ไมโครโฟนไร้สาย Sennheiser EW 300 G3 ราคาล่าสุด

สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกไมโครโฟนไร้สายระดับโปรฯ ในตำนานอย่าง Sennheiser EW 300 G3 กัน ใครที่กำลังมองหาไมค์ลอยคุณภาพดี ไว้ใจได้ ในงบที่อาจจะไม่บานปลายมากนัก มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาเม้าท์มอย เจาะลึกทุกซอกทุกมุมของเจ้าตัวนี้ พร้อมแนะนำเคล็ดลับการช้อปในตลาดเมืองไทย ให้ได้ของดีราคาโดนกันไปเลย! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!

1. เจ้าไมค์ Sennheiser EW 300 G3 นี่มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ เริ่มต้นกันที่ว่าเจ้า Sennheiser EW 300 G3 นี่มันคืออะไร? พูดง่ายๆ มันคือ ระบบไมโครโฟนไร้สาย (Wireless Microphone System) ระดับมืออาชีพจากแบรนด์ Sennheiser แบรนด์เครื่องเสียงชื่อดังระดับโลกจากประเทศเยอรมนี ที่เค้ามีชื่อเสียงมายาวนานเรื่องคุณภาพเสียงและความทนทาน รุ่น EW 300 G3 เนี่ย จัดอยู่ในซีรีส์ Evolution Wireless (EW) Gen 3 ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นก่อน G4 และ EW-D ในปัจจุบัน แต่ถึงจะเป็นรุ่นเก่าหน่อย ความเก๋าและคุณภาพก็ยังคับแก้วอยู่นะจ๊ะ

เจ้าตัวนี้ออกแบบมาสำหรับงานที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง ทั้งการแสดงสด, การพูดนำเสนอ, งานถ่ายวิดีโอ, งานในสตูดิโอ, หรือแม้แต่งานในโบสถ์ในต่างประเทศ คือถ้าเป็นงานที่ซีเรียสเรื่องเสียงแล้ว เจ้า G3 นี่คือตอบโจทย์ได้ดีเลยในยุคของมัน กลุ่มผู้ใช้ก็หลากหลายเลย ตั้งแต่มืออาชีพ ไปจนถึงคนทำงานกึ่งโปรฯ ที่ต้องการคุณภาพเสียงที่ดีกว่าไมค์ทั่วไป

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องสำคัญที่ทุกคนรอคอย นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ Sennheiser EW 300 G3 เนี่ย ต้องบอกก่อนว่าเนื่องจากเป็นรุ่นที่ออกมาสักพักใหญ่แล้ว (เปิดตัวปี 2009) ราคาในตลาดตอนนี้ส่วนใหญ่จะเจอเป็น สินค้ามือสอง ซะมากกว่านะจ๊ะ หามือหนึ่งได้ยากมากๆ แล้ว ถ้ามีก็อาจจะเป็นร้านที่ค้างสต็อกเก่าๆ จริงๆ

ราคาในตลาดมือสองก็จะมีความหลากหลายมากๆ ขึ้นอยู่กับสภาพ, รุ่นย่อย (เช่น เป็นชุดไมค์มือถือ, ไมค์หนีบปกเสื้อ หรือ In-Ear Monitor), คลื่นความถี่ (Frequency Band) และอุปกรณ์ที่มาในชุด ราคาคร่าวๆ ที่เห็นตามแพลตฟอร์มออนไลน์ยอดฮิตในไทยอย่าง Lazada หรือ Shopee หรือตามกลุ่มซื้อขายอุปกรณ์โปรออดิโอใน Facebook เนี่ย อาจจะเจอตั้งแต่ประมาณ 1x,xxx บาท ไปจนถึง 3x,xxx บาท (฿) หรืออาจจะสูงกว่านั้น ถ้าเป็นชุดที่มีหลายๆ ตัว หรือสภาพดีมากๆ พร้อมอุปกรณ์ครบๆ นะ

