logo

Isuzu D-Max ราคาล่าสุดทุกรุ่น ปี 2025 พร้อมโปรโมชั่น

user avatar
ณิชากร เทพวงศ์·07/07/2025 20:44
点赞
Isuzu D-Max ราคาล่าสุดทุกรุ่น ปี 2025 พร้อมโปรโมชั่น

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องรถกระบะขวัญใจมหาชนชาวไทยอย่าง Isuzu D-Max โฉมปี 2025 กันค่า ใครที่กำลังมองหารถคู่ใจไว้ลุยงาน บรรทุกของ หรือจะขับหล่อๆ เท่ๆ ในเมืองก็ได้ มามุงทางนี้เลยค่ะ เพราะดีแม็กซ์โฉมใหม่นี้เค้าปรับมาให้แบบจัดเต็มจริงจริ๊งงง! เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม แล้วไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง!

1. เจ้า D-Max 2025 นี่มันคือรถอะไรกันนะ?

ว่าด้วยเรื่องรถกระบะในไทยเนี่ย ชื่อแรกๆ ที่ผุดขึ้นมาในหัวคนไทยส่วนใหญ่ก็ต้องมี Isuzu D-Max แน่นอนอยู่แล้วใช่มั้ยคะ! เจ้า Isuzu D-Max 2025 เนี่ย ก็คือรถกระบะสุดแกร่งจากแดนปลาดิบ ประเทศญี่ปุ่น ที่เค้าพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนครองใจคนไทยได้เหนียวแน่นมานานนม. จุดเด่นของ Isuzu ที่คนไทยเลิฟเลยก็คือ ความทนทานขั้นเทพ ใช้งานสมบุกสมบันแค่ไหนก็ไม่ค่อยงอแง เรื่อง ประหยัดน้ำมัน ก็ยืนหนึ่งไม่เป็นรองใคร แถมอะไหล่ยังหาง่าย ศูนย์บริการก็มีทั่วประเทศ ขับไปไหนก็อุ่นใจหายห่วง.

สำหรับ D-Max โฉมปี 2025 นี้ เค้าก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัยขึ้น แข็งแกร่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเอาไปขนผัก ขนปูน ลงสวน ลงไร่ หรือจะขับไปเที่ยว ไปคาเฟ่ ไปรับลูก ก็ทำได้หมด!. เรียกว่าเป็นรถกระบะที่เกิดมาเพื่อคนไทยอย่างแท้จริง มีรุ่นย่อยให้เลือกเยอะมากกกก ตั้งแต่ตัวเตี้ย ตัวยกสูง แค็บ 2 ประตู 4 ประตู ขับสอง ขับสี่ หรือแม้กระทั่งรุ่นใหม่ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE และระบบ Mild Hybrid 1.9 MHEV ก็มีนะ!


2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้ที่สุด! ราคาของ Isuzu D-Max 2025 ในตลาดไทยเนี่ย เค้ามีหลายรุ่น หลายราคาให้เลือกมากค่ะ ขึ้นอยู่กับตัวถัง เครื่องยนต์ และออปชันต่างๆ นะคะ ราคาเริ่มต้นก็จับต้องได้สบายกระเป๋าไปจนถึงหลักล้านเลยค่ะ

ลองดูราคาคร่าวๆ นะคะ (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดสอบถาม ณ จุดขายอีกครั้งค่ะ):

  • รุ่น Spacecab (ตอนครึ่ง 2 ประตู): เริ่มต้นประมาณ ฿668,000 - ฿777,000
  • รุ่น Cab4 (4 ประตู): เริ่มต้นประมาณ ฿749,000 - ฿895,000
  • รุ่น Hi-Lander (ยกสูง): มีทั้ง 2 ประตู และ 4 ประตู ราคาเริ่มต้นประมาณ ฿778,000 - ฿1,164,000 (ขึ้นอยู่กับเครื่องยนต์และออปชัน)
  • รุ่น V-Cross 4x4 (ขับเคลื่อน 4 ล้อ): เริ่มต้นประมาณ ฿937,000 - ฿1,277,000
  • รุ่น 1.9 MHEV (Mild Hybrid): ราคาประมาณ ฿1,145,000

