ซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม AirAsia ราคาเท่าไหร่ ปี 2024-2025 คิดตามน้ำหนักหรือชิ้น?


สวัสดีค่าขาช้อป ขาเที่ยวทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องที่ทำเอาหลายคนปวดหัวตุ้บๆ ทุกครั้งที่จัดกระเป๋าเดินทาง โดยเฉพาะเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ หรือกลับจากต่างจังหวัดช่วงเทศกาลที่ของฝากงอกเงยออกมาแบบไม่ทันตั้งตัว ใช่แล้วค่ะ! เรากำลังพูดถึงเรื่อง น้ำหนักกระเป๋าเกิน นั่นเอง! และสายการบินขวัญใจมหาชนอย่าง AirAsia นี่แหละ ที่หลายคนต้องเจอปัญหานี้บ่อยๆ วันนี้เราจะมาดูกันว่า ถ้าจะซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มกับ AirAsia ในปี 2024-2025 เนี่ย ราคาเป็นยังไง คิดตามน้ำหนักหรือชิ้น? มาไขข้อข้องใจกันแบบหมดเปลือก เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเล้ย!
1. ไอ้เจ้าน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม AirAsia นี่มันคืออะไรกันนะ?
อธิบายง่ายๆ เลยนะจ๊ะ ไอ้การ ซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม (Pre-booked Baggage) ของ AirAsia เนี่ย มันก็คือการที่เราจ่ายเงินเพิ่มจากค่าตั๋วปกติ เพื่อจะได้โหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่องได้น้ำหนักมากกว่าที่ตั๋วเรากำหนดไว้ตอนแรกไงล่ะ! ปกติตั๋ว AirAsia เค้าจะมีน้ำหนักกระเป๋าถือขึ้นเครื่องฟรีให้ 7 กก. (บางทีก็มีโปรให้ 10 กก. อันนี้ต้องเช็คดีๆ) แต่ถ้าสัมภาระเยอะกว่านั้น ทั้งเสื้อผ้า ของฝาก ของช้อปปิ้งจัดหนักจัดเต็ม ก็ต้องซื้อน้ำหนักโหลดใต้เครื่องเพิ่มนั่นแหละจ้า
แล้วใครล่ะที่เหมาะกับการซื้อน้ำหนักเพิ่ม? ก็พวกเราๆ นี่แหละค่ะ! ทั้ง ขาช้อปตัวยง ที่กะไปละลายทรัพย์ซื้อของกลับมาเพียบ, นักเดินทางสายแบก ที่เสื้อผ้าเยอะ พร็อพแน่น หรือต้องเดินทางนานๆ, หรือแม้แต่คนที่ กลับบ้านช่วงเทศกาล ที่ต้องขนของฝาก ข้าวสารอาหารแห้งไปฝากญาติผู้ใหญ่ อันนี้แหละคือสิ่งจำเป็นเลยจ้า!
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง คิดตามไหนกันแน่?
