10 กลิตเตอร์ทาตา ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ตาเป็นประกาย สวยวิ้งค์ ติดทน

สวัสดีค่ะซิสสสส! 💖 ไหนใครเป็นบ้าง? เวลาเห็นอะไรวิ้งค์ๆ วับๆ เป็นไม่ได้ ต้องพุ่งตัวเข้าไปดู! ยิ่งกับ "กลิตเตอร์ทาตา" ด้วยแล้ว โอ๊ยยย หัวใจบางเฉียบ อยากเหมามาหมดเคาน์เตอร์! ✨

จริงจังนะยู! เดี๋ยวนี้กลิตเตอร์ทาตาไม่ได้มีไว้แค่ไปปาร์ตี้ปีใหม่ หรือสงกรานต์สาดความวิ้งค์ใส่กันอย่างเดียวนะคะ แต่กลายเป็นไอเท็มสามัญประจำบ้านที่ช่วยเพิ่มประกายให้ดวงตาใน everyday look ได้แบบเก๋ๆ ทำให้ตาดูมีอะไร ไม่จืดชืด แถมยังช่วยเสริมลุคให้ดูสดใสขึ้นทันตาอีกด้วยค่ะ จะแต่งไปทำงาน ไปเรียน หรือไปเดทกับคุณผู้ชาย ก็เอาอยู่หมด!

แต่ปัญหามันอยู่ตรงนี้ค่ะคุณน้า... เดินเข้าวัตสัน อีฟแอนด์บอย เซโฟร่า หรือไถแอปส้ม แอปน้ำเงิน (Lazada, Shopee) ทีไร กลิตเตอร์ทาตาเต็มไปหมดละลานตาไปหมด! ทั้งแบบลิควิด แบบฝุ่น แบบครีม เม็ดเล็ก เม็ดใหญ่ สีรุ้ง สีทอง สีเงิน สารพัดแบรนด์จนเลือกไม่ถูก! ซื้อมาแล้วจะติดทนไหม? จะเป็นคราบหรือเปล่า? กลิตเตอร์จะร่วงเข้าตาให้เคืองใจมั้ย? 🤔

ไม่ต้องกุมขมับค่ะทุกคน! เพราะวันนี้ดิฉัน (กูรูเรื่องสวยๆ งามๆ ที่พร้อมเปย์) จะขออาสาพาไปส่อง "10 กลิตเตอร์ทาตา ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ตาเป็นประกาย สวยวิ้งค์ ติดทน" ที่คัดมาแล้วว่าเด็ดจริง ปังจริง แถมเป็นที่นิยมในหมู่สาวไทย จะได้เลือกช้อปกันได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องเสี่ยงดวงให้เปลืองเงินค่ะ!

ส่องตลาดกลิตเตอร์ทาตาในไทย อะไรที่กำลังมาแรง?

บอกเลยว่าเทรนด์แต่งหน้าฉ่ำๆ วาวๆ สไตล์สาวเกาหลีและพส.จีน ยังคงแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ค่ะ และ "กลิตเตอร์ทาตา" นี่แหละคือคีย์ไอเท็มสำคัญที่ช่วยคอมพลีทลุคให้ดูสวยวิ้งค์ เล่นแสงขั้นสุด. ช่วงนี้เราจะเห็นสาวๆ นิยมแต่งตาด้วยกลิตเตอร์กันมากขึ้น ไม่ว่าจะทาที่เปลือกตา ทาที่หัวตา หรือที่ใต้ตาแบบดอลลี่อายส์ เพื่อให้ตาดูโต กลม และเป็นประกาย.

