รีวิว adizero adios 5 เจาะลึกทุกฟังก์ชัน เหมาะสำหรับนักวิ่งสายไหน น่าซื้อมั้ย


นักวิ่งคนไหนที่กำลังมองหารองเท้าคู่ใจสำหรับทำความเร็ว หรือใช้ลงสนามแข่งขัน แต่ยังลังเลใจว่า Adidas Adizero Adios 5 จะตอบโจทย์คุณได้จริงหรือไม่? ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกทุกฟังก์ชันการใช้งาน ตั้งแต่ดีไซน์ไปจนถึงประสิทธิภาพในสนามวิ่ง พร้อมวิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย และแนะนำว่ารองเท้าคู่นี้เหมาะกับนักวิ่งสายไหนที่สุด ถ้าคุณพร้อมที่จะยกระดับการวิ่งของคุณให้เหนือกว่าเดิม ห้ามพลาด!
1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: ทำความรู้จัก Adizero Adios 5
แบรนด์: Adidas
รุ่น: Adizero Adios 5
ปีที่วางจำหน่าย: ต้นปี 2020
ช่วงราคา: ประมาณ 2,800 - 6,500 บาท (ราคาอาจแตกต่างกันตามโปรโมชันและช่องทางการจำหน่าย)
การวางตำแหน่งสินค้า: จัดเป็นรองเท้าวิ่งสาย Race Flat หรือรองเท้าสำหรับทำความเร็วสูง ที่เหมาะทั้งสำหรับการซ้อมวิ่งแบบ Tempo และใช้ในการแข่งขันระยะไกล เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ต้องการความเร็วและสัมผัสพื้นถนนได้ดี
สรุปจุดเด่นหลัก:
- เบาและกระชับ: น้ำหนักเบามาก ให้ความรู้สึกคล่องตัวสูงสุด
- ตอบสนองดีเยี่ยม: ผสมผสานเทคโนโลยี Lightstrike และ Boost ให้การส่งคืนพลังงานที่ดีเยี่ยม
- ยึดเกาะเหนือชั้น: พื้นรองเท้า Continental™ Rubber ให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยมในทุกสภาพผิว
- ทนทาน: ถือว่ามีความทนทานสูงสำหรับรองเท้าสายแข่งขัน
- ดีไซน์โฉบเฉี่ยว: รูปลักษณ์สไตล์ Racing Flat ที่ดูดุดันพร้อมลงสนาม
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก
Adizero Adios 5 มาพร้อมดีไซน์ที่เน้นความเร็วและประสิทธิภาพ ตัวรองเท้ามีรูปทรงเพรียวบางตามแบบฉบับรองเท้าแข่ง พื้นรองเท้าไม่ได้หนาเทอะทะเหมือนรองเท้าซัพพอร์ตทั่วไป แต่เน้นความกระชับและคล่องตัว
การออกแบบและวัสดุ: อัปเปอร์ใช้ผ้าตาข่ายชั้นเดียว Celermesh ที่บางเฉียบ โปร่งสบาย และระบายอากาศได้ดีเยี่ยม ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเท้า พร้อมแถบ 3 ขีดอันเป็นเอกลักษณ์ของ Adidas ส่วนของพื้นรองเท้ามีการผสมผสานระหว่างโฟม Lightstrike ที่ส่วนหน้าเท้าและ Boost ที่ส้นเท้า
ขนาดและน้ำหนัก: รองเท้ารุ่นนี้มีน้ำหนักเบามาก โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 221-231 กรัม สำหรับไซส์ US M9/UK9 ซึ่งถือเป็นน้ำหนักที่ยอดเยี่ยมสำหรับรองเท้าสายทำความเร็ว
สีที่มีให้เลือก: มีหลากหลายสีสันให้เลือก ตั้งแต่สีพื้นฐานอย่างดำ-ขาว ไปจนถึงสีสันสดใสที่สะดุดตา เพิ่มความโดดเด่นให้กับนักวิ่ง
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: โดยปกติแล้ว รองเท้าวิ่งจะไม่มีอุปกรณ์เสริมใดๆ มาให้ในกล่องนอกจากตัวรองเท้าเอง
