รีวิว adidas UltraBoost 19 รองเท้าวิ่งสุดนุ่มเด้ง ซัพพอร์ตดี วิ่งสบายจริงมั้ย


รองเท้าวิ่งคู่ใจที่หลายคนตามหา! adidas UltraBoost 19 คือหนึ่งในรองเท้าที่ถูกพูดถึงมากที่สุดเรื่องความนุ่มเด้ง และการซัพพอร์ตเท้าที่ยอดเยี่ยม จนหลายคนสงสัยว่ามันดีจริงสมคำร่ำลือไหม? ใส่วิ่งแล้วสบายอย่างที่เขาว่ากันหรือเปล่า? วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมของเจ้า UltraBoost 19 ว่าทำไมมันถึงกลายมาเป็นขวัญใจนักวิ่งสายซัพพอร์ต และยังคงความนิยมมาจนถึงวันนี้!
1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: ทำความรู้จัก adidas UltraBoost 19
แบรนด์: adidas
รุ่น: UltraBoost 19
ปีที่วางจำหน่าย: เริ่มจำหน่ายแบบจำกัดจำนวนในปลายปี 2018 และวางจำหน่ายทั่วโลกอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ 2019
ช่วงราคา: ราคาเปิดตัวประมาณ 7,300 บาท (ปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ในราคาที่ถูกลงมากตามโปรโมชันต่างๆ)
การวางตำแหน่งสินค้า: UltraBoost 19 ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นรองเท้าวิ่งสำหรับใช้งานทุกวัน (Daily Trainer) และการวิ่งระยะไกล โดยเน้นเรื่องความสบายสูงสุด การซัพพอร์ต และการส่งคืนพลังงานที่ยอดเยี่ยม เหมาะสำหรับนักวิ่งทุกระดับที่ต้องการรองเท้าที่พร้อมลุยทุกระยะทาง และยังสามารถใส่เดินเล่นในชีวิตประจำวันได้อย่างมีสไตล์
จุดเด่นหลัก:
- พื้น Boost ที่เด้งและนุ่มเป็นพิเศษ: มีปริมาณ Boost เพิ่มขึ้น 20% จากรุ่นก่อนหน้า มอบประสบการณ์การวิ่งที่นุ่มนวลและตอบสนองได้ดีเยี่ยม
- หน้าผ้า Primeknit 360 โอบรับเท้า: โครงสร้างแบบชิ้นเดียว โอบรับเท้าได้อย่างกระชับและยืดหยุ่น ให้ความรู้สึกเหมือนสวมถุงเท้า
- ระบบ Torsion Spring เพื่อการส่งแรง: ช่วยเสริมความมั่นคงและส่งแรงให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- โครงสร้างส้นเท้า 3D Heel Frame: ออกแบบมาเพื่อโอบอุ้มส้นเท้า ให้การซัพพอร์ตและความมั่นคงโดยไม่บีบรัด
- พื้นยาง Continental™ ยึดเกาะดีเยี่ยม: ให้การยึดเกาะที่เหนือกว่าบนพื้นผิวที่หลากหลาย ทั้งแห้งและเปียก
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก
UltraBoost 19 มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ครั้งใหญ่ที่โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนๆ ด้วยการปรับลดชิ้นส่วนประกอบลงเพื่อให้ได้โครงสร้างที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวรองเท้ามีดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย และยังคงเอกลักษณ์ของซีรีส์ UltraBoost ไว้ได้อย่างครบถ้วน
