รีวิว Bond Touch: สร้อยข้อมือเชื่อมความสัมพันธ์ทางไกล ใช้แล้วเป็นไง?


ชีวิตคู่ทางไกลมันเหงาเนอะ... กว่าจะเจอ กว่าจะจีบ กว่าจะตกลงเป็นแฟนกันได้ก็ว่ายากแล้ว แต่พอต้องมาอยู่กันคนละที่ คนละจังหวัด หรือบางทีคนละประเทศนี่สิ! คิดถึงทีก็ได้แต่มองหน้าจอ โทรคุยกันพอหายคิดถึง แต่ก็นั่นแหละ... มันไม่ฟินเหมือนมีคนอยู่ข้างๆ ใช่มั้ยล่ะ?
นี่เลย! ตัวช่วยที่เราจะมารีวิววันนี้ เชื่อว่าหลายคู่ทางไกลน่าจะเคยเห็นผ่านตา หรือเคยโดนป้ายยามาบ้าง นั่นก็คือ Bond Touch สร้อยข้อมือที่เคลมว่าช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ทางไกลได้ด้วย "สัมผัส" แต่ใช้จริงแล้วเป็นยังไง? คุ้มมั้ยที่จะลงทุนซื้อมาใส่คู่กับหวานใจ? ตามมาดูกันเลยจ้า!
1. ภาพรวม Bond Touch: รู้จักน้องสร้อยสื่อรักกันหน่อย
แบรนด์: Bond Touch
ประเภท: สร้อยข้อมืออัจฉริยะสำหรับคู่รัก/เพื่อน/ครอบครัวทางไกล
ช่วงราคา: ประมาณ 3,xxx - 5,xxx บาท (ต่อคู่) ขึ้นอยู่กับรุ่นและโปรโมชั่น
Bond Touch คือสร้อยข้อมือที่ออกแบบมาให้คนสองคน (หรือมากกว่า ในรุ่น Bond Touch More) ที่อยู่ห่างไกลกัน สามารถส่ง "สัมผัส" หากันได้ แค่เราแตะที่สร้อยข้อมือของเรา สร้อยข้อมือของอีกฝ่ายที่จับคู่กันไว้ก็จะสั่นและมีไฟขึ้นตามรูปแบบที่เราแตะ เหมือนส่งสัญญาณบอกว่า "คิดถึงนะ!" หรือ "อยู่ตรงนี้นะ!" โดยไม่ต้องพิมพ์ ไม่ต้องโทร,,
จุดเด่นหลักๆ ที่น่ารู้:
- ส่งและรับสัมผัสได้แบบเรียลไทม์: แค่แตะ สร้อยอีกวงก็สั่นทันที,
- สั่นเลียนแบบการสัมผัสจริง: เค้าว่ากันว่าการสั่นมีความสมจริง (อันนี้เดี๋ยวต้องลองเอง!),
- กันน้ำ: ใส่ล้างมือ อาบน้ำ หรือโดนฝนได้สบายๆ,,
- แบตเตอรี่ทนพอตัว: เคลมว่าอยู่ได้หลายวัน,,
- มีแอปพลิเคชันคู่กัน: ไว้ตั้งค่า ดูประวัติแชทส่วนตัว และฟีเจอร์อื่นๆ,,
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: มินิมอล เรียบง่าย
ตัว Bond Touch รุ่นที่เราเห็นบ่อยๆ จะเป็นแบบสายซิลิโคน (เปลี่ยนสายได้นะ) กับโมดูลวงรีๆ ที่เป็นส่วนรับสัมผัสและสั่น ดีไซน์เค้าจะเน้นความมินิมอล ใส่ได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย จะใส่เดี่ยวๆ หรือใส่รวมกับนาฬิกาก็ไม่ติดอะไร,,
วัสดุ: สายส่วนใหญ่เป็นซิลิโคน โมดูลเป็นพลาสติกแข็งหน่อยๆ ขนาดและน้ำหนัก: ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป คล้ายๆ Activity Tracker ทั่วไป ใส่ติดข้อมือได้ตลอด, สีที่มีให้เลือก: มีสีสายให้เลือกหลากหลายอยู่นะ ทั้งสีพื้นฐานอย่างดำ ขาว หรือสีสันสดใสก็มี,, อุปกรณ์ในกล่อง: หลักๆ ก็มีตัวสร้อยข้อมือ (1 คู่), สายชาร์จแบบแม่เหล็ก (สะดวกดี!), และคู่มือ
รวมๆ แล้วดีไซน์ถือว่าโอเคเลย ไม่ตะโกนว่าเป็น Gadget จ๋า ใส่เป็นเครื่องประดับชิ้นนึงก็ได้อยู่
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: แตะปุ๊บ รู้ปั๊บ!