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก
หัวใจสำคัญของ Adizero Adios 5 คือความสามารถในการทำความเร็ว นี่คือการเจาะลึกฟังก์ชันหลักที่ส่งผลต่อประสบการณ์การวิ่ง:
การรับแรงกระแทกและการตอบสนอง: โฟม Lightstrike ที่ปลายเท้าให้ความรู้สึกที่เฟิร์มและตอบสนองได้ดีเยี่ยม ช่วยให้การดีดตัวไปข้างหน้าทำได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่เทคโนโลยี Boost บริเวณส้นเท้าช่วยเพิ่มการซัพพอร์ตและการเด้งกลับเล็กน้อยสำหรับนักวิ่งที่ลงน้ำหนักด้วยส้นเท้า การผสมผสานนี้ทำให้รองเท้ามีความสมดุลระหว่างความนุ่มนวลและความกระชับ เหมาะสำหรับการวิ่งด้วยความเร็วสูง
ความมั่นคงและการส่งตัว: ระบบ Torsion System ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ใน Adios 5 ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการลงเท้าและการส่งตัว ทำให้การเปลี่ยนผ่านจังหวะการวิ่งเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะลงน้ำหนักด้วยส้นเท้าหรือปลายเท้า รองเท้านี้ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับนักวิ่งที่ลงน้ำหนักด้วยกลางเท้าถึงปลายเท้า ซึ่งจะดึงประสิทธิภาพสูงสุดของรองเท้าคู่นี้ออกมาได้
การยึดเกาะ: พื้นชั้นนอกทำจากยาง Continental™ Rubber ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและการยึดเกาะ ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวแห้งหรือเปียก ก็ให้ความมั่นใจในการก้าวเท้า ทำให้คุณสามารถเร่งความเร็วได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการลื่นไถล
ความเบา: ด้วยน้ำหนักที่เบามาก ทำให้รู้สึกเหมือนไม่ได้สวมรองเท้า ส่งผลให้การยกเท้าทำได้ง่าย ลดภาระให้กับกล้ามเนื้อ และช่วยให้รักษาความเร็วในการวิ่งได้นานขึ้น
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้
ความสบายในการสวมใส่: Adizero Adios 5 ให้ความรู้สึกกระชับและโอบรับรูปเท้าได้ดีเยี่ยมตั้งแต่วินาทีแรกที่สวมใส่ อัปเปอร์ผ้า Celermesh บางเบาและยืดหยุ่น ทำให้รู้สึกสบาย ไม่บีบรัด แม้จะเป็นรองเท้าที่ออกแบบมาให้กระชับก็ตาม
การระบายอากาศ: ผ้า Celermesh มีรูพรุนขนาดเล็กจำนวนมาก ทำให้การระบายอากาศเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม ช่วยลดความร้อนสะสมภายในรองเท้า ทำให้เท้าเย็นสบายตลอดการวิ่ง โดยเฉพาะในการวิ่งระยะไกลหรือในสภาพอากาศร้อน
ระบบการผูกเชือก: มาพร้อมระบบเชือกผูกรองเท้าแบบมาตรฐานที่ช่วยให้ปรับความกระชับได้ตามต้องการ ลิ้นรองเท้าบางและไม่เลื่อนไปมา ทำให้รู้สึกสบายและมั่นคง
ความยากง่ายในการปรับตัว: สำหรับนักวิ่งที่คุ้นเคยกับรองเท้าที่มีพื้นหนาและซัพพอร์ตเยอะ อาจต้องใช้เวลาปรับตัวกับ Adios 5 เล็กน้อย เนื่องจากเป็นรองเท้าที่พื้นค่อนข้างบาง และให้ความรู้สึก 'เชื่อมต่อ' กับพื้นถนนมากขึ้น แต่เมื่อปรับตัวได้แล้ว คุณจะสัมผัสได้ถึงความคล่องตัวและการตอบสนองที่แตกต่าง