การออกแบบและวัสดุ: โดดเด่นด้วยหน้าผ้า Primeknit 360 แบบชิ้นเดียวที่ถักทออย่างประณีต ทำให้ตัวรองเท้ามีน้ำหนักเบาและระบายอากาศได้ดี โอบรับเท้าได้เหมือนถุงเท้าไร้รอยต่อ ตัวเคจด้านข้างที่ปรับดีไซน์ใหม่ให้ดูกลมกลืนมากขึ้น ทำหน้าที่ผสานเข้ากับเชือกผูกรองเท้าเพื่อความกระชับ พื้นชั้นกลาง Boost ที่หนาเป็นพิเศษสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากด้านข้าง เพิ่มความรู้สึกถึงพลังงานที่อัดแน่นอยู่ภายใน ส่วนโครงสร้างส้นเท้าแบบ 3D Heel Frame เป็นดีไซน์ที่แตกต่างจากรุ่นก่อนๆ ดูล้ำสมัยและให้การซัพพอร์ตที่ดี
ขนาดและน้ำหนัก: น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 309 กรัม (สำหรับไซส์ผู้ชาย UK 8.5) ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ สำหรับรองเท้าวิ่งที่เน้นความนุ่มและซัพพอร์ต ตัวรองเท้าให้ความรู้สึกมั่นคง ไม่เทอะทะ
สีที่มีให้เลือก: UltraBoost 19 มีสีสันให้เลือกมากมาย ตั้งแต่โทนสีเรียบง่ายคลาสสิกอย่างขาว ดำ ไปจนถึงสีสันสดใส ตอบโจทย์ทุกสไตล์ ไม่ว่าจะใส่เพื่อวิ่ง หรือใส่เป็นรองเท้าแฟชั่นในชีวิตประจำวัน
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: โดยปกติแล้ว รองเท้าวิ่งจะมาพร้อมเพียงตัวรองเท้าและป้ายแท็ก ไม่มีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เพิ่มเติม
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก (การวิ่ง)
หัวใจสำคัญของ UltraBoost 19 คือประสบการณ์การวิ่งที่ยอดเยี่ยม นี่คือจุดที่รองเท้าคู่นี้เปล่งประกายอย่างแท้จริง
ความนุ่มเด้งและการตอบสนอง: ด้วยปริมาณ Boost ที่เพิ่มขึ้นถึง 20% ทำให้ UltraBoost 19 มอบความรู้สึกนุ่มนวลใต้ฝ่าเท้าในระดับที่หาตัวจับยาก รองเท้าซึมซับแรงกระแทกได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกก้าว ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งระยะสั้นหรือระยะไกล ความรู้สึกเด้งและคืนตัวของโฟม Boost ยังช่วยส่งแรงให้คุณก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การวิ่งรู้สึกสนุกและเบาสบาย
การซัพพอร์ตและความมั่นคง: หน้าผ้า Primeknit 360 ที่ออกแบบมาให้โอบกระชับเท้าอย่างลงตัว พร้อมด้วย Torsion Spring System ที่บริเวณกลางเท้า ช่วยให้เท้าอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคงและมีการถ่ายเทน้ำหนักที่ดีในทุกจังหวะการลงเท้า ส่วน 3D Heel Frame ช่วยล็อคส้นเท้าได้อย่างมั่นใจ ลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น และยังช่วยแก้ไขปัญหาเท้าล้ม (Pronation) สำหรับบางคนได้เป็นอย่างดี แม้จะมีความนุ่มมาก แต่ก็ยังคงความมั่นคง ไม่ยวบยาบ
การยึดเกาะ: พื้นยาง Continental™ ที่มาในรูปแบบ Stretchweb ให้การยึดเกาะที่ยอดเยี่ยมบนพื้นผิวถนนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นแห้งหรือเปียก คุณจะรู้สึกมั่นใจในทุกย่างก้าว
การระบายอากาศ: หน้าผ้า Primeknit มีคุณสมบัติในการระบายอากาศที่ดี ช่วยให้เท้าไม่อับชื้น แม้จะวิ่งในระยะเวลานานๆ หรือในสภาพอากาศที่ร้อนชื้น
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้
UltraBoost 19 ถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรกับผู้ใช้งานตั้งแต่ครั้งแรกที่สวมใส่
