รีวิว Nee Cara Unicorn Cushion: คุชชั่นแพ็กเกจน่ารัก คุณภาพดีไหม?

โอ้โหแม่! ช่วงนี้อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก ติ๊กต็อกนี่โดนตกแล้วตกอีกกับแพ็กเกจเครื่องสำอางสุดคิ้วท์! โดยเฉพาะเจ้าคุชชั่นยูนิคอร์นของ Nee Cara ที่เห็นแล้วใจละลาย อยากพุ่งตัวไปสอยมาตั้งบนโต๊ะเครื่องแป้งให้รู้แล้วรู้รอด แต่เดี๋ยวก่อนค่ะซิส! ความน่ารักอย่างเดียวมันไม่พอไง คุณภาพต้องมาด้วย! วันนี้เราเลยจะมารีวิวแบบจัดเต็ม เจาะลึกทุกอณู ว่าเจ้าคุชชั่นตัวดังในโลกโซเชียลตัวนี้ มันจะดีจริงสมคำร่ำลือ หรือว่าดีแค่แพ็กเกจกันแน่! ใครกำลังเล็งๆ อยู่ ห้ามพลาดเด็ดขาดค่ะ!
1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: มาทำความรู้จัก "น้องยูนิคอร์น" กันก่อน!
แบรนด์: Nee Cara
รุ่น: Unicorn Cushion Foundation (รหัส N668)
ปีที่วางขาย: น่าจะประมาณปี 2019 (จากข้อมูลรีวิวเก่าๆ) แต่ยังหาซื้อได้อยู่ยาวๆ เพราะความน่ารักขายดีไม่มีตกจ้า
ช่วงราคา: อยู่ในช่วงหลักร้อยกลางๆ ถึงปลายๆ แล้วแต่โปรโมชั่นและร้านค้าที่จัดจำหน่าย บางทีเจอจัดหนักลดราคาเหลือร้อยต้นๆ ก็มีนะ!
ตำแหน่งในตลาด: เน้นกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา หรือคนที่ชอบเครื่องสำอางแพ็กเกจน่ารักๆ ในราคาสบายกระเป๋า เป็นคุชชั่นที่เน้นงานผิว ปกปิดได้ระดับนึง
จุดเด่นน่ารักน่าหยิก:
- แพ็กเกจยูนิคอร์นสุดฟรุ้งฟริ้ง: เห็นแล้วใจบางมาก!
- เนื้อคุชชั่นเนียนละเอียด: ช่วยให้เกลี่ยง่าย
- ให้ผิวฉ่ำวาวสไตล์เกาหลี: ใครชอบลุคดิวอี้ต้องลอง
- มีเฉดสีให้เลือกสำหรับผิวคนไทย: มี 3 เฉดสีให้เลือก (ผิวเข้ม, ผิวขาวเหลือง, ผิวขาวชมพู)
- ราคาเป็นมิตร: คุณภาพเกินราคาอยู่เด้อ
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: น่ารักจนใจเจ็บ!
ยอมใจในความสร้างสรรค์ของ Nee Cara จริงๆ ค่ะ! แพ็กเกจเป็นตลับวงกลมสีพาสเทล มีลายยูนิคอร์นและกากเพชรวิบวับๆ ติดอยู่ แค่ถือก็รู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิงแล้วอ่ะ วัสดุเป็นพลาสติกแข็งแรงกำลังดี ไม่ก๊องแก๊ง ขนาดไม่ใหญ่มาก พกพาสะดวก ยัดใส่กระเป๋าเครื่องสำอางได้สบายๆ
สีที่มีให้เลือก: แพ็กเกจมีหลายสีพาสเทลนะ แต่ลายยูนิคอร์นจะคล้ายๆ กัน
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ข้างในตลับก็จะมีกระจกให้ ส่องเช็กความสวยได้ตลอดวัน แล้วก็มีพัฟคุชชั่นมาให้ 1 อันค่ะ
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ปกปิดได้แค่ไหน? ผิวเป็นไง?
