ราคา รถกระบะจิ๋ว มือสอง จดทะเบียนได้หรือไม่? ซื้อมาใช้งานหรือสะสม?


สวัสดีจ้าพี่น้องชาวไทยผู้รักความกระจุ๋มกระจิ๋มแต่เปี่ยมไปด้วยฟังก์ชัน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องราวของ รถกระบะจิ๋ว หรือมินิทรัคที่เราเห็นวิ่งกันขวักไขว่บ้าง ตามสวนยางสวนปาล์มบ้าง หรือบางทีก็แปลงร่างเป็นฟู้ดทรัคน่ารักๆ จอดขายของตามตลาดนัด ใครกำลังเล็งๆ เจ้าตัวเล็กพวกนี้อยู่ว่าจะซื้อมาใช้งานจริงจัง หรือซื้อมาจอดโชว์เท่ๆ เป็นของสะสม มาหาคำตอบไปพร้อมกันเลยค่ะ!
1. เจ้ากระบะจิ๋วนี้มันคืออะไรกันแน่? ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
พูดถึง รถกระบะจิ๋ว หลายคนอาจจะนึกถึงรถตู้หลังคาสูงๆ หน่อยอย่าง Suzuki Carry หรือ Daihatsu Hijet ซึ่งเป็นรถที่ออกแบบมาเพื่องานบรรทุกโดยเฉพาะ แต่ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด (เหมือนรถเก๋งคันเล็กๆ นี่แหละ) มันเลยคล่องตัวสุดๆ ในการวิ่งซอกแซกในเมือง หรือเข้าไปในพื้นที่แคบๆ ที่รถกระบะใหญ่เข้าไม่ได้ เจ้าพวกนี้เกิดมาจากแบรนด์ดังๆ อย่าง Suzuki หรือ Daihatsu ซึ่งเป็นค่ายรถจากญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญการทำรถเล็กแต่ทนทานมานานนมแล้ว โดยเฉพาะในญี่ปุ่นเอง รถประเภทนี้ (ที่เรียกว่า Kei Truck) ได้รับความนิยมมากๆ เพราะประหยัดน้ำมัน และเหมาะกับถนนหนทางแคบๆ ของเค้า ในไทยเองก็ฮิตไม่แพ้กัน ส่วนใหญ่เค้าเอามาใช้ขนของ ทำธุรกิจเล็กๆ อย่างฟู้ดทรัค หรือใช้ในไร่ในสวน กลุ่มผู้ใช้ก็มีตั้งแต่พ่อค้าแม่ขาย SME ไปจนถึงเกษตรกร หรือคนที่อยากได้รถเล็กๆ ไว้ใช้งานสารพัดประโยชน์นั่นแหละค่ะ
2. ราคาในตลาดมือสองตอนนี้อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
เรื่องราคาเนี่ย ต้องบอกเลยว่ามีหลากหลายมากๆ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น ปี สภาพ และที่มาที่ไปของรถ อย่างตัวฮิตๆ เลยคือ Suzuki Carry รุ่นใหม่ๆ หน่อย (ปี 2019 ขึ้นมา) ที่ยังเป็นโฉมปัจจุบัน ราคาป้ายแดงอยู่ที่ประมาณ 395,000 บาท แต่ถ้าเป็น มือสอง ล่ะก็ ราคาจะลงมาเยอะเลย จากที่ส่องๆ ดูตามแพลตฟอร์มขายรถมือสองออนไลน์ใหญ่ๆ อย่าง One2Car หรือ Kaidee Auto เนี่ย รุ่น Suzuki Carry มือสอง ปีใหม่ๆ หน่อย (เช่น ปี 2017-2019) ราคาจะอยู่ประมาณ 150,000 - 250,000 บาท (฿) โดยประมาณ ถ้าเก่ากว่านั้น หรือเป็นรุ่นก่อนปี 2019 ราคาก็จะลงมาอีก บางคันสภาพใช้งานหนักหน่อยอาจจะเจอราคาต่ำกว่าแสนก็มีนะ
ส่วน Daihatsu Hijet อันนี้มีทั้งแบบที่เป็นรถนำเข้าเก่าๆ ที่เอามาจดทะเบียนในไทยทีหลัง (มักเรียกกันว่ารถจดประกอบ) กับรุ่นใหม่ๆ ที่อาจจะมีคนนำเข้ามาขาย ราคาจะหลากหลายยิ่งกว่า Suzuki Carry อีกค่ะ บางคันสภาพดีๆ แต่งครบๆ อาจจะเหยียบ 2-3 แสน หรือมากกว่านั้นก็มี แต่ถ้าเป็นรุ่นเก่ามากๆ ที่สภาพต้องปั้นหน่อย ราคาก็หลักหมื่นปลายๆ ถึงแสนต้นๆ ก็พอหาได้นะ สรุปคือราคามือสองของเจ้ากระบะจิ๋วพวกนี้อยู่ในช่วง ตั้งแต่หลักหมื่นปลายๆ ไปจนถึงสองแสนกว่าบาท ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่บอกไปเลยจ้า
3. เทียบราคากับรถประเภทอื่น คุ้มค่าน่าโดนมั้ย?
