รองเท้าฟุตบอล Puma evoPOWER 1.2 FG ราคาเท่าไหร่? เหมาะกับตำแหน่งไหน?

สวัสดีจ้าสายฟุตบอลทุกคนนน! วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องรองเท้าสตั๊ดในตำนานอีกหนึ่งรุ่นที่เคยฮิตมากๆ นั่นก็คือ Puma evoPOWER 1.2 FG ใครที่กำลังมองหารองเท้าดีๆ สักคู่ หรืออยากรู้ว่าเจ้ารุ่นนี้มันมีดียังไง แล้วยังน่าโดนอยู่ไหม มามุงตรงนี้เลยจ้า เราจะมาเจาะลึกให้ฟังแบบเข้าใจง่ายๆ สไตล์คนรักบอล! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูพร้อมกันเลย!

1. รองเท้าคู่นี้มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ เริ่มต้นที่พื้นฐานก่อนเลย Puma evoPOWER 1.2 FG เนี่ย มันคือรองเท้าฟุตบอลสำหรับพื้นสนามหญ้าจริง (Firm Ground - FG) จากแบรนด์ Puma ซึ่งเป็นแบรนด์อุปกรณ์กีฬาดังก้องโลกจากประเทศเยอรมนี ที่เค้าอยู่คู่วงการฟุตบอลมานานมากๆ มีนักเตะระดับตำนานใส่สตั๊ด Puma สร้างประวัติศาสตร์มานับไม่ถ้วนเลยนะจ๊ะ. สำหรับซีรีส์ evoPOWER เนี่ย เค้าออกแบบมาเพื่อเน้นเรื่อง "พลัง" และ "ความแม่นยำ" ในการยิงประตูและการส่งบอลโดยเฉพาะเลย. เค้าว่ากันว่าใส่แล้วจะช่วยให้เรามีพลังในการหวดลูกบอลได้เต็มที่ เหมือนเตะด้วยเท้าเปล่าเลยนะ!.

รุ่น 1.2 นี้ก็เป็นเจนเนอเรชั่นต่อยอดจาก evoPOWER รุ่นแรกที่เคยปังมากๆ. เทคโนโลยีเด่นๆ ของเค้าคือวัสดุ AdapLite ที่ยืดหยุ่นได้ทิศทางเดียว ช่วยให้เท้าเรางอได้อย่างเป็นธรรมชาติเวลาเตะบอล และมีเทคโนโลยี GripTex ช่วยเพิ่มการจับบอลไม่ว่าจะเตะตอนพื้นแห้งหรือเปียก. แถมยังมี AccuFoam ตรงหน้าเท้าที่ช่วยให้ผิวสัมผัสในการเตะเรียบสม่ำเสมอ เพิ่มความแม่นยำเข้าไปอีก.

ถามว่าเหมาะกับตำแหน่งไหนในสนาม? ด้วยความที่เน้นเรื่องพลังและความแม่นยำเนี่ย เจ้า evoPOWER 1.2 FG เลยเหมาะมากๆ กับผู้เล่นที่ต้องจบสกอร์ หรือเปิดบอลแม่นๆ อย่างเช่น กองหน้า (Striker), กองกลาง (Midfielder) ที่ชอบยิงไกล หรือต้องจ่ายบอลคิลเลอร์พาสสวยๆ. เรียกว่าเป็นรองเท้าสำหรับคนที่อยากเพิ่มมิติในการยิงและผ่านบอลให้เฉียบคมขึ้นนั่นแหละจ้า

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องสำคัญที่ทำให้หลายคนตาลุกวาว นั่นก็คือเรื่อง "ราคา" นั่นเอง! ต้องบอกก่อนว่า Puma evoPOWER 1.2 FG เนี่ย เป็นรุ่นที่ออกมาตั้งแต่ปี 2015 แล้วนะ. ดังนั้น ตอนนี้ถ้าจะหาซื้อ "ของใหม่มือหนึ่ง" เนี่ยบอกเลยว่า หายากมากๆ เหมือนงมเข็มในมหาสมุทรเลยจ้า! ส่วนใหญ่ที่เราจะเจอในตลาดตอนนี้ก็คือ "มือสอง" นั่นเอง

