ราคา เครื่องเช็คเฟสลำโพง (Speaker Polarity Tester) อุปกรณ์สำคัญสำหรับติดตั้งเครื่องเสียง

สวัสดีจ้าพี่น้องสายเครื่องเสียงทุกท่าน! วันนี้เราจะมาคุยกันถึงอุปกรณ์จิ๋วแต่แจ๋วที่สายติดตั้งเครื่องเสียงจะขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือ เครื่องเช็คเฟสลำโพง (Speaker Polarity Tester) นั่นเองงงง! ฟังชื่อแล้วอาจจะงงๆ ว่ามันคืออะไร สำคัญขนาดไหน ทำไมเราถึงต้องมีไว้ในครอบครอง ถ้าอยากรู้ ตามมาเลยจ้า เราจะเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่ายๆ สไตล์คนรักเสียงเพลง!

1. เจ้าสิ่งนี้มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับ เครื่องเช็คเฟสลำโพง กันก่อนเลย มันคืออุปกรณ์ที่ช่วยให้เรารู้ว่าลำโพงที่เราติดตั้งไปนั้น "เฟส" ตรงกันหรือเปล่า? งงละสิว่าเฟสคืออะไร? คิดง่ายๆ ว่าเสียงก็เหมือนคลื่น ถ้าลำโพงทุกตัวปล่อยคลื่นเสียงออกมาในทิศทางเดียวกัน (เรียกว่าเฟสตรง) เสียงมันก็จะเสริมกัน ทำให้เสียงดังฟังชัด เบสแน่นๆ ตึ้บๆ แต่ถ้าลำโพงตัวไหนต่อสายกลับขั้ว (เฟสกลับ) คลื่นเสียงมันก็จะหักล้างกัน ทำให้เสียงเบาลง เบสหาย มิติเสียงเพี้ยนไปหมด ฟังแล้วไม่รินหูเอาซะเลย!

เจ้าเครื่องนี้แหละที่จะมาเป็นฮีโร่ช่วยชีวิต! มันจะปล่อยสัญญาณเสียงพิเศษออกมา แล้วเราก็เอาตัวรับไปจ่อที่หน้าลำโพง เครื่องก็จะบอกเราว่าเฟสตรงหรือกลับ ทำให้เราแก้ไขการต่อสายได้ถูกต้อง ง่ายกว่าการใช้หูฟังเยอะเลยนะ เพราะหูเราบางทีก็หลอกได้!

กลุ่มคนที่เหมาะกับเจ้าเครื่องนี้ก็หนีไม่พ้นบรรดา ช่างติดตั้งเครื่องเสียง ทั้งในรถยนต์และในบ้าน รวมถึงคนที่ชอบ DIY เครื่องเสียงเอง หรือพวก คอโฮมเธียเตอร์ ที่อยากให้เสียงในห้องเป๊ะปังอลังการ แบรนด์ที่เห็นๆ ในตลาดก็มีตั้งแต่แบรนด์จีนทั่วไปราคาเบาๆ ไปจนถึงแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นมาหน่อยอย่าง TAFN หรือ Dayton Audio (ถ้าหาได้ในไทย) ซึ่งตัวเครื่องนี้อาจจะไม่ได้มีประวัติแบรนด์ที่หวือหวาเหมือนกล้องถ่ายรูป แต่ฟังก์ชันของมันนี่แหละที่กำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ ในวงการเครื่องเสียงไทยจ้า

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้างจ๊ะ?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้ นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ เครื่องเช็คเฟสลำโพง เนี่ย ราคาในตลาดไทยมีตั้งแต่หลักร้อยปลายๆ ไปจนถึงหลักพันกลางๆ เลยนะ ขึ้นอยู่กับรุ่น ฟังก์ชัน และแบรนด์

รุ่นเบสิกทั่วไปที่ใช้งานง่ายๆ ส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์จากจีน ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 150 - 500 บาท (฿) หาได้ง่ายมากๆ ตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดฮิตอย่าง Lazada และ Shopee พวกนี้มักจะเป็นรุ่นเล็กๆ พกพาง่าย มีตัวส่งสัญญาณ (บางทีเป็นแผ่น CD หรือไฟล์เสียง) กับตัวรับที่มีไฟ LED บอกสถานะเฟส

