ราคา ย้ายแอร์ ติดตั้งใหม่ คิดค่าบริการเท่าไหร่? จ้างช่างอย่างไรให้ไม่โดนโกง?


สวัสดีจ้าชาวโลกที่กำลังประสบปัญหาอากาศร้อนตับแตก แล้วอยากให้แอร์เย็นฉ่ำเหมือนอยู่ในขั้วโลกเหนือ! วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องค่าใช้จ่ายในการย้ายแอร์ ติดตั้งใหม่ หรือจะถอดไปเก็บ ไปไหนต่อไหน ที่สำคัญคือ จะทำยังไงถึงจะไม่โดนช่างฟันหัวแบะ! เตรียมปากกา กระดาษ เอ้ย! เตรียมใจให้พร้อม แล้วมาดูกันเล้ยยย!
1. บริการย้ายแอร์ ติดตั้งใหม่ คืออะไร? ใครต้องใช้บ้าง?
พูดง่ายๆ บริการนี้ก็คือการพาเจ้าเครื่องทำความเย็นของเราเนี่ย ย้ายถิ่นฐานจากที่เก่าไปอยู่ที่ใหม่นั่นแหละ! ไม่ว่าจะเพิ่งซื้อแอร์มือสองมาแล้วอยากเอามาติดที่บ้านใหม่ ย้ายบ้านใหม่แล้วต้องเอาแอร์เก่าไปด้วย หรือบางทีก็แค่อยากปรับฮวงจุ้ยห้อง เปลี่ยนตำแหน่งแอร์ให้ชีวิตปังขึ้น (อันนี้คิดเองนะ 555) บริการนี้ก็ตอบโจทย์จ้า
การย้ายแอร์ไม่ใช่แค่ยกไปตั้งเฉยๆ นะจ๊ะ มันต้องมีกระบวนการทางเทคนิค มีการถอดอย่างถูกต้อง เก็บน้ำยาแอร์ เดินท่อน้ำยา เดินสายไฟ ติดตั้งคอยล์เย็น (ตัวในบ้าน) และคอยล์ร้อน (ตัวนอกบ้าน) ให้ถูกตำแหน่ง แถมยังต้องแวคคั่มระบบ (ดึงอากาศและความชื้นออกจากระบบ) และเติมน้ำยาแอร์ให้พอดี ซึ่งพวกนี้ต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญและมีอุปกรณ์เฉพาะทางนะจ๊ะ ทำเองมั่วๆ อาจจะพังเอาง่ายๆ เลย
สรุปคือ ใครที่อยากให้แอร์ที่รักไปอยู่บ้านใหม่ หรือเพิ่งได้แอร์ใหม่ (หรือเก่า) มาแล้วอยากให้มันทำงานได้ดี ก็ต้องพึ่งบริการนี้แหละจ้า
2. ราคาค่าบริการในตลาดไทยประมาณเท่าไหร่กันนะ?
มาถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่ทุกคนอยากรู้! ค่าบริการย้ายแอร์ ติดตั้งใหม่เนี่ย ราคาไม่นิ่งเหมือนทองคำนะจ๊ะ มันมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ราคาแตกต่างกันไป๊~
- ขนาด BTU ของแอร์: แอร์ BTU สูง (ตัวใหญ่ เย็นมาก) ค่าบริการก็จะแพงกว่าแอร์ BTU ต่ำ (ตัวเล็ก เย็นน้อย) เป็นเรื่องปกติ
- ประเภทของบริการ: ถอดอย่างเดียว ติดตั้งใหม่อย่างเดียว หรือถอดแล้วไปติดตั้งที่ใหม่เลย ราคาจะไม่เท่ากัน บริการแบบย้ายครบวงจร (ถอด-ขนย้าย-ติดตั้ง) มักจะมีราคาสูงที่สุด
- ความยากง่ายของหน้างาน: ติดตั้งชั้น 1 ติดตั้งชั้นสูงๆ ต้องใช้บันไดปีนป่าย หรือต้องตั้งนั่งร้าน ค่าบริการก็จะเพิ่มขึ้นไปอี๊ก การเดินท่อไกลๆ ซับซ้อน หรือต้องฝังท่อในผนังก็มีค่าใช้จ่ายส่วนเกิน
- ระยะทางในการขนย้าย: ถ้าถอดที่นึงไปติดอีกที่นึง ไกลๆ ก็อาจมีค่าขนย้ายเพิ่มนะจ๊ะ