5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว
สำหรับรองเท้าวิ่ง ไม่มีเรื่องแบตเตอรี่หรือพลังงาน แต่เราจะพูดถึงความทนทานและความคุ้มค่าในระยะยาวแทน
ความทนทาน: แม้จะเป็นรองเท้าสาย Racing Flat ที่เน้นน้ำหนักเบา แต่ Adizero Adios 5 กลับมีความทนทานที่น่าประทับใจ พื้นยาง Continental™ Rubber มีความแข็งแรงทนทานต่อการสึกหรอ และอัปเปอร์ Celermesh ก็แข็งแรงพอสมควรสำหรับการใช้งานหนักหน่วงในการซ้อมและแข่งขัน
อายุการใช้งาน: โดยทั่วไป รองเท้าวิ่งสาย Performance อย่าง Adios 5 คาดว่าจะมีอายุการใช้งานประมาณ 300-500 ไมล์ (ประมาณ 480-800 กิโลเมตร) ขึ้นอยู่กับสไตล์การวิ่ง น้ำหนักตัว และพื้นผิวที่วิ่งเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม จากรีวิวผู้ใช้งานหลายท่านพบว่า Adios 5 มีความทนทานเกินกว่าที่คาดไว้สำหรับรองเท้าประเภทนี้
ความคุ้มค่า: ด้วยราคาที่อยู่ในระดับกลางถึงสูงสำหรับรองเท้าวิ่ง แต่ด้วยประสิทธิภาพที่ได้มาทั้งในด้านความเร็ว การตอบสนอง และความทนทาน ทำให้ Adizero Adios 5 เป็นรองเท้าที่มอบความคุ้มค่าสูงสำหรับนักวิ่งที่จริงจังกับการทำเวลาและต้องการรองเท้าคู่ใจสำหรับวันแข่งขันหรือวันซ้อมวิ่งเร็ว
6. ข้อดี-ข้อเสีย
ข้อดี:
- น้ำหนักเบามาก: รู้สึกคล่องตัวสูง ช่วยให้ทำความเร็วได้ดี
- การตอบสนองดีเยี่ยม: การผสมผสานของ Lightstrike และ Boost ให้การส่งคืนพลังงานที่ยอดเยี่ยม
- การยึดเกาะเชื่อถือได้: พื้นยาง Continental™ Rubber ยึดเกาะได้ดีทั้งพื้นแห้งและเปียก
- ความกระชับและมั่นคง: อัปเปอร์กระชับ โอบรับเท้าได้ดี และระบบ Torsion System ช่วยเพิ่มความมั่นคง
- ทนทานเกินคาด: มีความทนทานสูงสำหรับรองเท้าสาย Racing
ข้อเสีย:
- อาจไม่เหมาะกับ Heel Striker: นักวิ่งที่ลงส้นเท้าหนักมากๆ อาจรู้สึกว่าซัพพอร์ตไม่เพียงพอเท่าที่ควร
- พื้นรองเท้าค่อนข้างบาง: อาจต้องใช้เวลาปรับตัวสำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับรองเท้าพื้นหนา
- การซัพพอร์ตแรงกระแทก: แม้จะมี Boost แต่ก็ไม่ได้เน้นการซัพพอร์ตแบบนุ่มนวลมากนัก
- เหมาะกับวันทำความเร็ว: ไม่ใช่รองเท้าสำหรับวิ่งสบายๆ ในทุกวัน หรือการวิ่งฟื้นฟู
- ราคา: อาจสูงไปสำหรับนักวิ่งเริ่มต้น หรือผู้ที่ไม่ได้เน้นทำความเร็วเป็นหลัก
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ
Adizero Adios 5 เหมาะกับ:
- นักวิ่งสาย Performance: ที่ต้องการรองเท้าสำหรับทำความเร็ว ทำ Tempo Run หรือใช้ในการแข่งขันระยะกลางถึงระยะมาราธอน
- นักวิ่งที่มีฟอร์มการวิ่งดี: โดยเฉพาะผู้ที่ลงน้ำหนักด้วยกลางเท้าถึงปลายเท้า จะดึงประสิทธิภาพของรองเท้าออกมาได้เต็มที่
