ราคา CMM Mitutoyo (เครื่องวัดพิกัด 3 มิติ): รุ่นมือสอง สภาพดี ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่?

สวัสดีครับพี่น้องชาวโรงงาน ชาวฝ่าย QC และทุกคนที่กำลังมองหาเครื่องมือวัดตัวเทพ! วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องเครื่องวัดที่หลายคนในวงการอุตสาหกรรมต้องรู้จัก นั่นก็คือ CMM Mitutoyo มือสอง หรือ เครื่องวัดพิกัด 3 มิติ นั่นเองครับ บอกเลยว่าเจ้านี่ไม่ใช่ของเล่นนะครับ แต่เป็นเครื่องมือระดับโปรที่ช่วยให้งานวัดชิ้นงานของคุณเป๊ะ ปัง อลังเวอร์!

1. เจ้านี่มันคืออะไรกันนะ? เหมาะกับใครบ้าง?

เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับ CMM (Coordinate Measuring Machine) กันก่อน มันคือเครื่องมือวัดที่สามารถวัดขนาดและรูปร่างของชิ้นงานได้อย่างละเอียดแม่นยำในแบบ 3 มิติ ทั้งแกน X, Y และ Z. นึกภาพตามง่ายๆ เหมือนมีแขนกลที่ติดหัววัดเล็กๆ คอยจิ้มไปตามจุดต่างๆ บนชิ้นงาน แล้วบันทึกพิกัดของจุดนั้นๆ ลงคอมพิวเตอร์ จากนั้นซอฟต์แวร์สุดฉลาดก็จะคำนวณออกมาเป็นขนาด ระยะห่าง ความเที่ยงตรงต่างๆ ได้อย่างแม่นยำในระดับไมครอนเลยทีเดียว.

แล้วใครล่ะที่เหมาะกับเจ้าเครื่องนี้? บอกเลยว่าหลักๆ คือคนที่ทำงานในวงการ อุตสาหกรรม ครับ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนต่างๆ, ฝ่ายควบคุมคุณภาพ (QC), ห้องแล็บสอบเทียบ, หรือแม้แต่บริษัทที่รับทำแม่พิมพ์ครับ ถ้างานของคุณต้องการความเป๊ะของขนาดและรูปร่าง ไม่สามารถใช้เวอร์เนียร์ ไมโครมิเตอร์ หรือเครื่องมือวัดพื้นฐานทั่วไปได้ เจ้า CMM นี่แหละคือคำตอบ. ยิ่งถ้าชิ้นงานมีความซับซ้อนมากๆ CMM ยิ่งจำเป็นเลยครับ.

ส่วนแบรนด์ Mitutoyo เนี่ย ต้องบอกว่าดังระดับโลกครับ เป็นแบรนด์เก่าแก่จากญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญด้านเครื่องมือวัดมานานมากๆ คุณภาพเชื่อถือได้ ความแม่นยำสูง ชื่อนี้ติดหูคนในวงการมานานแล้วครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพเลย

2. ราคา Mitutoyo CMM มือสองในไทย สภาพดี เริ่มต้นเท่าไหร่?

มาถึงเรื่องที่หลายคนอยากรู้! สำหรับราคา Mitutoyo CMM มือสอง ในตลาดไทยเนี่ย ต้องบอกว่ามีความหลากหลายมากๆ ครับ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยสุดๆ ทั้งรุ่น ปีที่ผลิต ขนาดพื้นที่การวัด (X, Y, Z), สภาพเครื่อง, ซอฟต์แวร์ที่ติดมา, หัววัด (Probe) ที่มีให้ และประวัติการดูแลรักษาครับ.