ลองมาดูราคาคร่าวๆ ที่เจอบ่อยๆ ในตลาด (อัปเดตปี 2568) นะจ๊ะ:
- ค่าถอดแอร์อย่างเดียว: เริ่มต้นประมาณ 800 - 1,500 บาท (฿) ขึ้นอยู่กับขนาด BTU และความยากของหน้างาน
- ค่าติดตั้งแอร์ใหม่ (ที่เรามีเครื่องอยู่แล้ว): เริ่มต้นประมาณ 3,000 - 4,500 บาท (฿) สำหรับแอร์ติดผนัง BTU ไม่สูงมาก ราคานี้มักจะรวมอุปกรณ์มาตรฐานบางอย่างแล้ว
- ค่าย้ายแอร์ (ถอด+ติดตั้งที่ใหม่): เริ่มต้นประมาณ 4,500 บาท (฿) ขึ้นไป ยิ่ง BTU สูง ยิ่งแพง
ช่องทางการหาช่าง: ราคาก็แตกต่างไปตามแหล่งด้วยนะ
- ช่างอิสระ/ร้านแอร์เล็กๆ: อาจจะเสนอราคาถูกกว่าบริษัทใหญ่ๆ แต่ต้องดูที่ความน่าเชื่อถือและประสบการณ์นะ
- บริษัทรับติดตั้งแอร์โดยเฉพาะ: ราคาอาจจะสูงหน่อย แต่ส่วนใหญ่มักจะมีความเป็นมืออาชีพ มีการรับประกันงาน
- แพลตฟอร์มออนไลน์หาช่าง: มีตัวเลือกเยอะ สามารถเปรียบเทียบราคาและอ่านรีวิวได้
ข้อควรรู้: ราคาที่เห็นตามโฆษณา มักจะเป็นราคาเริ่มต้น อย่าเพิ่งดีใจไปจนกว่าช่างจะประเมินหน้างานจริงนะจ๊ะ!
3. ย้ายแอร์เก่า หรือ ซื้อแอร์ใหม่ อันไหนคุ้มกว่ากัน?
คำถามโลกแตก! จะย้ายแอร์เครื่องเก่าที่อยู่มานาน หรือกัดฟันซื้อเครื่องใหม่ดีกว่ากันนะ? อันนี้ต้องชั่งใจดูหลายๆ อย่างจ้า
- สภาพแอร์เก่า: ถ้าแอร์เก่าเพิ่งซื้อมาไม่นาน สภาพยังดี ไม่มีปัญหาจุกจิก การย้ายก็เป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า เพราะเสียแค่ค่าบริการย้าย ไม่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ซื้อเครื่องใหม่
- อายุของแอร์เก่า: ถ้าแอร์เก่าอายุเกิน 7-10 ปีแล้ว แถมเริ่มมีอาการงอแง กินไฟเยอะ ซ่อมบ่อยๆ การย้ายไปอาจจะไม่ค่อยคุ้มนะจ๊ะ เพราะไหนจะค่าไฟที่พุ่งกระฉูด ไหนจะค่าซ่อมในอนาคต บางทีซื้อเครื่องใหม่ที่ประหยัดไฟมากกว่า มีเทคโนโลยีใหม่ๆ อาจจะดีกว่าในระยะยาว
- ค่าบริการย้ายเทียบกับราคาแอร์ใหม่: ลองเอาค่าบริการย้ายแอร์มาเทียบกับราคาแอร์ใหม่ BTU ใกล้เคียงกันดู ถ้าค่าบริการย้ายแพงเกือบเท่าซื้อใหม่ ก็คิดหนักๆ เลยนะ
สำหรับบางเคส โดยเฉพาะแอร์เก่าที่อายุเยอะแล้ว การซื้อแอร์ใหม่พร้อมติดตั้งจากร้าน อาจจะมีโปรโมชั่นที่ดีกว่า ทั้งลดราคาเครื่อง ฟรีค่าติดตั้ง หรือแถมประกันยาวๆ ซึ่งอาจจะคุ้มค่ากว่าในภาพรวมจ้า
4. ค่าบริการที่จ่ายไป รวมอะไรบ้าง? มีอะไรต้องจ่ายเพิ่มอีก?
เวลาคุยกับช่าง ต้องถามรายละเอียดให้ชัดๆ ว่าค่าบริการที่เสนอมานั้นครอบคลุมอะไรบ้างนะจ๊ะ ไม่งั้นอาจจะมีค่าใช้จ่ายงอกออกมาจนหงายหลังได้!
