10 Eye Primer ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ล็อกสีตา ติดทน ไม่เป็นคราบ


สวัสดีค่าเพื่อนๆ ชาวมนุษย์เปลือกตามันและสายเมคอัพทุกคน! 👋 เคยไหมคะ? พิถีพิถันแต่งตาสวยฉ่ำฟาดไปเลยสิคะ! แต่พอออกไปเจอแดด เจออากาศประเทศไทยที่เลิฟเท่านั้นแหละ... อ้าว! อายแชโดว์หายไปไหนหมดแล้ว? หรือหนักกว่านั้นคือไปกองรวมกันเป็นปื้น ตกร่อง เป็นคราบดูไม่ได้เลย! 😭
ไม่ต้องเศร้าไปค่ะซิสสส! เพราะไอเทมกู้ชีพที่จะช่วยล็อคสีตาให้ติดทน เป๊ะปังยิ่งกว่าล็อคดาวน์ นั่นก็คือ "อายไพรเมอร์" นั่นเองค่ะ! เจ้าตัวนี้เหมือนเป็นกาวทาตา (แต่อ่อนโยนกว่าเยอะ!) ที่ช่วยปรับสภาพเปลือกตาให้พร้อมรับเมคอัพ ทำให้อายแชโดว์สีชัดขึ้น ติดทนขึ้น ไม่เลอะ ไม่เป็นคราบระหว่างวันอีกต่อไป ชีวิตแฮปปี้ การแต่งตาคอมพลีทสุดๆ ไปเลยค่ะ!
แต่ปัญหาคือ... ตอนนี้ในตลาดมีอายไพรเมอร์ให้เลือกเยอะมากกกก หลายแบรนด์ หลายเนื้อสัมผัส จนงงไปหมดว่าตัวไหนดี ตัวไหนเหมาะกับเรา? 🤔
หยุดความสับสนไว้ตรงนี้ค่ะ! เพราะวันนี้แกมินี่จะเป็นกูรูส่วนตัว พาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกโลกของอายไพรเมอร์ในไทย พร้อมคัดมาให้เน้นๆ 10 อายไพรเมอร์ตัวเด็ด ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ที่ได้รับความนิยม รีวิวแน่น ทั้งจากฝั่งเคาน์เตอร์แบรนด์ Drugstore และ K-Beauty J-Beauty ที่สาวไทยเลิฟ บอกเลยว่าอ่านจบปุ๊บ ได้ตัวที่ใช่ปั๊บ พร้อมไปแต่งตาฟาดๆ ได้ทั้งวันยันร้านหมูกระทะปิด!
ส่องตลาดอายไพรเมอร์ในไทย อะไรกำลังมา?
ตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทยนี่คึกคักตลอดเวลาจริงๆ ค่ะ! และอายไพรเมอร์ก็เป็นอีกไอเทมที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะสาวไทยเก็ทแล้วว่า ถ้าอยากให้เมคอัพตาสวยทนสู้แดดสู้ฝนเมืองไทย ยังไงก็ต้องมี.
แบรนด์ที่ครองตลาดส่วนใหญ่ก็ยังเป็นแบรนด์นำเข้า ทั้งจากฝั่งอเมริกาและยุโรป ที่มีชื่อเสียงมายาวนานเรื่องคุณภาพและความติดทน อย่าง Urban Decay, NARS, MAC หรือ Too Faced แต่ที่มาแรงแซงโค้งสุดๆ ในช่วงหลายปีมานี้ ก็คือ K-Beauty และ J-Beauty นี่แหละค่ะ! แบรนด์เกาหลี ญี่ปุ่น อย่าง Etude, The Saem, Canmake, Cezanne นี่คือฮิตมาก หาซื้อง่าย ราคาเป็นมิตร คุณภาพดีเกินราคาไปเยอะ. ส่วนแบรนด์ไทยอย่าง Browit โดยน้องฉัตร ก็ทำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับตาออกมาได้ดีและเป็นที่นิยมมากๆ เช่นกันค่ะ.
พฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยส่วนใหญ่ เวลาเลือกอายไพรเมอร์ก็จะมองหาคุณสมบัติที่ตอบโจทย์สภาพอากาศบ้านเรา คือ คุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อ เป็นหลัก. นอกจากนี้ก็เน้นที่ เนื้อสัมผัส ที่เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ. และแน่นอนว่า รีวิวจากผู้ใช้จริงในไทย ทั้งใน Pantip, Jeban, Lemon8 หรือกลุ่มรีวิวต่างๆ ใน Facebook ก็มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสูงมากค่ะ. แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตก็หนีไม่พ้นร้าน Drugstore อย่าง Watsons, Eveandboy, Beautrium หรือแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada, Shopee ที่มีโปรโมชั่นยั่วๆ ออกมาตลอด.
เลือกอายไพรเมอร์ยังไงให้เป๊ะ ไม่โป๊ะ?
การเลือกอายไพรเมอร์ให้เหมาะกับเราไม่ใช่เรื่องยากค่ะ แค่ลองพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้:
- สภาพผิวเปลือกตา: เปลือกตามัน เปลือกตาแห้ง หรือเปลือกตาคล้ำ? คนเปลือกตามันควรเน้นสูตรที่ช่วยคุมความมัน เนื้อแมตต์ หรือเนื้อครีมที่เซ็ตตัวไว. คนเปลือกตาแห้งอาจจะชอบเนื้อครีมหรือลิควิดที่มีส่วนผสมช่วยให้ความชุ่มชื้น ไม่ทำให้เป็นคราบ. คนที่มีปัญหาเปลือกตาคล้ำ อาจมองหาสูตรที่มีสี ช่วยปรับให้สีผิวเปลือกตาสม่ำเสมอขึ้น.
- เนื้อสัมผัส: มีทั้งเนื้อครีม เนื้อลิควิด เนื้อฝุ่น. เนื้อครีมมักจะให้การปกปิดที่ดีกว่าและเหมาะกับคนผิวแห้ง. เนื้อลิควิดเกลี่ยง่าย บางเบา เหมาะกับทุกสภาพผิวและมือใหม่. เนื้อฝุ่นอาจไม่เหมาะกับคนเปลือกตาแห้ง เพราะอาจทำให้เป็นคราบหรืออายแชโดว์ไม่ติดได้.
- คุณสมบัติพิเศษ: ต้องการแบบคุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อขั้นสุด? ต้องการแบบที่ช่วยให้สีอายแชโดว์ชัดขึ้นมากๆ? หรือต้องการแบบที่มีสารบำรุงในตัว?
- ส่วนผสม: หากผิวแพ้ง่าย ควรเลือกสูตรที่ปราศจากน้ำหอม พาราเบน หรือสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง.
- ราคา: มีให้เลือกตั้งแต่หลักร้อยต้นๆ ไปจนถึงหลักพันกลางๆ เลือกให้เหมาะกับงบประมาณและความคาดหวังในคุณภาพเลยค่ะ.
- รีวิวและความน่าเชื่อถือของแบรนด์: เช็ค Feedback จากผู้ใช้จริงในไทยก่อนตัดสินใจซื้อ.
มาแล้วจ้า! 10 อายไพรเมอร์ตัวท็อป น่าลองในปี 2025!
พร้อมรึยังคะ? ได้เวลาเปิดโผ 10 อายไพรเมอร์ตัวเด็ดที่คัดมาแล้วว่าดีจริง น่าใช้ และเป็นที่นิยมในหมู่สาวไทยในปี 2025 นี้ ไปดูกันเลย!
1. CANMAKE Lasting Multi Eyebase
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ Drugstore สุดฮิตจากญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพดีเกินราคา.
- สินค้ารุ่นเด่น: Lasting Multi Eyebase.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: * ข้อดี: ราคาเป็นมิตรมาก. เนื้อเจลใส เกลี่ยง่าย ไม่เหนอะหนะ. ช่วยล็อคสีอายแชโดว์และกลิตเตอร์ให้ติดทนได้ดี. มีส่วนผสมช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นเล็กน้อย. * ข้อเสีย: อาจจะไม่ได้คุมมันขั้นสุดเท่าบางแบรนด์สำหรับคนเปลือกตามันมากๆ.
- เหมาะกับใคร: มือใหม่หัดใช้อายไพรเมอร์, คนที่เน้นราคาเข้าถึงง่าย, คนที่เปลือกตาไม่มันมาก หรือต้องการล็อคกลิตเตอร์ให้ติดทน.