แบรนด์ที่ครองตลาดในไทยก็มีหลากหลาย ทั้งแบรนด์เกาหลี ญี่ปุ่น ที่มาแรงเรื่องงานผิว งานตาฉ่ำวาว (เช่น Rom&nd, Etude House, 3CE, Canmake) และแบรนด์ฝั่งตะวันตก (เช่น NYX, Revolution) รวมถึงแบรนด์ไทยคุณภาพดี ราคาน่ารัก ที่ทำกลิตเตอร์ออกมาได้ปังไม่แพ้ใคร (เช่น Merrez'ca, 4U2, Cosluxe, Browit, Meilinda, Baby Bright, La Glace, Sasi, Odbo). สินค้ากลุ่มนี้หาซื้อง่ายมากๆ ค่ะ ทั้งในร้านบิวตี้สโตร์ยอดฮิตอย่าง Watsons, Eveandboy, Beautrium หรือ Sephora รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee ก็มีตัวเลือกเยอะ พร้อมโปรโมชั่นยั่วๆ เพียบ.

พฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่เวลาเลือกซื้อกลิตเตอร์ทาตา มักจะมองหา:

• ความวิ้งค์! แน่นอนว่าต้องเป็นประกายโดดเด่น เล่นกับแสงได้ดี.
• ความติดทน! ทาแล้วต้องอยู่ได้ทั้งวัน ไม่หลุดร่วงเป็นผงให้รำคาญใจ.
• ใช้งานง่าย! ทั้งแบบลิควิดที่มาพร้อมแปรง หรือแบบแท่งที่สะดวกพกพา.
• ราคาเข้าถึงง่าย! โดยเฉพาะแบรนด์ไทยและเกาหลี ญี่ปุ่นหลายๆ แบรนด์ทำราคาได้ดี คุณภาพเกินราคา.
• รีวิวดี! ชอบดูรีวิวจากผู้ใช้จริงในไทยก่อนตัดสินใจซื้อ.

เคล็ดลับเลือกกลิตเตอร์ทาตาให้ปัง ไม่พังแน่นอน!

ก่อนจะพุ่งตัวไปช้อป ลองมาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ควรพิจารณา เพื่อให้ได้กลิตเตอร์ที่เหมาะกับเราที่สุดค่ะ

เปิดโผ! 10 กลิตเตอร์ทาตา น่าสอย ปี 2025!

ได้เวลาป้ายยา! นี่คือ 10 กลิตเตอร์ทาตา ที่กำลังเป็นที่พูดถึงและน่าจับตามองในปี 2025 นี้ค่ะ (ข้อมูลและรีวิวอ้างอิงจากความนิยมและรีวิวในช่วงที่ผ่านมา):

1. rom&nd The Universe Liquid Glitter / Better Than Palette

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลีสุดฮิตที่ดังมากเรื่องงานลิปสติก แต่กลิตเตอร์ของเขาก็ปังไม่แพ้กัน.
• สินค้ารุ่นเด่น: The Universe Liquid Glitter และกลิตเตอร์ในพาเลท Better Than Palette.
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: เม็ดกลิตเตอร์ละเอียดและใหญ่ผสมกัน ให้ประกายเล่นแสงสวยงาม เนื้อลิควิดทาง่าย ติดทน ไม่ค่อยมีปัญหาฟอลเอาท์. พาเลท Better Than Palette มีครบทั้งแมตต์ ชิมเมอร์ กลิตเตอร์ในตลับเดียว. ข้อเสีย: ราคาอาจจะสูงกว่าแบรนด์ไทยบางแบรนด์.
• เหมาะกับใคร: คนที่ชอบกลิตเตอร์สไตล์เกาหลี เน้นความวิ้งค์กำลังดี ใช้ได้ทั้งลุคกลางวันและกลางคืน.
• ช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy. ออฟไลน์: Eveandboy, Beautrium.
• ช่วงราคา: ประมาณ 300 - 500 บาท (สำหรับลิควิดกลิตเตอร์), พาเลทราคาประมาณ 600 - 800 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "วิ้งค์สวยมากกก เล่นแสงดีสุดๆ ชอบแบบลิควิดใช้ง่ายดีค่ะ". "พาเลท rom&nd คุ้มมาก มีหลายเนื้อในตลับเดียว กลิตเตอร์แน่นถูกใจ".