ลองใช้คีย์เวิร์ดว่า "Sennheiser EW 300 G3 มือสอง" หรือ "Sennheiser G3 Wireless" ในแอปฯ เหล่านี้ดูนะ จะมีร้านค้าหรือผู้ใช้ทั่วไปเอามาลงขายเยอะเลย แต่พวกแพลตฟอร์มร้านค้าอุปกรณ์ไอทีอย่าง JIB, Banana IT, หรือห้างร้านใหญ่ๆ อย่าง Central, Big C, The Mall, Power Buy เนี่ย ส่วนใหญ่เค้าจะขายรุ่นใหม่ๆ อย่าง G4 หรือ EW-D เป็นหลัก รุ่นเก่าๆ แบบนี้อาจจะต้องพึ่งตลาดมือสองออนไลน์ หรือร้านขายเครื่องเสียงมือสองเฉพาะทางจะง่ายกว่าจ้า

ส่วนเรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนกับราคาต่างประเทศนี่ เนื่องจากมันเป็นรุ่นเก่าที่แทบไม่ขายมือหนึ่งแล้วในต่างประเทศ เลยเอามาเทียบกันตรงๆ ยากจ้า ต้องดูราคาตลาดมือสองในไทยเป็นหลักเลย

3. แล้วเทียบกับรุ่นอื่นล่ะ ราคาคุ้มมั้ย?

ถ้าให้เทียบกับรุ่นใหม่ๆ ของ Sennheiser เองอย่าง EW 100 G4, EW 500 G4 หรือซีรีส์ดิจิทัล EW-D เนี่ย เจ้า EW 300 G3 มือสอง ถือว่ามีราคาที่ น่ารักกับงบประมาณ เอามากๆ เลยนะ รุ่นใหม่ๆ ราคาเริ่มต้นก็เหยียบสองหมื่น หรือสามสี่หมื่นขึ้นไปแล้ว ในขณะที่ G3 เราสามารถหาได้ในราคาที่ถูกลงพอสมควร

เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ที่มีฟังก์ชันใกล้เคียงกันในระดับโปรฯ ในยุคเดียวกัน หรือแม้แต่ไมค์ไร้สายรุ่นใหม่ๆ สำหรับงานคอนเทนต์ (อย่าง Rode Wireless Go - ซึ่งอันนี้จะคนละประเภทเลยนะ) เจ้า G3 ในราคาตลาดมือสองก็ยังถือว่าเป็นตัวเลือกที่ให้ คุณภาพเสียงระดับโปรฯ และ ความทนทานที่ไว้ใจได้ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่ารุ่นใหม่ๆ เยอะเลยจ้า ถ้าไม่ได้ต้องการฟังก์ชันล่าสุด หรือต้องใช้งานระบบหลายๆ ตัวที่ซับซ้อนมาก (ซึ่งรุ่นใหม่ๆ จัดการเรื่องคลื่นความถี่ได้ดีกว่า) เจ้า G3 มือสองนี่ก็ยังน่าสนใจมากๆ อยู่ดี

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

อันนี้แหละคือจุดที่ต้อง เช็คให้ละเอียดมากๆ เลยนะ เวลาซื้อ Sennheiser EW 300 G3 มือสอง เนี่ย เพราะสิ่งที่ได้มาจะไม่เหมือนกันในแต่ละร้านหรือแต่ละคนขายเลย สิ่งที่ควรเช็คเลยก็คือ:

