logo

10 อันดับ Dr.Jart+ ตัวไหนดี ปี 2025 ปลอบประโลมผิวแพ้ง่าย กู้ผิวพัง

user avatar
สุวนันท์ วิเศษสมบัติ·07/07/2025 11:42
点赞
10 อันดับ Dr.Jart+ ตัวไหนดี ปี 2025 ปลอบประโลมผิวแพ้ง่าย กู้ผิวพัง

สวัสดีค่าทุกคนนน! 👋 ไหนใครมีปัญหาผิวบอบบางแพ้ง่าย สิวเห่อ ผดขึ้น หน้าแดงเป็นน้องกุ้งต้มบ้างยกมือขึ้น! เข้าใจเลยว่าเวลาผิวเรางอแงเนี่ย มันทรมานใจแค่ไหน จะใช้อะไรก็กลัวแพ้ไปหมด จนบางทีท้อใจไม่อยากดูแลผิวกันเลยทีเดียว

แต่!!! อย่าเพิ่งหมดหวังค่ะซิส! เพราะตอนนี้ในวงการสกินแคร์เกาหลี (ที่เข้ามาครองใจคนไทยอย่างเราๆ) มีแบรนด์นึงที่ยืนหนึ่งเรื่องปลอบประโลมผิวแพ้ง่าย กู้ผิวพัง ให้กลับมาแข็งแรง สู้ชีวิตได้อีกครั้ง นั่นก็คือ Dr.Jart+ นั่นเองค่ะ!

แบรนด์นี้เค้าดังมากๆ ในเรื่องการนำวิทยาศาสตร์มารวมกับศิลปะ (ชื่อแบรนด์มาจาก Doctor + Join + Art เก๋ป่ะล่ะ) เน้นส่วนผสมดีๆ ที่ผ่านการทดสอบแล้วว่าอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ แต่ปัญหาคือ...ผลิตภัณฑ์ของ Dr.Jart+ เค้าก็มีเยอะซะเหลือเกิน! ไลน์สีเขียว สีเหลือง สีฟ้า โอ๊ยยย เต็มไปหมด แล้วตัวไหนล่ะที่เหมาะกับผิวแพ้ง่ายอย่างเราจริงๆ?

ไม่ต้องกลุ้มใจไปค่ะ! ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึก 10 อันดับ Dr.Jart+ ตัวเด็ดปี 2025 ที่คัดมาแล้วว่าช่วยปลอบประโลมผิวแพ้ง่าย กู้ผิวพัง ให้กลับมาปังเหมือนเดิม พร้อมบอกหมดเปลือกว่าแต่ละตัวเหมาะกับใคร ควรซื้อที่ไหน และราคาประมาณเท่าไหร่ พร้อมฟังเสียงรีวิวจากผู้ใช้จริงชาวไทยด้วยค่ะ! อ่านจบปุ๊บ พุ่งตัวไปช้อปได้เลย!

ตลาด Dr.Jart+ ในไทย ฮอตแค่ไหนนะ?

Dr.Jart+ ถือเป็นแบรนด์สกินแคร์จากเกาหลีที่ได้รับความนิยมในไทยมาพักใหญ่แล้วค่ะ โดยเฉพาะไลน์ Cicapair สีเขียวที่เป็นฮีโร่ของคนผิวแพ้ง่ายและมีปัญหารอยแดงจากสิว ด้วยความที่คนไทยจำนวนมากมีปัญหาผิวบอบบาง ระคายเคืองง่าย จากทั้งสภาพอากาศที่ร้อนชื้น มลภาวะ หรือแม้แต่การใช้สกินแคร์ที่รุนแรงเกินไป ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปลอบประโลมและเสริมเกราะป้องกันผิวเป็นที่ต้องการอย่างมาก และ Dr.Jart+ ก็เข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ได้เป็นอย่างดี

แบรนด์ Dr.Jart+ โดดเด่นในการนำสารสกัดจากธรรมชาติ โดยเฉพาะ ใบบัวบก (Centella Asiatica หรือ Tiger Grass) และ เซราไมด์ (Ceramide) มาพัฒนาในห้องแล็บจนได้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนแต่มีประสิทธิภาพ ทำให้ครองใจผู้บริโภคชาวไทยที่ชอบสกินแคร์เกาหลีและมองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด

แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมสำหรับ Dr.Jart+ ในไทยก็หนีไม่พ้นร้าน Multibeauty อย่าง Sephora, Watsons และ Eveandboy ที่มักจะมีเคาน์เตอร์หรือโซนของ Dr.Jart+ ให้เลือกซื้อและบางทีก็มีโปรโมชั่นน่าสนใจ นอกจากนี้ ช่องทางออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee ก็เป็นที่นิยมมากๆ เพราะเข้าถึงง่าย มีร้านค้าอย่างเป็นทางการของแบรนด์หรือตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ และมีโปรโมชั่นลดราคาบ่อยๆ บางครั้งก็มีขายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง Central Online ด้วยเช่นกัน

เลือก Dr.Jart+ ตัวไหนดี ปลอบประโลมผิวแพ้ง่าย?

การเลือกสกินแคร์สำหรับผิวแพ้ง่ายต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษค่ะ นอกจากจะดูที่ชื่อแบรนด์แล้ว เราต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ด้วย เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวเราที่สุด มาดูกันเลยค่ะ:

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาDr.Jart+ เหมาะกับผิวแพ้ง่ายตรงไหน?
ส่วนผสมหลัก (Ingredients)มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมช่วยปลอบประโลม ลดการอักเสบ และเสริมเกราะป้องกันผิว เช่น Centella Asiatica (Cica) หรือ Ceramide ซึ่งเป็นหัวใจหลักของ Dr.Jart+ หลายๆ ไลน์ หลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อการระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือพาราเบน (Dr.Jart+ หลายตัวเคลมว่า Free จากสารเหล่านี้)
ปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไขผิวแพ้ง่ายมีหลายแบบ บางคนแพ้จนแดง คัน เป็นผด บางคนแพ้จนผิวแห้ง ลอกเป็นขุย บางคนแพ้แล้วสิวขึ้นง่าย เลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับปัญหาผิวของเราจริงๆ ค่ะ ไลน์ Cicapair เน้นเรื่องรอยแดง การอักเสบ สิว , Ceramidin เน้นเรื่องผิวแห้ง ขาดเซราไมด์ , Vital Hydra Solution เน้นเรื่องผิวขาดน้ำ , Teatreement เน้นปัญหาสิวร่วมด้วย
เนื้อสัมผัส (Texture)สภาพอากาศบ้านเราค่อนข้างร้อนชื้น เลือกเนื้อสัมผัสที่สบายผิว ไม่เหนอะหนะ อย่าง Gel Cream , Serum ที่ซึมไว , หรือ Liquid/Toner เนื้อเบา ถ้าผิวแห้งมาก อาจเลือก Cream หรือ Balm ที่เข้มข้นขึ้น
รีวิวจากผู้ใช้จริงในไทยอันนี้สำคัญมาก! เช็คดูว่าคนไทยที่สภาพผิวคล้ายๆ เรา ใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง หาอ่านรีวิวตามโซเชียลมีเดีย, เว็บไซต์รีวิว, หรือแอปฯ อย่าง Lemon8 จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ช่องทางการซื้อและความน่าเชื่อถือซื้อจากร้านค้าทางการของแบรนด์ หรือร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้มั่นใจว่าได้ของแท้และมีคุณภาพ
ราคาและโปรโมชั่นDr.Jart+ เป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างมีราคาสูง แต่หลายๆ ครั้งก็มีจัดโปรโมชั่นในร้านค้าต่างๆ หรือตามแพลตฟอร์มออนไลน์ คอยเช็คราคา เปรียบเทียบโปรโมชั่น จะช่วยให้ช้อปได้คุ้มค่าขึ้นค่ะ

จัดมา! 10 อันดับ Dr.Jart+ ตัวเด็ด ปี 2025 สำหรับผิวแพ้ง่าย!

ได้เวลาเปิดโผ 10 ตัวเลือกสุดปังจาก Dr.Jart+ ที่คัดมาเพื่อคนผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ จะมีตัวไหนติดโผบ้าง ไปดูกันเลย!

