รีวิว แป้ง Cezanne UV Clear Face Powder: แป้งโปร่งแสงคุมมันผสมกันแดด ดีจริงไหม?


ช่วงนี้ใครหน้าเยิ้มเหมือนโดนสาป เจอแดดเมืองไทยเข้าไปคือน้ำมันทอดปลาชัดๆ! 😭 แล้วไหนจะฝุ่นอีก เมคอัพที่บรรจงแต่งมาตั้งแต่เช้าคือหลุดเป็นคราบหมด! ครั้นจะโบกรองพื้นซ้ำก็กลัวอุดตัน สิวขึ้นอีก วุ่นวายไปหมด!
แต่ไม่ต้องกังวลค่ะซิสสส! วันนี้มีไอเท็มเด็ดที่ชาวเน็ตเขาป้ายยากันหนักมาก นั่นก็คือ "แป้ง Cezanne UV Clear Face Powder" ที่เคลมว่าเป็นแป้งโปร่งแสง คุมมัน แถมมีกันแดดในตัวด้วย! ฟังแล้วว้าวซ่ามากแม่! แต่ดีจริงไหม? คุมมันเอาอยู่เหรอ? มีกันแดดแล้วหน้าวอกหน้าลอยไหม? มาค่ะ! วันนี้จะมาไขข้อข้องใจแบบหมดเปลือก รีวิวแบบเรียลๆ สไตล์สาวไทยที่สู้ชีวิตกับแดดและหน้ามันกันค่ะ!
1. ภาพรวมของสินค้า: รู้จักน้อง Cezanne UV Clear Face Powder
น้องคนนี้มาจากแบรนด์ญี่ปุ่นชื่อดัง Cezanne ค่ะ เป็นแบรนด์ที่เน้นคุณภาพดี ราคาน่ารักสบายกระเป๋า ส่วนเจ้าแป้งตัวนี้ชื่อเต็มๆ คือ Cezanne UV Clear Face Powder ค่ะ เปิดตัวมานานพอสมควรแล้วและยังคงเป็นลูกรักของใครหลายๆ คน
ช่วงราคา: ประมาณ 2xx - 3xx บาท แล้วแต่โปรโมชั่นและร้านค้า
ตำแหน่งสินค้า: เป็นแป้งไม่ผสมรองพื้น เน้นงานผิวธรรมชาติ เหมาะกับการใช้เซ็ตเมคอัพ หรือเติมระหว่างวัน เหมาะกับคนที่เน้นความเบา สบายผิว ไม่ต้องการปกปิดมากนัก
จุดเด่นที่แบรนด์เคลม:
- เป็นแป้งโปร่งแสง (Translucent) เนื้อบางเบา
- ช่วยดูดซับความมันส่วนเกิน (Oil Control)
- มีส่วนผสมของสารกันแดด SPF 28 PA+++
- มีส่วนผสมของชิมเมอร์อนุภาคเล็กพิเศษ ช่วยกระจายแสงให้ผิวดูผ่อง
- ช่วยอำพรางรูขุมขน
- ทำความสะอาดง่าย ไม่อุดตัน (เมื่อใช้เดี่ยวๆ)
- ปราศจากสารที่อาจก่อการระคายเคืองหลายชนิด (Fragrance-free, Mineral oil-free, Alcohol-free, Paraben-free)
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: เล็กกระทัดรัด พกพาง่าย
ตัวตลับแป้งมาในแพ็คเกจพลาสติกสีขาว ดูเรียบๆ มินิมอล ตามสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ ขนาดเล็กกำลังดีเลยค่ะ พกพาสะดวกมาก ใส่กระเป๋าเล็กๆ ได้สบาย ในตลับมีกระจกให้พร้อม และมีพัฟเล็กๆ มาให้ด้วยค่ะ
วัสดุ: พลาสติกแข็งแรงพอสมควร ไม่ได้ดูก๊องแก๊งเกินราคา
ขนาดและน้ำหนัก: เล็กและเบา พกพาง่ายสุดๆ ค่ะ
สีที่มีให้เลือก: มีหลายเฉดสีให้เลือกค่ะ ทั้งโทนเบจและสีพิเศษอย่าง Lavender สีเบจก็มีตั้งแต่ผิวขาวอมชมพู ผิวขาวเหลือง ไปจนถึงผิวสองสี ส่วนสี Lavender ก็ช่วยปรับผิวให้ดูสว่างขึ้น
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: มีพัฟมาให้ในตลับค่ะ แต่ขนาดค่อนข้างเล็ก บางคนอาจจะไม่ถนัดในการใช้
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: คุมมันได้จริง แต่กันแดดเน้นเติมระหว่างวันนะ!