ถ้าให้เทียบกับรถกระบะทั่วไปไซส์ปกติ (ที่ไม่ใช่กระบะจิ๋ว) ในตลาดมือสองเนี่ย ราคาเริ่มต้นของกระบะใหญ่จะสูงกว่าเจ้ากระบะจิ๋วชัดเจนค่ะ รถกระบะมือสองทั่วไปราคาเริ่มต้นอาจจะอยู่ที่ประมาณแสนกลางๆ ถึงสองแสนขึ้นไป ซึ่งอาจจะแพงกว่ากระบะจิ๋วบางรุ่นในสภาพเดียวกัน หรือปีใกล้เคียงกันด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องดูที่ขนาดเครื่องยนต์และความสามารถในการบรรทุกด้วยนะ กระบะใหญ่แน่นอนว่าขนได้เยอะกว่า วิ่งทางไกลสบายกว่า แต่ถ้าเน้นใช้งานในเมือง ในซอยแคบๆ หรือขนของที่ไม่หนักมาก เจ้ากระบะจิ๋วก็กินขาดเรื่องความคล่องตัวและความประหยัดน้ำมัน
บางคนอาจจะเทียบกับรถเก๋งเล็กๆ อีโคคาร์มือสอง ซึ่งราคาอาจจะพอๆ กันหรือถูกกว่ากระบะจิ๋วบางรุ่น แต่รถเก๋งก็คือรถเก๋ง บรรทุกของได้จำกัดกว่าเยอะ ดังนั้นถ้ามองเรื่อง ความคุ้มค่าในการนำไปใช้งานเชิงพาณิชย์ หรือขนของ ในงบประมาณที่จำกัดเนี่ย เจ้ากระบะจิ๋วมือสองถือเป็นตัวเลือกที่ น่าสนใจมากๆ เลยล่ะ
4. ซื้อแล้วจะได้อะไรติดมาบ้าง? ต้องดูอะไรเป็นพิเศษ?
อันนี้แหละคือจุดที่ต้องตาดีได้ ตาร้ายเสีย! เพราะซื้อรถมือสอง เราไม่ได้ของใหม่แกะกล่อง สิ่งที่มักจะติดมาด้วยก็คือ ตัวรถนั่นแหละ บางคันอาจจะมีหลังคาโครงเหล็กหรือหลังคาตู้ทึบมาให้แล้ว บางคันโล่งๆ ต้องเอาไปทำเอง ส่วน ประกัน เนี่ย ส่วนใหญ่ ไม่มีประกันศูนย์ แล้วนะ อาจจะต้องลุ้นเอา หรือบางเต็นท์รถมือสองอาจจะมี ประกันเครื่องยนต์/เกียร์ ให้เล็กน้อยสัก 3 เดือน 6 เดือน ก็ต้องลองสอบถามดูดีๆ
สิ่งสำคัญที่ต้องเช็คให้ละเอียดเวลาไปดูรถกระบะจิ๋วมือสองคือ:
- สภาพเครื่องยนต์: ฟังเสียงเครื่องยนต์ดูว่าเรียบดีมั้ย ลองสตาร์ทตอนเครื่องเย็นดู ควันดำ ควันขาว มีมั้ย
- สภาพช่วงล่าง: ลองขับดูว่ามีเสียงดังผิดปกติมั้ย ลองขึ้นลูกระนาดดู
- ระบบเบรก: เบรกอยู่ดีมั้ย ลองเบรกกะทันหันดู (ในสนามที่ปลอดภัยนะ!)