- ช่องทางการซื้อ: * ออนไลน์: Lazada, Shopee. * ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Matsumoto Kiyoshi, Tsuruha, เคาน์เตอร์ Canmake ในห้างสรรพสินค้า.
- ช่วงราคา: ประมาณ 2xx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ใช้มาหลายหลอดแล้วค่ะ ถูกและดีจริง ช่วยให้สีอายแชโดว์ชัดขึ้น ติดทนขึ้นเยอะเลย". "ชอบเอามาทาก่อนลงกลิตเตอร์ คือติดแน่นไม่หลุดระหว่างวันเลย".
2. Browit Eyeshadow Base (by Nongchat)
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอางไทยคุณภาพดี โดยเมคอัพอาร์ติสชื่อดัง 'น้องฉัตร'.
- สินค้ารุ่นเด่น: Eyeshadow Base.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: * ข้อดี: เนื้อสัมผัสดี เกลี่ยง่าย. ช่วยให้อายแชโดว์สีชัด ติดทน ไม่ตกร่อง. มีทั้งแบบเนื้อฝุ่น (มีชิมเมอร์) และอาจจะมีแบบเนื้ออื่นออกมา. หาซื้อง่ายมาก. * ข้อเสีย: บางรุ่นอาจจะมีชิมเมอร์ ซึ่งบางคนอาจจะไม่ต้องการ.
- เหมาะกับใคร: คนที่มองหาอายไพรเมอร์คุณภาพดี ราคาไม่แรง, ชอบสนับสนุนแบรนด์ไทย, คนที่ต้องการให้สีอายแชโดว์ชัดและติดทน.
- ช่องทางการซื้อ: * ออนไลน์: Lazada, Shopee. * ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Beautrium, 7-Eleven (บางสาขา/บางรายการสินค้า), Tops.
- ช่วงราคา: ประมาณ 1xx - 2xx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "เบสตาของน้องฉัตรคือปังจริง ใช้แล้วสีแน่น ติดทนทั้งวัน ขนาดเปลือกตามันก็เอาอยู่". "ราคาดีมากกก คุณภาพเกินราคาไปเยอะค่ะ".
3. THE SAEM Saemmul Eye Primer
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ยอดนิยมจากเกาหลี คุณภาพดี ราคาเป็นมิตร.
- สินค้ารุ่นเด่น: Saemmul Eye Primer.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: * ข้อดี: ราคาดีงามสุดๆ. เนื้อลิควิด บางเบา เกลี่ยง่าย. ช่วยคุมความมันบนเปลือกตาได้ดี. ทำให้สีอายแชโดว์ชัดและติดทนขึ้น. เหมาะกับผิวแพ้ง่าย. * ข้อเสีย: ขนาดอาจจะเล็กไปหน่อยเมื่อเทียบกับบางแบรนด์.
- เหมาะกับใคร: คนเปลือกตามัน, คนผิวแพ้ง่าย, คนที่ชอบอายไพรเมอร์เนื้อบางเบา ราคาประหยัด.
- ช่องทางการซื้อ: * ออนไลน์: Lazada, Shopee. * ออฟไลน์: The Saem Shop, Eveandboy, Beautrium.
- ช่วงราคา: ประมาณ 9x - 1xx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ถูกและดีในตำนาน! คุมมันดีมากกกก อายแชโดว์ไม่ไหลเลยทั้งวัน". "เนื้อบางเบา ไม่หนักตาเลยค่ะ ชอบมาก".
4. Bbia Last Eye Primer
เกี่ยวกับแบรนด์: อีกหนึ่งแบรนด์เกาหลีที่คุณภาพดี ราคาเป็นมิตร และได้รับความนิยมในไทยมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีปัญหาผิวมัน.
- สินค้ารุ่นเด่น: Last Eye Primer.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: * ข้อดี: ราคาดีมากกกก. เหมาะกับคนเปลือกตามัน ช่วยคุมความมันได้ดี. ช่วยให้สีอายแชโดว์ติดทน สีชัดเจนขึ้น. เนื้อครีมสีเบจช่วยปรับสีผิวเปลือกตาให้สม่ำเสมอ. * ข้อเสีย: เนื้อค่อนข้างแห้งเร็ว ต้องรีบเกลี่ย. บางคนรีวิวว่าต้องเกลี่ยดีๆ ไม่งั้นอาจตกร่องได้.