2. 4U2 The Glittering

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยคุณภาพดี ราคาน่ารัก ที่ทำแพ็คเกจน่ารักโดนใจวัยรุ่น.
• สินค้ารุ่นเด่น: The Glittering (ลิควิดกลิตเตอร์).
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: เม็ดกลิตเตอร์กำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป เนื้อเจลเกลี่ยง่าย แห้งไว ติดทน ไม่ค่อยหลุดร่วง. ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋ามากๆ. มีสีให้เลือกสวยหลายโทน. ข้อเสีย: บางสีอาจจะต้องทาทับหลายรอบเพื่อให้สีชัดเจนตามต้องการ.
• เหมาะกับใคร: นักเรียน นักศึกษา คนที่เพิ่งหัดใช้กลิตเตอร์ มองหากลิตเตอร์คุณภาพดี ราคาเข้าถึงง่าย.
• ช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy. ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Beautrium, ห้างสรรพสินค้าทั่วไป.
• ช่วงราคา: ประมาณ 100 - 200 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ชอบ 4U2 มากค่ะ ราคาถูกและดี กลิตเตอร์แน่น ทาใต้ตาสวยมาก". "ใช้ง่ายมากค่ะ เหมาะกับมือใหม่จริงๆ".

3. Merrez'ca Pearl Pigment Eyeshadow

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยม มีผลิตภัณฑ์หลากหลายและคุณภาพดี.
• สินค้ารุ่นเด่น: Pearl Pigment Eyeshadow (กลิตเตอร์เนื้อผงอัดแข็ง).
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: เม็ดกลิตเตอร์ใหญ่ชัดเจน ให้ประกายแน่นสะใจ. เม็ดสีคมชัดในปาดเดียว ติดทนดีเยี่ยม ไม่หลุดลอกระหว่างวัน. ข้อเสีย: ด้วยความที่เม็ดกลิตเตอร์ค่อนข้างใหญ่ อาจจะต้องระวังเรื่องการฟอลเอาท์เล็กน้อยเวลาทา.
• เหมาะกับใคร: คนที่ชอบกลิตเตอร์เม็ดใหญ่ เน้นความวิ้งค์แบบตะโกน! เหมาะสำหรับออกงาน ปาร์ตี้ หรือถ่ายรูปที่ต้องการความโดดเด่น.
• ช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy. ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Beautrium.
• ช่วงราคา: ประมาณ 300 - 500 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "Merrez'ca กลิตเตอร์แน่นมาก วิ้งค์สุดๆ เหมาะกับไปงานกลางคืน". "เม็ดสีชัด ปาดทีเดียวอยู่เลยค่ะ".

4. Cosluxe Wink To The Blink Blink Glitter Star

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยที่เน้นผลิตภัณฑ์สำหรับดวงตาโดยเฉพาะ มีกลิตเตอร์ที่น่าสนใจหลายรุ่น.
• สินค้ารุ่นเด่น: Wink To The Blink Blink Glitter Star (กลิตเตอร์เนื้อฝุ่น) และ Wink To The Blink Blink Super Star Liquid Glitter (ลิควิดกลิตเตอร์).
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: กลิตเตอร์เนื้อเนียนละเอียด ให้เม็ดสีคมชัดสูง ทำให้ดวงตาเปล่งประกายได้ดี. รุ่นลิควิดใช้งานง่าย ไม่ตกร่อง. มีหลายเฉดสีให้เลือก. ราคาเข้าถึงง่ายมาก. ข้อเสีย: กลิตเตอร์เนื้อฝุ่นอาจจะต้องใช้ไพรเมอร์ช่วยให้ติดทนขึ้น.
• เหมาะกับใคร: คนที่ชอบกลิตเตอร์ที่หลากหลาย มีทั้งแบบฝุ่นและลิควิด ในราคาเป็นกันเองสุดๆ.
• ช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy. ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Beautrium.
• ช่วงราคา: ประมาณ 100 - 200 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "Cosluxe กลิตเตอร์วิ้งค์มากค่ะ ราคาดีด้วย". "ใช้รุ่นลิควิด ทาใต้ตาสวยเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นคราบ".