มาถึงเรื่องสำคัญแล้ว! ลองใช้จริง ตบๆ ลงบนผิวหน้า เฮ้ย...เนื้อคุชชั่นเค้าบางเบาแต่ก็ให้ความรู้สึกว่ามีเนื้ออยู่ ไม่ได้เหลวเป็นน้ำเปล่า เกลี่ยง่ายดีค่ะ ใช้พัฟที่ให้มาตบๆ กดๆ ก็เนียนไปกับผิว ฟินิชที่ได้จะเป็นแบบฉ่ำๆ วาวๆ สไตล์เกาหลีเลย ใครชอบลุคแมตต์อาจจะต้องลงแป้งฝุ่นทับหน่อย
ระดับการปกปิด: เป็นแบบ Medium Coverage (ปกปิดปานกลาง) รอยสิว รอยแดงเล็กๆ ปิดได้โอเคเลยค่ะ แต่ถ้าใครมีรอยหนักๆ หรือใต้ตาคล้ำมาก อาจจะต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วยอีกแรง
ความรู้สึกบนผิว: ไม่เหนียวเหนอะหนะอย่างที่คิดนะคะ สบายผิวดี
การควบคุมความมัน: สำหรับคนผิวผสมถึงผิวมัน อาจจะมีช่วง T-zone ที่แอบเยิ้มบ้างระหว่างวัน ต้องมีซับมันหรือแป้งฝุ่นติดตัวไว้หน่อย
ติดทนนานมั้ย: เคลมว่าติดทนตลอดวัน แต่เอาเข้าจริง ด้วยความที่เป็นคุชชั่นงานผิว+อากาศเมืองไทยที่ร้อนอบอ้าว ก็อาจจะมีหลุดบ้างระหว่างวัน โดยเฉพาะตรงจมูกหรือคางค่ะ แต่เติมระหว่างวันได้ไม่เป็นคราบนะ
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: มือใหม่หัดตบ...รอด!
ใช้ง่ายมากกกก! ไม่ต้องมีสกิลเทพอะไรเลยค่ะ แค่เปิดตลับ ใช้พัฟแตะคุชชั่น แล้วก็ตบๆ ลงบนหน้าได้เลย พัฟที่ให้มาคุณภาพดี นุ่ม เกลี่ยง่าย ไม่กินเนื้อคุชชั่น มือใหม่หัดแต่งหน้าสบายใจได้เลยค่ะ ไม่ต้องกลัวเป็นคราบหรือหน้าเค้ก
ระบบซอฟต์แวร์: อันนี้ไม่มีจ้า เป็นเครื่องสำอาง ใช้มือตบๆ อย่างเดียว
เสียงดังมั้ย ร้อนเร็วมั้ย: ไม่มีเสียงและไม่ร้อนค่ะ เป็นคุชชั่นนะไม่ใช่ไดร์เป่าผม! 😉
5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: คุ้มไม่คุ้ม ต้องมาดูกัน!
อันนี้ไม่ใช่เครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่มีแบตเตอรี่ค่ะ แต่ถ้าพูดถึงความคุ้มค่าของปริมาณกับราคา ถือว่าโอเคเลยนะ ปริมาณ 13 กรัม ใช้ได้นานอยู่ ถ้าไม่ได้ใช้ในปริมาณเยอะมากๆ ในแต่ละครั้ง
ค่าใช้จ่ายระยะยาว: ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่ค่ะ หมดแล้วก็ซื้อตลับใหม่อย่างเดียว
วิเคราะห์ความคุ้มค่า: เทียบกับคุชชั่นแบรนด์เกาหลีอื่นๆ ที่ราคาพุ่งไปไกลลิบ เจ้า Nee Cara ตัวนี้คือเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋ามากๆ ในราคาหลักร้อย ได้คุชชั่นแพ็กเกจน่ารัก คุณภาพดีเกินราคา ปกปิดได้ระดับนึง ให้งานผิวสวย ถ้าไม่ได้ต้องการปกปิดกริบแบบ HD หรือติดทนชนิดไปนอนค้างอ้างแรม ตัวนี้คือคุ้มค่าค่ะ!
