เนี่ย ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปีนี้? ถ้าคุณเจอใน ราคาที่ลดพิเศษ หรือเป็นราคาที่ถูกกว่ารุ่นปัจจุบันเยอะมากๆ เนี่ย บอกเลยว่า น่าซื้อมากๆ และ คุ้มค่าสุดๆ เลยจ้า! เพราะถึงแม้จะเป็นรุ่นที่ออกมาสักพักแล้ว แต่เทคโนโลยีและคุณภาพของมันก็ยังเพียงพอสำหรับการวิ่งซ้อมประจำวันของนักวิ่งส่วนใหญ่ได้สบายๆ เลย
เจ้า Ride ISO เหมาะกับใครบ้าง?
- นักวิ่งหน้าใหม่: ที่อยากได้รองเท้าวิ่งคู่แรกที่ดีๆ ไม่ต้องลงทุนสูงมาก Ride ISO ในราคาลดคือตัวเลือกที่ดีเลย
- นักวิ่งทั่วไป: ที่วิ่งเพื่อสุขภาพ วิ่งสลับวัน หรือใช้เป็นรองเท้าสำหรับวิ่งซ้อมในวันที่เน้นความสบาย ไม่เน้นความเร็วจัดจ้าน
- คนที่มีงบประมาณจำกัด: แต่อยากได้รองเท้าจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและมีคุณภาพ
- คนที่ชอบรองเท้าที่ให้ความรู้สึกนุ่มสบาย: แต่ก็ยังมีความมั่นคง ไม่ยวบยาบเกินไป
- คนที่เท้าเป็น Neutral Pronation: หรือมีปัญหา Pronation/Supination ไม่มากนัก
ถ้าคุณเป็นนักวิ่งที่ซีเรียสเรื่องความเร็ว ต้องการรองเท้าที่เบามากๆ มีเทคโนโลยีล่าสุดสำหรับการทำความเร็ว หรือมีปัญหาเรื่องรูปเท้าที่ต้องการการซัพพอร์ตหรือการควบคุมการเคลื่อนไหวที่เฉพาะเจาะจงมากๆ อาจจะต้องลองดู Saucony รุ่นอื่นๆ ที่เน้น Performance มากกว่า หรือรุ่นที่เป็น Stability Shoe โดยเฉพาะ
แต่สำหรับนักวิ่งส่วนใหญ่ที่มองหารองเท้าคู่ใจสำหรับวิ่งซ้อมในชีวิตประจำวัน ให้ความสบายเท้า และได้ในราคาที่เข้าถึงง่าย Saucony Ride ISO ในราคาดีๆ ถือเป็น ตัวจบ ที่คุ้มค่ามากๆ เลยล่ะจ้า!
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังมองหาหรือตัดสินใจเกี่ยวกับเจ้า Saucony Ride ISO นะคะ ขอให้ทุกคนเจอรองเท้าคู่ที่ใช่ วิ่งสนุก และสุขภาพแข็งแรงจ้า! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- รีวิวรองเท้าวิ่ง Saucony อัพเดทปี 2025 รุ่นไหน ซัพพอร์ต ซ้อมวิ่งทำ ...
- รีวิว รองเท้าวิ่ง Saucony Guide 17 ต้นแบบของรองเท้าสาย Stability ...
- รีวิวรองเท้าวิ่ง Saucony รุ่นต่าง ๆ ที่เหมาะกับคุณ
- รีวิว รองเท้าวิ่ง Saucony Ride 17 ปรับจูน PWRRUN+ ให้นุ่มนวลกว่า ...
- Saucony Freedom ISO review by Where2Run รีวิว เปรียบเทียบ ...
แนะนำสำหรับคุณ
ราคา iPhone 8 Plus ล่าสุด โปรโมชั่น และเคล็ดลับการซื้อ ปี 2025
Vivo V23 5G ราคาเท่าไหร่?: สเปกกล้องหน้าเทพ ถ่ายเซลฟี่สวย
ราคาเพาเวอร์แอมป์ S1200: รุ่นเก๋า ยังน่าใช้ไหม?
ราคา Toyota Sparky รถตู้เล็ก: มือสองหายาก น่าเก็บสะสม
ราคา iPhone 14 ล่าสุด โปรโมชั่น และเคล็ดลับการซื้อ ปี 2025
รวมพิกัด ร้านกระเบื้อง ราคาถูก คุณภาพดี สำหรับรีโนเวทบ้าน