- นักวิ่งที่ชอบสัมผัสพื้นถนน: และต้องการความคล่องตัวสูง ไม่ชอบความรู้สึกจมลงไปในรองเท้า
- ผู้ที่มองหารองเท้าคู่ใจสำหรับลงแข่ง: ที่ให้ความรู้สึกกระชับ มั่นคง และตอบสนองได้รวดเร็ว
ไม่เหมาะกับ:
- นักวิ่งเริ่มต้นที่ยังไม่มีฟอร์มการวิ่งที่มั่นคง หรือผู้ที่ต้องการรองเท้าที่มีการซัพพอร์ตแรงกระแทกสูงมากๆ สำหรับวิ่งสบายๆ ทุกวัน
- นักวิ่งที่ต้องการความนุ่มนวลสูงสุด หรือรองเท้าที่ช่วยประหยัดแรงในระยะอัลตร้ามาราธอน
ควรซื้อเลยไหม?
หากคุณคือนักวิ่งที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายที่กล่าวมา และกำลังมองหารองเท้าที่จะช่วยให้คุณทำลายสถิติส่วนตัว Adizero Adios 5 ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมและน่าลงทุนอย่างยิ่ง
เนื่องจากเป็นรุ่นที่วางจำหน่ายมาพักใหญ่แล้ว คุณอาจมีโอกาสพบกับโปรโมชั่นหรือส่วนลดพิเศษ ทำให้ได้รองเท้าคุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่ากว่าเดิม แนะนำให้ติดตามโปรโมชั่นจากร้านค้าออนไลน์และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างใกล้ชิด
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน
เทียบกับรุ่นอื่นในตระกูล Adizero:
- Adizero Adios 6/7/8: รุ่นต่อๆ มาของ Adios ได้มีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีโฟมและดีไซน์บางส่วน โดย Adios 5 เป็นรุ่นแรกๆ ที่ใช้ Lightstrike ร่วมกับ Boost รุ่นใหม่ๆ อาจมีการปรับความหนาของพื้นและโฟมให้แตกต่างกันไป หากคุณชอบความรู้สึกแบบดั้งเดิมของ Adios ที่เน้นความเร็วและความกระชับ Adios 5 ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่ารุ่นใหม่ๆ
- Adizero Adios Pro: สำหรับนักวิ่งที่ต้องการรองเท้าแข่งขันระดับท็อปสุดพร้อมแผ่นคาร์บอนเพลทเพื่อการส่งคืนพลังงานสูงสุด Adios Pro จะให้ประสบการณ์ที่แตกต่างและเน้นการทำลายสถิติโดยเฉพาะ Adios 5 จะเป็นรองเท้าที่ให้ความรู้สึกเชื่อมต่อกับพื้นถนนมากกว่า และอาจเหมาะกับการซ้อม Tempo มากกว่า
เทียบกับแบรนด์อื่นที่ราคาใกล้เคียง:
- รองเท้าวิ่งสาย Race Flat จากแบรนด์อื่น เช่น Saucony Kinvara หรือ Brooks Hyperion Tempo อาจเป็นคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน Adios 5 โดดเด่นด้วยการผสมผสาน Boost และ Lightstrike รวมถึงพื้น Continental™ Rubber ที่ให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยม
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ
การรับประกัน: สินค้า Adidas โดยทั่วไปมีการรับประกันตามนโยบายของแบรนด์ และสามารถเคลมได้ผ่านศูนย์บริการหรือตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย
ช่องทางการซื้อ: คุณสามารถหารองเท้า Adidas Adizero Adios 5 ได้จาก:
- ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของ Adidas: มักจะมีสินค้าครบถ้วนและโปรโมชั่นพิเศษเป็นครั้งคราว