ฟังก์ชันหลักๆ ของน้องคนนี้คือ คุมมัน เบลอผิว และกันแดดค่ะ ลองใช้จริงแล้วเป็นยังไง มาดูกันค่ะ
การคุมมัน: อันนี้ต้องยกให้เลยค่ะ! ซับความมันส่วนเกินได้ดีจริงๆ หน้าที่เยิ้มๆ กลับมาดูแมตต์ขึ้น แต่ไม่ได้แมตต์แห้งสนิทแบบไร้ความเงาเลยนะคะ ยังมีความเป็นผิวอยู่ สำหรับคนผิวผสมค่อนไปทางมันอย่างเรา ถือว่าทำได้ดีเลยค่ะ แต่ถ้าใครหน้ามันมากๆ แบบทอดไข่ได้ อาจจะต้องซับระหว่างวันบ่อยหน่อย
เรื่องกันแดด: มีค่า SPF 28 PA+++ ถือว่ากันแดดได้ในระดับนึงค่ะ แต่ด้วยความที่เป็นแป้งและทาในปริมาณที่ไม่เยอะเท่าครีมกันแดด ค่า SPF ที่ได้จริงอาจจะไม่สูงเท่าที่ระบุไว้ เหมาะกับการใช้เติมระหว่างวันมากกว่าที่จะใช้เป็นกันแดดหลักค่ะ ถือเป็นการช่วยเพิ่มการป้องกัน UV ในระหว่างวันได้ดีเลยค่ะ
เนื้อแป้งและการเบลอผิว: เนื้อแป้งบางเบา เนียนละเอียดมากค่ะ ทาแล้วไม่รู้สึกหนักหน้าเลย ที่สำคัญคือมีชิมเมอร์เล็กๆ ผสมอยู่ ซึ่งตอนแรกก็แอบกลัวว่าจะวิ้งค์เกินไปไหม แต่พอทาจริงๆ แล้วชิมเมอร์ละเอียดมาก แทบมองไม่เห็นเป็นเกล็ดๆ แต่ช่วยกระจายแสง ทำให้ผิวดูผ่องๆ สว่างขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ได้วาวแบบหน้ามันเยิ้มนะคะ ช่วยเบลอรูขุมขนได้ในระดับหนึ่งด้วยค่ะ
การใช้: ใช้ได้ทั้งลงเดี่ยวๆ หลังลงสกินแคร์/กันแดด หรือจะใช้เซ็ตหลังลงรองพื้น/คุชชั่นก็ได้ค่ะ ถ้าใช้เดี่ยวๆ จะให้ลุคธรรมชาติสบายผิว ไม่ปกปิดรอยสิวรอยดำนะคะ แต่ถ้าใช้เซ็ตเมคอัพ จะช่วยให้เมคอัพติดทนขึ้นและดูเนียนขึ้นค่ะ
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ใช้ง่าย พกไปเติมได้ตลอด
เรื่องความง่ายในการใช้ ต้องบอกว่าน้อง Cezanne ตัวนี้สอบผ่านฉลุยค่ะ
ใช้ง่ายมั้ย? ใช้ง่ายมากค่ะ ใช้พัฟที่ให้มาหรือใช้แปรงปัดก็ได้ (บางคนอาจจะชอบใช้แปรงมากกว่าเพราะพัฟเล็ก) แป้งติดพัฟง่าย เกลี่ยลงผิวก็ง่าย ไม่เป็นคราบ ไม่ต้องมีสกิลแต่งหน้าขั้นสูงก็ใช้ได้ค่ะ
ต้องเรียนรู้อะไรเยอะมั้ย? ไม่ต้องเลยค่ะ แค่แตะแป้งแล้วทา/ปัดได้เลย
สบายผิวเวลาใช้มั้ย? สบายผิวมากๆ ค่ะ เนื้อบางเบาเหมือนไม่ได้ทาอะไรเลย
รองรับภาษาไทยมั้ย? เป็นผลิตภัณฑ์เมคอัพ ไม่ได้มีระบบซอฟต์แวร์ค่ะ
ใช้กับแอปในไทยได้หรือเปล่า? ไม่มีฟังก์ชันที่ต้องใช้กับแอปค่ะ
5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ใช้ได้นาน ราคาดี๊ดี
เนื่องจากเป็นแป้งอัดแข็ง ไม่ได้ใช้พลังงานไฟฟ้าค่ะ
