logo

รีวิว adizero adios 5 เจาะลึกทุกฟังก์ชัน เหมาะสำหรับนักวิ่งสายไหน น่าซื้อมั้ย

user avatar
วีรภัทร มูลทรัพย์·07/21/2025T08:34Z
点赞
รีวิว adizero adios 5 เจาะลึกทุกฟังก์ชัน เหมาะสำหรับนักวิ่งสายไหน น่าซื้อมั้ย

นักวิ่งคนไหนที่กำลังมองหารองเท้าคู่ใจสำหรับทำความเร็ว หรือใช้ลงสนามแข่งขัน แต่ยังลังเลใจว่า Adidas Adizero Adios 5 จะตอบโจทย์คุณได้จริงหรือไม่? ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกทุกฟังก์ชันการใช้งาน ตั้งแต่ดีไซน์ไปจนถึงประสิทธิภาพในสนามวิ่ง พร้อมวิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย และแนะนำว่ารองเท้าคู่นี้เหมาะกับนักวิ่งสายไหนที่สุด ถ้าคุณพร้อมที่จะยกระดับการวิ่งของคุณให้เหนือกว่าเดิม ห้ามพลาด!


1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: ทำความรู้จัก Adizero Adios 5

แบรนด์: Adidas
รุ่น: Adizero Adios 5
ปีที่วางจำหน่าย: ต้นปี 2020
ช่วงราคา: ประมาณ 2,800 - 6,500 บาท (ราคาอาจแตกต่างกันตามโปรโมชันและช่องทางการจำหน่าย)

การวางตำแหน่งสินค้า: จัดเป็นรองเท้าวิ่งสาย Race Flat หรือรองเท้าสำหรับทำความเร็วสูง ที่เหมาะทั้งสำหรับการซ้อมวิ่งแบบ Tempo และใช้ในการแข่งขันระยะไกล เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ต้องการความเร็วและสัมผัสพื้นถนนได้ดี

สรุปจุดเด่นหลัก:

  • เบาและกระชับ: น้ำหนักเบามาก ให้ความรู้สึกคล่องตัวสูงสุด
  • ตอบสนองดีเยี่ยม: ผสมผสานเทคโนโลยี Lightstrike และ Boost ให้การส่งคืนพลังงานที่ดีเยี่ยม
  • ยึดเกาะเหนือชั้น: พื้นรองเท้า Continental™ Rubber ให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยมในทุกสภาพผิว
  • ทนทาน: ถือว่ามีความทนทานสูงสำหรับรองเท้าสายแข่งขัน
  • ดีไซน์โฉบเฉี่ยว: รูปลักษณ์สไตล์ Racing Flat ที่ดูดุดันพร้อมลงสนาม

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก

Adizero Adios 5 มาพร้อมดีไซน์ที่เน้นความเร็วและประสิทธิภาพ ตัวรองเท้ามีรูปทรงเพรียวบางตามแบบฉบับรองเท้าแข่ง พื้นรองเท้าไม่ได้หนาเทอะทะเหมือนรองเท้าซัพพอร์ตทั่วไป แต่เน้นความกระชับและคล่องตัว

การออกแบบและวัสดุ: อัปเปอร์ใช้ผ้าตาข่ายชั้นเดียว Celermesh ที่บางเฉียบ โปร่งสบาย และระบายอากาศได้ดีเยี่ยม ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเท้า พร้อมแถบ 3 ขีดอันเป็นเอกลักษณ์ของ Adidas ส่วนของพื้นรองเท้ามีการผสมผสานระหว่างโฟม Lightstrike ที่ส่วนหน้าเท้าและ Boost ที่ส้นเท้า

ขนาดและน้ำหนัก: รองเท้ารุ่นนี้มีน้ำหนักเบามาก โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 221-231 กรัม สำหรับไซส์ US M9/UK9 ซึ่งถือเป็นน้ำหนักที่ยอดเยี่ยมสำหรับรองเท้าสายทำความเร็ว

สีที่มีให้เลือก: มีหลากหลายสีสันให้เลือก ตั้งแต่สีพื้นฐานอย่างดำ-ขาว ไปจนถึงสีสันสดใสที่สะดุดตา เพิ่มความโดดเด่นให้กับนักวิ่ง

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: โดยปกติแล้ว รองเท้าวิ่งจะไม่มีอุปกรณ์เสริมใดๆ มาให้ในกล่องนอกจากตัวรองเท้าเอง


3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก

หัวใจสำคัญของ Adizero Adios 5 คือความสามารถในการทำความเร็ว นี่คือการเจาะลึกฟังก์ชันหลักที่ส่งผลต่อประสบการณ์การวิ่ง:

การรับแรงกระแทกและการตอบสนอง: โฟม Lightstrike ที่ปลายเท้าให้ความรู้สึกที่เฟิร์มและตอบสนองได้ดีเยี่ยม ช่วยให้การดีดตัวไปข้างหน้าทำได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่เทคโนโลยี Boost บริเวณส้นเท้าช่วยเพิ่มการซัพพอร์ตและการเด้งกลับเล็กน้อยสำหรับนักวิ่งที่ลงน้ำหนักด้วยส้นเท้า การผสมผสานนี้ทำให้รองเท้ามีความสมดุลระหว่างความนุ่มนวลและความกระชับ เหมาะสำหรับการวิ่งด้วยความเร็วสูง

ความมั่นคงและการส่งตัว: ระบบ Torsion System ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ใน Adios 5 ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการลงเท้าและการส่งตัว ทำให้การเปลี่ยนผ่านจังหวะการวิ่งเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะลงน้ำหนักด้วยส้นเท้าหรือปลายเท้า รองเท้านี้ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับนักวิ่งที่ลงน้ำหนักด้วยกลางเท้าถึงปลายเท้า ซึ่งจะดึงประสิทธิภาพสูงสุดของรองเท้าคู่นี้ออกมาได้

การยึดเกาะ: พื้นชั้นนอกทำจากยาง Continental™ Rubber ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและการยึดเกาะ ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวแห้งหรือเปียก ก็ให้ความมั่นใจในการก้าวเท้า ทำให้คุณสามารถเร่งความเร็วได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการลื่นไถล

ความเบา: ด้วยน้ำหนักที่เบามาก ทำให้รู้สึกเหมือนไม่ได้สวมรองเท้า ส่งผลให้การยกเท้าทำได้ง่าย ลดภาระให้กับกล้ามเนื้อ และช่วยให้รักษาความเร็วในการวิ่งได้นานขึ้น


4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้

ความสบายในการสวมใส่: Adizero Adios 5 ให้ความรู้สึกกระชับและโอบรับรูปเท้าได้ดีเยี่ยมตั้งแต่วินาทีแรกที่สวมใส่ อัปเปอร์ผ้า Celermesh บางเบาและยืดหยุ่น ทำให้รู้สึกสบาย ไม่บีบรัด แม้จะเป็นรองเท้าที่ออกแบบมาให้กระชับก็ตาม

การระบายอากาศ: ผ้า Celermesh มีรูพรุนขนาดเล็กจำนวนมาก ทำให้การระบายอากาศเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม ช่วยลดความร้อนสะสมภายในรองเท้า ทำให้เท้าเย็นสบายตลอดการวิ่ง โดยเฉพาะในการวิ่งระยะไกลหรือในสภาพอากาศร้อน

ระบบการผูกเชือก: มาพร้อมระบบเชือกผูกรองเท้าแบบมาตรฐานที่ช่วยให้ปรับความกระชับได้ตามต้องการ ลิ้นรองเท้าบางและไม่เลื่อนไปมา ทำให้รู้สึกสบายและมั่นคง

ความยากง่ายในการปรับตัว: สำหรับนักวิ่งที่คุ้นเคยกับรองเท้าที่มีพื้นหนาและซัพพอร์ตเยอะ อาจต้องใช้เวลาปรับตัวกับ Adios 5 เล็กน้อย เนื่องจากเป็นรองเท้าที่พื้นค่อนข้างบาง และให้ความรู้สึก 'เชื่อมต่อ' กับพื้นถนนมากขึ้น แต่เมื่อปรับตัวได้แล้ว คุณจะสัมผัสได้ถึงความคล่องตัวและการตอบสนองที่แตกต่าง


5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว

สำหรับรองเท้าวิ่ง ไม่มีเรื่องแบตเตอรี่หรือพลังงาน แต่เราจะพูดถึงความทนทานและความคุ้มค่าในระยะยาวแทน

ความทนทาน: แม้จะเป็นรองเท้าสาย Racing Flat ที่เน้นน้ำหนักเบา แต่ Adizero Adios 5 กลับมีความทนทานที่น่าประทับใจ พื้นยาง Continental™ Rubber มีความแข็งแรงทนทานต่อการสึกหรอ และอัปเปอร์ Celermesh ก็แข็งแรงพอสมควรสำหรับการใช้งานหนักหน่วงในการซ้อมและแข่งขัน