ส่วนรุ่นที่โปรขึ้นมาหน่อย มีฟังก์ชันเยอะขึ้น หรือเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในวงการเสียง ก็ราคาสูงขึ้นมาอีกนิด อย่างเช่น TAFN PHASE POLARITY CHECKER P9 R2 ที่เจอใน Lazada ก็ราคาประมาณ 2,900 บาท (฿) ซึ่งพวกนี้อาจจะมีความแม่นยำกว่า วัสดุดีกว่า หรือมีฟังก์ชันเสริมอื่นๆ เช่น การเช็คสายสัญญาณได้ด้วย

ถ้าถามถึงร้านใหญ่ๆ อย่าง Central, Big C, The Mall เนี่ย บอกเลยว่าหาซื้อยากมากๆ เพราะมันเป็นอุปกรณ์เฉพาะทาง ส่วนร้าน gadget หรือร้านคอมพิวเตอร์อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy นี่ก็ไม่มีขายแน่นอนจ้า ต้องไปตามร้านขายอุปกรณ์เครื่องเสียงโดยเฉพาะ หรือไม่ก็ออนไลน์เท่านั้นเลย

ส่วนเรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนกับราคาต่างประเทศ จริงๆ แล้วสำหรับสินค้าราคานี้ ส่วนต่างอาจจะไม่มากจนน่าตกใจเท่าสินค้าไอทีราคาสูงๆ แต่ก็อาจจะมีผลบ้างนิดหน่อยสำหรับสินค้านำเข้าโดยตรง

3. แล้วถ้าเทียบกับสินค้าอื่นในหมวดเดียวกันล่ะ?

ถ้าเทียบกับอุปกรณ์ตรวจวัดเสียงอื่นๆ ที่มีความซับซ้อนกว่านี้ เช่น เครื่องวัดเสียง (SPL Meter) หรือเครื่องวิเคราะห์ระบบเสียง (Audio Analyzer) ที่ราคาเป็นหลักหมื่นหลักแสนบาทเนี่ย เครื่องเช็คเฟสลำโพง ถือว่ามีราคาที่ ถูกมากๆ และ เข้าถึงง่ายสุดๆ เลยนะ

ฟังก์ชันของมันเน้นไปที่การเช็คเฟสโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นปัญหาพื้นฐานแต่สำคัญมากๆ ในการติดตั้งเครื่องเสียง การลงทุนกับเครื่องเช็คเฟสราคาหลักร้อยเนี่ย ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับปัญหาเสียงที่อาจจะเกิดขึ้นถ้าเราไม่เช็คให้ดี บางคนอาจจะใช้วิธีบ้านๆ อย่างการเอาถ่านไฟฉาย 1.5V จี้ที่ขั้วลำโพงแล้วดูว่ากรวยลำโพงขยับเข้าหรือออก แต่วิธีนี้ก็มีข้อจำกัด และอาจจะไม่แม่นยำเท่าเครื่องมือเฉพาะทาง

ดังนั้น ถ้ามองในแง่ของฟังก์ชันเฉพาะทางและราคาที่จ่ายไป เจ้าเครื่องนี้ถือว่ามีความ คุ้มค่า สูงมากสำหรับคนที่ต้องการแก้ไขปัญหาเฟสลำโพงโดยตรง ไม่ต้องไปซื้อเครื่องมือแพงๆ ที่มีฟังก์ชันอื่นที่เราอาจจะไม่ได้ใช้

4. ซื้อแล้วจะได้อะไรมาบ้างนะ?

อันนี้ก็แล้วแต่รุ่นและร้านเลยจ้า แต่หลักๆ แล้ว สิ่งที่เรามักจะได้ในกล่อง เครื่องเช็คเฟสลำโพง รุ่นพื้นฐานก็จะมี:

• ตัวเครื่องเช็คเฟส: ตัวรับสัญญาณพร้อมไฟ LED บอกสถานะ
• ตัวส่งสัญญาณทดสอบ: บางรุ่นมาเป็นแผ่น CD บางรุ่นให้ไฟล์เสียงสำหรับโหลดไปใส่ USB หรือโทรศัพท์
• คู่มือการใช้งาน: ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ แต่บางร้านในไทยก็มีคู่มือภาษาไทยให้ด้วยนะ อันนี้ต้องลองเช็คดู
• แบตเตอรี่: บางทีก็แถมมาให้เลย บางทีก็ต้องซื้อเอง ส่วนใหญ่ใช้แบตเตอรี่ 9V