• ตัวเครื่องส่ง (Transmitter) และตัวเครื่องรับ (Receiver): ครบชุดมั้ย เป็นรุ่นไหน (Bodypack SK 300, ไมค์มือถือ SKM 300, เครื่องรับ EM 300) สภาพเป็นยังไง มีรอยเยอะมั้ย
• หัวไมค์ (ถ้าเป็นชุดไมค์): เป็นรุ่นอะไร (เช่น ME 2, ME 4 - ซึ่งมีรูปแบบการรับเสียงต่างกัน) สภาพดีมั้ย สายขาดในหรือเปล่า
• อุปกรณ์เสริม: มีแหล่งจ่ายไฟ (Power Supply) มารึเปล่า มีเสาอากาศ (Antenna) มั้ย มีตัวยึดแร็ค (Rack Mount Kit GA 3) สำหรับติดตั้งเข้ากับตู้แร็คหรือไม่ (อันนี้สำคัญถ้าเอาไปติดตั้งกับที่) มีสายเชื่อมต่อต่างๆ ครบมั้ย
• แบตเตอรี่: ปกติใช้ถ่าน AA 2 ก้อน แต่บางชุดอาจมีแบตเตอรี่แบบชาร์จได้ของ Sennheiser เอง (BA 2015) พร้อมแท่นชาร์จ ก็ต้องเช็คว่ามีมาด้วยมั้ย
• กล่องและคู่มือ: ถ้ามีกล่องเดิมๆ กับคู่มือมาด้วยก็จะดีมากๆ
• ประกัน: อันนี้สำคัญมากสำหรับคนไทยที่ค่อนข้างกังวลเรื่องการซ่อม! ส่วนใหญ่กล้องมือสองจะ ไม่มีประกันศูนย์ แล้วนะ แต่บางร้านที่ขายอาจจะมี ประกันร้าน ให้สั้นๆ เช่น 7 วัน หรือ 30 วัน ก็ต้องลองสอบถามดู หรือถ้าซื้อกับผู้ใช้โดยตรง ก็อาจจะไม่มีประกันเลย ต้องทำใจนะจ๊ะ
• ของแถม/โปรโมชั่น: อันนี้แล้วแต่ร้านเลยจ้า ส่วนใหญ่สินค้ามือสองก็ไม่ค่อยมีของแถมอะไรพิเศษ แต่ถ้าเจอร้านที่ใจดีอาจจะมีแถมสายสัญญาณ หรืออุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ ให้ก็ได้นะ

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่จะมีค่าส่งนะ นอกจากร้านจะจัดโปรโมชั่น ส่งฟรี ก็ต้องลองดูเงื่อนไขดีๆ จ้า

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

แน่นอนว่าถ้าอยากได้ของดีราคาโดน ช่วง โปรโมชั่น นี่แหละคือเวลาทองเลยจ้า! ถึงแม้จะเป็นไมค์มือสอง แต่บางร้านค้าออนไลน์หรือผู้ขายรายย่อยก็มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทย หรือช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ ของแพลตฟอร์มนะ เช่น ช่วงปีใหม่ไทย (สงกรานต์) ที่หลายคนหยุดยาว อาจจะมีการโละของ หรือช่วง Double Digit Sale ยอดฮิตอย่าง 11.11 และ 12.12 ที่ Lazada กับ Shopee เค้าจัดหนักจัดเต็มกันทุกปี!

ช่วงนี้แหละที่อาจจะมีร้านค้าอุปกรณ์มือสองเอามาร่วมโปรฯ หรือมีโค้ดส่วนลดพิเศษให้ใช้ได้ ก็ต้องหมั่นเข้าไปเช็ค เข้าไปส่องบ่อยๆ นะจ๊ะ นอกจากนี้ ตามกลุ่มซื้อขายอุปกรณ์เสียงมือสองใน Facebook บางทีช่วงปลายปี หรือช่วงที่คนอัปเกรดอุปกรณ์ ก็อาจจะมีของดีราคาดีหลุดมาปล่อยกันเยอะ ก็ต้องตาไว มือไวหน่อยนะ สรุปคือ ถ้าไม่รีบมากๆ รอช่วงโปรโมชั่น หรือช่วงที่มีคนปล่อยของเยอะๆ เนี่ย มีโอกาสได้ของดีราคาถูกลง หรือเจอดีลที่คุ้มค่ามากๆ เลยจ้า!