สิ่งที่มักจะรวมอยู่ในค่าติดตั้งมาตรฐาน (แต่ก็ต้องยืนยันกับช่างนะ!) ได้แก่:
- ค่าแรงช่าง
- ท่อน้ำยาแอร์ ส่วนใหญ่มักจะให้มา 4 เมตรแรก
- สายไฟ ส่วนใหญ่มักจะให้มา 10 เมตรแรก บางที่ให้ 8 เมตร
- ท่อน้ำทิ้ง ส่วนใหญ่มักจะให้มา 5-10 เมตร
- เบรกเกอร์ 1 ชุด
- ยางรองขา/ขาตั้งคอยล์ร้อนแบบมาตรฐาน
- การแวคคั่มระบบและเติมน้ำยาแอร์ (อันนี้สำคัญมาก!)
ส่วนสิ่งที่อาจจะต้องจ่ายเพิ่ม หรือเป็นค่าใช้จ่ายส่วนเกิน ได้แก่:
- ท่อน้ำยา/สายไฟ/ท่อน้ำทิ้ง ส่วนที่เกินจากระยะมาตรฐาน: คิดเป็นเมตรๆ ไป ราคาแตกต่างกันตามขนาด BTU และประเภทท่อ
- รางครอบท่อ: ถ้าอยากให้งานเรียบร้อย สวยงาม ไม่เห็นท่อเปลือยๆ ก็ต้องใช้รางครอบท่อ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม คิดเป็นเมตรและมีค่าข้อต่อต่างๆ
- ขาแขวนคอยล์ร้อนแบบพิเศษ: เช่น แบบที่ต้องยึดกับผนัง หรือแบบกระเช้า มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
- งานเจาะพิเศษ: เช่น เจาะผนังหนาๆ, เจาะฝังท่อในผนัง, เจาะคาน
- ค่ายก/ตั้งนั่งร้าน: ถ้าจุดติดตั้งอยู่สูง ปีนยาก
- ค่าขนย้าย (ถ้ามี): คิดตามระยะทาง
- ค่าล้างแอร์ก่อนติดตั้ง (ถ้าจำเป็น): บางทีช่างอาจแนะนำให้ล้างทำความสะอาดคอยล์เย็น/คอยล์ร้อนก่อนติดตั้งใหม่ มีค่าบริการเพิ่ม
เรื่องการรับประกันงานติดตั้ง คนไทยอย่างเราเน้นมาก! ส่วนใหญ่มักจะมีการรับประกันระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 30-90 วัน สำหรับปัญหาที่เกิดจากการติดตั้ง ต้องสอบถามให้ชัดเจนว่าครอบคลุมอะไรบ้างนะจ๊ะ
5. มีโปรโมชั่นตอนไหน น่าจ้างช่างที่สุด?
ถ้าไม่รีบมาก การรอช่วงโปรโมชั่นก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยประหยัดได้นะ!
- ช่วงหน้าร้อน: ปกติหน้าร้อนคนจะเรียกใช้บริการช่างแอร์เยอะมาก อาจจะหาคิวยาก และราคาอาจจะสูงขึ้น แต่บางทีร้านค้าหรือบริษัทใหญ่ๆ ก็อาจจะจัดโปรโมชั่นแข่งกันในช่วงนี้ก็ได้นะ ลองเช็คดูดีๆ
- ช่วงนอกฤดูร้อน: ปลายฝน ต้นหนาว หรือช่วงอากาศเย็นๆ ช่างอาจจะมีคิวว่างเยอะกว่า อาจจะมีโปรโมชั่นลดราคา หรือต่อรองง่ายขึ้น
- เทศกาล Double Digit Sale (11.11, 12.12): แม้จะเป็นบริการ แต่บางแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือร้านค้าที่เข้าร่วม ก็อาจจะมีโค้ดส่วนลดสำหรับบริการติดตั้ง หรือมีโปรโมชั่นร่วมกับร้านแอร์ ลองส่องๆ ดูใน Lazada, Shopee ก็ได้นะ
- โปรโมชั่นร่วมกับร้านค้า/แบรนด์แอร์: บางทีซื้อแอร์ใหม่จากร้านตัวแทนจำหน่าย อาจจะมีแพ็กเกจติดตั้งราคาพิเศษ หรือติดตั้งฟรีสำหรับ BTU ที่กำหนด
คำแนะนำ: ถ้าวางแผนจะย้าย/ติดตั้งแอร์ ควรติดต่อสอบถามล่วงหน้านะจ๊ะ โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน คิวช่างเต็มเร็วมาก! การเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ที่ในช่วงที่มีโปรโมชั่น จะช่วยให้ได้ราคาที่ดีที่สุดจ้า
6. ผู้ใช้บริการในไทย เค้าว่ายังไงกันบ้างนะ?