- ระบบไฟ: ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว แตร ที่ปัดน้ำฝน ยังทำงานครบมั้ย
- โครงสร้างตัวถัง: มีร่องรอยการชนหนัก พลิกคว่ำ น้ำท่วม มาก่อนมั้ย ดูรอยต่อ ซอกมุมต่างๆ
- เลขไมล์: ตรงกับสภาพรถมั้ย (อันนี้เช็คยากหน่อยสำหรับรถเก่า)
- เอกสาร: สำคัญสุด! ต้องมี เล่มทะเบียนตัวจริง ชื่อผู้ขายตรงกับในเล่มมั้ย ต้องเช็คว่ารถคันนี้ จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ (อันนี้สำคัญมาก! เดี๋ยวจะพูดถึงอีกที)
ส่วนของแถมหรือโปรโมชั่น อันนี้แล้วแต่ผู้ขายเลยค่ะ บางทีอาจจะได้ยางอะไหล่ แม่แรง หรือของเล็กๆ น้อยๆ ติดมาบ้าง แต่ส่วนใหญ่คือซื้อตามสภาพนะจ๊ะ เรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อไกลๆ อาจจะต้องตกลงเรื่องค่าขนส่งกับผู้ขายให้ชัดเจนด้วยนะ
5. ช่วงไหนมีโปรโมชั่นน่าสอยเป็นพิเศษ?
รถกระบะจิ๋วมือสองไม่ได้มีโปรโมชั่นจัดหนักจัดเต็มแบบสินค้าไอทีใน Lazada หรือ Shopee ช่วง 11.11 หรือ 12.12 เป๊ะๆ หรอกค่ะ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสได้ ราคาดีๆ นะ! ช่วงที่น่าจับตามองก็คือ:
- ช่วงปลายปี-ต้นปี: บางทีเต็นท์รถอยากเคลียร์สต็อก หรือเจ้าของรถอยากขายดาวน์รับปีใหม่ อาจจะมีรถหลุดมาในราคาดีๆ
- ช่วงเทศกาลไทยใหญ่ๆ: อย่างเช่น สงกรานต์ หรือช่วงปีใหม่ไทย ผู้ขายบางคนอาจจะอยากได้เงินสดไปใช้ ก็อาจจะลดราคาลงได้บ้าง
- ช่วงที่ผู้ขายร้อนเงิน: อันนี้ต้องอาศัยจังหวะและความโชคดีหน่อย ถ้าเจอเจ้าของรถที่จำเป็นต้องขายด่วนจริงๆ อาจจะได้ราคาที่แบบว่า "ตาแตก" ไปเลย!
ร้านค้าระดับแฟลกชิพแบบในอีคอมเมิร์ซไม่มีตรงๆ สำหรับรถมือสองนะคะ แต่เต็นท์รถใหญ่ๆ บางทีก็มีจัดโปรโมชั่นของตัวเอง เช่น ฟรีดาวน์ ดอกเบี้ยพิเศษ หรือแถมประกันเครื่องเกียร์ ก็ต้องหมั่นติดตามข่าวสารจากเต็นท์ที่เราสนใจดูค่ะ สรุปคือ ถ้าไม่รีบมาก การรอช่วงที่คนนิยมซื้อขายน้อยๆ หรือ ช่วงที่ผู้ขายจัดโปรโมชั่น ก็ช่วยให้ได้ราคาดีขึ้นได้นะ
6. คนไทยที่เคยใช้รถกระบะจิ๋วเค้ารู้สึกยังไงกันบ้างนะ?