ความคุ้มค่า: ด้วยราคาที่ไม่แรงเลย เมื่อเทียบกับปริมาณ 10g และคุณภาพที่ได้ ทั้งคุมมัน มีกันแดด เบลอผิว ทำให้รู้สึกว่า คุ้มค่ามากๆ ค่ะ ตลับนึงใช้ได้นานพอสมควรเลยค่ะ ยิ่งถ้าซื้อแบบรีฟิลก็จะยิ่งถูกลงไปอีก
ค่าใช้จ่ายระยะยาว: ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่หรือบำรุงรักษาค่ะ แค่ซื้อตลับใหม่หรือรีฟิลเมื่อหมด
6. ข้อดี-ข้อเสีย (วิเคราะห์แบบกลางๆ ไม่อวยเกิน)
ข้อดี:
- ราคาเป็นมิตร: สบายกระเป๋ามากค่ะ นักเรียนนักศึกษาซื้อได้สบาย
- คุมมันได้ดี: ช่วยลดความมันบนใบหน้าได้จริง
- มีกันแดดในตัว: ช่วยเพิ่มการป้องกัน UV ระหว่างวัน
- เนื้อบางเบา สบายผิว: ทาแล้วไม่หนักหน้า เหมาะกับอากาศร้อนๆ
- ผิวดูผ่องใสเป็นธรรมชาติ: ชิมเมอร์เล็กๆ ช่วยกระจายแสงได้ดี
- พกพาง่าย: ตลับเล็กกระทัดรัด เหมาะกับการเติมระหว่างวัน
ข้อเสีย:
- การปกปิดน้อยมาก: เป็นแป้งโปร่งแสง ไม่ได้ช่วยปกปิดรอยสิว รอยดำ หรือรอยแดงนะคะ
- กันแดดอาจไม่พอสำหรับแดดแรงๆ: ค่า SPF 28 PA+++ เหมาะกับการเติมระหว่างวัน แต่ไม่ใช่กันแดดหลักสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งหนักๆ
- พัฟที่ให้มาเล็กไป: บางคนอาจจะไม่ถนัดในการใช้พัฟที่แถมมา ต้องใช้แปรงแทน
- สำหรับคนหน้ามันมากๆ อาจต้องซับบ่อยหน่อย: ถ้าผิวมันขั้นสุด อาจจะคุมมันได้ไม่นานเท่าที่ต้องการ
- สี Lavender อาจทำให้หน้าดูวอกถ้าผิวคล้ำ: สีพิเศษอาจจะต้องเลือกดีๆ ให้เข้ากับสีผิวค่ะ
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ
เหมาะกับ:
- คนที่มีปัญหาหน้ามัน: โดยเฉพาะช่วง T-zone
- คนที่ชอบงานผิวธรรมชาติ: ไม่เน้นการปกปิดหนักๆ
- คนที่ต้องการแป้งสำหรับเติมหน้าระหว่างวัน: พกพาสะดวก เติมแล้วไม่เป็นคราบ ไม่วอก
- คนที่อยากได้กันแดดสำหรับเติมระหว่างวัน: ช่วยเพิ่มการป้องกัน UV ได้
- นักเรียน นักศึกษา: ราคาเป็นมิตร คุณภาพดี
- คนที่มีผิวดีอยู่แล้ว: ต้องการแค่เซ็ตผิวให้เรียบเนียนและคุมมัน
ควรซื้อเลยไหม? ถ้าคุณเข้าข่ายข้างบนและกำลังมองหาแป้งประมาณนี้ ซื้อเลยค่ะ! ถือเป็นไอเท็มที่ควรมีติดกระเป๋าไว้มากๆ โดยเฉพาะถ้าเจอช่วงโปรโมชั่นราคายิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (เลือกใส่ก็ได้)
ถ้าเทียบกับแป้งไม่ผสมรองพื้นตัวอื่นๆ ในตลาด อย่าง Canmake Marshmallow Finish Powder (ซึ่งเน้นความแมตต์ เบลอรูขุมขน) หรือแป้งฝุ่นโปร่งแสงอื่นๆ Cezanne ตัวนี้จะเด่นตรงที่มีชิมเมอร์ที่ช่วยเรื่องความผ่องและการกระจายแสง รวมถึงมีกันแดดในตัวที่หลายๆ ตัวไม่มี
