Toyota Vellfire ปี 2018: ราคา มือสอง ปี 2568 และรุ่นย่อยที่น่าสนใจ


สวัสดีจ้า พ่อแม่พี่น้องสายครอบครัวใหญ่ สายผู้บริหาร หรือใครที่ชอบรถตู้สุดหรู นั่งสบายเหมือนนั่งเฟิร์สคลาสบนเครื่องบิน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยถึงรถในฝันของใครหลายๆ คน นั่นก็คือ Toyota Vellfire ปี 2018 นั่นเอง! ถึงแม้จะไม่ใช่ป้ายแดงออกมาจากศูนย์ปุ๊บปั๊บ แต่เจ้า Vellfire ปี 2018 มือสองเนี่ย บอกเลยว่ายังน่าสนใจมากๆ ในปี พ.ศ. 2568 นี้จ้า เพราะอะไรน่ะเหรอ? มาดูกันเลย!
1. Toyota Vellfire ปี 2018 มันคืออะไรกันนะ?
เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับเจ้า Toyota Vellfire ปี 2018 กันก่อนเลยง่ายๆ มันคือรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ MPV (Multi-Purpose Vehicle) ขนาดใหญ่ระดับพรีเมียมจากค่าย Toyota แบรนด์รถยนต์ยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นที่คนไทยคุ้นเคยกันดีเรื่องความทนทานและไว้ใจได้. รุ่นปี 2018 เนี่ย ถือเป็นโฉมไมเนอร์เชนจ์ของเจเนอเรชันที่ 3 แล้วนะ. จุดเด่นของเค้าก็คือ ดีไซน์ภายนอกที่ดูสปอร์ต หรูหรา กระจังหน้าใหญ่ๆ ไฟหน้าเฉียบๆ ส่วนภายในนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง! เน้นความโอ่อ่า กว้างขวาง นั่งสบายระดับ "เบาะมิคกี้เม้าส์" ที่ปรับเอนได้เยอะๆ มีที่รองขา เสมือนยกห้องนั่งเล่นมาไว้บนรถ. เหมาะมากๆ สำหรับ ครอบครัวใหญ่ ที่เดินทางบ่อยๆ หรือ ผู้บริหาร ที่ต้องการรถสำหรับเดินทางทำงาน หรือแม้กระทั่งใช้เป็นรถรับรองลูกค้า ก็ดูดีมีระดับสุดๆ ไปเลยจ้า
2. ราคา Toyota Vellfire ปี 2018 มือสอง ในปี 2568 เป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้! ราคาในตลาดรถมือสองปี 2568 (2025) สำหรับเจ้า Toyota Vellfire ปี 2018 เนี่ย ต้องบอกว่ามีช่วงราคาที่หลากหลายพอสมควรเลยจ้า ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากๆ ทั้งสภาพรถ เลขไมล์ รุ่นย่อย และประวัติการใช้งาน. จากที่ไปสำรวจมาคร่าวๆ ตอนนี้ ราคาจะอยู่ในช่วงประมาณ 1,600,000 - 2,000,000 บาท (฿) โดยประมาณนะ. บางคันที่สภาพดีมากๆ เลขไมล์น้อยๆ หรือเป็นรุ่นย่อยที่ออปชันเต็มๆ ราคาก็อาจจะขยับสูงขึ้นไปอีกหน่อย.