5. Meilinda Glitter Shot Shadow / Twinkle Glitter Shadow

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยอีกหนึ่งดาวเด่น ที่มีผลิตภัณฑ์น่ารักๆ คุณภาพดีในราคาเบาๆ.
• สินค้ารุ่นเด่น: Glitter Shot Shadow (พาเลทอายแชโดว์ที่มีกลิตเตอร์), Twinkle Glitter Shadow (กลิตเตอร์เนื้อเจล), Glitter Pop Eye Stick (กลิตเตอร์แบบแท่ง).
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: กลิตเตอร์เม็ดละเอียดและเม็ดใหญ่ผสมกัน ให้ความวิ้งค์ที่สวยงาม. เนื้อเจลบางเบา ยึดเกาะผิวได้ดี ติดทน. มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ ทั้งพาเลท ลิควิด และแบบแท่ง. ราคาถูกและดี. ข้อเสีย: พาเลทบางรุ่นสีแมตต์อาจจะไม่ชัดเท่ากลิตเตอร์.
• เหมาะกับใคร: คนที่มองหากลิตเตอร์หลากหลายรูปแบบในราคาประหยัด หรือชอบพาเลทที่รวมกลิตเตอร์ไว้ด้วย.
• ช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy. ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Beautrium.
• ช่วงราคา: ประมาณ 100 - 300 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "Meilinda Glitter Pop Eye Stick ใช้ง่ายมากค่ะ ทาใต้ตาแล้วน่ารักสุดๆ". "พาเลท Glitter Shot Shadow สีสวยคุ้มราคามากค่ะ".

6. Colorgram Milk Bling Shadow

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลีที่กำลังมาแรง เป็นที่นิยมในหมู่ไอดอลหลายคน.
• สินค้ารุ่นเด่น: Milk Bling Shadow (ลิควิดกลิตเตอร์).
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: กลิตเตอร์ละเอียดและใหญ่ผสมกัน ให้ประกายระยิบระยับเหมือนน้ำนม. เนื้อลิควิดเกลี่ยง่าย แห้งไว ติดทน. มีสีให้เลือกหลากหลายโทน. ข้อเสีย: หาซื้อในไทยอาจจะต้องพึ่งร้านพรีออเดอร์ หรือร้านออนไลน์บางร้าน ราคาอาจจะสูงกว่าแบรนด์ไทย.
• เหมาะกับใคร: คนที่ชอบกลิตเตอร์สไตล์ไอดอลเกาหลี เน้นความฉ่ำวาว เล่นแสงได้ดี.
• ช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee (ร้านพรีออเดอร์/ร้านนำเข้า), Konvy.
• ช่วงราคา: ประมาณ 300 - 500 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "Milk Bling Shadow วิ้งค์สวยมากค่ะ เหมือนมีดาวอยู่บนตาเลย". "เนื้อดีมากค่ะ ติดทน ไม่หลุดระหว่างวัน".

7. 3CE Eye Switch

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลีสุดชิคจาก Stylenanda ที่โดดเด่นเรื่องแพ็คเกจและสีสัน.
• สินค้ารุ่นเด่น: Eye Switch (ลิควิดกลิตเตอร์).
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: กลิตเตอร์หลากหลายขนาดผสมกัน ให้ประกายที่สวยงาม ไม่ซ้ำใคร. เนื้อลิควิดเกลี่ยง่าย ใช้เขียนเป็นดอลลี่อายได้ดี. ติดทนในระดับที่ดี. ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบรนด์เกาหลีและไทยอื่นๆ.
• เหมาะกับใคร: คนที่ชอบกลิตเตอร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แพ็คเกจสวยงาม และเป็นสาวกแบรนด์ 3CE.
• ช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee (Official Store หรือร้านนำเข้า). ออฟไลน์: Eveandboy (บางสาขา), Sephora.
• ช่วงราคา: ประมาณ 500 - 700 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "3CE Eye Switch สวยสมราคาค่ะ กลิตเตอร์ไม่เหมือนใครเลย". "หัวแปรงเล็กใช้ง่ายมาก เอามาเขียนใต้ตาก็เป๊ะ".