ถ้าเทียบกับแป้งผสมรองพื้น Cezanne ตัวนี้จะให้การปกปิดที่น้อยกว่ามาก แต่แลกมาด้วยความบางเบา สบายผิว ไม่อุดตันง่าย เหมาะกับคนละจุดประสงค์กัน
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ (เสริมสร้างความเชื่อมั่น)
Cezanne เป็นแบรนด์ที่มีขายในไทยมานานพอสมควรค่ะ หาซื้อได้ง่ายมากๆ
ช่องทางการซื้อ:
- ร้าน Drugstore ชั้นนำทั่วไป เช่น Watsons, Eveandboy, Beautrium
- ร้านค้าออนไลน์ เช่น Konvy, Lazada, Shopee, JD Central
- ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของแบรนด์หรือตัวแทนจำหน่ายในไทย
การรับประกันสำหรับเครื่องสำอางส่วนใหญ่จะไม่มีการรับประกันแบบเครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะ แต่ถ้าสินค้ามีปัญหาจากการผลิต หรือได้รับสินค้าไม่ตรงตามที่สั่ง สามารถติดต่อร้านค้าหรือแพลตฟอร์มที่ซื้อเพื่อขอเปลี่ยนคืนได้ตามนโยบายของร้านนั้นๆ ค่ะ
ช่วงเทศกาลหรือวันเลขเบิ้ลในแพลตฟอร์มออนไลน์มักจะมีโปรโมชั่นลดราคา คูปองส่วนลด หรือ Cash Back ทำให้ได้ราคาที่ถูกลงไปอีก การซื้อออนไลน์ก็สะดวกตรงที่มีบริการจัดส่งถึงบ้านด้วยค่ะ ค่าจัดส่งและระยะเวลาขึ้นอยู่กับร้านและพื้นที่จัดส่งค่ะ
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ
จากที่ลองใช้และวิเคราะห์มาทั้งหมด Cezanne UV Clear Face Powder ถือเป็นแป้งโปร่งแสงคุมมันผสมกันแดดที่ คุ้มค่า น่าใช้มากค่ะ
แนะนำให้ซื้อ! โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนหน้ามัน ต้องการแป้งที่ช่วยคุมมัน เติมระหว่างวันได้แบบไม่เป็นคราบ และอยากได้การป้องกัน UV เพิ่มเติมในระหว่างวันค่ะ เหมาะมากสำหรับ everyday look หรือวันสบายๆ ที่อยากให้ผิวดูดีแต่ไม่โบ๊ะค่ะ
สำหรับคนที่มีปัญหาผิวที่ต้องการการปกปิด แป้งตัวนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์นะคะ เพราะเน้นความเป็นธรรมชาติมากกว่า แต่ก็ยังสามารถใช้เป็นแป้งเซ็ตหลังลงรองพื้นเพื่อช่วยคุมมันและเบลอผิวได้ค่ะ
ใครลองใช้แล้วเป็นยังไง มาแชร์กันได้นะคะ! 😊
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
จัดกระดูก คืออะไร? รีวิว ประสบการณ์ และข้อควรรู้
รวมร้านหมูจุ่ม เชียงใหม่ อร่อยเด็ด บรรยากาศดี
รีวิว Beauty Plus Clinic กำจัดขน: เลเซอร์ขนที่นี่ดีไหม ราคาเป็นอย่างไร?
รีวิวหนัง "ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ" ประทับใจแค่ไหน?
รีวิว Adidas Edge Lux Clima: รองเท้าวิ่ง Adidas ระบายอากาศดี น่าใส่ไหม?
รีวิว Hisense 55B7700UW ทีวี 55 นิ้ว ภาพสวย คุ้มราคาไหม?