ราคาของมือสองก็จะมีความหลากหลายมากๆ ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน ความหายากของสี/ไซส์ และคนขายด้วยนะ จากที่ลองส่องๆ ดูตามแพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee รวมถึงกลุ่มซื้อขายรองเท้าฟุตบอลมือสองใน Facebook เนี่ย ราคาเจ้า evoPOWER 1.2 FG มือสองสภาพดีๆ หน่อย ก็อาจจะอยู่ประมาณ 2,000 - 5,000 บาท (฿) โดยประมาณนะ. บางคู่อาจจะสภาพใช้งานมาเยอะหน่อย ราคาก็อาจจะลงไปอีก หรือถ้าเจอคู่ที่สภาพเหมือนใหม่ เก็บสะสม ราคาอาจจะพุ่งไปสูงกว่านี้ก็ได้เหมือนกันนะ.

ส่วนตามร้านอุปกรณ์กีฬาทั่วไป หรือแผนกรองเท้ากีฬาในห้างสรรพสินค้าอย่าง Central, Big C, The Mall เนี่ย ตอนนี้เค้าก็คงไม่ได้มีรุ่นนี้วางขายแล้วล่ะจ้า ต้องพึ่งพาตลาดออนไลน์หรือร้านที่เน้นขายของหายาก ของสะสม หรือของมือสองโดยเฉพาะนะจ๊ะ

3. แล้วถ้าเทียบกับรุ่นอื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ถ้าให้เอา Puma evoPOWER 1.2 FG มือสอง ไปเทียบกับรองเท้าฟุตบอลรุ่นใหม่ๆ ท็อปๆ ที่วางขายในปัจจุบันจากแบรนด์ดังๆ อย่าง Nike หรือ Adidas ที่ราคามือหนึ่งเริ่มต้นก็มีหมื่นต้นๆ ไปจนถึงสองหมื่นกว่าบาทเนี่ย. ต้องบอกเลยว่าราคาของ evoPOWER 1.2 มือสองนี่คือ เป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์มากๆ เลยจ้า!.

ในราคาที่เราจ่ายไปสำหรับมือสองเนี่ย เราได้รองเท้าสตั๊ดระดับโปร (Pro Cleats) ที่เคยเป็นตัวท็อปของ Puma ในยุคนั้น มีเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มพลังและความแม่นยำในการยิง ซึ่งอาจจะตอบโจทย์คนที่ไม่ต้องการฟังก์ชันใหม่ล่าสุดอลังการ แต่เน้นประสิทธิภาพพื้นฐานที่ดีเยี่ยมในราคาที่จับต้องได้. บางทีรองเท้ามือหนึ่งในราคา 2,000-5,000 บาท อาจจะได้แค่รุ่นรองๆ หรือรุ่นเริ่มต้นเท่านั้นเองนะ ดังนั้น ถ้าเจอ evoPOWER 1.2 สภาพดีๆ ในราคานี้ ถือว่า คุ้มค่า น่าสอยมาลองมากๆ เลยจ้า!

4. ซื้อแล้วจะได้อะไรมาบ้างนะ?

อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องทำใจไว้ล่วงหน้าเลยนะจ๊ะ เพราะถ้าซื้อ Puma evoPOWER 1.2 FG มือสอง เนี่ย สิ่งที่เราจะได้มาอาจจะไม่ครบเหมือนซื้อของใหม่มือหนึ่งที่ออกมาจากช็อปแน่นอน สิ่งที่ควรเช็คและสอบถามกับคนขายให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อก็คือ:

• ตัวรองเท้า: แน่นอนว่าต้องมี! เช็คสภาพว่าเป็นยังไง มีรอยถลอก ขาด หรือพื้นเปิดตรงไหนบ้าง ปุ่มสตั๊ดยังสมบูรณ์ดีอยู่ไหม.
• กล่องรองเท้า: บางคู่ที่คนขายเป็นนักสะสมอาจจะยังมีกล่องเดิมอยู่ แต่ส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นมือสองทั่วไป มักจะไม่มีกล่องเดิมมาให้จ้ะ
• ถุงผ้า/ถุงรองเท้า: รองเท้ารุ่นท็อปๆ สมัยก่อนมักจะมีถุงผ้าใส่รองเท้ามาให้ด้วย อันนี้ก็ต้องถามคนขายดูว่ายังมีอยู่ไหม.
• อุปกรณ์เสริมอื่นๆ: เช่น ที่งัดรองเท้า หรือเชือกสำรอง ส่วนใหญ่ถ้าเป็นมือสอง มักจะไม่ได้มีมาให้แล้วนะ
• ใบเสร็จ/ป้ายแท็กต่างๆ: อันนี้ไม่ต้องคาดหวังเลยจ้า ส่วนใหญ่ไม่มีแน่นอน
• ประกัน: นี่คือจุดสำคัญที่คนไทยห่วง! ถ้าซื้อ มือสอง เนี่ย ไม่มีประกันศูนย์ แน่นอนจ้า. บางร้านที่ขายอาจจะมี ประกันร้าน ให้สั้นๆ เช่น 7 วัน สำหรับกรณีรองเท้ามีปัญหาจากการผลิตที่มองไม่เห็นตอนแรก (ซึ่งก็ยากมากๆ สำหรับรองเท้าเก่าขนาดนี้) แต่ส่วนใหญ่คือซื้อแล้วจบเลย ไม่มีประกันนะจ๊ะ ต้องทำใจและเช็คของให้ละเอียดก่อนจ่ายเงินมากๆ

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่ก็จะมีค่าส่งตามปกติของแต่ละแพลตฟอร์มนะ นอกจากผู้ขายจะใจดีจัดโปรฯ ส่งฟรี ให้จ้า

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

ถึงแม้จะเป็นรองเท้ามือสองรุ่นเก่า แต่ใช่ว่าเราจะไม่มีโอกาสเจอดีลเด็ดๆ นะ! ถ้าอยากได้ Puma evoPOWER 1.2 FG ในราคาที่ถูกลงไปอีกหน่อย ลองเล็งช่วง โปรโมชั่นใหญ่ๆ ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada กับ Shopee ดูสิ. ช่วง Double Digit Sale อย่าง 11.11, 12.12 หรือช่วงเทศกาลอย่าง สงกรานต์, ปีใหม่ เนี่ย บางทีผู้ขายรายย่อยหรือร้านค้าที่รับซื้อขายรองเท้ามือสองเค้าอาจจะจัดโปรโมชั่น ลดราคา หรือมีโค้ดส่วนลดพิเศษให้ใช้ก็ได้นะ

หรือบางทีถ้ามีงาน Clearance Sale ของร้านอุปกรณ์กีฬาใหญ่ๆ (แม้จะไม่ใช่รุ่นนี้โดยตรง) แต่บางทีเค้าอาจจะมีรุ่นเก่าๆ หรือรุ่นใกล้เคียงที่ตกรุ่นแล้วเอามาลดราคาแบบเทกระจาด ก็เป็นอีกช่องทางที่น่าไปส่องเผื่อเจอเนื้อคู่นะจ๊ะ สรุปคือ ถ้าใจเย็นๆ และไม่รีบมากๆ การ รอช่วงโปรโมชั่น ก็อาจจะช่วยให้ได้รองเท้าในราคาที่น่ารักขึ้นไปอีกจ้า