มาถึงคำถามยอดฮิต! ราคาซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มของ AirAsia เนี่ย เค้าคิดเป็น กิโลกรัม (Weight) จ้า ไม่ได้คิดเป็นชิ้นนะ! คือซื้อน้ำหนักรวม แล้วเราจะโหลดกี่ใบก็ได้ ตราบใดที่น้ำหนักรวมไม่เกินที่เราซื้อไว้ (แต่ก็มีข้อกำหนดเรื่องขนาดและน้ำหนักสูงสุดต่อใบนะ อันนี้ต้องเช็คในเว็บ AirAsia อีกทีจ้า)
ส่วนเรื่องราคาเนี่ย ต้องบอกเลยว่ามัน ไม่ฟิกซ์เป๊ะๆ นะจ๊ะ! ราคาจะ แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเส้นทางบิน (ในประเทศ/ต่างประเทศ ไปไหน), ช่วงเวลาที่ทำการจอง (จองล่วงหน้านานๆ มักจะถูกกว่า), และ น้ำหนักที่เราซื้อ (ซื้อเยอะ กก. นึงอาจจะถูกลงนิดหน่อยเมื่อเฉลี่ย)
โดยทั่วไปแล้ว น้ำหนักยอดนิยมที่คนมักจะซื้อเพิ่มก็จะมีตั้งแต่ 15 กก., 20 กก., 25 กก., 30 กก., 40 กก. ราคาเริ่มต้นสำหรับเส้นทางในประเทศ ถ้าซื้อล่วงหน้าผ่านเว็บหรือแอปฯ ก็อาจจะประมาณ สามร้อยกว่าบาทสำหรับ 15 กก. ส่วนเส้นทางต่างประเทศก็จะราคาสูงขึ้นไปอีกจ้า ยิ่งน้ำหนักเยอะราคาก็ยิ่งพุ่งตาม แต่ซื้อแบบเหมาๆ ไปเลยมักจะถูกกว่าการไปซื้อเพิ่มทีละน้อยๆ หลายๆ ครั้งนะ
ที่สำคัญคือ ราคาซื้อล่วงหน้าทางออนไลน์ (ผ่านเว็บไซต์หรือแอปฯ AirAsia) จะถูกกว่าการไปซื้อที่เคาน์เตอร์เช็คอินที่สนามบินแบบหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยนะ! ถ้าไปซื้อที่สนามบินนี่เตรียมน้ำตาตกในได้เลย เพราะราคาจะแพงขึ้นอีกหลายเท่าตัวมากๆ ขอบอก!
ดังนั้น ถ้าแพลนแล้วว่าของเยอะแน่ๆ ซื้อออนไลน์ล่วงหน้าโลด! เช็คราคาและซื้อเพิ่มได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน AirAsia ได้เลยจ้า ไม่ต้องไปวุ่นวายที่สนามบินให้เสียเวลาและเสียเงินแพงกว่าเดิมด้วย
3. แล้วเทียบกับสายการบินอื่นล่ะ แพงกว่าหรือถูกกว่า?
ถ้าให้เทียบกับสายการบินโลว์คอสต์อื่นๆ ที่บินในไทยหรือเส้นทางใกล้เคียงอย่าง Thai Lion Air, Nok Air, VietJet Air เนี่ย ราคาน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มของ AirAsia ก็ถือว่า อยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงกัน จ้า ไม่มีใครถูกหรือแพงโดดไปกว่ากันมากนัก อาจจะมีแตกต่างกันบ้างในรายละเอียดของน้ำหนักแต่ละชั้น หรือโปรโมชั่นช่วงนั้นๆ
บางสายการบินอาจจะเริ่มต้นที่น้ำหนักต่างกัน หรือมีตัวเลือกน้ำหนักที่แตกต่างกันไป แต่โดยรวมแล้วถ้าเทียบแบบ กก. ต่อ กก. ในน้ำหนักใกล้เคียงกัน ราคาไม่หนีกันมากนักนะจ๊ะ ซึ่งอันนี้ก็เป็นเรื่องปกติของสายการบินโลว์คอสต์อยู่แล้ว ที่ค่าตั๋วจะเริ่มต้นไม่แพง แต่ถ้าต้องการบริการเสริมอะไรก็ต้องจ่ายเพิ่ม เช่น เลือกที่นั่ง เลือกอาหาร หรือซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มนี่แหละ
ดังนั้น ก่อนจองตั๋วก็ลองเปรียบเทียบราคาตั๋วรวมกับค่าน้ำหนักกระเป๋าที่เราต้องการของแต่ละสายการบินดูก็ได้นะจ๊ะ จะได้รู้ว่าเจ้าไหนคุ้มสุดสำหรับทริปนั้นๆ ของเรา
4. ซื้อน้ำหนักเพิ่มแล้ว ได้อะไรมาบ้างนอกจากน้ำหนัก?
อันนี้ชัดเจนตรงไปตรงมาเลยจ้า! การซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มกับ AirAsia เนี่ย คือเรา ได้แค่น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ตามจำนวน กก. ที่เราจ่ายเงินไปเลยจ้า ไม่ได้มีของแถมพิเศษ อะไรมาให้เป็นพิเศษนะจ๊ะ (นอกจากจะได้ขนของที่อยากขนกลับมาได้ครบ! อันนี้แหละคือของแถมที่แท้จริง!)