ความสบายในการสวมใส่: หนึ่งในจุดเด่นที่สำคัญคือ ไม่ต้องมีการรันอิน (Break-in Period) คุณสามารถหยิบออกมาใส่และออกไปวิ่งได้ทันทีโดยไม่รู้สึกระคายเคืองหรือเจ็บเท้า หน้าผ้า Primeknit 360 ที่ยืดหยุ่นและโอบรับรูปเท้าทำให้รองเท้าให้ความรู้สึกสบายเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย แม้บางคนอาจรู้สึกว่าหน้าผ้าค่อนข้างกระชับในช่วงแรก แต่ก็จะยืดหยุ่นเข้ากับรูปเท้าได้ในที่สุด
ความเหมาะสมกับรูปเท้า: รองเท้ามีหน้าเท้าที่ไม่กว้างมากนัก แต่หน้าผ้าที่ยืดหยุ่นได้ก็ช่วยให้รองรับรูปเท้าได้หลากหลาย แนะนำให้ลองสวมใส่เพื่อหาไซส์ที่เหมาะสมที่สุด โดยอาจพิจารณาเผื่อไซส์สำหรับผู้ที่มีหน้าเท้ากว้างเล็กน้อย
ความรู้สึกโดยรวม: รองเท้ามีความนุ่มและยืดหยุ่นสูง ทำให้การสวมใส่เดินหรือยืนเป็นเวลานานก็ยังคงรู้สึกสบาย ไม่เมื่อยล้า เสียงที่เกิดขึ้นขณะวิ่งเป็นปกติของรองเท้าวิ่ง ไม่มีเสียงดังรบกวน
5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว
สำหรับรองเท้าวิ่งแล้ว “แบตเตอรี่” หรือ “พลังงาน” คือความทนทานของวัสดุที่ใช้และการรักษาประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งาน
ความทนทานของพื้น Boost: โฟม Boost มีชื่อเสียงเรื่องความทนทานและสามารถคงประสิทธิภาพการคืนแรงกระแทกได้ดีแม้ผ่านการใช้งานไประยะหนึ่ง บางรีวิวระบุว่าพื้นยังคงความเฟิร์มและซัพพอร์ตได้ดีแม้ใช้งานมา 3 เดือนแล้ว
ความทนทานของหน้าผ้าและพื้นยาง: หน้าผ้า Primeknit และพื้นยาง Continental™ ถือว่ามีความทนทานตามมาตรฐานของรองเท้าวิ่งคุณภาพสูง อย่างไรก็ตาม การใช้งานหนักย่อมส่งผลต่ออายุการใช้งาน
ค่าใช้จ่ายระยะยาว: UltraBoost 19 มีราคาเปิดตัวที่สูง แต่ด้วยความทนทานของวัสดุและประสิทธิภาพที่คงที่ ทำให้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับนักวิ่งที่ต้องการรองเท้าคู่ใจที่ใช้งานได้นาน หากเทียบกับรองเท้าในกลุ่ม Daily Trainer รุ่นอื่นๆ ที่เน้นความนุ่มเด้ง UltraBoost 19 ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แม้จะมีรองเท้าที่ราคาถูกกว่าแต่ก็อาจไม่ได้มอบความนุ่มสบายและเทคโนโลยีที่ครบครันเท่านี้
6. ข้อดี-ข้อเสีย
เพื่อให้เห็นภาพรวมของ adidas UltraBoost 19 อย่างเป็นกลาง เราได้สรุปข้อดีและข้อเสียที่สำคัญมาให้พิจารณา
ข้อดี:
- ความนุ่มสบายระดับสูงสุด: พื้น Boost ที่เพิ่มขึ้น 20% ทำให้เป็นหนึ่งในรองเท้าวิ่งที่นุ่มเด้งที่สุด
- การคืนพลังงานที่ยอดเยี่ยม: รู้สึกได้ถึงแรงส่งในทุกย่างก้าว ทำให้การวิ่งสนุกยิ่งขึ้น
- หน้าผ้า Primeknit 360 โอบรับเท้าได้ดี: ให้ความรู้สึกกระชับ สบาย และระบายอากาศได้ดี
- การซัพพอร์ตและความมั่นคงที่เชื่อถือได้: ด้วย Torsion Spring และ 3D Heel Frame ช่วยให้วิ่งได้อย่างมั่นใจ
- ใช้งานได้หลากหลาย: เหมาะทั้งสำหรับการวิ่งระยะไกล การวิ่งประจำวัน และยังใส่เดินเล่นหรือเป็นรองเท้าแฟชั่นได้
ข้อเสีย:
- น้ำหนักค่อนข้างมาก: อาจไม่เหมาะกับนักวิ่งที่เน้นความเร็วสูง หรือต้องการทำเวลา