จะเห็นว่าราคาเค้ามีให้เลือกหลากหลายมากๆ ค่ะ ตั้งแต่รถใช้งานเชิงพาณิชย์ไปจนถึงรถสำหรับสายลุยหรือใช้งานแบบครอบครัวเลย ถ้าเป็นรถใหม่ป้ายแดง เราก็ต้องดูราคาจากโชว์รูม Isuzu ทั่วประเทศได้เลยค่ะ ส่วนในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย ส่วนใหญ่จะเป็นการขายอุปกรณ์แต่งรถ หรือยางรถยนต์ซะมากกว่านะคะ สำหรับตัวรถยนต์เองส่วนใหญ่จะต้องซื้อผ่านผู้จำหน่ายโดยตรงค่ะ


3. แล้วเทียบกับคู่แข่งล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ถ้าเอา Isuzu D-Max 2025 ไปเทียบกับคู่แข่งในตลาดรถกระบะบ้านเรา เช่น Toyota Hilux Revo, Ford Ranger, Mitsubishi Triton หรือ Nissan Navara เนี่ย ต้องบอกว่า Isuzu D-Max เค้าวางตำแหน่งราคาได้ค่อนข้างดีเลยค่ะ

บางรุ่นของ D-Max ราคาเริ่มต้นอาจจะดูสูงกว่าคู่แข่งบางเจ้าเล็กน้อย แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือเรื่องของ ความเชื่อมั่นในแบรนด์ ความทนทาน และ ราคาขายต่อที่ดี ในตลาดรถมือสอง. ในขณะที่คู่แข่งบางยี่ห้ออาจจะมีออปชันหรือเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยกว่า หรือช่วงล่างที่เน้นความนุ่มนวลในการขับขี่มากกว่า Isuzu ก็จะโดดเด่นในเรื่องของ ความแกร่ง ความอึด และ ความประหยัดน้ำมัน ที่เป็นคุณสมบัติที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ ค่ะ.

ถ้าเน้นเรื่องความคุ้มค่าในระยะยาว Isuzu D-Max ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยค่ะ เพราะค่าบำรุงรักษาไม่สูงมาก อะไหล่หาง่าย ซ่อมที่ไหนก็ได้ ทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมในการเป็นเจ้าของรถไม่สูงเท่าบางยี่ห้อค่ะ


4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาซื้อ Isuzu D-Max 2025 ป้ายแดงเนี่ย สิ่งที่เราจะได้มาหลักๆ เลยก็คือตัวรถพร้อมออปชันตามรุ่นที่เราเลือกค่ะ

  • ตัวรถ: แน่นอนว่าได้รถกระบะดีแม็กซ์โฉมใหม่ล่าสุดไปขับหล่อๆ เลย
  • กุญแจรีโมท: ส่วนใหญ่จะได้ 2 ชุดค่ะ
  • คู่มือผู้ใช้รถ: เล่มหนาๆ ไว้อ่านทำความเข้าใจรถค่ะ
  • สมุดคู่มือการบำรุงรักษาและใบรับประกัน: อันนี้สำคัญมาก! ปกติ Isuzu เค้าจะให้ การรับประกันตัวรถนาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อนนะคะ. อันนี้เป็นจุดที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ เพราะเราอยากได้ความสบายใจ ถ้าเกิดรถมีปัญหาจะได้ซ่อมฟรีในระยะเวลารับประกันค่ะ
  • เครื่องมือประจำรถ: แม่แรง บล็อกถอดล้อ ฯลฯ
  • ยางอะไหล่: ส่วนใหญ่จะได้ยางอะไหล่มาด้วยค่ะ

ส่วนเรื่อง ค่าขนส่ง เนี่ย ถ้าไปรับรถที่โชว์รูมก็ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ แต่ถ้าให้เซลล์ไปส่งรถให้ถึงบ้านอันนี้อาจจะต้องคุยรายละเอียดกันเป็นเคสไปนะคะ.