โดยทั่วไปแล้ว ราคาเริ่มต้นของ CMM Mitutoyo มือสอง สภาพดีๆ ในไทย อาจจะพอหาได้ตั้งแต่ หลักแสนบาทต้นๆ ไปจนถึงหลายล้านบาท เลยทีเดียวครับ. รุ่นเก่าๆ หน่อย ขนาดไม่ใหญ่มาก อาจจะเริ่มต้นที่ราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น แต่ถ้ารุ่นใหม่ขึ้นมาหน่อย มีฟังก์ชันเยอะขึ้น ขนาดใหญ่ขึ้น ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยครับ.

แหล่งที่พอจะส่องหาราคาได้ ไม่ใช่ Lazada หรือ Shopee แบบกล้องถ่ายรูปนะครับ แต่จะเป็นแหล่งที่เฉพาะทางมากกว่า เช่น เว็บไซต์ของบริษัทที่นำเข้าหรือขายเครื่องมือวัดอุตสาหกรรมมือสองโดยเฉพาะ, กลุ่มซื้อขายเครื่องจักรมือสองในโซเชียลมีเดีย, หรือเว็บไซต์ประมูลเครื่องจักรอุตสาหกรรมครับ. บางทีอาจจะต้องติดต่อไปสอบถามราคาโดยตรงกับผู้ขายเลยครับ เพราะราคาอาจจะไม่ได้ลงประกาศไว้ชัดเจนทุกตัว.

เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนก็มีผลอยู่บ้างครับ ถ้าเครื่องนำเข้ามาจากต่างประเทศโดยตรง ราคาตั้งต้นก็จะอิงตามค่าเงินของประเทศนั้นๆ แล้วค่อยมาคิดเป็นเงินบาทไทย แต่ส่วนใหญ่ผู้ขายในไทยจะตั้งราคาเป็นเงินบาทไว้แล้วครับ

3. เทียบราคากับแบรนด์อื่นเป็นยังไง?

ในตลาดเครื่องวัดพิกัด 3 มิติ ไม่ได้มีแค่ Mitutoyo แบรนด์เดียวครับ ยังมีแบรนด์ดังอื่นๆ เช่น Hexagon (ซึ่งรวมหลายแบรนด์ย่อย), Carl Zeiss, หรือแบรนด์จากฝั่งยุโรปอีกหลายเจ้าครับ.

เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในสเปกใกล้เคียงกัน Mitutoyo ถือเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านความน่าเชื่อถือและความแม่นยำครับ. ราคาเครื่องใหม่ของ Mitutoyo อาจจะอยู่ในระดับกลางๆ ถึงสูงเมื่อเทียบกับแบรนด์รองลงมา แต่ถ้าเป็นตลาดมือสอง ราคาก็จะขึ้นอยู่กับสภาพและรุ่นมากกว่าครับ บางทีเราอาจจะเจอ CMM แบรนด์ยุโรปมือสองในราคาใกล้เคียงกัน หรืออาจจะถูกกว่า/แพงกว่า Mitutoyo ก็ได้ ขึ้นอยู่กับดีลและสภาพครับ.

ข้อแตกต่างที่ต้องพิจารณาคือเรื่อง ซอฟต์แวร์ ครับ ซอฟต์แวร์ของแต่ละแบรนด์ก็ต่างกันไป บางทีซอฟต์แวร์รุ่นเก่ามากๆ อาจจะใช้งานยาก หรือไม่รองรับไฟล์ใหม่ๆ แล้ว ต้องเช็คตรงนี้ดีๆ ด้วยนะครับ. บางแบรนด์อาจจะเด่นเรื่องความเร็ว บางแบรนด์เด่นเรื่องความยืดหยุ่นของซอฟต์แวร์ ก็ต้องดูว่าตรงกับความต้องการใช้งานของเราแค่ไหน

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง? มีประกันไหม?