1. Dr.Jart+ Cicapair™ Intensive Soothing Repair Serum

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เวชสำอางจากเกาหลี ที่เน้นส่วนผสมประสิทธิภาพสูงและอ่อนโยน
  • สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Cicapair™ Series (ไลน์สีเขียว) เน้นปลอบประโลมผิว ลดรอยแดง
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: เป็นเซรั่มเนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนอะหนะ ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบและรอยแดงจากสิวและอาการแพ้ได้ดี ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น
    • ข้อเสีย: บางคนอาจรู้สึกว่าช่วยลดรอยแดงได้แต่ไม่ได้หายวับไปทันที ต้องใช้เวลา
  • เหมาะกับใคร: คนที่มีปัญหาสิวอักเสบ รอยแดงหลังสิว ผิวระคายเคืองง่าย ต้องการเซรั่มเนื้อเบาที่ช่วยปลอบประโลมผิว
  • ช่องทางการซื้อ: Sephora, Watsons, Eveandboy, Lazada, Shopee, Central Online
  • ช่วงราคา: ประมาณ 1,350 - 1,800 บาท (ราคาอาจแตกต่างกันตามโปรโมชั่นและแหล่งที่ซื้อ)
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "ใครที่ทั้งมีสิวอักเสบแถมผิวยังระคายเคือง แพ้ง่ายด้วย แนะนำให้ใช้ตัวนี้เลยค่ะ เพราะเค้าเป็นเซรั่มที่ช่วยปลอบประโลมผิวเป็นสิวได้ดีเลย" "เนื้อบางเบา ซึมไว ไม่เหนอะหนะ"

2. Dr.Jart+ Cicapair™ Intensive Soothing Repair Cream

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เวชสำอางจากเกาหลี
  • สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Cicapair™ Series (ไลน์สีเขียว) เน้นปลอบประโลมผิว ลดรอยแดง
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: ครีมบำรุงที่ช่วยให้ผิวที่ระคายเคืองและแพ้ง่ายแข็งแรงขึ้น ช่วยลดอาการแดง ลอก แห้ง และผด เนื้อสัมผัสดี ไม่หนักหน้าเกินไป
    • ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง บางคนผิวแห้งมากๆ อาจจะต้องใช้ร่วมกับตัวอื่นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
  • เหมาะกับใคร: คนผิวแพ้ง่าย แห้ง แดง ลอก หรือมีสิวผด ต้องการครีมที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวและปลอบประโลม
  • ช่องทางการซื้อ: Sephora, Watsons, Eveandboy, Lazada, Shopee, Central Online
  • ช่วงราคา: ประมาณ 1,550 - 2,000 บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "Item กู้หน้าสาวผิวแห้ง แพ้ง่าย อีกตัว !!! จินได้ลองใช้มา 2 อาทิตย์ ชอบมากกกก ผิวแดง ลอก แห้ง ผด หาย รอยสิวจางลงนิดนึง ^^" "หลังจากที่ได้ลองใช้ Dr.Jart+ Cicapair มาสักระยะ ฉันรู้สึกว่าอาการระคายเคืองจากผิวแพ้ง่ายลดลงอย่างเห็นได้ชัด"

3. Dr.Jart+ Cicapair™ Tiger Grass Color Correcting Treatment SPF 40/PA+++

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เวชสำอางจากเกาหลี
  • สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Cicapair™ Series (ไลน์สีเขียว)
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: เป็นครีมสีเขียวที่เมื่อทาแล้วจะปรับเป็นสีเบจ ช่วยปกปิดรอยแดงจากสิวหรืออาการแพ้ได้ดี มีส่วนผสมของ Cica ช่วยปลอบประโลมผิวไปในตัว มีสารกันแดด SPF 40/PA+++ ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี สามารถใช้แทนเบสเมคอัพหรือรองพื้นในวันสบายๆ ได้
    • ข้อเสีย: เนื้อครีมอาจจะหนืดนิดหน่อย ไม่เหมาะกับคนผิวแห้งมากๆ อาจทำให้เป็นขุยได้ สีอาจจะดูเทาๆ สำหรับคนผิวคล้ำ
  • เหมาะกับใคร: คนผิวแพ้ง่ายที่มีรอยแดงจากสิว ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกปิดรอยแดง พร้อมบำรุงและกันแดดในขั้นตอนเดียว เหมาะกับคนผิวมันถึงผิวผสมมากกว่า
  • ช่องทางการซื้อ: Sephora, Watsons, Eveandboy, Lazada, Shopee, Central Online
  • ช่วงราคา: ประมาณ 790 - 1,800 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดและโปรโมชั่น)
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "Dr.Jart cicapair re-cover ครีมที่ช่วยปิดรอยแดงและลดสิวบนผิวหน้าของเรา...เมื่อทาลงบนผิวหน้าของเราแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีครีม เป็นการช่วยปกปิดรอยแดงด้วยการปรับโทน สีผิวของเรานั่นเอง" "สำหรับเราคิดว่า น้องลดรอยแดงได้ดี"