ไปแอบส่องรีวิวตามเว็บบอร์ด Pantip หรือตามเพจรีวิวบริการต่างๆ จะเห็นประสบการณ์หลากหลายเลยนะจ๊ะ (อ้างอิงจากประสบการณ์ทั่วไปที่พบ ไม่ใช่จากแหล่งที่มาที่ระบุ)
ประสบการณ์ดีๆ ที่คนชอบ:
- ช่างมาตรงเวลา/นัดแล้วไม่เบี้ยว: อันนี้สำคัญมาก!
- ทำงานเรียบร้อย สะอาด: ไม่ทิ้งฝุ่น ทิ้งรอย เเก็บกวาดให้หลังทำงานเสร็จ
- อธิบายขั้นตอนชัดเจน: บอกว่าจะทำอะไรบ้าง ใช้อุปกรณ์อะไร ถ้ามีค่าใช้จ่ายส่วนเกินก็แจ้งก่อน
- ไม่ย้อมแมว ไม่โกง: อันนี้คือที่สุด! ไม่มั่วว่าน้ำยาแอร์ขาด (ถ้าไม่รั่วจริง) ไม่เปลี่ยนอะไหล่เกินจำเป็น
- ทำงานเร็ว แต่คุณภาพดี: ไม่ยืดเยื้อ เสียเวลา
- บริการหลังการติดตั้งดี: ถ้ามีปัญหาจากการติดตั้ง กลับมาดูให้เร็ว
ประสบการณ์ชวนปวดหัวที่คนเจอแล้วเซ็ง:
- ช่างมาสาย หรือเบี้ยวนัด: เสียเวลา เสียอารมณ์
- คิดค่าใช้จ่ายจุกจิก: พอมาถึงหน้างาน ค่าโน่นค่านี่งอกเต็มไปหมด
- มั่วเรื่องน้ำยาแอร์: ชอบบอกว่าน้ำยาขาด ต้องเติม ทั้งที่จริงๆ อาจจะไม่ขาด หรือถ้ารั่วจริงก็ไม่ยอมหาจุดรั่ว อุดให้
- เชียร์ให้เปลี่ยนอะไหล่เกินจำเป็น: อาการเล็กน้อย แต่บอกว่าต้องเปลี่ยนชิ้นใหญ่ๆ แพงๆ
- ทำงานไม่เรียบร้อย: ทิ้งรอยเลอะเทอะ ท่อน้ำยาเบี้ยวๆ บูดๆ เก็บงานไม่เรียบร้อย
- ไม่มีการรับประกัน หรือติดต่อยากหลังติดตั้ง: พอมีปัญหา โทรไปไม่รับ หายเงียบ
คนไทยเน้นเรื่องความซื่อสัตย์ ความเป็นมืออาชีพ และบริการหลังการขายที่ดีนะจ๊ะ ถ้าเจอช่างดีๆ นี่บอกต่อยาวๆ เลย!
7. จะจ้างช่างที่ไหนดี ให้สบายใจ ไม่โดนโกง?
การเลือกช่างนี่เหมือนการเสี่ยงดวง แต่เรามีวิธีลดความเสี่ยงนะจ๊ะ!