- ราคาเปิดตัวสูง: อาจเป็นอุปสรรคสำหรับบางคน (แต่ปัจจุบันหาซื้อได้ในราคาที่ดีขึ้น)
- อาจรู้สึกแน่นช่วงแรก: หน้าผ้า Primeknit 360 อาจรู้สึกกระชับมากในช่วงแรก แต่จะยืดหยุ่นเข้ารูปเท้าในภายหลัง
- ไม่เหมาะกับการวิ่งแข่งทำความเร็ว: แม้จะมีการคืนพลังงานที่ดี แต่ด้วยน้ำหนักและความนุ่มมาก อาจทำให้รู้สึกไม่คล่องตัวเท่ารองเท้า Racing
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ
UltraBoost 19 เป็นรองเท้าที่ตอบโจทย์นักวิ่งกลุ่มหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เหมาะกับ:
- นักวิ่งสาย Daily Trainer: ผู้ที่มองหารองเท้าคู่ใจสำหรับวิ่งซ้อมเป็นประจำทุกวัน
- นักวิ่งระยะไกล: ต้องการความสบายและการซัพพอร์ตสูงสุดเพื่อลดอาการล้าในการวิ่งระยะยาว
- ผู้ที่ต้องการความนุ่มเด้งเป็นพิเศษ: ชื่นชอบความรู้สึกนุ่มนวลใต้ฝ่าเท้าและแรงส่งจากพื้น Boost
- ผู้ที่มองหารองเท้าอเนกประสงค์: สามารถใช้ได้ทั้งวิ่ง ออกกำลังกาย เดินเล่น และใส่ในชีวิตประจำวัน
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับส้นเท้าหรือต้องการการซัพพอร์ต: โครงสร้าง 3D Heel Frame ช่วยเรื่องความมั่นคงได้ดี
ควรซื้อเลยไหม? หรือรอช่วงโปรโมชั่นจะดีกว่า?
เนื่องจาก UltraBoost 19 ไม่ใช่รุ่นล่าสุดแล้ว ทำให้ราคาในตลาดลดลงมามากจากราคาเปิดตัว หากคุณพบเจอในราคาที่น่าสนใจและตรงกับงบประมาณ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะซื้อ เพราะยังคงเป็นรองเท้าที่ให้ประสิทธิภาพความนุ่มสบายและการซัพพอร์ตที่ยอดเยี่ยมคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป หากไม่รีบร้อน การรอช่วงโปรโมชั่นลดราคาจากร้านค้าออนไลน์หรือหน้าร้านก็ยังคงเป็นทางเลือกที่ช่วยให้ได้ราคาที่ดีที่สุด
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (รุ่นใกล้เคียง)
เมื่อเทียบกับรองเท้าวิ่งในตลาดที่เน้นความนุ่มสบายและการใช้งานแบบ Daily Trainer
- เทียบกับ UltraBoost รุ่นก่อนหน้า (เช่น 4.0): UltraBoost 19 ถือเป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่ ด้วยปริมาณ Boost ที่มากขึ้น หน้าผ้า Primeknit 360 และ Torsion Spring ที่ปรับปรุงใหม่ ทำให้ UltraBoost 19 มอบความนุ่มเด้งและการซัพพอร์ตที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทำให้รู้สึกว่าเป็นการอัปเกรดที่คุ้มค่าสำหรับนักวิ่งที่ใช้รุ่นเก่า
- เทียบกับรองเท้า Daily Trainer ของแบรนด์อื่น: UltraBoost 19 โดดเด่นด้วยความนุ่มของ Boost ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งอาจจะนุ่มกว่าคู่แข่งบางรุ่น อย่างไรก็ตาม ในแง่ของน้ำหนัก อาจจะหนักกว่ารองเท้าที่เน้นความเร็วจากแบรนด์อื่นที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ
การซื้อรองเท้าวิ่งจากช่องทางที่เชื่อถือได้จะช่วยให้คุณมั่นใจในคุณภาพและการรับประกัน