สำหรับ ของแถม อุปกรณ์เสริม คูปอง หรือโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ เนี่ย ส่วนใหญ่จะเป็นข้อเสนอจากทางโชว์รูมหรือผู้จำหน่ายค่ะ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลาและแต่ละโชว์รูมค่ะ บางทีก็มีแถมประกันชั้นหนึ่ง ฟิล์มกรองแสง ไลเนอร์กระบะ หรือชุดแต่งเล็กๆ น้อยๆ อันนี้เราต้องลองสอบถามเซลล์ดูค่ะ


5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าถามว่าช่วงไหนน่าซื้อ Isuzu D-Max 2025 ที่สุด คำตอบง่ายๆ ก็คือ ช่วงที่มีโปรโมชั่นจัดหนักจัดเต็ม นั่นเองค่า! ซึ่งช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ ของวงการรถยนต์ในไทยมักจะตรงกับช่วง:

  • มอเตอร์โชว์ (Motor Show) หรือ มอเตอร์ เอ็กซ์โป (Motor Expo): งานใหญ่ประจำปีที่ค่ายรถทุกค่ายขนโปรโมชั่นมาแข่งขันกันดุเดือด. ถ้าไม่รีบใช้รถมากๆ รอช่วงนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ
  • ช่วงปลายปี หรือ ต้นปีงบประมาณใหม่: บางทีผู้จำหน่ายก็จะมีโปรโมชั่นเพื่อเร่งยอดขายค่ะ
  • เทศกาลสำคัญต่างๆ: เช่น ช่วงปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือช่วงฉลองเทศกาลต่างๆ บางโชว์รูมอาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษค่ะ

ส่วนบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเนี่ย อย่างที่บอกว่าส่วนใหญ่ไม่ได้ขายตัวรถ แต่ถ้าเรามองหาอุปกรณ์เสริมหรืออะไหล่ D-Max เนี่ย ช่วง Double Digit Sale อย่าง 11.11 หรือ 12.12 หรือช่วงแคมเปญใหญ่ๆ ของ Lazada/Shopee ก็มีส่วนลดและโปรโมชั่นดีๆ เพียบเลยค่ะ

สรุปคือ ถ้าอยากได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด ควรหมั่นติดตามข่าวสารโปรโมชั่นจากทาง Isuzu และสอบถามกับผู้จำหน่ายหลายๆ ที่เพื่อเปรียบเทียบข้อเสนอค่ะ บางทีโปรโมชั่นของแต่ละโชว์รูมก็ไม่เหมือนกันนะจ๊ะ!


6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทยเป็นยังไงบ้างนะ?

จากที่ได้ลองไปส่องๆ ดูตามโซเชียลมีเดีย เว็บบอร์ด หรือกลุ่มคนใช้ Isuzu D-Max ในไทยเนี่ย ฟีดแบ็กส่วนใหญ่ค่อนข้างดีเลยค่ะ. จุดที่คนไทยชมกันเยอะๆ เลยก็คือ:

  • ความทนทานหายห่วง: อันนี้เป็นตำนานของ Isuzu อยู่แล้วค่ะ. คนที่เอาไปใช้งานหนักๆ ยืนยันว่าอึดจริง ทนจริง ไม่จุกจิกค่ะ
  • ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม: โดยเฉพาะเครื่องยนต์ 1.9 Ddi ที่ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัด. ขับทางไกลสบายใจ ไม่ต้องแวะปั๊มบ่อยค่ะ
  • ช่วงล่างหนึบ ขับขี่มั่นใจ: ถึงแม้บางคนอาจจะบอกว่าแข็งกว่าคู่แข่งบางเจ้า แต่หลายคนก็ชอบความหนึบ เกาะถนน โดยเฉพาะเวลาบรรทุกของหรือขับเร็ว.
  • ราคาขายต่อดี: อันนี้เป็นอีกจุดเด่นที่ทำให้คนไทยตัดสินใจซื้อ Isuzu ค่ะ เพราะเวลาจะเปลี่ยนรถ ราคาไม่ตกมากค่ะ.
  • ออปชันเพียงพอต่อการใช้งาน: รุ่นใหม่ๆ ออปชันทันสมัยขึ้นเยอะ มีทั้งระบบความปลอดภัยต่างๆ, ระบบความบันเทิง, กล้องรอบคัน (ในรุ่นสูงๆ).
  • ศูนย์บริการเยอะ อะไหล่หาง่าย: อันนี้คือสบายใจสุดๆ. มีปัญหาที่ไหนก็เข้าศูนย์ได้เกือบทุกที่ในไทยค่ะ