ฟังก์ชันหลักของ Bond Touch ก็คือการ "แตะ" แล้วให้สร้อยของอีกคนสั่น การใช้งานง่ายมาก แค่แตะที่ตัวโมดูลของสร้อยเรา, อีกฝ่ายก็จะรู้สึกถึงแรงสั่นที่ข้อมือ พร้อมกับไฟที่ขึ้นตามสีที่เราตั้งค่าไว้ (เดี๋ยวไปดูเรื่องสีในส่วนแอปฯ นะ),
ความรู้สึกของการสั่น: การสั่นจะไม่ได้แรงแบบแจ้งเตือนมือถือ แต่จะเป็นการสั่นแบบนุ่มนวล เบาๆ ให้พอรู้สึกได้ เหมือนมีคนมาสะกิดหรือบีบที่ข้อมือเบาๆ, ความแรงประมาณนี้แหละที่ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นสัมผัสจริงๆ ไม่ใช่แค่การแจ้งเตือนธรรมดา
เราสามารถสร้าง "รูปแบบการแตะ" หรือ Touch Language เป็นของเราเองได้ด้วยนะ, เช่น แตะสั้นๆ 1 ครั้งหมายถึง "คิดถึงนะ" แตะยาวๆ 1 ครั้งหมายถึง "ฝันดีนะ" หรือจะแตะเป็นจังหวะเพลง หรือจังหวะอะไรที่รู้กันแค่สองคนก็ได้ (อันนี้แล้วแต่ครีเอทีฟของแต่ละคู่เลยจ้า!)
ลองใช้ตอนทำงาน เพลินๆ ก็มีคนส่งสัมผัสมาให้ใจชื้น บางทีประชุมอยู่ รับโทรศัพท์ไม่ได้ แค่มีแรงสั่นเบาๆ มาที่ข้อมือ ก็รู้แล้วว่าอีกคนเค้าคิดถึง หรือมีอะไรอยากบอกนะ (แต่อย่าเผลอไปแตะตอบแรงๆ ตอนประชุมนะ เดี๋ยวโป๊ะ! 😂)
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ต้องพึ่งมือถือตลอดนะรู้ยัง?
การใช้งาน Bond Touch ถือว่าไม่ซับซ้อนมากนัก การตั้งค่าเริ่มต้นต้องทำผ่านแอปพลิเคชัน Bond Touch App ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดทั้งใน App Store และ Google Play Store, การเชื่อมต่อตัวสร้อยกับมือถือใช้ Bluetooth, และมือถือต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (Wi-Fi หรือ Cellular Data) อยู่ตลอด เพื่อให้สร้อยทำงานได้
แอปพลิเคชัน: ตัวแอปฯ ดีไซน์สวยงาม ใช้งานง่าย มีฟีเจอร์ให้ตั้งค่าเยอะพอสมควร เช่น เปลี่ยนสีไฟของสร้อย (เลือกสีตามอารมณ์ หรือตามความหมายของสัมผัสได้เลย),, ดูประวัติการแตะย้อนหลัง, มีพื้นที่ส่วนตัว (Secret Space) ไว้แชทคุยกัน ส่งรูปหากันได้ด้วยนะ,, มีฟีเจอร์นับถอยหลังรอเจอหน้า (Next Encounter), และยังสามารถแชร์ตำแหน่งคร่าวๆ (แค่เมือง/ประเทศ) และสภาพอากาศให้อีกฝ่ายรู้ได้ด้วย (ถ้าเราอนุญาตนะ),,
ปัญหาที่อาจเจอได้คือ สร้อยต้องเชื่อมต่อ Bluetooth กับมือถือ และมือถือต้องมีเน็ตอยู่ตลอดเวลา ถ้ามือถือแบตหมด เน็ตหลุด หรือลืมเปิดแอปฯ ไว้เบื้องหลัง สร้อยก็จะไม่ทำงานจ้า, อันนี้ต้องทำใจนิดนึง เพราะมันไม่ใช่สร้อยข้อมือเดี่ยวๆ ที่ทำงานได้ด้วยตัวเอง
ตัวแอปฯ รองรับภาษาไทยด้วยนะ!, ทำให้การใช้งานง่ายขึ้นไปอีก ไม่ต้องงมกับภาษาอังกฤษ
5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ชาร์จบ่อยแค่ไหน?