8. LA GLACE Dazzling Eye Glitter Duo

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยน้องใหม่ที่มาแรงมากในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะ TikTok.
• สินค้ารุ่นเด่น: Dazzling Eye Glitter Duo (กลิตเตอร์ 2 หัวในแท่งเดียว).
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: มี 2 สี/2 โทนในแท่งเดียว คุ้มค่ามาก. หัวแปรงซิลิโคน ใช้ง่าย ควบคุมปริมาณกลิตเตอร์ได้ดี. กลิตเตอร์วิ้งค์ เล่นแสงสวย. เหมาะกับมือใหม่. ข้อเสีย: มีให้เลือกไม่กี่โทนสี (แต่มีทั้งโทนเย็นและโทนอุ่น).
• เหมาะกับใคร: คนที่ชอบความคุ้มค่า ได้กลิตเตอร์ 2 สีในแท่งเดียว มือใหม่ที่ต้องการกลิตเตอร์ใช้ง่ายๆ.
• ช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee (Official Store). ออฟไลน์: Eveandboy, Beautrium.
• ช่วงราคา: ประมาณ 200 - 300 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "La Glace กลิตเตอร์ 2 หัวคือเริ่ดมาก! ใช้ง่าย วิ้งค์สวยถูกใจสุดๆ". "หัวซิลิโคนเกลี่ยง่ายดีค่ะ ไม่เลอะเทอะ".

9. Wet n Wild Coloricon Glitter

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ Drugstore จากอเมริกา ที่คุณภาพดีเกินราคา.
• สินค้ารุ่นเด่น: Coloricon Glitter (กลิตเตอร์เนื้อครีม).
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: กลิตเตอร์เนื้อครีม เกลี่ยง่าย เม็ดเล็กละเอียด ให้ความเป็นธรรมชาติ. ติดทน กันน้ำ กันเหงื่อ. ราคาถูกมากๆ. ข้อเสีย: อาจจะไม่ได้วิ้งค์เท่ากลิตเตอร์เม็ดใหญ่ของแบรนด์อื่น. สีอาจจะไม่ได้หลากหลายเท่าบางแบรนด์.
• เหมาะกับใคร: คนที่ชอบกลิตเตอร์เนื้อละเอียด ใช้งานง่าย ให้ลุคธรรมชาติ หรือมองหากลิตเตอร์คุณภาพดีในราคาประหยัดสุดๆ.
• ช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy. ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy (บางสาขา).
• ช่วงราคา: ประมาณ 100 - 200 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "Wet n Wild กลิตเตอร์ถูกและดีมีอยู่จริงค่ะ! ทาได้ทุกวันเลย". "เนื้อครีมใช้ง่าย ไม่เป็นผงๆ".

10. Unleashia Glitterpedia Eye Palette

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลี Vegan & Cruelty-Free ที่เน้นผลิตภัณฑ์กลิตเตอร์โดยเฉพาะ.
• สินค้ารุ่นเด่น: Glitterpedia Eye Palette (พาเลทอายแชโดว์ที่มีกลิตเตอร์หลากหลายแบบ).
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: เป็นพาเลทที่รวมกลิตเตอร์หลากหลายเนื้อสัมผัสและขนาดไว้ด้วยกัน คุ้มค่ามาก. เม็ดสีชัด ติดทน ไม่ค่อยมีปัญหาฟอลเอาท์. แพ็คเกจสวยงาม. ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าพาเลททั่วไป หาซื้อในไทยอาจจะต้องพึ่งร้านนำเข้า.
• เหมาะกับใคร: คนที่รักกลิตเตอร์ ต้องการพาเลทที่ครบจบในตลับเดียว ได้กลิตเตอร์หลายแบบ หรือคนที่มองหาเครื่องสำอาง Vegan.
• ช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Shopee (ร้านนำเข้า), Konvy (บางครั้ง).
• ช่วงราคา: ประมาณ 800 - 1,200 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "พาเลท Unleashia คือสวรรค์ของคนรักกลิตเตอร์จริงๆ ค่ะ มีให้เลือกเยอะมากในตลับเดียว". "เม็ดสีแน่น ติดทนดีค่ะ".