6. คนไทยที่เคยใช้รู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

แม้จะเป็นรุ่นเก่า แต่เจ้า Puma evoPOWER 1.2 FG ก็เคยมีผู้ใช้ในไทยอยู่พอสมควรเลยนะ จากฟีดแบ็กและรีวิว (ที่เรามโนขึ้นมาอิงจากข้อมูลต่างๆ 555) ที่น่าจะตรงใจคนไทยก็มีหลายอย่างเลยล่ะ:

• ยิงมันส์สะใจ: อันนี้คือจุดเด่นเลย! หลายคนน่าจะชอบฟิลลิ่งตอนเตะบอลด้วยรุ่นนี้ ที่รู้สึกว่ามีพลังอัดเข้าไปที่ลูกเต็มๆ ยิงไกลได้ดี หรือเปิดบอลพุ่งๆ ได้น้ำหนัก.
• ความแม่นยำใช้ได้: นอกจากแรงแล้ว ความแม่นยำก็สำคัญ คนที่ได้ลองก็น่าจะรู้สึกว่าคอนโทรลบอลได้ดี เตะได้ตรงเป้ามากขึ้นด้วยเทคโนโลยี AccuFoam และ GripTex.
• ดีไซน์สวยเตะตา: evoPOWER 1.2 มีสีสันและดีไซน์ที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ เคยมีสีลายกราฟิกสวยๆ อย่างลายมังกรด้วยนะ. คนไทยหลายคนชอบสตั๊ดดีไซน์สวยๆ ใส่ออกมาแล้วดูเด่นในสนาม อันนี้น่าจะถูกใจเลย
• ความคุ้มค่า (เมื่อซื้อมือสอง): ในเมื่อซื้อมือสองในราคาไม่กี่พัน แต่ได้รองเท้าระดับโปรที่มีประสิทธิภาพดีมากๆ ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสุดๆ สำหรับหลายคนเลยล่ะ.
• ต้องลองไซส์ดีๆ: อันนี้เป็นเรื่องทั่วไปของการซื้อรองเท้าสตั๊ดมือสอง คือต้องเช็คไซส์ให้ชัวร์ เพราะแต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์ อาจจะมีความแตกต่างกัน บางคนอาจจะรู้สึกว่าช่วงหน้าเท้าแคบไปหน่อย ต้องเผื่อไซส์ หรือต้องลองเองถึงจะรู้

สรุปคือ คนไทยที่เคยสัมผัส evoPOWER 1.2 น่าจะประทับใจในเรื่อง พลังและความแม่นยำในการยิง และ ความคุ้มค่า เมื่อเทียบกับราคาในตลาดมือสองนั่นเองจ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

อย่างที่เกริ่นไปว่าตอนนี้ต้องพึ่งพาตลาด "มือสอง" เป็นหลักนะจ๊ะ ช่องทางหลักๆ ที่น่าไปตามล่าหา Puma evoPOWER 1.2 FG ก็มีตามนี้เลย:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดฮิต: Shopee และ Lazada คือแหล่งรวมของมือสองชั้นดีเลยจ้า. ลองใช้คำค้นหาว่า "Puma evoPOWER 1.2 FG มือสอง" ดูนะ อาจจะเจอผู้ขายทั้งที่เป็นร้านเล็กๆ หรือผู้เล่นที่เอามาปล่อยเอง ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีระบบการชำระเงินที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่ข้อเสียคือไม่ได้เห็นและลองสินค้าจริง ต้องพิจารณาจากรูปและข้อมูลที่ผู้ขายให้มาให้ละเอียดนะจ๊ะ
• กลุ่มซื้อขายรองเท้าฟุตบอลมือสองใน Facebook: อันนี้เป็นแหล่งขุมทรัพย์เลยล่ะ! มีกลุ่มใน Facebook เยอะมากๆ ที่คนรักรองเท้าฟุตบอลมือสองเค้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน ข้อดีคือมีโอกาสเจอรองเท้าสภาพดีๆ หรือสีหายากๆ ในราคาเป็นกันเอง แถมพูดคุย สอบถามรายละเอียดกับผู้ขายได้โดยตรง แต่ก็ต้องระวังมิจฉาชีพด้วยนะ! ทางที่ดีคือนัดเจอเพื่อดูของและจ่ายเงินถึงมือจะปลอดภัยที่สุด
• ร้านขายอุปกรณ์กีฬามือสองบางแห่ง: ในบางพื้นที่อาจจะมีร้านที่เน้นขายอุปกรณ์กีฬามือสอง ซึ่งบางทีอาจจะมีสตั๊ดรุ่นเก่าๆ หลงเข้ามาบ้าง ข้อดีคือเราสามารถไปลองใส่ ลองเช็คสภาพได้จริง แต่จำนวนตัวเลือกอาจจะไม่เยอะเท่าช่องทางออนไลน์นะ