- ศูนย์บริการ/ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์แอร์: ส่วนใหญ่มักจะมีช่างที่ได้มาตรฐาน มีการอบรมจากแบรนด์ มีการรับประกันงานที่ชัดเจน แต่อาจจะมีราคาสูงกว่าที่อื่น
- บริษัทรับติดตั้งแอร์ที่มีชื่อเสียง: หาข้อมูลบริษัทที่น่าเชื่อถือ ดูรีวิวจากลูกค้าเก่าๆ มีเว็บไซต์ มีเบอร์โทรติดต่อชัดเจน มีหน้าร้าน (ถ้ามี) มักจะมีทีมช่างที่เป็นมืออาชีพ มีมาตรฐานการทำงาน
- แพลตฟอร์มหาช่างออนไลน์: เช่น Fastwork หรือแอปฯ หาช่างต่างๆ ข้อดีคือมีโปรไฟล์ช่าง มีรีวิวจากผู้ใช้จริงให้ดูเยอะ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีระบบตัวกลางในการจ่ายเงิน ช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็ต้องดูรีวิวดีๆ เลือกช่างที่มีประสบการณ์และคะแนนรีวิวสูงๆ นะจ๊ะ
- ร้านแอร์แถวบ้าน/ช่างที่คนรู้จักแนะนำ: ถ้ามีคนรู้จักที่เคยใช้บริการแล้วบอกว่าดี อันนี้ก็เป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจนะ บางทีอาจจะได้ช่างที่คุยง่าย ราคาไม่แพง และรู้จักพื้นที่ดี
คำแนะนำเพิ่มเติมในการเลือกช่าง:
- ขอใบเสนอราคาก่อน: ให้ช่างมาดูหน้างาน ประเมินค่าใช้จ่าย และออกใบเสนอราคาที่เป็นลายลักษณ์อักษร ระบุรายละเอียดงานและสิ่งที่รวมอยู่ในราคาให้ชัดเจน
- สอบถามเรื่องการรับประกัน: ถามให้เคลียร์ว่ารับประกันงานติดตั้งนานแค่ไหน ครอบคลุมอะไรบ้าง
- อย่าเพิ่งตัดสินใจทันที: ถ้าช่างเสนอให้ซ่อมใหญ่ หรือมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินเยอะๆ ลองขอเวลาตัดสินใจ แล้วลองเรียกช่างเจ้าอื่นมาประเมินอีกที (Second Opinion)
- เฝ้าดูการทำงานของช่าง: ถ้ามีเวลา ควรอยู่ดูช่างทำงานด้วย โดยเฉพาะตอนที่ช่างยุ่งกับระบบน้ำยาแอร์ หรือตอนเปลี่ยนอะไหล่ ถามคำถามได้ แต่อย่าไปรบกวนการทำงานของช่างจนเกินไปนะ
- ขออะไหล่เก่าคืน: ถ้ามีการเปลี่ยนอะไหล่ ให้ขออะไหล่เก่าคืนทุกครั้ง เพื่อป้องกันการย้อมแมว
8. สรุปแล้ว ค่าย้ายแอร์ ติดตั้งใหม่ ราคาคุ้มไหม? ใครเหมาะกับบริการนี้?
สรุปแล้ว ค่าบริการย้ายแอร์ ติดตั้งใหม่เนี่ย มีราคาที่หลากหลายมากๆ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย สิ่งสำคัญคือการหาข้อมูล เปรียบเทียบราคา และเลือกช่างที่ไว้ใจได้ เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพในราคาที่สมเหตุสมผล
บริการนี้คุ้มค่าสำหรับ:
- คนที่เพิ่งย้ายบ้าน แล้วอยากเอาแอร์เครื่องเดิมไปด้วย
- คนที่ซื้อแอร์มือสองมา ในราคาที่ถูกกว่าซื้อใหม่มากๆ
- คนที่ต้องการปรับเปลี่ยนตำแหน่งแอร์ในห้อง โดยที่แอร์เครื่องเดิมยังสภาพดีอยู่
แต่ถ้าแอร์เก่าอายุเยอะมาก กินไฟ ซ่อมบ่อย บางทีการยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อซื้อแอร์ใหม่ที่ประหยัดไฟกว่า และมีเทคโนโลยีที่ดีกว่า อาจจะคุ้มค่ากว่าในระยะยาวนะจ๊ะ
เคล็ดลับสุดท้ายเพื่อไม่ให้โดนโกง: อย่าเชื่อทุกอย่างที่ช่างบอกในครั้งแรก ถามเยอะๆ เปรียบเทียบหลายๆ เจ้า ขอใบเสนอราคาเป็นลายลักษณ์อักษร และถ้าเป็นไปได้ ให้คนที่มีความรู้เรื่องแอร์ช่วยดูด้วย หรืออย่างน้อยก็หาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับอาการเสีย หรือค่าบริการมาตรฐานไว้บ้างนะจ๊ะ!
ขอให้ทุกคนได้ช่างดีๆ ย้ายแอร์ ติดตั้งใหม่แล้วเย็นฉ่ำสบายใจ ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดกันนะจ๊ะ! โชคดีในการหาช่างจ้า!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
นาฬิกา Patek Philippe Twenty 4 ราคาล่าสุด รุ่นยอดฮิต
ราคา Dyson V10 Absolute: เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย คุ้มค่าการลงทุนไหม
ราคา Johnnie Walker Platinum Label ล่าสุด (อัปเดตปี 2025)
ราคา iPhone XS Max ล่าสุดจาก Dtac: พร้อมโปรโมชั่นผ่อนสบาย
ราคา Peugeot 3008 ในไทย: SUV สไตล์ยุโรป ไม่เหมือนใคร
Vivo V23 5G ราคาเท่าไหร่?: สเปกกล้องหน้าเทพ ถ่ายเซลฟี่สวย