Android TV 4K ราคาล่าสุด ปี 2024/2567 ยี่ห้อไหนดี ภาพคมชัด เสียงดี?

สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องที่ทำให้หลายคนปวดหัวตึ้บ! นั่นก็คือการเลือกซื้อ Android TV 4K ในปี 2024/2567 นี่แหละ! โห... ทีวีสมัยนี้เค้าไปถึงไหนต่อไหนแล้วเนอะ ไม่ใช่แค่เปิดดูละครหลังข่าวแล้วจบนะจ๊ะ มันต้องมีครบ ทั้งภาพคม เสียงดี ที่สำคัญคือต้องฉลาดด้วย! ใครที่กำลังเล็งๆ จะอัปเกรดทีวีที่บ้านให้ชีวิตดี๊ดีขึ้น มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาไขข้อข้องใจให้แบบหมดเปลือก ช้อปยังไงให้ได้ของดีราคาโดนใจในแบบฉบับคนไทย ไปลุยกันเลย!

1. เจ้า Android TV 4K มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ เริ่มต้นกันที่พื้นฐานก่อนเลย เจ้า Android TV 4K เนี่ย มันก็คือสมาร์ททีวี (Smart TV) ประเภทหนึ่งนั่นแหละ แต่ทีเด็ดของมันคือใช้ ระบบปฏิบัติการ Android TV ที่ Google พัฒนาขึ้นมา พูดง่ายๆ คือมันเอาความเก่งของมือถือ Android มาใส่ไว้ในทีวีจอใหญ่ๆ ของเรานั่นเอง ทำให้ทีวีของเราไม่ใช่แค่กล่องสี่เหลี่ยมไว้นั่งดูเฉยๆ แต่มันกลายเป็นศูนย์รวมความบันเทิงขนาดยักษ์เลยทีเดียว

แล้วไอ้ "4K" ที่ต่อท้ายมาล่ะ มันคืออะไร? อันนี้คือเรื่องของ ความละเอียดหน้าจอ จ้า ปกติทีวีทั่วไปอาจจะเป็น Full HD แต่นี่คือ 4K ซึ่งมีความละเอียดมากกว่าถึง 4 เท่า! คิดดูสิว่าภาพมันจะคมชัด ขนาดเห็นรูขุมขนดารา เอ้ย! ไม่ใช่ ขนาดเห็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในหนัง ในซีรีส์ หรือแม้กระทั่งตอนเล่นเกมได้แบบเต็มตาเต็มอารมณ์ไปเลย

แล้วใครเหมาะกับเจ้า Android TV 4K นี้บ้าง? บอกเลยว่าเหมาะกับทุกคนในครอบครัว! ตั้งแต่คอหนังคอซีรีส์ที่ชอบดูสตรีมมิ่ง (Netflix, YouTube, Disney+, HBO Go มาครบ!) สายเกมเมอร์ที่อยากต่อจอยเล่นเกมบนจอใหญ่ๆ หรือจะเป็นคนยุคใหม่ที่ชอบดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่างๆ มาไว้บนทีวี เพราะมี Google Play Store ให้โหลดเพียบเหมือนในมือถือเลย แถมหลายๆ รุ่นยังมีระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant ด้วยนะ สะดวกสุดๆ

ส่วนแบรนด์ที่ทำ Android TV 4K นี่ก็มีเพียบเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ดังจากญี่ปุ่นอย่าง Sony, แบรนด์เกาหลีอย่าง Samsung (บางรุ่นที่เป็น Smart TV ก็มีฟังก์ชันคล้ายๆ กันแต่ใช้ Tizen OS นะ ต้องดูดีๆ), หรือจะเป็นแบรนด์จากจีนที่มาแรงมากๆ อย่าง TCL, Hisense, Xiaomi, และ Skyworth ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นและราคาที่แตกต่างกันไปจ้า

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้างนะ?

มาถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่ทุกคนรอคอย! ราคาของ Android TV 4K ในไทยปี 2024/2567 เนี่ย บอกเลยว่ามีตั้งแต่หลักพันปลายๆ ไปจนถึงหลักหมื่น หลักแสนเลยทีเดียวค่ะ ราคาจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างมากๆ ที่สำคัญคือ ขนาดหน้าจอ (ยิ่งใหญ่ยิ่งแพง) และ สเปกเครื่อง (พวกเทคโนโลยีจอภาพ, ชิปประมวลผล, ระบบเสียง) นั่นแหละ

ยกตัวอย่างราคาคร่าวๆ จากการสำรวจตลาดออนไลน์และร้านค้าใหญ่ๆ ในไทยนะ:

• ขนาด 43 นิ้ว: เริ่มต้นประมาณ 8,000 - 15,000 บาท สำหรับแบรนด์รองๆ หรือรุ่นเริ่มต้นของแบรนด์ดัง
• ขนาด 50-55 นิ้ว: เป็นขนาดยอดนิยม ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 - 30,000 บาท มีตัวเลือกเยอะมากๆ ในช่วงราคานี้ ทั้งแบรนด์จีนที่สเปกดีราคาโดน หรือแบรนด์ญี่ปุ่น/เกาหลีรุ่นกลางๆ
• ขนาด 65 นิ้วขึ้นไป: ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก เริ่มตั้งแต่ประมาณ 18,000 - 50,000 บาทขึ้นไปสำหรับรุ่นทั่วไป รุ่นท็อปๆ อาจทะลุแสนได้เลย

แหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ยอดฮิตในไทยอย่าง Lazada และ Shopee นี่คือแหล่งรวม Android TV 4K หลากหลายแบรนด์ หลากหลายราคาเลยนะ มีทั้งร้าน Official Store ของแบรนด์เอง และร้านค้าอื่นๆ ให้เปรียบเทียบราคาเพียบ ส่วนร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ อย่าง Power Buy หรือ Banana IT (บางสาขา) ก็มีให้เลือกดูหลายรุ่นเหมือนกัน ส่วน JIB อาจจะมีน้อยกว่า เพราะเน้นสินค้า IT ทั่วไปมากกว่าค่ะ

เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างราคานอกกับราคาในไทยนี่ก็มีผลบ้างนะ แต่ส่วนใหญ่แบรนด์พวกนี้เค้าก็มีฐานการผลิตหรือการจัดจำหน่ายในภูมิภาคนี้อยู่แล้ว ราคาในไทยก็จะสะท้อนต้นทุนและภาษีนำเข้า รวมถึงการแข่งขันในตลาด ทำให้บางทีราคาอาจจะสูงกว่าในบางประเทศ หรือบางทีถ้าเจอโปรโมชั่นดีๆ ก็อาจจะใกล้เคียงหรือถูกกว่าก็ได้จ้า

3. เทียบราคากับทีวีประเภทอื่นแล้วเป็นไง?

ถ้าให้เทียบราคากับทีวีประเภทอื่น อย่าง Smart TV ทั่วไปที่ไม่ใช่ Android TV (เช่น ใช้ระบบ Tizen ของ Samsung หรือ webOS ของ LG) เนี่ย บางทีราคาเริ่มต้นของ Smart TV ทั่วไปอาจจะถูกกว่าเล็กน้อย โดยเฉพาะในขนาดเล็กๆ หรือรุ่นเริ่มต้น แต่ถ้าเป็น Smart TV 4K สเปกกลางๆ ขึ้นไป ราคาก็จะพอๆ กับ Android TV 4K เลยจ้า

ข้อแตกต่างสำคัญที่ทำให้ Android TV 4K ดูคุ้มค่ากว่าสำหรับบางคนก็คือ ความยืดหยุ่นและความหลากหลายของแอปพลิเคชัน ระบบปฏิบัติการ Android TV มันเปิดกว้างกว่า ทำให้เราสามารถดาวน์โหลดแอปฯ จาก Google Play Store ได้เยอะมากๆ บางแอปฯ ที่ Smart TV ทั่วไปอาจจะไม่มีใน Store ของตัวเอง Android TV ก็อาจจะมีให้โหลด เหมือนมีมือถือ Android จอใหญ่มากๆ อยู่ในบ้านเลยแหละ

บางคนอาจจะมองว่าซื้อทีวีธรรมดาถูกๆ แล้วไปซื้อ กล่อง Android TV Box มาต่อเพิ่มทีหลังก็ได้นะ อันนั้นก็เป็นอีกทางเลือกที่ประหยัดงบได้ แต่ข้อดีของการเป็น Android TV มาในตัวคือมันจะ ทำงานได้ลื่นไหลกว่า ระบบมันถูกออกแบบมาให้เข้ากับฮาร์ดแวร์ของทีวีโดยตรง แถมยังควบคุมง่ายด้วยรีโมทอันเดียว ไม่ต้องมีรีโมทหลายอันให้วุ่นวายหัวใจจ้า

4. ซื้อมาแล้วได้อะไรมาบ้างนะ? อุปกรณ์เสริมกับการรับประกันเรื่องใหญ่!