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ: เช่น Lazada, Shopee มักจะมีร้านค้าทางการของ Adidas หรือตัวแทนจำหน่ายร่วมอยู่ ซึ่งเป็นแหล่งรวมโปรโมชั่น ส่วนลด โค้ดส่งฟรี และตัวเลือกการผ่อนชำระ
- ร้านค้าอุปกรณ์วิ่งเฉพาะทาง: เช่น Ari Running หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายใหญ่ๆ ที่มักจะมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำและสามารถให้ลองสวมใส่ได้ก่อนตัดสินใจ
โปรโมชั่นและข้อเสนอ: เนื่องจากเป็นรุ่นที่ออกมาสักระยะแล้ว คุณอาจพบกับส่วนลดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหรือแคมเปญลดราคาใหญ่ๆ ซึ่งอาจลดราคาลงมาค่อนข้างมากจากราคาเปิดตัว
การจัดส่ง: การสั่งซื้อออนไลน์มักมีตัวเลือกการจัดส่งที่รวดเร็ว โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ
จากทั้งหมดที่กล่าวมา Adidas Adizero Adios 5 คือรองเท้าที่ "แนะนำให้ซื้อ" สำหรับนักวิ่งที่ชัดเจนในเป้าหมาย นั่นคือการทำความเร็วและลงแข่งขัน หากคุณเป็นนักวิ่งที่กำลังมองหาเครื่องมือที่จะช่วยผลักดันขีดจำกัดความเร็วของคุณ รองเท้าคู่นี้จะไม่ทำให้ผิดหวัง
คำแนะนำเฉพาะ:
- สำหรับนักวิ่งจริงจังที่เน้นทำเวลา: Adios 5 คือคู่หูที่ยอดเยี่ยมสำหรับการซ้อม Tempo และ Race Day ด้วยน้ำหนักที่เบา การตอบสนองที่ฉับไว และการยึดเกาะที่ไว้ใจได้
- สำหรับผู้ที่งบประมาณจำกัดและมองหารองเท้า Race Flat คุณภาพดี: การที่ Adios 5 เป็นรุ่นที่ออกมาแล้ว ทำให้ราคาอยู่ในช่วงที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และยังคงมอบประสิทธิภาพในระดับสูง
- สำหรับผู้ที่เคยใช้ Adios รุ่นก่อนๆ และชื่นชอบฟิลลิ่งเดิม: Adios 5 ยังคงรักษากลิ่นอายความเป็น Adios ได้ดี พร้อมการอัปเกรดที่น่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นนักวิ่งสายสบายๆ เน้นซัพพอร์ตสูงสุดสำหรับการวิ่งประจำวัน Adios 5 อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ถ้าคุณพร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์ความเร็วและการเชื่อมต่อกับพื้นถนนอย่างแท้จริง Adizero Adios 5 คือรองเท้าที่คุณไม่ควรมองข้าม!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
Fresh Black Tea Mask รีวิว: มาส์กหน้าใส ฟูอิ่ม เห็นผลในครั้งแรก?
รีวิวโครงการ S Gate Premium ราชพฤกษ์: บ้านหรู ทำเลทอง การเดินทางสะดวก
รีวิว Park Origin ทองหล่อ: คอนโดหรูใจกลางเมือง ชีวิตดี๊ดีสมราคาไหม?
Clarins สำหรับผู้ชาย รีวิว: สกินแคร์ดูแลผิวผู้ชาย น่าใช้ไหม? ผลลัพธ์เป็นอย่างไร?
รีวิว Collagen by Watsons สีม่วง: สูตรนี้ช่วยเรื่องอะไร? ลองแล้วเห็นผลจริงไหม
รีวิว X Cute Me: ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ราคาดี คุณภาพเกินคาด