4. Dr.Jart+ Cicapair™ Intensive Soothing Repair Gel Cream

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เวชสำอางจากเกาหลี
  • สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Cicapair™ Series (ไลน์สีเขียว) เน้นปลอบประโลมผิว ลดรอยแดง
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: เนื้อเจลครีมบางเบา ซึมซาบเร็ว ให้ความรู้สึกเย็นสบายผิว เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นในไทย ช่วยปลอบประโลมผิว ลดรอยแดง และให้ความชุ่มชื้น ไม่เหนียวเหนอะหนะ
    • ข้อเสีย: อาจจะไม่เข้มข้นเท่าตัวครีม สำหรับคนผิวแห้งมากๆ
  • เหมาะกับใคร: คนผิวแพ้ง่ายที่ผิวมันถึงผิวผสม เป็นสิวผด หรือต้องการมอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อเบาที่ช่วยปลอบประโลมผิวในตอนกลางวัน
  • ช่องทางการซื้อ: Sephora, Watsons, Eveandboy, Lazada, Shopee, Central Online
  • ช่วงราคา: ประมาณ 1,550 - 2,000 บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "เจลครีม ที่อยู่ระหว่างกึ่งๆเจลกับครีม ตัวนี้เราชอบมากกกกก ใช้ตลอดขาดไม่ได้ ใช้ก่อนแต่งหน้าก็ได้ เพราะซึมไวมาก ไม่ทิ้งความเหนียว" "เนื้อเจลครีมบางเบาจริง ๆ ทาแล้วรู้สึกเย็นสดชื่น ซึมซาบผิวได้อย่างรวดเร็ว"

5. Dr.Jart+ Cicapair™ Sleepair Ampoule-in Balm

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เวชสำอางจากเกาหลี
  • สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Cicapair™ Series (ไลน์สีเขียว) เน้นปลอบประโลมผิว ลดรอยแดง
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: เป็นสลีปปิ้งมาส์กเนื้อบาล์มเข้มข้น ช่วยปลอบประโลมผิวและให้ความชุ่มชื้นขั้นสุดในตอนกลางคืน ตื่นมาแล้วรู้สึกผิว calm ลง ไม่ค่อยมีสิวเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้น ใช้ปริมาณนิดเดียวก็ทั่วหน้า ทำให้ใช้ได้นาน คุ้มค่า
    • ข้อเสีย: เนื้ออาจจะมีความหนึบๆ อยู่บ้าง
  • เหมาะกับใคร: คนผิวแพ้ง่ายที่ต้องการการบำรุงและปลอบประโลมอย่างเข้มข้นในตอนกลางคืน หรือวันที่ผิวไปเผชิญมลภาวะมาหนักๆ เหมาะกับคนผิวแห้งถึงผิวผสม
  • ช่องทางการซื้อ: Sephora, Watsons, Eveandboy, Lazada, Shopee
  • ช่วงราคา: ประมาณ 1,100 - 1,500 บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "น้องเป็นมาส์กเจลเข้มข้น แบบไม่ต้องล้างออก...ตื่นมาจะไม่มีสิวขึ้นมาเลย น้องช่วยcalmผิวจริงๆ" "เค้าให้มาคุ้มมากกกกกก"

6. Dr.Jart+ Ceramidin™ Skin Barrier Moisturizing Cream

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เวชสำอางจากเกาหลี
  • สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Ceramidin™ Series (ไลน์สีเหลือง) เน้นเสริมเกราะป้องกันผิว เติมเซราไมด์และความชุ่มชื้น
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง เติมความชุ่มชื้นให้ผิวที่แห้งตึง ขาดน้ำ ได้ดีมากๆ เนื้อครีมเข้มข้นแต่ซึมซาบไว ช่วยลดอาการตึงผิวและคันจากความแห้ง ไม่ก่อให้เกิดคราบหรือความเหนอะหนะ
    • ข้อเสีย: บางคนผิวมันอาจจะรู้สึกหนักไปนิด
  • เหมาะกับใคร: คนผิวแพ้ง่ายที่แห้งถึงแห้งมาก ผิวขาดเซราไมด์ ผิวที่รู้สึกตึงๆ คันๆ ต้องการครีมที่ช่วยเสริมความแข็งแรงและให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก
  • ช่องทางการซื้อ: Sephora, Watsons, Eveandboy, Lazada, Shopee, Central Online
  • ช่วงราคา: ประมาณ 1,500 - 2,000 บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "ผิวแพ้ง่ายถูกใจสิ่งนี้! ครีมบำรุงผิวเพื่อเกราะป้องกันผิวแข็งแรง" "ใช้แล้วรู้สึกหน้านุ่มชุ่มชื้นดีค่ะ ใช้แล้วไม่แพ้ด้วย:)) ดีค่ะ" "ช่วยบำรุงผิวได้ดีมาก อยากแนะนำให้ทุกคนที่มีผิวแห้งลองใช้ ครีมนี้ช่วยเติมความชุ่มชื้นได้จริง"