ส่วนเรื่อง ค่าขนส่ง เนี่ย ก็คือรวมอยู่ในค่าที่เราจ่ายซื้อน้ำหนักเพิ่มนั่นแหละจ้า ไม่ต้องจ่ายแยกอีก แต่อย่างที่บอกคือต้องซื้อล่วงหน้าออนไลน์นะ ถ้าไปจ่ายที่สนามบิน ค่าธรรมเนียมก็จะอีกราคานึงเลย
เรื่อง การรับประกัน อะไรพวกนี้ก็ไม่มีนะจ๊ะ เพราะมันคือน้ำหนักที่เราซื้อเพิ่มสำหรับการขนส่งสัมภาระของเราเอง หน้าที่เราคือแพ็คของให้ปลอดภัย ไม่แตกหักเสียหาย และห้ามใส่สิ่งของต้องห้ามลงไปในกระเป๋าโหลดใต้เครื่องเด็ดขาดจ้า!
แต่สิ่งที่เราอาจจะได้มาบ้างเวลาซื้อน้ำหนักเพิ่มในช่วงโปรโมชั่นก็คือ ส่วนลด นั่นเอง! บางที AirAsia เค้าก็มีโปรโมชั่นลดราคาพิเศษสำหรับคนซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มในช่วงเวลาจำกัด ก็ต้องหมั่นเช็คหน้าเว็บหรือแอปฯ ของเค้าดีๆ จ้า
5. มีช่วงไหนน่าซื้อน้ำหนักเพิ่มเป็นพิเศษมั้ย?
ถ้าอยากได้น้ำหนักกระเป๋าเพิ่มในราคาที่สบายกระเป๋าขึ้นมาหน่อยเนี่ย ช่วง โปรโมชั่น คือโอกาสทองเลยจ้า! ถึงแม้ AirAsia จะไม่ได้จัดโปรลดราคาน้ำหนักกระเป๋าบ่อยเท่าโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบิน แต่เค้าก็มีมาเรื่อยๆ นะ โดยเฉพาะในช่วง:
- ช่วงที่มีโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินใหญ่ๆ: บางทีเค้าจะพ่วงโปรโมชั่นน้ำหนักกระเป๋าตามมาด้วย หรือมีส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ที่จองตั๋วในช่วงนั้น
- ช่วงเทศกาลเดินทาง: อย่างช่วง ปีใหม่, สงกรานต์, หรือช่วงวันหยุดยาวอื่นๆ ที่คนเดินทางเยอะๆ บางที AirAsia ก็จะมีโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายน้ำหนักกระเป๋าออกมานะ
- ช่วง Double Digit Sale: อันนี้ก็ไม่แน่ไม่นอน แต่บางที AirAsia ก็เข้าร่วมแคมเปญแบบ 11.11 หรือ 12.12 กับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ เหมือนกันนะ (แม้จะไม่ได้ขายน้ำหนักกระเป๋าบนแพลตฟอร์มโดยตรง แต่บางทีอาจจะมีโค้ดส่วนลดพิเศษให้เอาไปใช้จองในเว็บ/แอปฯ ได้ อันนี้ต้องติดตามข่าวสารดีๆ)
แต่เคล็ดลับที่ดีที่สุดในการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มให้ได้ราคาถูกที่สุดคือ ซื้อล่วงหน้าพร้อมตอนจองตั๋ว หรือซื้อหลังจากจองตั๋วแต่ยังไม่ได้เดินทาง และที่สำคัญคือ ต้องซื้อผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน AirAsia เท่านั้น! ยิ่งซื้อเร็วเท่าไหร่ก่อนวันเดินทาง ราคาก็ยิ่งมีแนวโน้มถูกลงจ้า อย่าไปรอซื้อที่สนามบินเด็ดขาดนะ!
6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?