ส่วนเรื่อง ค่าขนส่ง ถ้าซื้อออนไลน์กับ Lazada หรือ Shopee ส่วนใหญ่จะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนด ก็เป็นอีกข้อดีของการช้อปออนไลน์จ้า

เรื่อง การรับประกัน อันนี้สำคัญมากๆ สำหรับคนไทย! เครื่องเช็คเฟสลำโพงราคาถูกส่วนใหญ่การรับประกันอาจจะสั้นหน่อย หรือเป็นการรับประกันจากร้านค้าโดยตรง เช่น 7 วัน หรือ 30 วัน รุ่นที่เป็นแบรนด์หน่อยอย่าง TAFN อาจจะมีการรับประกันนานขึ้น เช่น 1 ปี ต้องอ่านรายละเอียดของร้านดีๆ นะจ๊ะ และต้องระวังเรื่องเงื่อนไขการรับประกันด้วย บางทีถ้าติดตั้งผิดวิธี หรือทำเสียหายเอง ก็อาจจะอยู่นอกเงื่อนไขได้

ของแถม หรือโปรโมชั่นอื่นๆ อาจจะมีบ้างประปราย เช่น แถมซองใส่เครื่อง หรือส่วนลดเล็กน้อย แล้วแต่ร้านจัดเลยจ้า

5. มีช่วงไหนน่าช้อปเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าอยากได้ราคาดีๆ แล้วล่ะก็ ช่วง โปรโมชั่น นี่แหละคือโอกาสทองเลยจ้า! ถึงแม้ว่า เครื่องเช็คเฟสลำโพง จะเป็นอุปกรณ์เฉพาะทาง แต่ร้านค้าบนแพลตฟอร์มใหญ่อย่าง Lazada และ Shopee เค้าก็มักจะร่วมจัดโปรโมชั่นใหญ่ๆ อยู่แล้ว

ลองเล็งช่วง Double Digit Sale ยอดฮิต เช่น 9.9, 10.10, 11.11, 12.12 ดูนะ ช่วงนี้แหละโค้ดส่วนลดเพียบ! หรือถ้าตรงกับ เทศกาลสำคัญของไทย อย่างปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือช่วงปลายปี ก็มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาออกมาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ

ร้านค้าที่ขายอุปกรณ์เครื่องเสียงโดยเฉพาะบน Lazada หรือ Shopee บางทีเค้าก็มีส่วนลดของตัวเองนอกเหนือจากโปรแพลตฟอร์มด้วยนะ ก็ต้องหมั่นเข้าไปส่องหน้าร้านบ่อยๆ ส่วนร้าน Official Store ของแบรนด์ดังๆ อาจจะไม่ได้มีเครื่องเช็คเฟสโดยตรง แต่ก็อาจจะมีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกัน ก็ลองเข้าไปดูได้

สรุปคือ ถ้าไม่รีบมากนัก รอซื้อช่วงโปรโมชั่น เนี่ย มีโอกาสได้ราคาที่ถูกลงและคุ้มค่ากว่าเดิมแน่นอนจ้า!

6. คนไทยที่เคยใช้รู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ลองไปส่องๆ ตามรีวิวของคนไทยใน Lazada กับ Shopee เนี่ย Feedback ส่วนใหญ่เกี่ยวกับ เครื่องเช็คเฟสลำโพง ก็ค่อนข้างดีเลยนะ จุดที่คนไทยชอบและพูดถึงบ่อยๆ ก็คือ:

• ใช้งานง่าย: หลายคนบอกว่าแม้จะไม่ใช่ช่างมืออาชีพก็สามารถใช้งานได้ไม่ยาก แค่ใส่แผ่น CD หรือเปิดไฟล์เสียง แล้วเอาเครื่องไปจ่อก็รู้ผลแล้ว
• ช่วยแก้ปัญหาเสียงได้จริง: รีวิวส่วนใหญ่ยืนยันว่าหลังจากใช้เครื่องนี้เช็คและแก้ไขการต่อสายแล้ว คุณภาพเสียงดีขึ้นจริง โดยเฉพาะเรื่องเบสที่แน่นขึ้น และมิติเสียงที่ดีขึ้น
• ราคาคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ได้รับและปัญหาที่แก้ได้ในราคาแค่หลักร้อย ถือว่าคุ้มมากๆ
• ขนาดเล็ก พกพาง่าย: สะดวกในการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ หรือเก็บไว้ในรถ

โดยรวมแล้ว ผู้ใช้ในไทยแฮปปี้กับ ความง่ายในการใช้งาน และ ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ที่ช่วยให้ระบบเครื่องเสียงมีคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นนั่นเองจ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อได้จากที่ไหนดีล่ะ?