- เหมาะกับใคร: คนที่มีปัญหาเปลือกตามันขั้นสุด, คนที่มองหาอายไพรเมอร์ราคาประหยัดและคุมมันได้จริง.
- ช่องทางการซื้อ: * ออนไลน์: Lazada, Shopee. * ออฟไลน์: The Beautrium, Eveandboy (บางสาขา).
- ช่วงราคา: ประมาณ 1xx - 2xx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ใช้แล้วหนังตาที่มันเยิ้มเอาอยู่จริงๆ ค่ะ สีตาแน่นไม่ขยับเลย". "ต้องเกลี่ยไวๆ หน่อย แต่คุมมันดีมากสำหรับราคานี้".
5. Essence Prime Like A Boss Eyeshadow Base / You Better Work! Eye Primer
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ Drugstore จากเยอรมนี ราคาถูกและดีมากกก.
- สินค้ารุ่นเด่น: Prime Like A Boss Eyeshadow Base, You Better Work! Eye Primer.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: * ข้อดี: ราคาถูกที่สุดในลิสต์นี้เลยก็ว่าได้!. เนื้อดี เกลี่ยง่าย. ช่วยให้สีอายแชโดว์ติดทนขึ้น. บางรุ่นเป็นสูตรกันน้ำ เหมาะกับคนชอบเล่นกีฬาหรือเหงื่อเยอะ. * ข้อเสีย: คุณภาพอาจจะไม่เทียบเท่าเคาน์เตอร์แบรนด์ในเรื่องความติดทนสูงสุด หรือการช่วยให้สีชัดเป๊ะเท่าบางตัว.
- เหมาะกับใคร: นักเรียน นักศึกษา, คนที่เพิ่งเริ่มใช้อายไพรเมอร์, คนที่แต่งหน้าเบาๆ หรือไม่ได้ต้องการความติดทนแบบสุดๆ.
- ช่องทางการซื้อ: * ออนไลน์: Lazada, Shopee. * ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Beautrium.
- ช่วงราคา: ประมาณ 1xx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ราคาน่ารักมาก ลองซื้อมาเล่นๆ แต่ดีกว่าที่คิดเยอะเลยค่ะ ใช้ทา Everyday look คือโอเคเลย". "สำหรับคนงบน้อยคือต้องมีค่ะ ดีกว่าไม่ทาเยอะ".
6. ETUDE Eye Fix Primer
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ K-Beauty สุดคิวท์จากเกาหลี ยอดนิยมในหมู่สาวไทย.
- สินค้ารุ่นเด่น: Eye Fix Primer.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: * ข้อดี: ช่วยให้สีอายแชโดว์ชัดเจน ติดทนได้ดี. เนื้อลิควิด เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ. ช่วยปกปิดริ้วรอยบนเปลือกตาได้เล็กน้อย. สูตรกันน้ำ กันเหงื่อ. * ข้อเสีย: อาจจะไม่คุมมันเท่าแบรนด์ที่เน้นเรื่องนี้โดยเฉพาะ.
- เหมาะกับใคร: คนที่ชอบแต่งตาหลากหลายลุค, คนที่ต้องการให้สีอายแชโดว์ออกมาชัดตรงตามพาเลท, คนที่เน้นความติดทนระดับหนึ่งในชีวิตประจำวัน.
- ช่องทางการซื้อ: * ออนไลน์: Lazada, Shopee, ETUDE Thailand Online Store. * ออฟไลน์: ETUDE House Shop, Eveandboy, Beautrium.
- ช่วงราคา: ประมาณ 2xx - 3xx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "เบสตา Etude คือคู่บุญมาก ใช้มาตั้งแต่สมัยเรียน สีอายแชโดว์เกาหลีที่ว่าอ่อนๆ ทาบนเบสนี้คือชัดขึ้นเยอะเลย". "ติดทนดีค่ะ ไม่ทำให้เปลือกตาแห้งด้วย".
7. NARS Smudge Proof Eyeshadow Base
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอาง High-end ชื่อดังจากอเมริกา คุณภาพดีเชื่อถือได้.