จากประสบการณ์ตรงและที่ได้ยินได้ฟังมาจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวไทยที่เดินทางกับ AirAsia บ่อยๆ เนี่ย เสียงตอบรับเกี่ยวกับเรื่องน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มก็มีหลากหลายนะจ๊ะ จุดที่คนมักจะพูดถึงบ่อยๆ คือ:
- ราคาที่สนามบินแพงหูฉี่: อันนี้คือเสียงบ่นยอดฮิตเลยจ้า! หลายคนโดนมาแล้วถึงกับเข็ด ฟันธงเลยว่าถ้าไม่ได้ซื้อล่วงหน้าแล้วน้ำหนักเกินคือจ่ายหนักมาก
- การซื้อออนไลน์สะดวก: ตรงกันข้ามกับข้างบน การซื้อผ่านเว็บหรือแอปฯ AirAsia ทำได้ง่าย สะดวก ไม่ยุ่งยาก แถมราคาถูกกว่าเยอะ คนส่วนใหญ่จะเลือกซื้อวิธีนี้
- บางทีก็งงๆ เรื่องน้ำหนัก: บางคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่าคิดเป็น กก. รวม ไม่ได้คิดเป็นใบ หรือไม่แน่ใจว่าตัวเองควรซื้อน้ำหนักเท่าไหร่ดี กะไม่ถูก
- ถ้าซื้อโปรโมชั่นตั๋วรวมน้ำหนักมาจะคุ้มกว่า: บางที AirAsia จะมีโปรโมชั่นตั๋วที่รวมน้ำหนักกระเป๋า 20 กก. มาให้แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่มักจะคุ้มค่ากว่าการซื้อตั๋วโปรถูกสุดแล้วมาซื้อน้ำหนักเพิ่มทีหลังนะ ถ้าแพลนว่าจะต้องโหลดอยู่แล้ว ลองดูโปรที่รวมน้ำหนักมาเลยจะดีกว่า
- ต้องเผื่อน้ำหนักสำหรับของช้อปปิ้ง/ของฝาก: อันนี้คือปัญหาคลาสสิกของสายช้อป! หลายคนคำนวณน้ำหนักไปอย่างดี แต่พอไปถึงที่หมายแล้วเห็นของน่าซื้อก็อดใจไม่ไหว สุดท้ายน้ำหนักเกินตอนขากลับ ต้องซื้อน้ำหนักเพิ่มฉุกเฉินที่สนามบิน หรือไม่ก็ต้องนั่งคัดของทิ้งที่หน้าเคาน์เตอร์เช็คอิน เป็นภาพที่เห็นได้บ่อยๆ เลยจ้า!
สรุปคือ คนไทยส่วนใหญ่เข้าใจว่าต้องซื้อน้ำหนักเพิ่มถ้าของเยอะ และนิยมซื้อออนไลน์ล่วงหน้าเพราะราคาถูกกว่าสนามบินมากๆ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่อาจจะยังไม่ชิน หรือคำนวณน้ำหนักผิดพลาด ทำให้ต้องเสียเงินแพงที่สนามบินไปนะจ๊ะ
7. แล้วจะไปหาซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม AirAsia ได้ที่ไหนล่ะทีนี้?
ช่องทางหลักและเป็นช่องทางที่ แนะนำที่สุด ในการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มของ AirAsia คือ:
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ AirAsia (AirAsia.com): เข้าไปที่เว็บไซต์ แล้วจัดการบุ๊คกิ้งของเราเพื่อเพิ่มน้ำหนักกระเป๋าได้เลย ทำได้ทั้งตอนจองตั๋วครั้งแรก หรือจะเข้ามาซื้อเพิ่มทีหลังก็ได้ (แต่ต้องก่อนวันเดินทางนะ!)
- แอปพลิเคชัน AirAsia Superapp: ดาวน์โหลดแอปฯ มาไว้ในมือถือ สะดวกมากๆ สามารถจัดการทุกอย่างเกี่ยวกับการเดินทางของเราได้ในแอปฯ เดียว รวมถึงการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มด้วย แถมบางทีในแอปฯ อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษ หรือโค้ดส่วนลดให้ใช้ด้วยนะ!
สองช่องทางนี้คือช่องทาง Official ของ AirAsia โดยตรง สะดวก ปลอดภัย และได้ราคาถูกที่สุดแล้วจ้า!