ส่วนจุดที่อาจจะมีคอมเมนต์บ้างก็คือเรื่องความแรงของเครื่องยนต์ 1.9 ในบางสถานการณ์ที่ต้องการอัตราเร่งแซงแบบปรู๊ดปร๊าด (แต่เครื่อง 2.2 หรือ 3.0 ก็แก้ปัญหานี้ได้ดีขึ้นค่ะ) หรือความนุ่มนวลของช่วงล่างถ้าเทียบกับคู่แข่งบางรุ่น. แต่โดยรวมแล้ว คนไทยส่วนใหญ่ที่เลือก Isuzu D-Max ก็เพราะมั่นใจใน ความคุ้มค่า ความทนทาน และความประหยัด นี่แหละค่ะ


7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ?

สำหรับการซื้อ Isuzu D-Max 2025 รถใหม่ป้ายแดงเนี่ย ช่องทางหลักและเป็นทางการที่สุดก็คือ ผู้จำหน่ายรถยนต์ Isuzu อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ค่ะ

  • โชว์รูม Isuzu: นี่คือช่องทางที่ดีที่สุดค่ะ เราสามารถไป ดูรถคันจริง ทดลองขับ ได้เลย. มีเซลล์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้ข้อมูล ให้คำปรึกษาเรื่องรุ่นรถ เรื่องไฟแนนซ์ และเรื่องโปรโมชั่นต่างๆ ค่ะ. ที่สำคัญคือเราได้คุยกับคนจริงๆ มีการรับประกันจากผู้จำหน่ายโดยตรง สบายใจกว่าค่ะ
  • งานมอเตอร์โชว์/มอเตอร์ เอ็กซ์โป: ถ้าตรงกับช่วงจัดงาน ก็ไปเดินดู เปรียบเทียบโปรโมชั่นจากหลายๆ ค่ายพร้อมกันได้เลยค่ะ.

ส่วนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย อย่างที่บอกว่าไม่เหมาะกับการซื้อตัวรถยนต์ป้ายแดงค่ะ แต่ถ้าจะซื้อ อุปกรณ์เสริม ยางรถยนต์ น้ำมันเครื่อง หรืออะไหล่อื่นๆ เนี่ย สองแพลตฟอร์มนี้คือแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ขนาดใหญ่ที่มีร้านค้าและตัวเลือกเยอะมากๆ แถมมีโปรโมชั่นหรือส่วนลดบ่อยๆ ด้วยค่ะ

การซื้อผ่านผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ ทำให้เรามั่นใจได้ว่าจะได้รับรถที่มีคุณภาพ ได้รับการบริการหลังการขายที่ดี และได้รับสิทธิ์ในการรับประกันเต็มรูปแบบค่ะ.


8. สรุปหรือคำแนะนำเรื่องราคาและความคุ้มค่า

มาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว! ถามว่า Isuzu D-Max 2025 น่าซื้อไหม? ตอบเลยว่า น่าซื้อมากๆ ค่ะ ถ้าคุณกำลังมองหารถกระบะที่เน้น ความคุ้มค่าในระยะยาว ความทนทาน ประหยัดน้ำมัน และมี ศูนย์บริการรองรับทั่วประเทศ.

ดีแม็กซ์ 2025 เหมาะกับใครบ้าง?

  • คนที่เน้นใช้งานหนัก บรรทุกของ: รุ่นตัวเตี้ย หรือรุ่น Hi-Lander เหมาะมากๆ ค่ะ แกร่ง ทน ไม่จุกจิก
  • คนที่ใช้งานแบบครอบครัว ขับไปเที่ยว: รุ่น 4 ประตู ทั้งตัวเตี้ยและ Hi-Lander นั่งสบาย พื้นที่กว้างขวาง.
  • คนที่ชอบความสูง ลุยๆ หน่อย: รุ่น Hi-Lander หรือ V-Cross ตอบโจทย์ค่ะ.
  • คนที่เน้นความประหยัดน้ำมัน: เครื่องยนต์ 1.9 Ddi ขึ้นชื่อเรื่องนี้ค่ะ.
  • คนที่อยากได้ความแรงขึ้นมาอีกหน่อย: เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE หรือ 3.0 Ddi ก็แรงพอตัว.
  • คนที่อยากลองเทคโนโลยีใหม่ๆ: รุ่น 1.9 MHEV (Mild Hybrid) ก็เป็นทางเลือกค่ะ.