การซื้อ CMM Mitutoyo มือสอง เนี่ย สิ่งที่ได้มาจะไม่เป๊ะเหมือนซื้อเครื่องใหม่แกะกล่องนะครับ ต้องสอบถามรายละเอียดกับผู้ขายให้ชัดเจนเลยว่ารวมอะไรมาบ้าง หลักๆ ที่ควรจะได้มาด้วยคือ:

• ตัวเครื่อง CMM: อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว
• ชุดควบคุม (Controller): กล่องควบคุมการเคลื่อนที่ของเครื่อง
• คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์: อันนี้สำคัญมาก! ต้องเช็คว่าซอฟต์แวร์ยังใช้งานได้ดีไหม เป็นเวอร์ชันอะไร License ยังใช้ได้อยู่หรือเปล่า.
• หัววัด (Probe) และก้านหัววัด (Stylus): ควรมีหัววัดพื้นฐานมาให้พร้อมใช้งาน และอาจจะมีก้านหัววัดขนาดต่างๆ แถมมาด้วย.
• มาตรฐานสำหรับสอบเทียบ (Calibration Standard): บางทีผู้ขายอาจจะแถมบล็อกเกจหรือบอลสเฟียร์สำหรับสอบเทียบมาให้ด้วย

เรื่อง ค่าขนส่ง เนี่ย สำหรับเครื่องจักรอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่าง CMM มักจะมีค่าใช้จ่ายสูงมากครับ เพราะต้องใช้รถขนส่งพิเศษและมีค่าติดตั้งด้วย ส่วนใหญ่ราคาที่ประกาศขายมักจะ ยังไม่รวมค่าขนส่งและติดตั้ง นะครับ ต้องตกลงกับผู้ขายให้ชัดเจนว่าจะให้เขารับผิดชอบส่วนนี้ หรือเราต้องจัดการเอง.

ส่วนเรื่อง การรับประกัน เนี่ย ต้องทำใจเลยว่าส่วนใหญ่ CMM มือสองจะ ไม่มีประกันศูนย์ แล้วนะครับ. แต่บางบริษัทที่รับซื้อมาปรับปรุงและขายต่อ อาจจะมี ประกันร้าน ให้ระยะสั้นๆ เช่น 3-6 เดือน หรือ 1 ปี แล้วแต่ข้อตกลงครับ. การมีประกันร้านก็ช่วยให้อุ่นใจได้ระดับหนึ่ง เผื่อมีปัญหาในช่วงแรกหลังติดตั้ง. ถ้าซื้อจากผู้ใช้โดยตรง อาจจะไม่มีประกันเลยครับ ต้องเช็คสภาพเครื่องให้ละเอียดมากๆ ก่อนตัดสินใจ

ของแถมอื่นๆ อย่างคูปองหรือโปรโมชั่นแบบสินค้า consumer ทั่วไป ไม่มีแน่นอนครับสำหรับเครื่องมือระดับนี้ แต่บางทีผู้ขายอาจจะมีบริการพิเศษ เช่น ช่วยเรื่องการขนย้าย ติดตั้ง หรือให้คำแนะนำเบื้องต้นในการใช้งานครับ

5. มีโปรโมชั่นช่วงไหนน่าสอยบ้าง?

ลืมเรื่องโปรโมชั่น 12.12 หรือเทศกาลสงกรานต์ ลดจัดหนักแบบตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซไปได้เลยครับ! CMM ไม่ใช่สินค้าที่จัดโปรโมชั่นแบบนั้น.

โปรโมชั่นสำหรับเครื่องจักรมือสองอาจจะไม่ได้มีเป็นช่วงเวลาตายตัว แต่บางทีผู้ขายอาจจะจัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อเคลียร์สต็อก หรือในช่วงปลายปีงบประมาณของบางบริษัทที่ต้องการขายเครื่องเก่าออกไป.