6. ข้อดี-ข้อเสีย: มีอะไรที่ต้องรู้ก่อนซื้อบ้าง?
ข้อดี:
- แพ็กเกจน่ารักมากกกก เห็นแล้วใจสั่น!
- ราคาถูกและดี คุณภาพเกินราคาหลักร้อย
- เนื้อคุชชั่นเกลี่ยง่าย ให้งานผิวฉ่ำวาวแบบเกาหลี
- ปกปิดได้ในระดับปานกลาง เหมาะกับ everyday look
- พกพาสะดวก ตลับไม่ใหญ่มาก
ข้อเสีย:
- อาจจะไม่ได้ปกปิดกริบมาก สำหรับคนมีปัญหาผิวเยอะ
- การควบคุมความมันอาจจะยังไม่ดีเท่าไหร่สำหรับคนผิวมันมากๆ
- ไม่ได้ติดทนยาวนานขนาด 8-10 ชั่วโมง อาจต้องมีเติมระหว่างวัน
- เฉดสียังมีให้เลือกน้อยไปหน่อยสำหรับคนผิวเข้มมากๆ
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ซื้อเลยดีมั้ย หรือรอโปรดีกว่า?
เหมาะกับ:
- นักเรียน นักศึกษา หรือคนเพิ่งเริ่มแต่งหน้า ที่อยากได้คุชชั่นราคาไม่แรง คุณภาพดีพอใช้
- คนที่ชอบเครื่องสำอางแพ็กเกจน่ารักๆ ชอบสะสม
- คนที่ชอบงานผิวฉ่ำๆ แบบสาวเกาหลี
- คนที่ผิวไม่ได้มีปัญหาเรื่องรอยสิว รอยแดงมากนัก
- ใช้ในชีวิตประจำวัน วันสบายๆ ไม่ได้ต้องการความเป๊ะปังมาก
เหมาะกับการใช้งานแบบไหน:
- แต่งหน้าไปเรียน ไปทำงาน
- แต่งหน้าวันหยุดสบายๆ
- ใช้เติมหน้าระหว่างวัน
ควรซื้อเลยไหม? หรือรอช่วงโปรโมชั่นจะดีกว่า?: ด้วยความที่ราคาปกติก็ไม่แรงมากอยู่แล้ว ถ้าใจรักในความยูนิคอร์นก็จัดเลยค่ะ! แต่ถ้าจะให้คุ้มกว่า แนะนำให้รอช่วงโปรโมชั่นตามแอปส้ม แอปน้ำเงิน หรือร้านเครื่องสำอางต่างๆ มักจะมีลดราคา จัดเซ็ต หรือมีของแถม ทำให้ได้ราคาที่ถูกลงไปอีกเยอะเลยค่ะ
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: มีตัวไหนน่าสนใจอีก?
ถ้าเทียบกับคุชชั่นในเรทราคาใกล้เคียงกัน ก็จะมีหลายแบรนด์เลยค่ะ เช่น Cathy Doll, Srichand หรือแบรนด์เกาหลีราคาจับต้องได้อย่าง Etude House หรือ Innisfree บางรุ่น แต่จุดที่ทำให้ Nee Cara Unicorn Cushion โดดเด่นออกมาเลยก็คือ แพ็กเกจที่น่ารักมากๆ นี่แหละค่ะ ซึ่งถ้าคุณเป็นสายแพ็กเกจจิ้ง ตัวนี้คือชนะเลิศไปเลย! ในขณะที่คุณภาพถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานคุชชั่นในราคานี้ค่ะ
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อง่ายสบายใจ!