แหล่งที่จะเจอเจ้า Vellfire ปี 2018 มือสองเยอะๆ ก็หนีไม่พ้นแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับรถมือสองชื่อดังในไทยเลยจ้า อย่าง One2car หรือ Chobrod.com เนี่ย มีประกาศขายเพียบเลย. นอกจากนี้ ตามเต็นท์รถมือสองใหญ่ๆ หรือดีลเลอร์รถยนต์ใช้แล้วที่ได้มาตรฐาน ก็มีให้เลือกดูเช่นกัน. ส่วนถ้าเจอแบบเจ้าของขายเอง ราคาก็อาจจะคุยง่ายหน่อย แต่ก็ต้องตรวจสอบสภาพกันให้ดีๆ นะจ๊ะ
สำหรับรุ่นย่อยที่น่าสนใจสำหรับปี 2018 หลักๆ ที่เห็นในตลาดมือสองจะเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร. รุ่นที่ได้รับความนิยมและออปชันครบๆ มักจะเป็น รุ่น 2.5 ZG Edition ที่มีเบาะ Executive Lounge และออปชันอำนวยความสะดวกต่างๆ มาให้เต็มที่. รุ่นนี้แหละที่คนหามือสองกันเยอะจ้า
3. เปรียบเทียบราคากับรุ่นอื่นในตลาด?
ถ้าให้เทียบกับฝาแฝดอย่าง Toyota Alphard ปี 2018 ในปีเดียวกันเนี่ย ราคาในตลาดมือสองก็ใกล้เคียงกันเลยจ้า บางที Alphard อาจจะดูแพงกว่านิดหน่อยในบางรุ่นย่อย เพราะภาพลักษณ์ Alphard จะเน้นความหรูหรา ภูมิฐานกว่า ส่วน Vellfire จะมีความสปอร์ตอยู่ในตัวมากกว่า. โดยเฉลี่ยแล้ว Alphard ปี 2018 มือสองก็ราคาอยู่ในช่วง 1,600,000 - 2,400,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและสภาพ.
ถ้าไปเทียบกับรถ MPV ขนาดใหญ่จากแบรนด์อื่นในตลาดไทยที่ราคาใกล้เคียงกัน (ซึ่งอาจจะต้องดูปีเก่ากว่าหน่อย) เช่น Hyundai H-1 หรือ Volkswagen Caravelle (มือสอง) Vellfire ปี 2018 ก็อาจจะมีราคาสูงกว่าพอสมควร แต่สิ่งที่ได้คือ ความหรูหรา ความสบาย และออปชันที่จัดเต็มกว่า รวมถึงภาพลักษณ์และชื่อชั้นของแบรนด์ Toyota ที่แข็งแกร่งในไทยจ้า ซึ่งตรงนี้ก็ต้องมาดูว่าความคุ้มค่าในมุมมองของเราคืออะไร เน้นฟังก์ชันแน่นๆ หรูๆ ก็ต้องมาทาง Vellfire นี่แหละ
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?
อันนี้คือสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจเลยว่า การซื้อรถมือสองอย่าง Toyota Vellfire ปี 2018 เนี่ย สิ่งที่ได้มามันจะไม่เหมือนรถป้ายแดงเป๊ะๆ นะจ๊ะ การรับประกันจากศูนย์ Toyota ประเทศไทยอาจจะหมดไปแล้ว เพราะอายุรถเกิน 5 ปี หรือระยะทางเกิน 150,000 กม. แล้ว (ตอนป้ายแดง Vellfire ปี 2018 มีการรับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 กม. และแบตไฮบริด 10 ปีสำหรับรุ่น Hybrid แต่ปี 2018 ในไทยมีแค่เครื่องเบนซิน 2.5).
แต่ถ้าซื้อจากเต็นท์รถมือสองที่ได้มาตรฐาน หรือดีลเลอร์รถยนต์ใช้แล้ว เค้ามักจะมี การรับประกันจากทางเต็นท์/ดีลเลอร์ ให้ด้วยนะ อาจจะ 3 เดือน, 6 เดือน หรือ 1 ปี ก็ต้องสอบถามเงื่อนไขให้ดีๆ. บางทีอาจจะมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. พ่วงมาให้ด้วย.