7. Dr.Jart+ Ceramidin™ Skin Barrier Serum Toner

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เวชสำอางจากเกาหลี
  • สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Ceramidin™ Series (ไลน์สีเหลือง) เน้นเสริมเกราะป้องกันผิว เติมเซราไมด์และความชุ่มชื้น
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: เป็น Toner + Serum ในขวดเดียว เนื้อบางเบาแต่ให้ความชุ่มชื้นได้ดี ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป เสริมเกราะป้องกันผิวและช่วยให้ผิวแข็งแรง
    • ข้อเสีย: อาจจะรู้สึกไม่เข้มข้นเท่าตัวเซรั่ม
  • เหมาะกับใคร: คนผิวแพ้ง่ายที่ต้องการขั้นตอนการบำรุงที่ครบถ้วนแต่ไม่ยุ่งยาก ช่วยเติมความชุ่มชื้นและเสริมเกราะป้องกันผิวหลังล้างหน้า เหมาะกับทุกสภาพผิวรวมถึงผิวมัน
  • ช่องทางการซื้อ: Sephora, Watsons, Eveandboy, Lazada, Shopee, Central Online
  • ช่วงราคา: ประมาณ 1,200 - 1,500 บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "โทนเนอร์เนื้อเบาที่ทำหน้าที่นำพาครีมบำรุงเข้าสู่เซลล์ผิวชั้นใน อีกทั้งช่วยฟื้นฟูระดับเซลล์ผิวให้คงความชุ่มชื้น ช่วยกักเก็บน้ำให้แก่ผิวยาวนาน...อ่อนโยนเหมาะแก่ทุกสภาพผิว รวมถึงผู้มีผิวบอบบางแพ้ง่าย" "ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในไลน์ Ceramidin ของ Dr. Jart เป็นไลน์เดียว...ที่ให้ความชุ่มชื้นโดยไม่ทำให้หน้ามัน"

8. Dr.Jart+ Ceramidin™ Skin Barrier Moisturizing Serum

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เวชสำอางจากเกาหลี
  • สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Ceramidin™ Series (ไลน์สีเหลือง) เน้นเสริมเกราะป้องกันผิว เติมเซราไมด์และความชุ่มชื้น
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: เซรั่มที่เน้นการเติมเซราไมด์และความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก ช่วยให้ผิวที่แห้ง ขาดน้ำ กลับมานุ่ม ยืดหยุ่นขึ้น เสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ลดการแพ้ระคายเคือง
    • ข้อเสีย: เนื้ออาจจะมีความเข้มข้นกว่าเซรั่มทั่วๆ ไปเล็กน้อย
  • เหมาะกับใคร: คนผิวแพ้ง่ายที่ผิวแห้งถึงแห้งมาก ต้องการเซรั่มที่เน้นการฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวและเติมความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ
  • ช่องทางการซื้อ: Sephora, Watsons, Eveandboy, Lazada, Shopee, Central Online
  • ช่วงราคา: ประมาณ 1,300 - 1,800 บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "มอยส์เจอร์ไรเซอร์ซึ่งมีส่วนผสมของ ceramide มีส่วนช่วยในการปรับปรุงเกราะปกป้องผิว ป้องกันการสูญเสียน้ำบนผิว" "อ่อนโยนเหมาะแก่ทุกสภาพผิว รวมถึงผู้มีผิวบอบบางแพ้ง่าย"