เรื่องแบตเตอรี่นี่เป็นปัจจัยสำคัญเลย เพราะถ้าแบตหมด สร้อยก็หมดประโยชน์ Bond Touch เคลมว่าแบตอยู่ได้สูงสุด 4 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง,, แต่จากการใช้งานจริงและอ่านรีวิวอื่นๆ, ระยะเวลาการใช้งานจริงอาจจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความถี่ในการส่งและรับสัมผัส ถ้าส่งหากันบ่อยๆ แบตก็อาจจะหมดเร็วกว่า 4 วัน บางคนบอกอยู่ได้ 2 วัน, บางคนบอกวันครึ่งก็หมดแล้ว อันนี้แล้วแต่ไลฟ์สไตล์คู่ใครคู่มันนะ
การชาร์จ: ใช้สายชาร์จแบบแม่เหล็กที่ให้มาในกล่อง ชาร์จง่าย สะดวกดี แปะปุ๊บ ติดปั๊บ
ความคุ้มค่าในระยะยาว: ตัวสร้อย Bond Touch ซื้อครั้งเดียวจบ ไม่มีค่าบริการรายเดือนอะไรเพิ่มเติม (ยกเว้น Bond Touch More ที่อาจมีฟีเจอร์พิเศษ) ค่าใช้จ่ายระยะยาวก็มีแค่ค่าไฟในการชาร์จแบต ซึ่งน้อยมากๆ ถ้าเทียบกับค่าโทร ค่าเดินทางไปหากัน หรือค่าอาหารเวลาไปเดท 😂
เมื่อมองในแง่ของ "ความรู้สึก" ที่ได้กลับมา การที่แค่อีกคนแตะเบาๆ ก็รู้สึกได้ถึงการเชื่อมต่อ มันตีเป็นมูลค่าไม่ได้จริงๆ นะ
6. ข้อดี-ข้อเสีย: ชั่งใจก่อนซื้อ
ข้อดี (ที่คนไทยน่าจะชอบ):
- เติมเต็มช่องว่างความเหงา: แค่สัมผัสเบาๆ ก็รู้ว่ามีคนคิดถึง ทำให้รู้สึกดีขึ้นเยอะ,,,
- สื่อสารได้โดยไม่รบกวน: ส่งความคิดถึงได้เงียบๆ ตอนอีกฝ่ายประชุม เรียน หรือทำงาน,
- สร้าง Touch Language ส่วนตัวได้: มีรหัสลับรู้กันแค่สองคน น่ารักดี,,
- ดีไซน์สวย มินิมอล: ใส่ได้ทุกวัน ไม่เขิน,,
- แอปฯ รองรับภาษาไทย: ใช้งานง่าย ไม่ต้องปวดหัวเรื่องภาษา,
ข้อเสีย (ที่อาจทำให้ลังเลใจ):
- ต้องพึ่งมือถือและอินเทอร์เน็ตตลอด: ถ้ามือถือดับ เน็ตหลุด ก็จบเห่
- แบตเตอรี่อาจจะไม่ได้อึดเท่าที่เคลม: ต้องชาร์จบ่อยหน่อยถ้าใช้งานหนัก,,
- ราคาค่อนข้างสูง: เมื่อเทียบกับฟังก์ชันหลักที่มีแค่การสั่น
- บางทีการเชื่อมต่ออาจมีปัญหา: แอปฯ อาจมีบั๊ก หรือสร้อยไม่สั่นบ้างเป็นบางครั้ง,
- ไม่ได้ทดแทนการสื่อสารแบบเต็มรูปแบบ: ยังไงก็ต้องมีการคุยกัน โทรหากันอยู่ดี
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: คู่ไหนควรจัด?
Bond Touch เหมาะกับ:
- คู่รักทางไกล (LDR): อันนี้ตรงตัวสุดๆ ช่วยเติมเต็มความรู้สึกใกล้ชิดได้ดีมาก,,
- เพื่อนสนิท หรือครอบครัวที่อยู่ห่างกัน: อยากส่งสัญญาณบอกรัก บอกคิดถึงให้พ่อแม่ พี่น้อง หรือเพื่อนซี้ก็ได้นะ,
- คนที่ Love Language เป็น Physical Touch: การได้สัมผัส (แม้จะเป็นการสั่น) ก็ทำให้รู้สึกถึงความรักได้จริงๆ
- คนที่อยากหาวิธีสื่อสารแบบใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่แชทหรือโทร: เบื่อการพิมพ์ อยากได้อะไรที่พิเศษกว่านั้น
ควรซื้อเลยไหม?
ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มที่บอกมาข้างบน และยอมรับข้อจำกัดเรื่องการเชื่อมต่อกับมือถือได้ คิดว่า Bond Touch ก็เป็น Gadget ที่น่าลงทุนมากๆ ค่ะ มันอาจจะดูเป็นของเล่น แต่ "ความรู้สึก" ที่ได้มันไม่ใช่ของเล่นนะ! มันช่วยฮีลใจให้คนไกลกันได้เยอะเลย,
แต่ถ้าไม่ได้อยู่ไกลกันมาก หรือไม่ได้ซีเรียสเรื่อง Physical Touch ขนาดนั้น อาจจะมองข้ามไปก็ได้ค่ะ ลองดูช่วง โปรโมชั่น ตามแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ นะคะ บางทีมีลดราคา หรือมีโค้ดส่วนลด ทำให้ราคาเอื้อมถึงง่ายขึ้น
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (ถ้ามี): มีตัวอื่นอีกไหม?