จากที่ลองฟังเสียงผู้ใช้งานจริงในไทยดูเนี่ย จุดที่คนรักเจ้ากระบะจิ๋วพูดถึงบ่อยๆ เลยคือ:
- ความคล่องตัวสูงปรี๊ดดด: เข้าซอยเล็ก ซอกแคบสบายมาก กลับรถในที่จำกัดได้ดีสุดๆ เหมาะกับสภาพการจราจรในเมืองไทยที่บางทีก็ "ติดหนึบ" หรือตามต่างจังหวัดที่ซอยเล็กซอยน้อยเยอะ
- ประหยัดน้ำมัน: เครื่องยนต์เล็ก กินน้ำมันน้อยกว่ากระบะใหญ่เยอะ บางคันติดแก๊ส LPG มาด้วย ยิ่งประหยัดไปอีก
- ค่าบำรุงรักษาไม่แพง: อะไหล่บางอย่างอาจจะหายากนิดนึงถ้าเป็นรถนำเข้ารุ่นเก่ามากๆ แต่ถ้าเป็นรุ่นที่นิยมในไทยอย่าง Suzuki Carry อะไหล่หาง่าย ซ่อมไม่จุกจิกเท่าไหร่
- สารพัดประโยชน์: ขนของได้เยอะกว่าที่คิด ดัดแปลงเป็นฟู้ดทรัคก็เท่ เป็นรถใช้งานในสวนในไร่ก็ทนทาน
- ราคาเป็นมิตร: เมื่อเทียบกับรถประเภทอื่นที่ใช้งานใกล้เคียงกัน กระบะจิ๋วมือสองคือคุ้มค่ามากๆ สำหรับคนงบน้อย
แต่ก็มีข้อที่คนบ่นๆ เหมือนกันนะ คือเรื่อง ความเร็ว ที่ไม่เหมาะกับการวิ่งทางไกล ทำความเร็วสูงๆ ไม่ได้มากนัก และ ความสบายในการขับขี่/โดยสาร ที่อาจจะไม่นุ่มนวลเท่ารถเก๋งหรือกระบะใหญ่ แถมยังนั่งได้แค่ 2 คนเท่านั้น (คนขับกับคนนั่งข้างๆ)
7. แล้วจะไปสอยเจ้ากระบะจิ๋วได้จากช่องทางไหนบ้าง?
แหล่งตามล่าหากระบะจิ๋วมือสองหลักๆ ในไทยก็จะมีประมาณนี้จ้า:
- แพลตฟอร์มออนไลน์ขายรถมือสอง: อันนี้คือแหล่งใหญ่เลย ทั้ง One2Car และ Kaidee Auto มีรถกระบะจิ๋วให้เลือกเยอะมากๆ ทั้งจากเต็นท์รถและเจ้าของโดยตรง ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ เปรียบเทียบง่าย แต่ต้องดูสภาพรถและเอกสารให้ดีๆ นะ
- กลุ่มซื้อขายรถกระบะจิ๋วใน Facebook: เป็นอีกแหล่งยอดฮิตเลยค่ะ มีหลายกลุ่มมากๆ ลองค้นหาด้วยชื่อรุ่นหรือคำว่า "กระบะจิ๋ว" ดูนะ ข้อดีคือได้คุยกับผู้ใช้ด้วยกันเองโดยตรง อาจจะได้ข้อมูลเชิงลึก หรือเจอรุ่นที่แต่งมาแล้วถูกใจ แต่ก็ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยในการซื้อขายด้วยนะ
- เต็นท์รถมือสอง: บางเต็นท์อาจจะ specialise ในรถประเภทนี้โดยเฉพาะ หรือมีรถกระบะจิ๋วหลุดเข้ามาบ้าง ข้อดีคือได้ไป ดูรถจริง ลองขับจริง ได้สอบถามข้อมูลกับผู้ขายโดยตรง แต่ราคามักจะสูงกว่าซื้อกับเจ้าของโดยตรงเล็กน้อย
- ตลาดรถมือสองใหญ่ๆ: ตามจังหวัดใหญ่ๆ มักจะมีโซนขายรถมือสอง ลองไปเดินดูเผื่อฟลุคเจอรถที่ถูกใจในราคาดีๆ
ช่องทางทางการจากผู้ผลิตโดยตรงอย่าง Suzuki หรือ Daihatsu ส่วนใหญ่จะเน้นขายรถใหม่ สำหรับรถมือสองต้องพึ่งพาตลาดมือสองเป็นหลักเลยค่ะ
8. สรุปแล้ว รถกระบะจิ๋วมือสอง น่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?
ถ้าถามว่า รถกระบะจิ๋วมือสองน่าซื้อไหม? ตอบเลยว่า น่าซื้อมากๆ ถ้าคุณเป็นคนที่มองหารถเพื่อ ใช้งานเชิงพาณิชย์ หรือบรรทุกของ ในงบประมาณที่ จำกัดมากๆ มันคือตัวเลือกที่ให้ ความคุ้มค่า สูงสุดๆ เลยค่ะ
เหมาะกับใครบ้าง?