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิว หรือโพสต์ในกลุ่มต่างๆ ของคนไทยเนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่เกี่ยวกับ Sennheiser EW 300 G3 ถือว่าดีเลยนะ จุดที่คนไทยชอบมากๆ เลยก็คือ:

• คุณภาพเสียงระดับโปรฯ: อันนี้เป็นจุดเด่นเลยจ้า ให้เสียงที่เคลียร์ คมชัด เหมาะกับงานที่ต้องการคุณภาพเสียงจริงๆ
• ความทนทาน ไว้ใจได้: Sennheiser ขึ้นชื่อเรื่องความถึกอยู่แล้ว หลายคนที่ใช้ G3 มานานก็บอกว่ามันยังทำงานได้ดีไม่มีปัญหาจุกจิก (แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษานะ!)
• ใช้งานง่าย: แม้จะเป็นอุปกรณ์โปรฯ แต่เมนูต่างๆ ไม่ซับซ้อนเกินไป การซิงค์เครื่องส่งกับเครื่องรับก็ทำได้ง่าย
• ระบบจัดการคลื่นความถี่: มีฟังก์ชันสแกนหาความถี่ที่ว่างให้ (Auto Frequency Scan) ช่วยลดปัญหาเรื่องสัญญาณรบกวนได้ในระดับหนึ่ง
• คุ้มค่าเมื่อซื้อมือสอง: หลายคนมองว่าการซื้อ G3 มือสองคือการได้อุปกรณ์โปรฯ ในราคาที่จ่ายไหว ซึ่งคุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้รับ

แต่ก็มีบางเสียงที่บอกว่ารุ่นนี้อาจจะมีปัญหาเรื่องสัญญาณรบกวนได้ในบางสภาพแวดล้อมที่มีคลื่นเยอะๆ ซึ่งรุ่นใหม่ๆ อย่าง EW-D อาจจะจัดการได้ดีกว่าด้วยความเป็นดิจิทัล และเรื่องหัวไมค์ ME 2 ที่มากับชุดบางชุดอาจจะเป็นแบบ Omni-directional (รับเสียงรอบทิศ) ทำให้มีเสียงรอบข้างเข้ามาเยอะ ถ้าต้องการแบบ Cardioid (รับเสียงแคบ) อาจจะต้องหาหัวไมค์รุ่นอื่นมาเปลี่ยนเอาจ้า

สรุปคือ คนไทยที่เคยใช้ G3 ส่วนใหญ่จะแฮปปี้กับ คุณภาพเสียง, ความทนทาน และ ความคุ้มค่าในตลาดมือสอง เลยจ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าส่วนใหญ่ตอนนี้จะเป็น สินค้ามือสอง นะจ๊ะ ช่องทางหลักๆ ที่น่าไปส่องก็คือ:

• แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่: เช่น Shopee และ Lazada อันนี้เป็นแหล่งรวมร้านค้าและผู้ขายรายย่อยเยอะมากๆ ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ สามารถเปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีระบบการจ่ายเงินที่ปลอดภัย และบางทีมีโค้ดส่วนลดหรือโปรโมชั่นส่งฟรีให้ใช้ได้ แต่ข้อเสียคือเราไม่เห็นของจริง ต้องดูจากรูปและรายละเอียดที่ผู้ขายให้มา และต้องเช็คเครดิตร้านดีๆ ก่อนซื้อนะจ๊ะ
• กลุ่มซื้อขายอุปกรณ์โปรออดิโอ/วิดีโอ มือสองใน Facebook: กลุ่มเหล่านี้เป็นแหล่งที่ดีมากๆ ในการหาอุปกรณ์มือสองระดับโปรฯ นะ เพราะมักจะเป็นผู้ใช้ด้วยกันเองที่เอามาปล่อยต่อ บางทีจะได้ราคาดีกว่าซื้อจากร้าน แถมยังสามารถพูดคุย สอบถามรายละเอียด ขอดูรูป หรือวิดีโอเพิ่มเติมจากผู้ขายได้โดยตรง แต่ก็ต้องระวังมิจฉาชีพด้วยนะ! นัดเจอเพื่อเช็คของและจ่ายเงินกับมือจะปลอดภัยที่สุดจ้า
• ร้านขายเครื่องเสียงมือสองโดยเฉพาะ: ในกรุงเทพฯ หรือตามหัวเมืองใหญ่ๆ อาจจะมีร้านที่รับซื้อขายอุปกรณ์เครื่องเสียงมือสองโดยเฉพาะ ข้อดีคือเราสามารถไป ลองเช็คสภาพ ลองทดสอบระบบ ก่อนตัดสินใจซื้อได้เลย ได้เห็นของจริง ได้สอบถามข้อมูลกับคนขายโดยตรง แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าซื้อออนไลน์หรือซื้อกับผู้ใช้ด้วยกันเองเล็กน้อยนะ
• ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเก่าๆ: ลองเช็คดูว่ามีร้านตัวแทนจำหน่ายของ Sennheiser ในอดีตที่อาจจะยังมีสต็อกเก่าหลงเหลืออยู่บ้างไหม (แต่โอกาสค่อนข้างน้อยแล้ว)