- สินค้ารุ่นเด่น: Smudge Proof Eyeshadow Base.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: * ข้อดี: ขึ้นชื่อเรื่องความติดทนนานขั้นสุด. ช่วยคุมความมันได้ดีมาก เหมาะกับคนเปลือกตามัน. เนื้อครีมบางเบา ไม่มีสี เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ. ใช้แค่นิดเดียวก็ทั่วเปลือกตา หลอดนึงใช้ได้นาน. ผ่านการทดสอบสำหรับผิวแพ้ง่าย. * ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบรนด์ Drugstore ค่อนข้างมาก.
- เหมาะกับใคร: คนที่มีปัญหาเปลือกตามันมากๆ, คนที่ต้องการความติดทนแบบสุดๆ สำหรับแต่งออกงาน หรือกิจกรรมที่ต้องอยู่ทั้งวัน, คนที่ผิวแพ้ง่าย.
- ช่องทางการซื้อ: * ออนไลน์: Sephora Thailand Online, Central Online. * ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ NARS ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Sephora.
- ช่วงราคา: ประมาณ 8xx - 1xxx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ที่สุดของอายไพรเมอร์แล้วค่ะ! ใช้มาหลายยี่ห้อ แพงแค่ไหนก็ยอมจ่าย เพราะติดทนจริงๆ ทั้งวันไม่มีหลุดไม่มีเยิ้ม". "คนเปลือกตามันแบบเราขาดไม่ได้เลยค่ะ".
8. Urban Decay Eyeshadow Primer Potion
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ดังจากอเมริกา เป็นที่รู้จักกันดีในวงการเมคอัพ โดยเฉพาะอายไพรเมอร์ที่ถือเป็นไอคอนิกไอเทม.
- สินค้ารุ่นเด่น: Eyeshadow Primer Potion (มีหลายสูตร เช่น Original, Eden, Anti-Aging).
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: * ข้อดี: เป็นอายไพรเมอร์ที่ดังมากๆ และได้รับการยอมรับเรื่องความติดทน. ช่วยให้สีอายแชโดว์สดชัด และติดทนตลอดวัน. มีหลายเฉดสีและหลายสูตรให้เลือก ทั้งแบบใส (Original), สีเนื้อ (Eden) ช่วยปรับสีเปลือกตา, หรือสูตร Anti-Aging. * ข้อเสีย: ราคาสูง. บางคนรู้สึกว่าเนื้อแห้งไปหน่อย.
- เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการอายไพรเมอร์คุณภาพสูง เชื่อถือได้, คนที่ต้องการให้สีอายแชโดว์ออกมาชัดและติดทนมากๆ.
- ช่องทางการซื้อ: * ออนไลน์: Sephora Thailand Online, Lazada (Official Store), Shopee (Official Store). * ออฟไลน์: Sephora, เคาน์เตอร์ Urban Decay ในห้างสรรพสินค้า.
- ช่วงราคา: ประมาณ 8xx - 1xxx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "Primer Potion นี่คือตำนาน ใช้มานานมาก ไม่เคยผิดหวัง สีตาติดทนจริงๆ". "ชอบสูตร Eden ที่ช่วยปรับสีเปลือกตาให้ดูสว่างขึ้นด้วย".
9. Catrice Liquid Camouflage Under Eye Primer
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ Drugstore คุณภาพดีจากเยอรมนี ราคาเข้าถึงง่าย.
- สินค้ารุ่นเด่น: Liquid Camouflage Under Eye Primer (ใช้เป็นเบสตาได้).
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: * ข้อดี: ราคาดีมาก. เนื้อลิควิด เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ. ช่วยให้เปลือกตาดูเรียบเนียนและสว่างขึ้น. ช่วยให้เมคอัพติดทนนานขึ้น. มีคุณสมบัติช่วยคุมมันและเติมความชุ่มชื้นในตัว. * ข้อเสีย: อาจจะไม่ได้เน้นคุณสมบัติอายไพรเมอร์จ๋าๆ เท่าบางตัว เพราะหลักๆ คือใช้สำหรับใต้ตา แต่สามารถ Apply กับเปลือกตาได้ดีเช่นกัน. บางคนรีวิวว่ากลิ่นแรงเล็กน้อย.
- เหมาะกับใคร: คนที่มองหาเบสสำหรับเปลือกตาที่ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียน สว่างขึ้น และช่วยให้เมคอัพติดทนในราคาประหยัด.