อายุการใช้งาน: โดยทั่วไป รองเท้าวิ่งสาย Performance อย่าง Adios 5 คาดว่าจะมีอายุการใช้งานประมาณ 300-500 ไมล์ (ประมาณ 480-800 กิโลเมตร) ขึ้นอยู่กับสไตล์การวิ่ง น้ำหนักตัว และพื้นผิวที่วิ่งเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม จากรีวิวผู้ใช้งานหลายท่านพบว่า Adios 5 มีความทนทานเกินกว่าที่คาดไว้สำหรับรองเท้าประเภทนี้

ความคุ้มค่า: ด้วยราคาที่อยู่ในระดับกลางถึงสูงสำหรับรองเท้าวิ่ง แต่ด้วยประสิทธิภาพที่ได้มาทั้งในด้านความเร็ว การตอบสนอง และความทนทาน ทำให้ Adizero Adios 5 เป็นรองเท้าที่มอบความคุ้มค่าสูงสำหรับนักวิ่งที่จริงจังกับการทำเวลาและต้องการรองเท้าคู่ใจสำหรับวันแข่งขันหรือวันซ้อมวิ่งเร็ว


6. ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี:

  • น้ำหนักเบามาก: รู้สึกคล่องตัวสูง ช่วยให้ทำความเร็วได้ดี
  • การตอบสนองดีเยี่ยม: การผสมผสานของ Lightstrike และ Boost ให้การส่งคืนพลังงานที่ยอดเยี่ยม
  • การยึดเกาะเชื่อถือได้: พื้นยาง Continental™ Rubber ยึดเกาะได้ดีทั้งพื้นแห้งและเปียก
  • ความกระชับและมั่นคง: อัปเปอร์กระชับ โอบรับเท้าได้ดี และระบบ Torsion System ช่วยเพิ่มความมั่นคง
  • ทนทานเกินคาด: มีความทนทานสูงสำหรับรองเท้าสาย Racing

ข้อเสีย:

  • อาจไม่เหมาะกับ Heel Striker: นักวิ่งที่ลงส้นเท้าหนักมากๆ อาจรู้สึกว่าซัพพอร์ตไม่เพียงพอเท่าที่ควร
  • พื้นรองเท้าค่อนข้างบาง: อาจต้องใช้เวลาปรับตัวสำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับรองเท้าพื้นหนา
  • การซัพพอร์ตแรงกระแทก: แม้จะมี Boost แต่ก็ไม่ได้เน้นการซัพพอร์ตแบบนุ่มนวลมากนัก
  • เหมาะกับวันทำความเร็ว: ไม่ใช่รองเท้าสำหรับวิ่งสบายๆ ในทุกวัน หรือการวิ่งฟื้นฟู
  • ราคา: อาจสูงไปสำหรับนักวิ่งเริ่มต้น หรือผู้ที่ไม่ได้เน้นทำความเร็วเป็นหลัก

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ

Adizero Adios 5 เหมาะกับ:

  • นักวิ่งสาย Performance: ที่ต้องการรองเท้าสำหรับทำความเร็ว ทำ Tempo Run หรือใช้ในการแข่งขันระยะกลางถึงระยะมาราธอน
  • นักวิ่งที่มีฟอร์มการวิ่งดี: โดยเฉพาะผู้ที่ลงน้ำหนักด้วยกลางเท้าถึงปลายเท้า จะดึงประสิทธิภาพของรองเท้าออกมาได้เต็มที่
  • นักวิ่งที่ชอบสัมผัสพื้นถนน: และต้องการความคล่องตัวสูง ไม่ชอบความรู้สึกจมลงไปในรองเท้า
  • ผู้ที่มองหารองเท้าคู่ใจสำหรับลงแข่ง: ที่ให้ความรู้สึกกระชับ มั่นคง และตอบสนองได้รวดเร็ว

ไม่เหมาะกับ:

  • นักวิ่งเริ่มต้นที่ยังไม่มีฟอร์มการวิ่งที่มั่นคง หรือผู้ที่ต้องการรองเท้าที่มีการซัพพอร์ตแรงกระแทกสูงมากๆ สำหรับวิ่งสบายๆ ทุกวัน
  • นักวิ่งที่ต้องการความนุ่มนวลสูงสุด หรือรองเท้าที่ช่วยประหยัดแรงในระยะอัลตร้ามาราธอน

ควรซื้อเลยไหม?