9. Dr.Jart+ Dermask™ Vital Hydra Solution Sheet Mask

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เวชสำอางจากเกาหลี
  • สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Dermask™ Series (มาส์กแผ่น) และ Vital Hydra Solution™ Series (ไลน์สีฟ้า) เน้นเติมความชุ่มชื้น
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: มาส์กแผ่นที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างล้ำลึก รวดเร็ว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ เปล่งปลั่ง แผ่นมาส์กนุ่ม แนบสนิทไปกับผิว เหมาะสำหรับผิวที่ขาดน้ำ ผิวโทรม ต้องการบูสต์ความชุ่มชื้นเร่งด่วน สูตรนี้อ่อนโยน เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย
    • ข้อเสีย: ราคาต่อแผ่นค่อนข้างสูง ถ้าซื้อแบบแยกชิ้น เอสเซนส์อาจจะเยอะมาก
  • เหมาะกับใคร: คนผิวแพ้ง่ายที่ผิวขาดน้ำ ผิวแห้งกร้าน หรือต้องการมาส์กที่ช่วยปลอบประโลมและเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเร่งด่วน
  • ช่องทางการซื้อ: Sephora, Watsons, Eveandboy, Lazada, Shopee, Central Online
  • ช่วงราคา: ประมาณ 150 - 250 บาทต่อแผ่น (ราคาต่อกล่องจะถูกกว่า)
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างล้ำลึก และดูแล ผิวที่บอบบาง ขาดน้ำให้กลับมามีสุขภาพดีขึ้นอีกครั้ง" "ใช้แล้วซุ่มชื่นจริง" "It leaves my skin feeling more plump and replenished"

10. Dr.Jart+ Ctrl-A Teatreement™ Serum

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เวชสำอางจากเกาหลี
  • สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Ctrl-A Teatreement™ Series (ไลน์สีเขียวฟ้า) เน้นดูแลปัญหาสิว
  • วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
    • ข้อดี: มีส่วนผสมของ Tea Tree ช่วยดูแลปัญหาสิว และมีส่วนผสมอื่นๆ ที่ช่วยปลอบประโลมผิว เนื้อเซรั่มบางเบา ซึมซาบเร็ว เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายที่เป็นสิวด้วย
    • ข้อเสีย: เน้นดูแลปัญหาสิวเป็นหลัก อาจจะต้องใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ไลน์อื่นหากต้องการเน้นเรื่องการเสริมเกราะป้องกันผิวมากๆ
  • เหมาะกับใคร: คนผิวแพ้ง่ายที่เป็นสิวง่าย โดยเฉพาะสิวอักเสบ ต้องการเซรั่มที่ช่วยดูแลปัญหาสิวพร้อมปลอบประโลมผิวไปในตัว
  • ช่องทางการซื้อ: Sephora, Watsons, Eveandboy, Lazada, Shopee, Central Online
  • ช่วงราคา: ประมาณ 1,000 - 1,500 บาท
  • รีวิวผู้ใช้งาน: "ใครที่ทั้งมีสิวอักเสบแถมผิวยังระคายเคือง แพ้ง่ายด้วย แนะนำให้ใช้ตัวนี้เลยค่ะ เพราะเค้าเป็นเซรั่มที่ช่วยปลอบประโลมผิวเป็นสิวได้ดีเลย" (หมายเหตุ: รีวิวนี้พูดถึง Cicapair Serum ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายคลึงในการปลอบประโลมผิวแพ้ง่ายและเป็นสิว)

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนผิวแพ้ง่าย!

Q: ระหว่างไลน์ Cicapair กับ Ceramidin อันไหนเหมาะกับผิวแพ้ง่ายมากกว่ากันคะ?
A: ทั้งสองไลน์เหมาะกับผิวแพ้ง่ายค่ะ แต่แก้ปัญหาคนละแบบ ถ้าผิวแพ้แล้วมีปัญหาเรื่องรอยแดง การอักเสบ สิวผด หรือเพิ่งไปทำทรีตเมนต์มา แนะนำไลน์ Cicapair สีเขียว ค่ะ แต่ถ้าผิวแพ้แล้วมีปัญหาแห้ง ลอก ขาดน้ำ เกราะป้องกันผิวอ่อนแอ แนะนำไลน์ Ceramidin สีเหลือง ค่ะ