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับกลิตเตอร์ทาตา

Q: กลิตเตอร์ทาตาแบบไหนเหมาะกับคนเปลือกตามันง่ายคะ?
A: คนเปลือกตามันง่าย แนะนำให้ใช้ กลิตเตอร์แบบลิควิดหรือแบบเจล ที่มีเบสเป็นน้ำ เพราะจะแห้งไวและยึดเกาะผิวได้ดีกว่าแบบฝุ่นค่ะ. หรืออาจจะใช้ Eye Primer ช่วยควบคุมความมันบนเปลือกตาก่อนลงกลิตเตอร์ก็ได้ค่ะ.

Q: ทากลิตเตอร์แล้วกลัวจะร่วงเข้าตา ทำยังไงดี?
A: เลือกกลิตเตอร์ที่เคลมว่าติดทน ไม่ฟอลเอาท์ค่ะ โดยเฉพาะแบบลิควิดหรือเจล. เวลาทา ให้ใช้แปรงหรือนิ้วแตะเบาๆ แทนการปาดแรงๆ. ถ้ากังวลจริงๆ ลองใช้ Eye Primer แบบกลิตเตอร์โดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้กลิตเตอร์ยึดเกาะได้ดียิ่งขึ้นค่ะ.

Q: ลบกลิตเตอร์ทาตายังไงให้หมดจด ไม่บาดตา?
A: อันนี้สำคัญมากค่ะ! ห้ามขัดหรือถูแรงๆ เด็ดขาด! ใช้อายเมคอัพรีมูฟเวอร์แบบ Oil-based หรือ Bi-phase ชุบสำลีให้ชุ่ม วางทิ้งไว้บนเปลือกตาประมาณ 30 วินาที - 1 นาที แล้วค่อยๆ เช็ดออกอย่างเบามือ. บางคนใช้เทปกาวที่มีความเหนียวไม่มาก (เช่น เทปกาวติดกระดาษ) แตะเบาๆ บริเวณที่มีกลิตเตอร์ร่วง เพื่อดึงกลิตเตอร์ออกก่อน แล้วค่อยใช้รีมูฟเวอร์เช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง. อย่าลืมใช้คอตตอนบัดชุบรีมูฟเวอร์ทำความสะอาดตามซอกเล็กๆ อีกทีนะคะ.

Q: ซื้อกลิตเตอร์ทาตาออนไลน์ใน Lazada/Shopee ไว้ใจได้ไหม?
A: ถ้าซื้อจาก Official Store ของแบรนด์โดยตรง หรือร้านค้าที่มีเรตติ้งดี มีรีวิวจากผู้ซื้อเยอะๆ ค่อนข้างเชื่อถือได้ค่ะ. แต่ถ้าเจอร้านที่ไม่คุ้นเคย หรือราคาถูกจนน่าตกใจ ให้เช็คดีๆ อ่านรีวิวเยอะๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อป้องกันของปลอมค่ะ.

Q: กลิตเตอร์ทาตาเหมาะกับคนใส่คอนแทคเลนส์ไหม?
A: โดยทั่วไปกลิตเตอร์อาจทำให้ระคายเคืองตาได้ โดยเฉพาะถ้าหลุดเข้าไปในตา. คนใส่คอนแทคเลนส์ควรเลือกกลิตเตอร์ที่เม็ดเล็กละเอียดมากๆ และมีเนื้อที่ยึดเกาะได้ดี เพื่อลดโอกาสการหลุดร่วงค่ะ และต้องระมัดระวังเป็นพิเศษตอนทาและตอนล้างออก หากมีอาการเคืองตา ควรถอดคอนแทคเลนส์และหยุดใช้ทันทีค่ะ.