- ช่องทางการซื้อ: * ออนไลน์: Lazada, Shopee. * ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Beautrium.
- ช่วงราคา: ประมาณ 1xx - 2xx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ซื้อมาใช้กับใต้ตา แต่ลองเอามาทาเปลือกตาก็เวิร์ค! ช่วยให้ดูเรียบเนียนขึ้น สีตาติดทนดีค่ะ". "ราคาถูก คุณภาพเกินคาด".
10. Too Faced Shadow Insurance Anti-Crease Eyeshadow Primer
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ดังจากอเมริกา มีผลิตภัณฑ์ยอดนิยมหลายตัว รวมถึงอายไพรเมอร์.
- สินค้ารุ่นเด่น: Shadow Insurance Anti-Crease Eyeshadow Primer.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: * ข้อดี: ช่วยให้อายแชโดว์ติดทน กันน้ำ กันเหงื่อได้ดีเยี่ยม. ป้องกันอายแชโดว์ตกร่องได้ดีเยี่ยมตามชื่อรุ่น. เนื้อเนียนเกลี่ยง่าย ไม่เหนอะหนะ. * ข้อเสีย: ราคาสูง.
- เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการอายไพรเมอร์ที่ช่วยป้องกันการตกร่องของอายแชโดว์ได้ดีมากๆ, คนที่ต้องการความติดทนสูง.
- ช่องทางการซื้อ: * ออนไลน์: Sephora Thailand Online. * ออฟไลน์: Sephora.
- ช่วงราคา: ประมาณ 8xx - 1xxx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ตัวนี้คือเทพเรื่องกันตกร่องเลยค่ะ! ทาแล้วอายแชโดว์ไม่เลื่อนไม่หลุดเลยทั้งวัน". "ลงทุนกับตัวนี้แล้วคุ้ม แต่งตาได้สวยนานขึ้นเยอะ".
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนไทย!
Q: อายไพรเมอร์จำเป็นกับทุกคนไหม? ไม่ทาได้หรือเปล่า?
A: ไม่จำเป็นต้องทุกคนค่ะ! ถ้าคุณเป็นคนเปลือกตาไม่มัน อายแชโดว์ติดทนดีอยู่แล้ว หรือเน้นแต่งหน้าเบาๆ อาจจะไม่ต้องใช้ก็ได้ค่ะ. แต่ถ้ามีปัญหาเปลือกตามัน อายแชโดว์สีไม่ชัด หรือชอบให้เมคอัพตาเป๊ะนานๆ อายไพรเมอร์คือตัวช่วยสำคัญเลยค่ะ.
Q: อายไพรเมอร์ใช้แทนคอนซีลเลอร์ใต้ตาได้ไหม?
A: อายไพรเมอร์บางตัวที่มีสีหรือเนื้อสัมผัสที่ช่วยเบลอ อาจพอใช้ปรับสีผิวเปลือกตาได้บ้าง. แต่โดยทั่วไปแล้ว อายไพรเมอร์เน้นเรื่องการเตรียมผิวให้เมคอัพติดทน ส่วนคอนซีลเลอร์เน้นเรื่องการปกปิดรอยคล้ำ รอยสิว. ใช้แยกกันจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ.
Q: ทาอายไพรเมอร์แล้วต้องรอให้แห้งก่อนไหมคะ?
A: ส่วนใหญ่แนะนำให้รอให้เนื้ออายไพรเมอร์เซ็ตตัวสักครู่ก่อนลงอายแชโดว์ค่ะ. โดยเฉพาะถ้าเป็นเนื้อลิควิดหรือเนื้อครีม จะได้ช่วยให้อายแชโดว์ติดได้ดียิ่งขึ้นค่ะ.
Q: อายไพรเมอร์มีวันหมดอายุไหม? ควรเปลี่ยนบ่อยแค่ไหน?
A: มีวันหมดอายุค่ะ! ปกติแล้วเครื่องสำอางรอบดวงตาควรเปลี่ยนทุก 6 เดือน - 1 ปี เพื่อสุขอนามัยที่ดี และป้องกันการติดเชื้อ โดยเฉพาะถ้าเนื้อผลิตภัณฑ์เปลี่ยนไป มีกลิ่นแปลกๆ หรือทำให้ระคายเคือง ควรหยุดใช้ทันทีค่ะ.