คำแนะนำคือ ถ้าสนใจรุ่นไหนจากผู้ขายรายใด ให้ลองสอบถามเขาโดยตรงว่ามีช่วงไหนที่ลดราคา หรือมีข้อเสนอพิเศษอะไรบ้างครับ บางทีอาจจะต้องรอจังหวะดีๆ ที่มีคนปล่อยเครื่องสภาพดีในราคาที่ใช่. การซื้อจากบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านเครื่องมือวัดมือสองโดยเฉพาะ อาจจะมีตัวเลือกและบริการที่น่าสนใจกว่าครับ.

6. ผู้ใช้ในไทยเค้าว่ายังไงกันบ้าง?

ฟีดแบ็กจากผู้ใช้ CMM Mitutoyo ในไทย (เท่าที่พอจะหาข้อมูลได้จากแหล่งเฉพาะทาง เช่น ฟอรัมอุตสาหกรรม หรือสอบถามจากคนในวงการ) ส่วนใหญ่จะพูดถึงเรื่อง ความทนทานและความน่าเชื่อถือ ครับ. Mitutoyo ขึ้นชื่อว่าสร้างเครื่องที่แข็งแรง ใช้งานได้นาน ถ้าดูแลรักษาตามคู่มือ เครื่องรุ่นเก่าๆ ก็ยังให้ความแม่นยำที่ดีอยู่ครับ.

สิ่งที่ผู้ใช้ในไทยมักจะให้ความสำคัญอีกอย่างคือเรื่อง การบริการหลังการขายและการสอบเทียบ ครับ. เครื่อง CMM ต้องได้รับการสอบเทียบเป็นประจำเพื่อให้มั่นใจในความแม่นยำ ซึ่งต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ. การมีบริษัทที่รับสอบเทียบและซ่อมบำรุงในไทยที่เชื่อถือได้เป็นเรื่องสำคัญมากครับ.

บางรีวิวอาจจะบอกว่าซอฟต์แวร์รุ่นเก่าๆ ของ Mitutoyo อาจจะดูโบราณไปบ้างเมื่อเทียบกับรุ่นใหม่ๆ แต่ถ้าคุ้นเคยแล้วก็ใช้งานได้ดีครับ. จุดเด่นอีกอย่างคือความแพร่หลาย ทำให้หาอะไหล่หรือผู้ที่พอจะซ่อมบำรุงได้ง่ายกว่าแบรนด์ที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมในไทยครับ

7. จะไปหาซื้อ Mitutoyo CMM มือสองได้จากที่ไหน?

อย่างที่เกริ่นไปครับ แหล่งซื้อหลักๆ ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้าหรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทั่วไป แต่จะเป็นช่องทางเฉพาะทางมากกว่า:

• บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องมือวัดมือสอง: มีหลายบริษัทในไทยที่รับซื้อ-ขาย CMM มือสองโดยเฉพาะ. ข้อดีคือเครื่องมักจะได้รับการตรวจสอบเบื้องต้น หรือบางทีก็มีการปรับปรุงสภาพมาแล้ว. มีบริการหลังการขายและอาจมีประกันร้านให้. สามารถติดต่อไปขอดูเครื่องจริงได้.
• นายหน้า/โบรกเกอร์เครื่องจักรมือสอง: บางทีจะมีนายหน้าที่เป็นตัวกลางในการซื้อขายเครื่องจักรอุตสาหกรรม รวมถึง CMM ครับ
• เว็บไซต์ประกาศขายเครื่องจักรมือสอง: มีเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งรวมประกาศขายเครื่องจักรอุตสาหกรรมมือสอง เช่น Truck2Hand (แม้จะเน้นเครื่องจักรหนัก แต่อาจจะมีเครื่องมือวัดบ้าง) หรือเว็บไซต์เฉพาะทางสำหรับเครื่องมือวัด.
• กลุ่มซื้อขายเครื่องจักรอุตสาหกรรมในโซเชียลมีเดีย: ลองหากลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเครื่องมือวัด หรืองานด้านการผลิตใน Facebook อาจเจอผู้ที่ต้องการขายเครื่องเก่าอยู่ครับ แต่ต้องระมัดระวังในการซื้อขาย
• จากโรงงานที่เลิกใช้หรืออัพเกรด: บางโรงงานที่ต้องการขายเครื่องเก่าเพื่อซื้อรุ่นใหม่กว่า อาจจะประกาศขายเองโดยตรง อันนี้ต้องอาศัยคอนเนคชั่น หรือการสืบหาข่าวครับ