ส่วนช่องทาง Official ของ Puma ในไทย ตอนนี้ก็คงเน้นไปที่รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันแล้วจ้า สำหรับ evoPOWER 1.2 ต้องไปตามหาในตลาดมือสองเท่านั้นนะ

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงช่วงตัดสินใจแล้ว! ถามว่า Puma evoPOWER 1.2 FG ยังน่าสอยมาใส่ลงสนามอยู่ไหมในปีนี้? ถ้ามองในแง่ของ ความคุ้มค่า และ ประสิทธิภาพด้านพลังและความแม่นยำในการยิง ในราคาตลาดมือสองที่ไม่สูงมาก ต้องบอกว่า ยังน่าสนใจมากๆ เลยล่ะ!

รองเท้าคู่นี้เหมาะมากๆ กับ:

• ผู้เล่นที่เน้นการยิงประตูแรงๆ และต้องการความแม่นยำ: ถ้าตำแหน่งของคุณต้องจบสกอร์บ่อยๆ หรือชอบยิงไกล evoPOWER 1.2 คือตัวช่วยที่ดีเลย.
• คนที่มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้สตั๊ดระดับโปร: ถ้าไม่อยากจ่ายแพง แต่ต้องการรองเท้าที่มีเทคโนโลยีดีๆ ช่วยเสริมฟอร์มในสนาม มือสองของรุ่นนี้คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์.
• นักสะสมรองเท้าฟุตบอลวินเทจ/หายาก: บางสี บางรุ่นของ evoPOWER 1.2 ก็เป็นที่ต้องการของนักสะสมนะ ถ้าเจอสภาพดีๆ เก็บไว้ก็มีคุณค่าทางใจ (และอาจจะเพิ่มมูลค่าในอนาคตก็ได้ใครจะรู้!)

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการซื้อรองเท้ามือสองมีความเสี่ยงเรื่องสภาพและการใช้งานที่ผ่านมา รวมถึงไม่มีประกัน ถ้าคุณเป็นคนที่ซีเรียสเรื่องนี้มากๆ หรือต้องการเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ฟังก์ชันครบครัน อาจจะต้องมองหารุ่นใหม่ๆ แทนนะจ๊ะ แต่ถ้าเข้าใจและยอมรับเงื่อนไขของมือสองได้ และต้องการสตั๊ดที่เน้นพลังและความแม่นยำในราคาเบาๆ Puma evoPOWER 1.2 FG มือสอง ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ น่าพิจารณา และอาจจะเป็นคู่ใจในVสนามของคุณได้เลยล่ะ!

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้ได้รองเท้าคู่ที่ถูกใจ แล้วไปสนุกกับการเตะฟุตบอลกันในสนามเขียวๆ จ้า! เจอกันใหม่บทความหน้า บ๊ายบาย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว Puma Evopower 1.2 "Tricks"
• PUMA evoPOWER 1.2 HG Peacoat Unboxing & On Feet (Thai ...
• Review Puma Evopower 1.2 Pop FG
• มินิรีวิว Puma Evopower Vigor
• PUMA evoPOWER 1.2 Review