ส่วนอุปกรณ์ที่มากับรถ ส่วนใหญ่ก็จะได้ ตัวรถ, กุญแจ, คู่มือ (ถ้ามี), และเอกสารสำคัญต่างๆ เช่น เล่มทะเบียน. พวกของแถมหรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น กล้องติดรถยนต์ ฟิล์มกรองแสงใหม่ หรือการบำรุงรักษาก่อนส่งมอบ อันนี้ก็แล้วแต่ผู้ขายหรือเต็นท์รถแต่ละที่เลยจ้า บางที่อาจจะมีโปรโมชั่นแถมมาให้ ก็ต้องลองต่อรองดูนะ ส่วนเรื่องค่าจัดส่ง ถ้าซื้อข้ามจังหวัด บางเต็นท์อาจจะมีบริการจัดส่งให้ แต่ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือบางทีก็รวมอยู่ในราคาขายแล้ว ต้องคุยรายละเอียดกันให้ชัดเจนจ้า
5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษไหม?
ถ้าถามถึงช่วงเวลาทองในการซื้อรถมือสองอย่าง Toyota Vellfire ปี 2018 เนี่ย ถึงแม้จะไม่ได้มีโปรโมชั่นอลังการแบบรถป้ายแดงในงาน Motor Show หรือ Motor Expo แต่ในตลาดรถมือสองเองก็มีจังหวะที่น่าสนใจนะจ๊ะ!
- ช่วงปลายปี: หลายๆ เต็นท์รถมักจะอยากระบายสต็อกรถออกไปก่อนสิ้นปี ก็อาจจะมีโปรโมชั่นลดราคา หรือจัดแคมเปญพิเศษ เช่น ฟรีดาวน์ ดอกเบี้ยพิเศษ หรือแถมประกัน.
- ช่วงเทศกาลสำคัญๆ: อย่างช่วงปีใหม่ หรือสงกรานต์ บางทีเต็นท์รถก็อาจจะจัดโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้าได้เหมือนกัน.
- ช่วงที่ตลาดรถมือสองคึกคัก: ลองสังเกตช่วงที่คนกำลังมองหารถกันเยอะๆ เช่น ใกล้เปิดเทอม (สำหรับรถครอบครัว) หรือช่วงที่เศรษฐกิจกำลังดี คนเริ่มกล้าใช้จ่ายมากขึ้น ช่วงนั้นอาจจะมีตัวเลือกเยอะ แต่ถ้าช่วงไหนตลาดเงียบๆ บางทีผู้ขายก็อาจจะยอมลดราคาเพื่อให้ขายได้เร็วขึ้น อันนี้ต้องอาศัยจังหวะและการติดตามนะจ๊ะ
การติดตามประกาศจากเต็นท์รถ หรือเว็บไซต์รถมือสองบ่อยๆ ในช่วงเวลาที่น่าสนใจ ก็เป็นวิธีที่จะทำให้เราเจอดีลดีๆ ได้จ้า
6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทยเป็นยังไงบ้าง?
เท่าที่ไปส่องๆ ฟีดแบ็กจากผู้ใช้ Toyota Vellfire ในไทย โดยเฉพาะโฉมก่อนปัจจุบันอย่างปี 2018 เนี่ย เสียงส่วนใหญ่ค่อนข้างไปในทางบวกเลยนะ. จุดที่คนไทยชอบมากๆ เลยก็คือ:
- ความสบายระดับเฟิร์สคลาส: อันนี้คือจุดขายหลักเลย เบาะนั่งนุ่มสบาย ปรับเอนได้เยอะ พื้นที่วางขากว้างขวาง นั่งทางไกลไม่เมื่อย.
- พื้นที่ใช้สอยเยอะ: เหมาะกับครอบครัวใหญ่ หรือคนที่ต้องขนของเยอะๆ เบาะแถวสามก็ยังนั่งได้จริงจัง.
- ความหรูหราและภาพลักษณ์: ขับ Vellfire นี่ดูดีมีระดับจริงๆ จ้า เหมาะกับผู้บริหาร หรือใช้รับแขกสำคัญๆ.
- ความน่าเชื่อถือของ Toyota: แบรนด์ Toyota ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน จุกจิกน้อย ทำให้หลายคนมั่นใจในการใช้งานระยะยาว.