หากคุณคือนักวิ่งที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายที่กล่าวมา และกำลังมองหารองเท้าที่จะช่วยให้คุณทำลายสถิติส่วนตัว Adizero Adios 5 ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมและน่าลงทุนอย่างยิ่ง

เนื่องจากเป็นรุ่นที่วางจำหน่ายมาพักใหญ่แล้ว คุณอาจมีโอกาสพบกับโปรโมชั่นหรือส่วนลดพิเศษ ทำให้ได้รองเท้าคุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่ากว่าเดิม แนะนำให้ติดตามโปรโมชั่นจากร้านค้าออนไลน์และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างใกล้ชิด


8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน

เทียบกับรุ่นอื่นในตระกูล Adizero:

  • Adizero Adios 6/7/8: รุ่นต่อๆ มาของ Adios ได้มีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีโฟมและดีไซน์บางส่วน โดย Adios 5 เป็นรุ่นแรกๆ ที่ใช้ Lightstrike ร่วมกับ Boost รุ่นใหม่ๆ อาจมีการปรับความหนาของพื้นและโฟมให้แตกต่างกันไป หากคุณชอบความรู้สึกแบบดั้งเดิมของ Adios ที่เน้นความเร็วและความกระชับ Adios 5 ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่ารุ่นใหม่ๆ
  • Adizero Adios Pro: สำหรับนักวิ่งที่ต้องการรองเท้าแข่งขันระดับท็อปสุดพร้อมแผ่นคาร์บอนเพลทเพื่อการส่งคืนพลังงานสูงสุด Adios Pro จะให้ประสบการณ์ที่แตกต่างและเน้นการทำลายสถิติโดยเฉพาะ Adios 5 จะเป็นรองเท้าที่ให้ความรู้สึกเชื่อมต่อกับพื้นถนนมากกว่า และอาจเหมาะกับการซ้อม Tempo มากกว่า

เทียบกับแบรนด์อื่นที่ราคาใกล้เคียง:

  • รองเท้าวิ่งสาย Race Flat จากแบรนด์อื่น เช่น Saucony Kinvara หรือ Brooks Hyperion Tempo อาจเป็นคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน Adios 5 โดดเด่นด้วยการผสมผสาน Boost และ Lightstrike รวมถึงพื้น Continental™ Rubber ที่ให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยม

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ

การรับประกัน: สินค้า Adidas โดยทั่วไปมีการรับประกันตามนโยบายของแบรนด์ และสามารถเคลมได้ผ่านศูนย์บริการหรือตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย

ช่องทางการซื้อ: คุณสามารถหารองเท้า Adidas Adizero Adios 5 ได้จาก:

  • ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของ Adidas: มักจะมีสินค้าครบถ้วนและโปรโมชั่นพิเศษเป็นครั้งคราว
  • แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ: เช่น Lazada, Shopee มักจะมีร้านค้าทางการของ Adidas หรือตัวแทนจำหน่ายร่วมอยู่ ซึ่งเป็นแหล่งรวมโปรโมชั่น ส่วนลด โค้ดส่งฟรี และตัวเลือกการผ่อนชำระ
  • ร้านค้าอุปกรณ์วิ่งเฉพาะทาง: เช่น Ari Running หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายใหญ่ๆ ที่มักจะมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำและสามารถให้ลองสวมใส่ได้ก่อนตัดสินใจ

โปรโมชั่นและข้อเสนอ: เนื่องจากเป็นรุ่นที่ออกมาสักระยะแล้ว คุณอาจพบกับส่วนลดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหรือแคมเปญลดราคาใหญ่ๆ ซึ่งอาจลดราคาลงมาค่อนข้างมากจากราคาเปิดตัว

การจัดส่ง: การสั่งซื้อออนไลน์มักมีตัวเลือกการจัดส่งที่รวดเร็ว โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่


10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ

จากทั้งหมดที่กล่าวมา Adidas Adizero Adios 5 คือรองเท้าที่ "แนะนำให้ซื้อ" สำหรับนักวิ่งที่ชัดเจนในเป้าหมาย นั่นคือการทำความเร็วและลงแข่งขัน หากคุณเป็นนักวิ่งที่กำลังมองหาเครื่องมือที่จะช่วยผลักดันขีดจำกัดความเร็วของคุณ รองเท้าคู่นี้จะไม่ทำให้ผิดหวัง

คำแนะนำเฉพาะ:

  • สำหรับนักวิ่งจริงจังที่เน้นทำเวลา: Adios 5 คือคู่หูที่ยอดเยี่ยมสำหรับการซ้อม Tempo และ Race Day ด้วยน้ำหนักที่เบา การตอบสนองที่ฉับไว และการยึดเกาะที่ไว้ใจได้
  • สำหรับผู้ที่งบประมาณจำกัดและมองหารองเท้า Race Flat คุณภาพดี: การที่ Adios 5 เป็นรุ่นที่ออกมาแล้ว ทำให้ราคาอยู่ในช่วงที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และยังคงมอบประสิทธิภาพในระดับสูง
  • สำหรับผู้ที่เคยใช้ Adios รุ่นก่อนๆ และชื่นชอบฟิลลิ่งเดิม: Adios 5 ยังคงรักษากลิ่นอายความเป็น Adios ได้ดี พร้อมการอัปเกรดที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นนักวิ่งสายสบายๆ เน้นซัพพอร์ตสูงสุดสำหรับการวิ่งประจำวัน Adios 5 อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ถ้าคุณพร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์ความเร็วและการเชื่อมต่อกับพื้นถนนอย่างแท้จริง Adizero Adios 5 คือรองเท้าที่คุณไม่ควรมองข้าม!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องรองเท้าวิ่งในตำนานที่ถึงจะเก่าแต่ก็เก๋า แถมยังฮิตตลอดกาล นั่นก็คือ Nike Flyknit Racer นั่นเอง! ใครที่กำลังมองหารองเท้าที่เบาเหมือนไม่ได้ใส่ ดีไซน์เท่ๆ ใส่วิ่งก็ได้ ใส่เดินก็ดี มามุงทางนี้เลยจ้า
Flyknit Racer ราคาล่าสุด ปี 2568 รีวิวรองเท้าวิ่งในตำนานที่ยังคงฮิตตลอดกาล
สวัสดีค่าทุกคน! วันนี้นะคะ เราจะมารีวิวรองเท้าวิ่งตัวเด็ดจาก Reebok ที่ชื่อว่า Reebok ZPump Fusion กันค่ะ บอกเลยว่านวัตกรรมเค้าล้ำจริงๆ ปรับความกระชับได้ดั่งใจ แถมยังดีไซน์สวยใส่ออกกำลังกายได้ทุกแบบ มาดูกันเลยว่าเจ้าตัวนี้มีอะไรดี!1. Reebok
รีวิวรองเท้าวิ่ง Reebok ZPump Fusion นวัตกรรมสุดล้ำที่ปรับความกระชับได้ดั่งใจ
ถ้าพูดถึงรองเท้า Reebok Sublite Legend หลายคนอาจนึกถึงรองเท้าที่เน้นความสบายและน้ำหนักเบา แต่สำหรับรองเท้ารุ่นนี้ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการทำงานที่มีความคล่องตัว คำถามคือ คุณสมบัติเหล่านี้จะเพียงพอต่อการนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั่งเป็น
รีวิว Reebok Sublite Legend รองเท้าวิ่งน้ำหนักเบา ใส่สบาย คุ้มค่าตัวมั้ย

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

กำลังมองหาที่พักในเชียงใหม่ที่เดินทางสะดวกสบาย อยู่ใจกลางเมืองเก่า และราคาดีอยู่ใช่ไหม? โรงแรมรอยัล พรรณราย เชียงใหม่ อาจเป็นคำตอบที่คุณตามหา! ในบทความนี้ เราจะพาคุณเจาะลึกทุกซอกทุกมุมของโรงแรมแห่งนี้ ตั้งแต่ห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวก ไปจนถ
รีวิวโรงแรม รอยัล พรรณราย เชียงใหม่ ที่พักใจกลางเมืองเก่า เดินทางสะดวก
กำลังมองหาทีวีใหม่ที่ให้ภาพสวยคมชัด เสียงกระหึ่มเหมือนโรงหนัง แต่ราคาไม่แรงเกินไปอยู่ใช่ไหม? วันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึก LG 55SK8000PTA ทีวี 4K Super UHD ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Nano Cell Display อันเป็นเอกลักษณ์ของ LG ที่เคยสร้างความฮือฮาเมื่อ
รีวิวทีวี LG 55SK8000PTA Nano Cell Display 4K ภาพสวยเสียงดี คุ้มค่ามั้ย
เบื่อไหมกับใต้ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า? นอนดึกตาบวมจนเพื่อนทัก? ถ้าคุณกำลังมองหาตัวช่วยกอบกู้ใต้ตาให้กลับมาสดใส มีชีวิตชีวาอีกครั้ง บทความนี้มีคำตอบ! วันนี้เราจะพามารีวิวเจาะลึก Origins Ginzing Eye Cream อายครีมตัวดังที่ใครๆ ก็พูดถึง ว่าจะช่วยลด
รีวิว Origins Ginzing Eye Cream อายครีมลดบวมและความหมองคล้ำรอบดวงตา

บทความที่แนะนำ