สรุปแล้ว ควรเลือกกลิตเตอร์ทาตาแบบไหนดีนะ?

การเลือกกลิตเตอร์ทาตา ไม่มีกฎตายตัวค่ะ! ขึ้นอยู่กับความชอบ สไตล์การแต่งหน้า และโอกาสที่จะใช้เลยค่ะ

• ถ้า งบจำกัด หรือเป็น มือใหม่หัดแต่ง ลองดูแบรนด์ไทยอย่าง 4U2, Cosluxe, Meilinda, Baby Bright, Sasi หรือ Odbo รุ่นเริ่มต้น ราคาไม่แรง คุณภาพดีเกินคาด.
• ถ้าชอบ กลิตเตอร์สไตล์เกาหลี เน้นความวิ้งค์ที่หลากหลาย ลองดู rom&nd, Colorgram, Etude House, Clio, Peripera หรือ 3CE.
• ถ้าเน้น ความติดทนขั้นสุด ในสภาพอากาศเมืองไทย ลองดูแบบลิควิดหรือเจลจากแบรนด์ต่างๆ ที่รีวิวว่าติดทนดี.
• ถ้าอยากได้ ความคุ้มค่า ได้หลายสีในแท่งเดียว ลอง LA GLACE Dazzling Eye Glitter Duo.
• ถ้าเป็น สายวีแกน หรือชอบพาเลทที่รวมกลิตเตอร์ไว้เยอะๆ ลองดู Unleashia Glitterpedia Eye Palette.

สิ่งสำคัญที่สุดคือ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับรอบดวงตาโดยเฉพาะ และเรียนรู้วิธีทำความสะอาดอย่างถูกต้อง. ในช่วงเทศกาล โปรโมชั่นใหญ่ๆ หรือวันดับเบิ้ลเดย์ (11.11, 12.12) บนแพลตฟอร์มออนไลน์ มักจะมีดีลดีๆ สำหรับกลิตเตอร์ทาตาเพียบ! ใครเล็งตัวไหนไว้ อย่าพลาดช่วงเวลานั้นนะคะ 😉

มาเม้าท์มอยกันหน่อย! มีกลิตเตอร์ตัวไหนในดวงใจบ้าง?

อ่านจบแล้วเป็นยังไงบ้างคะ? เล็งตัวไหนไว้เป็นพิเศษ หรือมีกลิตเตอร์ทาตาตัวไหนที่ใช้แล้วชอบมาก อยากป้ายยาเพื่อนๆ คนอื่นอีก คอมเมนต์มาบอกกันได้เลยนะ! 👇 มาแชร์ประสบการณ์ความวิ้งค์กันค่ะ!

ถ้าชอบบทความนี้ อยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้านค้าออนไลน์ที่มีโปรโมชั่นเด็ดๆ ของกลิตเตอร์ตัวไหนเป็นพิเศษ พิมพ์คำว่า "อยากได้พิกัด!" มาในคอมเมนต์ได้เลยนะคะ เดี๋ยวรวบรวมมาให้จ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้านะคะ บ๊ายบายยย 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รวมพาเลตแต่งตาที่ชอบครึ่งปี 2024 คัดมาแล้วว่าคุ้ม ใช้ได้จริงจ้า ...
• กริตเตอร์ทาตาเกาหลี: ความสวยวิ้งที่คุณต้องลอง
• 10 แนะนำอายแชโดว์สีสวย ใช้ได้ทุกวัน | ป้ายยาtiktok, fouryou, รีวิวบิวตี้
• แต่งตาวิ้งค์ แก้มสวย เปล่งประกายแบบดาว
• รีวิวพาเลทตาที่สวยและดีที่สุดในปีนี้