- ออปชันอำนวยความสะดวก: รุ่นปี 2018 ไมเนอร์เชนจ์มีออปชันมาให้เยอะพอสมควร เช่น ประตูสไลด์ไฟฟ้า, ไฟ Ambient Light, ระบบ T-Connect (ในรุ่นที่นำเข้าโดย TMT).
ส่วนข้อสังเกตที่เจอบ้างก็อาจจะเป็นเรื่อง อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน ที่อาจจะไม่ได้ประหยัดเท่ารถเก๋งคันเล็กๆ (ก็แน่ล่ะ ตัวรถใหญ่ เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร), ค่าบำรุงรักษา ที่อาจจะสูงกว่ารถบ้านๆ ทั่วไปนิดหน่อย (แต่บางคนก็บอกว่าไม่ต่างจาก Camry มากนัก นอกจากอะไหล่เฉพาะรุ่น), และอาจจะมี ปัญหาจุกจิกบางอย่างที่เจอในรุ่นเก่าๆ เช่น พวงมาลัยลอก หรือปัญหาระบบแอร์บางกรณี ซึ่งส่วนใหญ่มีวิธีแก้ไขหรือเปลี่ยนอะไหล่ได้.
โดยรวมแล้ว ผู้ใช้ส่วนใหญ่ในไทยค่อนข้างพอใจกับ ความคุ้มค่า ความสบาย และภาพลักษณ์ ที่ได้จาก Vellfire จ้า
7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ?
สำหรับใครที่เล็ง Toyota Vellfire ปี 2018 มือสอง ไว้ในใจ ช่องทางที่แนะนำในการซื้อก็มีหลายแบบเลยจ้า ลองเลือกที่เหมาะกับความสะดวกและความสบายใจของเรานะ:
- แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับรถมือสอง: อย่างที่บอกไปแล้วว่า One2car, Chobrod.com หรือ TaladROD.com เป็นแหล่งรวมประกาศขายทั้งจากเต็นท์และจากเจ้าของโดยตรง ข้อดีคือมีรถให้เลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย ดูรายละเอียดเบื้องต้นได้ แต่ต้องพิจารณาผู้ขายให้ดีๆ และควรไปดูรถจริงก่อนตัดสินใจ.
- เต็นท์รถมือสองที่ได้มาตรฐาน/ดีลเลอร์รถยนต์ใช้แล้ว: อันนี้จะให้ความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง เพราะรถมักจะผ่านการตรวจสอบสภาพมาแล้ว และมักจะมีการรับประกันจากทางเต็นท์/ดีลเลอร์ให้ด้วย. บางที่อาจจะมีบริการไฟแนนซ์ให้ด้วย ทำให้การซื้อขายสะดวกขึ้น ราคาอาจจะสูงกว่าซื้อกับเจ้าของโดยตรงเล็กน้อย.
- ศูนย์รถยนต์ใช้แล้วของ Toyota (Toyota Sure): ถ้าอยากได้ความมั่นใจสูงสุด ลองดูที่ Toyota Sure ซึ่งเป็นศูนย์รถยนต์ใช้แล้วของ Toyota เอง รถที่นี่จะผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐานของ Toyota และมักจะมีการรับประกันที่น่าเชื่อถือ แต่ตัวเลือกอาจจะน้อยกว่าและราคาก็อาจจะสูงกว่าแหล่งอื่นๆ.
- ซื้อจากผู้ใช้โดยตรง: อันนี้อาจจะเจอในกลุ่มซื้อขายรถใน Facebook หรือประกาศขายส่วนตัว ข้อดีคืออาจจะได้ราคาที่ต่อรองได้ง่ายกว่า แต่ต้องมีความรู้ในการดูสภาพรถพอสมควร และไม่มีการรับประกันจากผู้ขาย ต้องรับความเสี่ยงเอง.