ส่วนจะเลือกรุ่นย่อยไหนดีระหว่างรุ่นเริ่มต้น รุ่นกลาง หรือรุ่นท็อปเนี่ย ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณและลักษณะการใช้งานของเราเลยค่ะ ถ้าเน้นใช้งานทั่วไป ไม่ได้ต้องการออปชันหวือหวา รุ่นเริ่มต้นถึงรุ่นกลางก็เพียงพอแล้วค่ะ แต่ถ้าต้องการออปชันความปลอดภัยที่ครบครัน หรือต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น รุ่นสูงขึ้นมาหน่อยก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ

โดยรวมแล้ว Isuzu D-Max 2025 ถือเป็นรถกระบะที่ครบเครื่อง ตอบโจทย์การใช้งานของคนไทยได้หลากหลายกลุ่ม ด้วยราคาที่มีให้เลือกตั้งแต่หลักแสนกลางๆ ไปจนถึงล้านนิดๆ ทำให้เข้าถึงได้ง่าย และให้ความคุ้มค่าในระยะยาวค่ะ! หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อรถกระบะคู่ใจคันใหม่ของทุกคนนะคะ ขอให้ได้รถที่ถูกใจ ขับขี่ปลอดภัยกันถ้วนหน้าค่า! บ๊ายบายยย!


วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะพาไปเม้าท์มอยเรื่องรถกระบะสุดฮิตขวัญใจมหาชนชาวไทยอย่าง Isuzu D-Max Space Cab หรือที่เรียกติดปากกันว่า "ดีแมคซ์ตัวแค็บ" นั่นเองจ้า! ใครที่กำลังเล็งๆ รถกระบะไว้ใช้งาน บรรทุกของก็ได้ นั่งสบายก็โอเค มาฟังทางนี้เลย เ
Isuzu D-Max Space Cab ราคาล่าสุด ทุกรุ่นย่อยและโปรโมชั่นปี 2024

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีค่าชาวช้อปปิ้งออนไลน์ที่น่ารักทุกคน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด นั่นก็คือ ไส้กรองน้ำ Lux Alva ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้น้ำดื่มของเราสะอาดใสปิ๊ง! ใครที่กำลังใช้เครื่องกรองน้ำ Lux Alva อยู่ หรือกำลังเล็งๆ จะเปลี่ยนไส้กรองใหม
ไส้กรองน้ำ Lux Alva ราคาล่าสุด เปลี่ยนเมื่อไหร่ดี?
สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้ขอเอาใจสายโปรดิวเซอร์ สายทำเพลง หรือใครที่ฝันอยากมีสตูดิโอเล็กๆ เป็นของตัวเองที่บ้าน ด้วยการมาเม้าท์มอยถึงอุปกรณ์สุดปังที่ชื่อว่า Ableton Push 2 กันจ้า บอกเลยว่าเจ้านี่ไม่ใช่แค่คอนโทรลเลอร์ธรรมดา แต่มันคือเครื่องมือท
Ableton Push 2: ราคาล่าสุด ปี 2568 และรีวิวคอนโทรลเลอร์สำหรับทำเพลง
สวัสดีค่าาทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องเครื่องดนตรีจิ๋วแต่แจ๋วที่กำลังฮิตสุดๆ นั่นก็คือ คาลิมบา (Kalimba) นั่นเอง! ใครที่อยากลองเล่นดนตรีแต่ไม่รู้จะเริ่มจากอะไรดี หรืออยากได้เครื่องดนตรีพกพาง่ายๆ ไว้ดีดเพลินๆ แก้เบื่อ มามุงทางนี้เลย
คาลิมบา (Kalimba) ราคาถูก เริ่มต้นกี่บาท? ยี่ห้อไหนดีสำหรับมือใหม่

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