ส่วนช่องทางอื่นๆ เช่น ตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน หรือ Travel Agency บางแห่ง อาจจะช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อให้ได้ แต่ส่วนใหญ่มักจะคิดค่าบริการเพิ่ม หรือบางทีก็ไม่ได้อัปเดตราคาโปรโมชั่นเท่ากับที่เราซื้อเองผ่านเว็บหรือแอปฯ ของ AirAsia นะจ๊ะ
ดังนั้น ฟันธงเลยว่า ซื้อผ่านเว็บไซต์หรือแอปฯ AirAsia นี่แหละ ดีที่สุดแล้ว!
8. สรุปแล้วน่าซื้อน้ำหนักเพิ่มไหม? เหมาะกับใคร?
มาถึงบทสรุปแล้วจ้า! ถามว่า ซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม AirAsia คุ้มไหม? คำตอบคือ คุ้มค่ามากๆ เลยจ้า ถ้าคุณมีสัมภาระที่จะต้องโหลดใต้เครื่องและน้ำหนักเกินจากที่ตั๋วระบุไว้
มันเหมาะมากๆ สำหรับ:
- นักช้อปปิ้ง: ที่กะจะไปโกยของกลับมาเต็มที่ ซื้อน้ำหนักเผื่อไว้เลย สบายใจกว่าเยอะ
- คนที่จะเดินทางนานๆ: เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัวเยอะ ก็ต้องซื้อน้ำหนักเพิ่มเป็นเรื่องปกติ
- คนที่ต้องขนของขนาดใหญ่ หรือของฝากเยอะๆ: เช่น กลับบ้านต่างจังหวัดช่วงเทศกาล ขนข้าวสาร ของใช้ไปให้ญาติ
- คนที่เดินทางเป็นครอบครัว: สามารถซื้อน้ำหนักรวมแล้วแชร์กันได้ทั้งบ้าน
ส่วนจะซื้อน้ำหนักเท่าไหร่ดี อันนี้ต้องลองประเมินคร่าวๆ จากของที่เรามีหรือคาดว่าจะซื้อนะจ๊ะ ถ้าไม่แน่ใจ ซื้อเผื่อไว้หน่อยก็ดีกว่าต้องไปจ่ายแพงหูฉี่ที่สนามบินนะ! แนะนำให้ซื้อเป็นแพ็กเกจ 20 กก. ขึ้นไปมักจะคุ้มกว่าถ้าของเยอะจริงจัง แต่ถ้าของไม่เยอะมาก แค่ 15 กก. ก็อาจจะพอจ้า
ไม่คุ้ม ก็ต่อเมื่อสัมภาระของคุณสามารถแบกขึ้นเครื่องได้หมดภายในโควต้า 7 กก. (หรือ 10 กก. ถ้ามีโปร) อันนั้นก็ไม่ต้องซื้อเพิ่มให้เปลืองเงินจ้า
จำไว้เสมอว่า ซื้อออนไลน์ล่วงหน้าถูกกว่าสนามบินเสมอ! วางแผนให้ดี เช็คน้ำหนักสัมภาระให้เรียบร้อย แล้วเข้าไปซื้อน้ำหนักเพิ่มในเว็บหรือแอปฯ AirAsia ก่อนวันเดินทาง เท่านี้ก็เที่ยว ช้อป แบกของกลับบ้านได้อย่างสบายใจ ไร้กังวลเรื่องน้ำหนักเกินแล้วจ้า!
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังแพลนเดินทางกับ AirAsia นะจ๊ะ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ และช้อปปิ้งให้สนุก ขนของกลับมาได้เต็มที่ทุกคนเลยจ้า! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิว Clarins Body Fit ครีมสลายเซลลูไลท์และกระชับสัดส่วนตัวดัง ดีจริงไหม
รีวิวอายแชโดว์พาเลตต์ Zoeva Cocoa Blend โทนสีสวย แต่งหน้าง่ายทุกลุค
รีวิว adidas UltraBoost 19 รองเท้าวิ่งสุดนุ่มเด้ง ซัพพอร์ตดี วิ่งสบายจริงมั้ย
รีวิวสกู๊ตเตอร์ Lambretta V125 Special ดีไซน์คลาสสิก สมรรถนะเป็นอย่างไร
รีวิว Lab Series Pro LS All-in-One Face Treatment สกินแคร์สำหรับผู้ชาย
รีวิวมาสก์ Origins Mega-Mushroom Relief & Resilience Soothing Face Mask