คำแนะนำ: ไม่ว่าจะซื้อจากช่องทางไหน ควรไปดูรถจริง ทดลองขับ และพาช่างผู้เชี่ยวชาญไปช่วยตรวจสภาพด้วย ก่อนตัดสินใจขั้นสุดท้ายนะจ๊ะ!
8. สรุปหรือคำแนะนำเรื่องราคาและความคุ้มค่า
สรุปเลยนะจ๊ะว่า Toyota Vellfire ปี 2018 มือสอง ในปี 2568 เนี่ย ยังถือเป็นตัวเลือกที่ คุ้มค่าน่าซื้อมากๆ สำหรับใครที่กำลังมองหารถ MPV ขนาดใหญ่ที่ให้ความหรูหรา สะดวกสบาย และไว้ใจได้ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่ารถป้ายแดงเยอะมากๆ!.
เหมาะสุดๆ สำหรับ:
- ครอบครัวใหญ่ ที่ต้องการรถที่นั่งสบาย พื้นที่กว้างขวาง เดินทางพร้อมกันหลายๆ คนได้แบบไม่อึดอัด.
- ผู้บริหาร หรือนักธุรกิจ ที่ต้องการรถสำหรับเดินทางทำงาน หรือใช้รับรองแขก เพื่อเสริมภาพลักษณ์.
- คนที่ ชื่นชอบความหรูหรา สะดวกสบาย แบบรถระดับพรีเมียม แต่มีงบประมาณจำกัดสำหรับรถป้ายแดง.
- คนที่ มองหารถที่ค่อนข้างทนทาน ดูแลรักษาง่าย เมื่อเทียบกับรถยุโรปในระดับเดียวกัน (แม้ค่าดูแลจะสูงกว่ารถบ้านๆ ทั่วไปบ้างก็ตาม).
ถามว่าคุ้มค่าที่จะซื้อไหม? ถ้าคุณเป็นคนในกลุ่มเป้าหมายข้างต้นและยอมรับได้ว่าเป็นการซื้อรถมือสองที่อาจจะมีการรับประกันที่จำกัดกว่ารถใหม่ และต้องมีการตรวจสอบสภาพก่อนซื้อให้ดีๆ บอกเลยว่า คุ้มค่ามากๆ จ้า! คุณจะได้รถ MPV ระดับท็อปที่ให้ประสบการณ์การเดินทางที่ยอดเยี่ยมในราคาที่เซฟเงินไปได้หลายล้านเลยทีเดียว.
ส่วนจะเลือกรุ่นย่อยไหน ถ้าเน้นออปชันเต็มๆ หรูหราแบบเบาะมิคกี้เม้าส์ ก็มองหารุ่น 2.5 ZG Edition ได้เลย แต่ถ้าเจอคันอื่นที่สภาพดี ราคาดี ออปชันรองลงมาหน่อย แต่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณแล้ว ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกันค่ะ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจซื้อ Toyota Vellfire ปี 2018 มือสอง ของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้ได้รถที่ถูกใจ และมีความสุขกับการเดินทางสุดพิเศษกับ Vellfire คู่ใจจ้า! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้านะ บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ราคา เมมโมรี่การ์ด 16GB อัปเดตปี 2568 เลือกซื้อแบบไหนดี สำหรับกล้องและมือถือ
น้ำหอม Vanitas By Versace ราคาล่าสุด กลิ่นหอมหวานเย้ายวน น่าซื้อไหม
ราคา iPhone 7 Plus ล่าสุด 128GB มือสอง ปี 2568 ยังน่าซื้ออยู่ไหม
BMX ราคา 3000 บาท ปี 2568 ซื้อรุ่นไหนดี? เหมาะสำหรับมือใหม่หัดปั่น
ราคาจดโดเมนเนม เว็บไซต์ ล่าสุด เลือกผู้ให้บริการไหนดีที่สุด
รถยนต์ Mitsuoka ราคาล่าสุด ปี 2568 ดีไซน์คลาสสิก ไม่เหมือนใคร น่าจับตามอง