Q: Dr.Jart+ Cicapair Re-Cover ใช้แทนรองพื้นได้ไหมคะ แล้วจะอุดตันผิวแพ้ง่ายหรือเปล่า?
A: ใช้แทนเบสเมคอัพหรือรองพื้นในวันสบายๆ ได้ค่ะ เพราะช่วยปรับสีผิวและปกปิดรอยแดงได้ในระดับหนึ่ง ส่วนเรื่องอุดตัน ส่วนใหญ่ Dr.Jart+ เคลมว่าอ่อนโยนและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และต้องทำความสะอาดผิวให้สะอาดหมดจดหลังใช้ด้วยค่ะ

Q: ซื้อ Dr.Jart+ ที่ Watsons หรือ Eveandboy ของแท้แน่นอนไหมคะ แล้วช่องทางออนไลน์เชื่อถือได้แค่ไหน?
A: ซื้อจาก Watsons, Eveandboy, Sephora, Central Online ค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นของแท้ค่ะ สำหรับช่องทางออนไลน์อย่าง Lazada, Shopee ควรเลือกซื้อจากร้านค้าทางการของ Dr.Jart+ หรือร้านที่เป็น Official Store/Mall ที่มีเรตติ้งและรีวิวดีๆ เพื่อลดความเสี่ยงเจอของปลอมค่ะ

Q: สภาพอากาศร้อนๆ ในไทย ใช้ Dr.Jart+ ตัวไหนดีคะที่เนื้อไม่หนักหน้า?
A: แนะนำพวกเนื้อบางเบาค่ะ เช่น Cicapair Serum , Cicapair Calming Gel Cream , Ceramidin Serum, หรือ Ceramidin Liquid ส่วนมาส์กแผ่น Vital Hydra Solution ก็สบายผิวและให้ความชุ่มชื้นดีค่ะ ตัวครีมอาจจะเหมาะกับการใช้ตอนกลางคืนหรือวันที่อากาศไม่ร้อนมากนัก

สรุปส่งท้าย เลือก Dr.Jart+ ให้ใช่ กู้ผิวพังให้ปัง!

เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 10 อันดับ Dr.Jart+ ที่เราคัดมาให้ จะเห็นได้ว่า Dr.Jart+ มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ปัญหาผิวแพ้ง่ายได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาแดง คัน อักเสบ แห้ง ลอก หรือเป็นสิวง่าย ที่สำคัญคือเค้าเน้นส่วนผสมที่อ่อนโยนและผ่านการทดสอบมาแล้ว ทำให้เรามั่นใจในระดับหนึ่งว่าจะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองซ้ำเติมผิว

การเลือก Dr.Jart+ ที่เหมาะกับเราที่สุด เริ่มต้นจาก:
- รู้ปัญหาผิวตัวเอง: แดง คัน? แห้ง ลอก? เป็นสิวด้วย?
- เลือกไลน์ผลิตภัณฑ์ให้ตรง: Cicapair สำหรับผิวแดงแพ้ง่าย , Ceramidin สำหรับผิวแห้งขาดเซราไมด์ , Vital Hydra Solution สำหรับผิวขาดน้ำ , Teatreement สำหรับผิวเป็นสิว
- พิจารณาเนื้อสัมผัส: ชอบแบบบางเบา Gel Cream/Serum หรือแบบเข้มข้น Cream/Balm ให้เหมาะกับสภาพผิวและสภาพอากาศ
- อ่านรีวิวเยอะๆ: ฟังเสียงจากผู้ใช้จริงช่วยได้เยอะค่ะ

ข้อควรระวังนิดนึงนะคะ! แม้ Dr.Jart+ จะเคลมว่าอ่อนโยน แต่ผิวแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ ควรทดสอบผลิตภัณฑ์บนท้องแขนก่อนใช้จริงเสมอ และถึงแม้บางตัวจะมีกันแดดผสมอยู่ (อย่าง Cicapair Re-Cover ) แต่สำหรับแดดเมืองไทย แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่ค่า SPF สูงๆ ทาทับอีกชั้นเพื่อการปกป้องที่เพียงพอด้วยนะคะ!

มาเมาท์มอยกันหน่อย! แชร์ประสบการณ์ Dr.Jart+ ของเพื่อนๆ ได้เลย!