การรับประกัน: สินค้าของ adidas มักมีการรับประกันมาตรฐานตามนโยบายของแบรนด์ หากซื้อจากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือร้านค้าออนไลน์ใหญ่ๆ ที่น่าเชื่อถือ มักจะมีการรับประกันสินค้าแท้และนโยบายการคืน/เปลี่ยนสินค้าหากมีข้อบกพร่องจากการผลิต
ช่องทางการซื้อ:
- ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของ adidas: มักมีโปรโมชั่นและสินค้าครบถ้วน
- E-commerce Platform ยอดนิยม: เช่น Shopee, Lazada, JD Central มักมีส่วนลด โค้ดส่งฟรี หรือโปรโมชั่น Flash Sale ที่น่าสนใจ ทำให้ได้ราคาที่คุ้มค่ามาก
- ร้านค้าอุปกรณ์กีฬาชั้นนำ: เช่น Ari Running Concept Store หรือร้านค้าในห้างสรรพสินค้า (เช่น adidas Brand Center) สามารถไปลองสวมใส่จริงได้ก่อนตัดสินใจซื้อ
โปรโมชั่นและการผ่อนชำระ: หลายช่องทางออนไลน์มักมีตัวเลือกผ่อนชำระ 0% หรือโปรโมชั่นบัตรเครดิต รวมถึงโค้ดส่วนลดและเงินคืน ควรเปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นก่อนตัดสินใจซื้อเพื่อความคุ้มค่าสูงสุด
การจัดส่ง: การสั่งซื้อออนไลน์มักมีการจัดส่งที่รวดเร็ว โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ
หลังจากที่ได้เจาะลึก adidas UltraBoost 19 ในทุกแง่มุมแล้ว ถึงเวลาสรุปคำแนะนำสุดท้าย
หากคุณกำลังมองหารองเท้าวิ่งที่มอบ ความนุ่มสบายขั้นสุด การซัพพอร์ตที่ดีเยี่ยม และการส่งคืนพลังงานที่ทำให้การวิ่งสนุกขึ้น พร้อมทั้งสามารถใช้งานได้หลากหลายในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งซ้อมระยะกลาง-ไกล หรือใส่เดินเล่นทั่วไป UltraBoost 19 คือรองเท้าที่ "แนะนำให้ซื้อ" อย่างยิ่ง!
สำหรับผู้ที่เริ่มต้นวิ่ง: นี่คือรองเท้าที่ให้ความสบายและลดแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม ช่วยให้การวิ่งเป็นประสบการณ์ที่ดี และลดโอกาสบาดเจ็บได้
สำหรับนักวิ่งที่มีงบประมาณจำกัด: ในปัจจุบันที่ราคาลดลงมามาก ทำให้ UltraBoost 19 กลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าอย่างเหลือเชื่อ สำหรับเทคโนโลยีและประสิทธิภาพที่คุณจะได้รับ
แต่หากคุณเป็นนักวิ่งสายความเร็ว เน้นทำเวลา หรือต้องการรองเท้าที่เบาและตอบสนองได้เฉียบคมในการวิ่งแข่งเป็นหลัก UltraBoost 19 อาจจะไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกที่แนะนำ อย่างไรก็ตาม สำหรับการวิ่งซ้อมและสร้างระยะทาง รองเท้าคู่นี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิว กระเป๋าเป้ Anello กันน้ำ: สะพายไปเที่ยว ลุยฝน ของข้างในปลอดภัยจริงหรือ?
รีวิว MX10 Android TV Box: กล่องทีวีดูหนังฟังเพลง รุ่นเล็ก ราคาประหยัด ดีพอไหม?
รีวิว Charlotte Tilbury Magic Cream: ครีมบำรุงผิวตัวดัง ผิวอิ่มฟู ฉ่ำโกลว์จริงไหม?
รีวิว Akyra Manor Chiang Mai: โรงแรมบูติคสุดฮิปในเชียงใหม่ บรรยากาศดี น่าพักไหม?
รีวิว Samsung 32N4300 ทีวี HD 32 นิ้ว: ขนาดกะทัดรัด ภาพชัด เหมาะกับห้องเล็กไหม?
รีวิว Sudocrem: ครีมสารพัดประโยชน์ แก้ผื่นผ้าอ้อม สิว และปัญหาผิวต่างๆ