ช่องทาง Official ของ Sennheiser ในไทยตอนนี้เค้าก็จะเน้นไปที่รุ่นใหม่ๆ อย่าง G4 หรือ EW-D แล้วจ้า สำหรับ G3 ต้องพึ่งพาตลาดมือสองเป็นหลักนะ

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า Sennheiser EW 300 G3 ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปีนี้? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่:

• มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้ระบบไมโครโฟนไร้สายที่ให้ คุณภาพเสียงระดับมืออาชีพ
• ต้องการอุปกรณ์ที่ ทนทาน ไว้ใจได้ สำหรับงานสำคัญๆ
• ไม่ได้ต้องการฟังก์ชันล่าสุดที่ซับซ้อนมากนัก
• ใช้งานในสภาพแวดล้อมที่จัดการเรื่องคลื่นความถี่ได้ในระดับหนึ่ง

เจ้า G3 คือคำตอบเลยจ้า! มันเป็นระบบที่ คุ้มค่าเกินราคา (ในตลาดมือสองนะ) ให้คุณภาพเสียงที่ดีมากๆ สำหรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ทั้งพูด, ร้อง, หรือใช้กับเครื่องดนตรี

ส่วนจะเลือกรุ่นนี้ หรือข้ามไปเล่นรุ่นใหม่ๆ อย่าง G4 หรือ EW-D ก็ขึ้นอยู่กับงบและความต้องการเลยจ้า ถ้าเน้นประหยัด ฟังก์ชันครบครันสำหรับการเริ่มต้นงานโปรฯ ในงบที่จำกัด G3 นี่แหละเหมาะเลย แต่ถ้าอยากได้ฟังก์ชันที่ใหม่กว่า, ระบบจัดการคลื่นความถี่ที่ดีกว่ามากๆ (โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีคลื่นเยอะ), หรือต้องการประกันศูนย์และความสบายใจในการซ่อม ก็อาจจะต้องยอมจ่ายเพิ่มเพื่อไปเล่นรุ่นใหม่ๆ นะ แต่สำหรับงบเท่านี้ G3 คือตัวเลือกที่ ยังเจ๋งมากๆ และให้คุณภาพที่คุณจะประทับใจแน่นอน!

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังตัดสินใจซื้อ Sennheiser EW 300 G3 นะจ๊ะ ขอให้ได้ไมค์ที่ถูกใจ เสียงดี ถ่ายงานราบรื่นกันทุกคนจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว SENNHEISER EW 100/EW 300 กับหัวไมค์รุ่น 935 ทดสอบ ...
• [Unbox]เทียบภายนอกไมค์ไวเลสจีน UKINGMEI UK-300 กับ ...
• รีวิวไมค์ Sennheiser รุ่น EW 100 G4-935-S
• หูฟังหลักล้าน แพงที่สุดในโลก Top 3 ซื้อทีมีขายบ้าน! #หูฟัง #หูฟังบลู ...
• "หา..ไร..ทำ" Ep.8 แกะกล่ององ Midas MR18 กับ Sennheiser ...