Bond Touch ถือเป็นเจ้าตลาดของสร้อยข้อมือสื่อสัมผัสทางไกล แต่ก็อาจจะมีแบรนด์อื่นๆ ที่ทำสินค้าคล้ายๆ กันออกมาบ้าง แต่ Bond Touch ค่อนข้างเป็นที่รู้จักและมีรีวิวเยอะกว่า จุดที่ต่างกันหลักๆ ก็อาจจะเป็นดีไซน์ วัสดุ คุณภาพการสั่น และฟีเจอร์ในแอปพลิเคชัน ซึ่ง Bond Touch ค่อนข้างทำได้ดีและเสถียรกว่าในภาพรวม
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดี?
Bond Touch หาซื้อได้ไม่ยากในไทย ส่วนใหญ่จะเน้นขายผ่านช่องทางออนไลน์ค่ะ ที่ฮิตๆ ก็มี:
- Shopee / Lazada: เป็นช่องทางหลักเลย มีร้านค้าทางการ หรือร้านค้าอื่นๆ ที่นำเข้ามาขาย, ข้อดีคือมีโปรโมชั่นเยอะ ทั้งโค้ดส่วนลด, Cashback, ผ่อนชำระ 0% บางทีมีดีลพิเศษช่วงเทศกาลใหญ่ๆ ลองเข้าไปเช็คดูนะ
- Ubuy หรือเว็บไซต์นำเข้าอื่นๆ: บางทีก็มีขายในเว็บที่นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมาไทย,,
- เว็บไซต์ทางการของ Bond Touch: สั่งตรงจากเว็บหลักก็ได้ แต่ต้องดูเรื่องค่าส่งและภาษีนำเข้าให้ดี
การรับประกัน: ปกติสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จะมีประกันจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย ลองสอบถามจากร้านค้าก่อนซื้อนะคะ เผื่อมีปัญหาจะได้เคลมได้
การซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เจ้าใหญ่ๆ อย่าง Shopee หรือ Lazada ค่อนข้างสะดวกเรื่องระบบชำระเงิน การติดตามสินค้า และนโยบายการคืนสินค้า (ถ้ามีปัญหา)
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: สรุปแล้ว...เอาไงดี?
หลังจากที่ลองใช้และรีวิวมาอย่างละเอียด สรุปเลยว่า Bond Touch เป็น Gadget ที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนที่มีความสัมพันธ์ทางไกล ค่ะ มันไม่ได้เป็นแค่สร้อยข้อมือธรรมดา แต่มันคือเครื่องมือสื่อสารทางอารมณ์ ที่ช่วยให้คุณและคนที่คุณรักรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้น ผ่าน "สัมผัส" เล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน,,
ถ้าคุณกำลังมองหาตัวช่วยเติมความหวาน เติมความรู้สึกให้คนไกล และยอมรับข้อจำกัดเรื่องการเชื่อมต่อกับมือถือได้ แนะนำให้จัดเลยค่ะ! ยิ่งถ้าอยู่ในช่วงโปรโมชั่นด้วย ยิ่งคุ้ม! มันอาจจะเปลี่ยนความเหงาให้กลายเป็นความรู้สึกดีๆ ได้เลยนะ
แต่ถ้าคุณไม่ได้อยู่ไกลกันมาก หรือไม่ได้อินกับเรื่อง Physical Touch เท่าไหร่ อาจจะลองคิดดูก่อน หรือหาวิธีสื่อสารแบบอื่นที่เหมาะกับคู่ของคุณมากกว่าก็ได้ค่ะ 😊
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
Bath & Body Works กลิ่นไหนหอม? รีวิวกลิ่นยอดนิยมทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
รีวิว Sudocrem: ครีมสารพัดประโยชน์ แก้ผื่นผ้าอ้อม สิว และปัญหาผิวต่างๆ
Fresh Black Tea Mask รีวิว: มาส์กหน้าใส ฟูอิ่ม เห็นผลในครั้งแรก?
รีวิว Nutri Master Astaxanthin Plus: อาหารเสริมต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวและสายตา ได้ผลจริงไหม?
รีวิว Harley-Davidson Sportster Iron 1200: ตำนานคลาสสิก สไตล์ดุดัน
รีวิว Xiaomi Air Purifier 2S: เครื่องฟอกอากาศดีไซน์มินิมอล กรองอากาศสะอาด