Q: ซื้ออายไพรเมอร์ใน Lazada/Shopee ร้านไหนเชื่อถือได้? กลัวเจอของปลอมค่ะ!
A: ควรเลือกซื้อจาก Official Store ของแบรนด์นั้นๆ โดยตรง หรือร้านที่เป็น LazMall/Shopee Mall ที่มีเครื่องหมายการันตีความน่าเชื่อถือค่ะ. ดูรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ประกอบด้วย. ถ้าเจอราคาถูกผิดปกติมากๆ ให้สงสัยไว้ก่อนค่ะ ทางที่ดี ซื้อจากร้าน Drugstore หรือเคาน์เตอร์ในห้างก็ปลอดภัยที่สุดค่ะ.
สรุปและคำแนะนำพิเศษสำหรับชาวไทย!
เป็นยังไงบ้างคะกับ 10 อายไพรเมอร์ตัวเด็ดที่เราคัดมาให้? หวังว่าจะช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจเลือกอายไพรเมอร์ที่ใช่สำหรับตัวเองได้ง่ายขึ้นนะคะ!
- สำหรับ มือใหม่ งบจำกัด หรือนักเรียนนักศึกษา ลองดู CANMAKE, Browit, THE SAEM, Essence หรือ Catrice ได้เลยค่ะ คุณภาพดี ราคาเป็นมิตร เริ่มต้นได้สบายๆ.
- ถ้ามีปัญหา เปลือกตามันมากๆ ต้องการ คุมมันและติดทนขั้นสุด ต้องลอง Bbia, NARS หรือ Urban Decay ค่ะ.
- สำหรับคนที่เน้น สีอายแชโดว์ชัดๆ และติดทนดี แนะนำ ETUDE, Urban Decay.
- ถ้าเน้น กันตกร่อง เป็นพิเศษ Too Faced Shadow Insurance คือคำตอบค่ะ.
- และที่สำคัญสำหรับสภาพอากาศเมืองไทย: มองหาคำว่า "กันน้ำ กันเหงื่อ" หรือ "Long-lasting" ไว้เลยค่ะ.
สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือ "ของปลอม" ค่ะ! ตรวจสอบร้านค้าที่ซื้อให้ดี โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์ที่ไม่ใช่ร้านทางการ ถ้าไม่มั่นใจ ซื้อที่ Watsons, Eveandboy, Beautrium หรือเคาน์เตอร์แบรนด์โดยตรงชัวร์กว่า. และอย่าลืมว่าเปลือกตาเราบอบบาง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน และหากมีอาการแพ้หรือระคายเคือง ให้หยุดใช้ทันทีและปรึกษาแพทย์ผิวหนังนะคะ.
เม้าท์มอย แชร์ประสบการณ์กันหน่อยค่า!
เพื่อนๆ กำลังใช้อายไพรเมอร์ตัวไหนอยู่บ้าง? หรือมีตัวไหนนอกเหนือจากนี้ที่ใช้ดีแล้วอยากบอกต่อ คอมเมนต์มาแชร์ประสบการณ์กันหน่อยนะคะ! 👇
ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ อยากให้กำลังใจ หรืออยากให้รวบรวมพิกัดร้าน/โปรโมชั่นดีๆ ของอายไพรเมอร์
เหล่านี้เป็นพิเศษ พิมพ์คำว่า "ปักหมุดรอเลย!" เดี๋ยวแกมินี่จัดให้ค่าาา! แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ! ✨
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ราคา iPhone XS Max ล่าสุดจาก Dtac: พร้อมโปรโมชั่นผ่อนสบาย
รีวิว Adare Garden Pool Villas Pattaya: พูลวิลล่าส่วนตัว บรรยากาศดีจริงไหม?
ราคาห้องคาราโอเกะ Good View Village: คุ้มไหม? จองยังไง?
10 โน้ตบุ๊ก ราคาไม่เกิน 15000 บาท ปี 2025 สเปกดี ทำงานทั่วไปได้
Samsung Galaxy Z Fold 7 ราคาเท่าไหร่? เช็คราคาล่าสุดพร้อมวันวางจำหน่ายและสเปกครบ
Fresh Black Tea Mask รีวิว: มาส์กหน้าใส ฟูอิ่ม เห็นผลในครั้งแรก?