เพื่อนๆ คนไหนเคยใช้ Dr.Jart+ ตัวไหนบ้างคะ? ใช้แล้วเป็นยังไง ชอบไม่ชอบตรงไหน หรือมีตัวไหนนอกเหนือจากนี้ที่อยากแนะนำ บอกต่อเพื่อนๆ คนอื่นได้เลยนะคะ มาแชร์ประสบการณ์ดีๆ (หรือแอบเม้าท์มอย) กันได้ในคอมเมนต์ด้านล่างนี้เลยค่ะ! 👇

ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ หรือใครอยากได้พิกัดร้านค้าออนไลน์พร้อมโปรโมชั่นเด็ดๆ พิมพ์บอกมาได้เลยนะคะ เดี๋ยวจะรวบรวมมาให้ค่า! แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ บ๊ายบายยย! 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

โอ้โห มาถึงปี 2020 แล้ว เวลามันช่างผ่านไปไวเหมือนโกหก! รู้ตัวอีกทีก็สิ้นปี เตรียมเคานต์ดาวน์ แถมสภาพผิวก็เหมือนผ่านศึกมานับไม่ถ้วน! ใครที่กำลังมองหาตัวช่วยกู้ชีพผิวให้ปังรับปีใหม่ แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี เซรั่มก็เยอะ ครีมก็แยะ น้ำตบก็มาเต็
รวม Best Skincare 2020 ตัวเด็ด! สกินแคร์ที่ต้องมี ผิวสวยรับปีใหม่
เอาล่ะค่ะคุณผู้ฟัง! เอ้ย! คุณผู้อ่านทุกท่าน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยหอยสังข์กับสกินแคร์ตัวนึงที่เค้าว่ากันว่าเด็ดจริงอะไรจริง! ใครมีปัญหาผิวหน้าเริ่มงอแง ไม่ใสเหมือนเมื่อก่อน ริ้วรอยเล็กๆ ถามหา หรือแค่รู้สึกว่า เอ๊ะ! ทำไมผิวดูเหนื่อยๆ แก่กว่
รีวิว Seva Age White Serum: เซรั่มหน้าใส ลดริ้วรอย บอกลาปัญหาผิวแก่ก่อนวัย
สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้แม่จะมารีวิวของที่ใช้แล้วรัก ใช้แล้วเลิฟ ใช้แล้วเงินในบัญชีสั่นสะเทือน นั่นก็คือ SK-II Facial Treatment Clear Lotion หรือที่เรียกกันติดปากว่า "เคลียร์ โลชั่น" ของ SK-II นั่นเอง! ตัวนี้เค้าเคลมว่าช่วยผลัดเซลล์ผิว เตรี
SK-II Clear Lotion รีวิว: โทนเนอร์/เอสเซ้นส์ ตัวดัง ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้จริงไหม?

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีครับเพื่อนๆ สายบิวตี้และสาวกงานผิวฉ่ำวาวเกาหลีทุกคน! ✨ ในยุคที่เทรนด์ผิวสวยใสสุขภาพดีกำลังมาแรงแซงทุกโค้ง แถมอากาศประเทศไทยก็พร้อมท้าทายเมคอัพเราอยู่ตลอดเวลา การจะมีแป้งพัฟคู่ใจที่เอาอยู่ทั้งผิวฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี แถมยังปกปิดเนียนกริบ
10 แป้งพัฟเกาหลี ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ผิวฉ่ำวาว ปกปิดเนียนเป๊ะ
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม ผิวไหนๆ ที่กำลังมองหาตัวช่วยเติมน้ำให้ผิวแบบสบายๆ บางเบา ไม่เหนอะหนะ! 👋 อากาศเมืองไทยนี่ก็ร้อนอบอ้าวเหลือเกิน บางทีทาครีมหนักๆ แล้วรู้สึกเหมือนใส่เสื้อกันหนาวให้ผิวหน้าใช่ไหมล่ะครับ? ยิ่งช่วงเทศกา
10 อันดับ เจลบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 บางเบา ซึมง่าย ให้ความชุ่มชื้น
สวัสดีค่ะสาวๆ หนุ่มๆ (และทุกเพศทุกวัย!) ที่หลงใหลในเสน่ห์ของริมฝีปากสุขภาพดีอมชมพูแบบธรรมชาติ 👋 ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา วัยทำงาน หรือใครก็ตามที่ต้องเผชิญกับอากาศเมืองไทยที่ทั้งร้อนทั้งชื้น บางทีก็มีแห้งบ้าง ทำให้ปากเราแห้งแตก หมองคล้
10 อันดับ ลิปมันเปลี่ยนสี ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ปากอมชมพู ชุ่มชื้น ดูเป็นธรรมชาติ

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