ช่องทางหลักๆ ที่แนะนำในการซื้อ เครื่องเช็คเฟสลำโพง ในไทยก็คือ:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่: Shopee และ Lazada คือแหล่งรวมหลักเลยจ้า มีร้านค้าและผู้ขายให้เลือกเยอะมากๆ ข้อดีคือสะดวก เปรียบเทียบราคาง่าย มีระบบการจ่ายเงินและการจัดส่งที่หลากหลาย แถมยังมีรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ให้เราอ่านประกอบการตัดสินใจด้วย
• ร้านขายอุปกรณ์เครื่องเสียงออนไลน์โดยเฉพาะ: บางร้านเค้าก็มีเว็บไซต์ของตัวเอง หรือมีหน้าร้านบนแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่เน้นขายอุปกรณ์เครื่องเสียงโดยเฉพาะ ข้อดีคืออาจจะได้คำแนะนำจากผู้ขายที่มีความรู้โดยตรง และบางทีอาจเจอสินค้ารุ่นที่หลากหลายกว่า
• ร้านเครื่องเสียงทั่วไป: ร้านเครื่องเสียงตามต่างจังหวัด หรือร้านที่รับติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ บางทีเค้าก็มีเครื่องมือนี้ขายด้วยนะ ข้อดีคืออาจได้เห็นสินค้าจริง ลองจับลองดูก่อนซื้อได้ แต่ก็ต้องเช็คราคากับช่องทางออนไลน์ดูก่อนว่าต่างกันเยอะมั้ย

ส่วนร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ หรือร้าน gadget ทั่วไป อย่างที่บอกไปว่าไม่น่าจะมีขายนะจ๊ะ

8. สรุปปิดท้าย น่าซื้อไหม เหมาะกับใคร?

มาถึงช่วงสรุปกันแล้ว! ถามว่า เครื่องเช็คเฟสลำโพง น่าซื้อไหม? ตอบได้เลยว่า น่าซื้อมากๆ จ้า โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่:

• ติดตั้งเครื่องเสียงเอง ทั้งในรถยนต์หรือในบ้านเป็นประจำ
• กำลังมีปัญหาเรื่องคุณภาพเสียง เช่น เบสหาย มิติเสียงเพี้ยน หรือเสียงไม่ดังเท่าที่ควร
• อยากได้เครื่องมือที่ช่วยให้ติดตั้งลำโพงได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
• มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้เครื่องมือเฉพาะทางมาช่วยงาน

เจ้าเครื่องนี้คือตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ระบบเครื่องเสียงของคุณสมบูรณ์แบบมากขึ้นในราคาที่ไม่แรงเลยนะ

สำหรับคำถามว่าจะซื้อรุ่นสูงหรือรุ่นต่ำดี? ถ้าคุณเป็นแค่คนทั่วไปที่อยากเช็คเฟสลำโพงที่บ้านตัวเองนานๆ ครั้ง หรือเพิ่งเริ่มต้น DIY เครื่องเสียง รุ่นพื้นฐานราคาหลักร้อยก็เพียงพอแล้วจ้า แต่นถ้าคุณเป็น ช่างติดตั้งมืออาชีพ หรือจริงจังกับระบบเสียงมากๆ รุ่นที่ราคาสูงขึ้นมาหน่อยอาจจะให้ความแม่นยำ ฟังก์ชันที่หลากหลาย (เช่น เช็คสายสัญญาณได้) และความทนทานที่ดีกว่า ก็คุ้มที่จะลงทุนนะ

ไม่ต้องลังเลแล้ว! ถ้าอยากให้ระบบเครื่องเสียงของคุณให้เสียงที่ดีที่สุด การมี เครื่องเช็คเฟสลำโพง ไว้ติดบ้านหรือติดกล่องเครื่องมือไว้ ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยจ้า! รับรองว่าได้ลองใช้แล้วจะรู้เลยว่าเสียงที่ถูกต้องตามเฟสมันดีงามแค่ไหน!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• เครื่องเช็คเฟสลำโพง TAFN POLARITY CHECKER ราคา 3400 ...
• สอนเช็ค Phase ลำโพงทั้งระบบ ด้วยมือถือ 2 เครื่อง | สอนเช็ค Phase ...
• แนะนำวิธีใช้เครื่องเช็คเฟส PRISM