- พ่อค้าแม่ขาย SME: เอาไปดัดแปลงเป็นฟู้ดทรัค หรือรถขนส่งสินค้าเล็กๆ ในเมือง
- เกษตรกร: ใช้ขนผลผลิตในไร่ในสวน หรือขนอุปกรณ์
- ธุรกิจบริการต่างๆ: เช่น ส่งของ ติดตั้ง ซ่อมแซม ที่ต้องการรถคล่องตัวเข้าถึงพื้นที่แคบๆ
- คนที่อยากได้รถเล็กๆ ไว้ใช้งานสารพัดประโยชน์: ไม่ได้เน้นความเร็ว ไม่ได้วิ่งทางไกลบ่อย แต่ต้องการรถที่ขนของได้มากกว่ารถเก๋ง
ส่วนเรื่อง จดทะเบียนได้หรือไม่? ถ้าเป็น Suzuki Carry รุ่นที่ขายในไทยอย่างเป็นทางการ หรือ Daihatsu Hijet บางคันที่นำเข้ามาถูกต้องและเคยจดทะเบียนในไทยมาแล้ว ก็สามารถโอนเปลี่ยนชื่อได้ตามปกติค่ะ แต่ถ้าเป็นรถนำเข้าแบบแปลกๆ ที่ไม่เคยจดทะเบียนในไทยมาก่อน อันนี้ต้องเช็คให้ดีมากๆ ว่าสามารถนำไปจดทะเบียนได้หรือไม่ บางคันอาจจะเป็นรถที่ใช้ได้เฉพาะในสนาม หรือพื้นที่ส่วนบุคคลเท่านั้น อันนี้สำคัญมากต้องตรวจสอบเอกสารกับผู้ขายให้ชัวร์ก่อนตัดสินใจจ่ายเงินนะจ๊ะ!
แล้วจะซื้อมา ใช้งานหรือสะสม? ส่วนใหญ่คนซื้อรถกระบะจิ๋วมือสองคือซื้อมา ใช้งาน เป็นหลักเลยค่ะ เพราะมันตอบโจทย์เรื่องการขนของ ความคล่องตัว และความประหยัด ส่วนการสะสมอาจจะมีบ้างในกลุ่มที่ชอบรถ Kei Truck ญี่ปุ่นรุ่นเก่าๆ หรือรุ่นที่มีความพิเศษจริงๆ แต่ถ้ามองในภาพรวม ตลาดหลักคือเพื่อการใช้งานนั่นแหละค่ะ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของทุกคนที่กำลังมองหารถกระบะจิ๋วคันแรก (หรือคันที่สอง คันที่สาม!) นะคะ ขอให้ได้รถที่ถูกใจ ตรงกับการใช้งาน และคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปจ้าาา! 😊
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- รถจดประกอบ เล่นได้? ซื้อขายได้? ผิดกฎหมาย? รถมือสอง รถนำเข้า ...
- ซื้อรถมือ2 ต้องดูให้ดี #โอนรถ #รถมือสอง #ต่อภาษี #ต่อทะเบียนรถ ...
- วิธีดูรถลากจดทะเบียน #ครูหนึ่งรถสวย #รถมือสอง #รถลากจดทะเบียน ...
- 3 สัญญาณที่บอกว่าควรขายรถเก่าออก!
- เอารถจากญี่ปุ่นมาไทย #รถญี่ปุ่น #รถนําเข้า #รถแต่ง #อะไหล่รถ #เซี ...
แนะนำสำหรับคุณ
Samsung Space Monitor 32 นิ้ว ราคาล่าสุด เหมาะกับการทำงานไหม?
ตรวจภายใน โรงพยาบาลเปาโล ราคาเท่าไหร่? รวมแพ็กเกจตรวจมะเร็งปากมดลูก
ปืน Wilson Combat .45 ราคาในไทย พร้อมแหล่งซื้อและข้อควรรู้
แหวนทองคำขาว ราคาล่าสุด อัปเดตตามน้ำหนักและดีไซน์ ซื้อที่ไหนดี?
BullVPN ราคาแพ็คเกจ: VPN สำหรับดูหนัง เล่นเกม คุ้มค่าไหม ราคาเท่าไหร่?
ราคา Oseltamivir 75 mg (ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่): ซื้อได้ที่ไหน ราคาเท่าไหร่ ควรใช้เมื่อไหร่?