Nee Cara เป็นแบรนด์ที่มีขายในไทยค่อนข้างแพร่หลายค่ะ
ช่องทางการซื้อ: หาซื้อได้ง่ายมากๆ ทั้งตามร้านเครื่องสำอางทั่วไป เช่น Watsons, Eveandboy หรือร้านค้าออนไลน์ยอดนิยมอย่าง Shopee, Lazada รวมถึงร้านค้าทางการของแบรนด์บนแพลตฟอร์มต่างๆ
โปรโมชั่น: อย่างที่บอกว่าตามร้านค้าออนไลน์มักจะมีโปรโมชั่นเด็ดๆ เสมอ ทั้งลดราคา, โค้ดส่วนลด, ส่งฟรี, หรือบางทีก็มีโปรผ่อนชำระ 0% ด้วยค่ะ
การรับประกัน/คืนสินค้า: ส่วนใหญ่การซื้อเครื่องสำอางจะไม่มีการรับประกันเหมือนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ค่ะ แต่ถ้าสั่งซื้อจากร้านค้าออนไลน์ที่เป็นทางการ หรือร้านที่น่าเชื่อถือ มักจะมีนโยบายรับเปลี่ยน/คืนสินค้า หากสินค้าชำรุด หรือได้สินค้าผิดค่ะ
ระยะเวลาจัดส่ง: ถ้าสั่งออนไลน์ ปกติในกรุงเทพฯ และปริมณฑลก็วันสองวันได้ของแล้วค่ะ ต่างจังหวัดก็อาจจะ 2-4 วัน แล้วแต่บริษัทขนส่งและระยะทาง
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ฟันธง! ซื้อดีมั้ย?!
เอาเป็นว่าถ้าคุณเป็นคนที่:
- ชอบเครื่องสำอางแพ็กเกจน่ารัก เห็นแล้วใจละลาย
- กำลังมองหาคุชชั่นราคาไม่แพง คุณภาพดีเกินราคา
- ชอบงานผิวฉ่ำๆ โกลว์ๆ แบบสาวเกาหลี
- ผิวหน้าไม่ได้มีปัญหาที่ต้องปกปิดกริบระดับนางฟ้า
- อยากได้คุชชั่นไว้ใช้ในชีวิตประจำวันสบายๆ หรือเติมหน้าระหว่างวัน
บอกเลยว่า Nee Cara Unicorn Cushion ตัวนี้ ควรค่าแก่การตำอย่างยิ่งค่ะ! ในราคาหลักร้อย คุณได้ทั้งความน่ารักและคุณภาพที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างดีงามมากๆ
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องการคุชชั่นที่ปกปิดขั้นสุด ติดทนแน่นเช้ายันค่ำ ควบคุมความมันได้แบบกริบ หรือต้องการเฉดสีที่หลากหลายมากๆ อาจจะต้องลองมองหาตัวเลือกอื่นที่ราคาสูงขึ้นมาอีกหน่อยค่ะ
สรุปง่ายๆ คือ ถ้าชอบความยูนิคอร์นและต้องการคุชชั่นที่ใช้ได้จริงในราคาเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋า น้องคนนี้คือตอบโจทย์! ไปตำกันโลด!
เป็นยังไงกันบ้างคะกับรีวิว Nee Cara Unicorn Cushion ฉบับภาษาบ้านๆ เข้าถึงง่าย ใครเคยใช้แล้วเป็นยังไง ชอบไม่ชอบตรงไหน หรือมีคุชชั่นตัวไหนอยากป้ายยาอีก มาคอมเมนต์บอกกันหน่อยน้า รออ่านอยู่จ้า!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิว Collagen by Watsons สีม่วง: สูตรนี้ช่วยเรื่องอะไร? ลองแล้วเห็นผลจริงไหม
รีวิว Hourglass Vanish Seamless Finish Foundation Stick: รองพื้นสติ๊ก ปกปิดเรียบเนียน คุมมัน กันน้ำไหม
Clarins สำหรับผู้ชาย รีวิว: สกินแคร์ดูแลผิวผู้ชาย น่าใช้ไหม? ผลลัพธ์เป็นอย่างไร?
Garmin GDR E530 รีวิวกล้องติดรถยนต์: ชัด ทน อุ่นใจทุกการเดินทางไหม?
รีวิว Collagen by Watsons Trouble Free: ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเป็นสิว ลดการอุดตัน ได้ผลจริงหรือ?
Bath & Body Works กลิ่นไหนหอม? รีวิวกลิ่นยอดนิยมทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