หลีกเลี่ยงการซื้อจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือผู้ขายที่ไม่สามารถให้ข้อมูลที่มาที่ไปของเครื่องได้อย่างชัดเจนนะครับ เพราะ CMM เป็นเครื่องมือที่ต้องการความแม่นยำสูง สภาพเครื่องและประวัติการใช้งานสำคัญมากๆ ครับ

8. สรุปแล้ว Mitutoyo CMM มือสอง น่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

ถ้าถามว่า Mitutoyo CMM มือสอง น่าซื้อไหม? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ ครับ ถ้าคุณอยู่ในวงการอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำในการวัด แต่มีงบประมาณจำกัด การซื้อเครื่องมือสองสภาพดีเป็นทางเลือกที่ช่วยประหยัดงบได้มหาศาลเมื่อเทียบกับราคาเครื่องใหม่ครับ. คุณยังคงได้เครื่องจากแบรนด์คุณภาพสูงที่เชื่อถือได้.

เหมาะกับใคร?

• โรงงานขนาดเล็กถึงกลาง ที่ต้องการยกระดับมาตรฐานการตรวจสอบคุณภาพให้แม่นยำขึ้น แต่ยังไม่พร้อมลงทุนเครื่องใหม่ราคาสูงลิ่ว
• บริษัทที่ต้องการ CMM สำหรับงานวัดที่ไม่ซับซ้อนมากนัก หรือเป็นเครื่องสำรอง
• ห้องแล็บ หรือสถาบันการศึกษา ที่ต้องการเครื่อง CMM สำหรับการเรียนรู้และการวิจัย

ข้อแนะนำคือ:

• ตั้งงบประมาณให้ชัดเจน: ราคา CMM มือสองหลากหลายมาก ควรกำหนดงบคร่าวๆ ไว้ก่อน
• ศึกษาข้อมูลรุ่นต่างๆ: แต่ละรุ่นมีขนาดพื้นที่การวัด ความแม่นยำ และฟังก์ชันต่างกันไป. เลือกรุ่นที่เหมาะสมกับประเภทชิ้นงานของคุณ.
• ตรวจสอบสภาพเครื่องให้ละเอียด: ถ้าเป็นไปได้ ควรไปดูเครื่องจริง ทดลองใช้งาน ตรวจสอบการเคลื่อนที่ของแกนต่างๆ เสียงมอเตอร์ และสภาพโดยรวม.
• สอบถามเรื่องซอฟต์แวร์และหัววัด: เช็คว่าซอฟต์แวร์ที่ให้มายังใช้งานได้ดีหรือไม่ รองรับงานของคุณหรือเปล่า และหัววัดอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานไหม.
• พิจารณาเรื่องการขนส่ง ติดตั้ง และสอบเทียบ: ค่าใช้จ่ายส่วนนี้อาจจะสูงพอสมควร ควรรวมอยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้ และหาผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้ในไทย.
• หาผู้ขายที่น่าเชื่อถือ: เลือกซื้อจากบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านเครื่องมือวัดมือสอง หรือผู้ขายที่ให้ข้อมูลได้ครบถ้วนและชัดเจน.

สรุปแล้ว การลงทุนใน Mitutoyo CMM มือสอง เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าถ้าเลือกดีๆ ครับ คุณจะได้เครื่องมือวัดระดับโปรในราคาที่จับต้องได้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือให้กับงานของคุณได้อย่างแน่นอน ขอให้ทุกคนโชคดีกับการตามหา CMM คู่ใจนะครับ!