เวลาซื้อ Android TV 4K เนี่ย หลักๆ ที่จะได้มาในกล่องก็จะมี ตัวทีวี แน่นอนอยู่แล้ว, ขาตั้งทีวี (เผื่อใครจะวางบนชั้น), รีโมทคอนโทรล (บางรุ่นมีรีโมทพร้อมไมโครโฟนสำหรับสั่งงานด้วยเสียง), สายไฟ, และ คู่มือการใช้งาน ค่ะ

ส่วนเรื่อง ค่าขนส่ง นี่สบายใจได้เลย! ส่วนใหญ่ร้านค้าใหญ่ๆ บนออนไลน์ หรือร้านค้าปลีกทั่วไป เค้ามักจะมีบริการจัดส่งฟรีให้ถึงบ้านอยู่แล้วนะ โดยเฉพาะถ้าซื้อในราคาที่กำหนด หรืออยู่ในพื้นที่บริการ แต่ถ้าอยู่พื้นที่ห่างไกลมากๆ บางทีอาจจะมีค่าบริการเพิ่มเติมเล็กน้อย ก็ต้องลองสอบถามผู้ขายดูจ้า

เรื่องที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ ก็คือ การรับประกัน นี่แหละ! Android TV 4K ส่วนใหญ่ในตลาดไทยจะมีการรับประกันเริ่มต้นที่ 1 ปี บางแบรนด์หรือบางรุ่นอาจจะให้ 2 ปี หรือ 3 ปี เลยก็มี อันนี้ต้องเช็คให้ดีๆ เลยนะ เพราะทีวีเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถ้าเสียขึ้นมา ค่าซ่อมอาจจะบานปลายได้ การมีประกันศูนย์ไทยนี่อุ่นใจที่สุดค่ะ

นอกจากนี้ ลองดูด้วยว่ามี ของแถม หรือ โปรโมชั่นพิเศษ อะไรอีกไหม บางทีอาจจะได้สาย HDMI คุณภาพดี คูปองส่วนลดสำหรับซื้อครั้งต่อไป หรือส่วนลดพิเศษสำหรับบริการสตรีมมิ่งต่างๆ ด้วยนะ

5. มีช่วงไหนน่าสอยเป็นพิเศษมั้ย? โปรโมชั่นแรงๆ ต้องมา!

ถ้าอยากได้ Android TV 4K ในราคาแบบคุ้มค่าตัวที่สุดเนี่ย! ต้องบอกเลยว่า ช่วงโปรโมชั่น นี่แหละคือโอกาสทอง! ไม่ว่าจะเป็น:

• ช่วง Double Digit Sale: อย่าง 11.11, 12.12, 3.3, 4.4, ฯลฯ บนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee ช่วงนี้คือจัดหนักจัดเต็มมากๆ ทั้งส่วนลดจากร้านค้า โค้ดส่วนลดจากแพลตฟอร์ม หรือโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต ลดสูงสุดแบบตาแตกไปเลยก็มี!
• เทศกาลใหญ่ของไทย: เช่น สงกรานต์ ปีใหม่ Black Friday ร้านค้าต่างๆ ก็มักจะจัดโปรโมชั่นลดราคาเพื่อดึงดูดลูกค้าในช่วงนี้ด้วย
• โปรโมชั่นจากร้านค้า Official Store: แบรนด์ทีวีใหญ่ๆ มักจะมีร้านค้า Official Store บน Lazada หรือ Shopee ซึ่งเค้าจะมีการจัดโปรโมชั่น ลดราคา หรือมีโค้ดส่วนลดพิเศษให้ใช้บ่อยๆ นะ ต้องคอยติดตามหน้าร้านดีๆ เลย

คำแนะนำคือ ถ้าไม่ได้รีบใช้มากๆ อดใจรอซื้อช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ เนี่ยแหละ คุ้มที่สุดแล้วจ้า อาจจะต้องกดไวหน่อยเพราะของดีราคาถูกมักจะหมดเร็ว แต่รับรองว่าประหยัดไปได้หลายพันบาทเลยนะ!

6. คนไทยใช้แล้วฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้าง? เสียงตอบรับจากผู้ใช้งานจริง!

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามกระทู้รีวิวใน Pantip หรือคอมเมนต์ใน Lazada/Shopee เนี่ย ฟีดแบ็กเกี่ยวกับ Android TV 4K ในไทยส่วนใหญ่ถือว่าค่อนข้างดีเลยนะ!

จุดที่คนไทยชอบมากๆ เลยก็คือ:

• ภาพคมชัด สีสันสดใส: หลายคนบอกว่าภาพ 4K มันดีจริงๆ ดูหนังดูซีรีส์ฟินมาก สีสวยเป็นธรรมชาติ
• ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน: ระบบ Android TV เมนูต่างๆ เข้าใจง่าย ใครที่ไม่เคยใช้ Smart TV มาก่อนก็เรียนรู้ได้ไม่ยาก
• มีแอปพลิเคชันให้เลือกเยอะ: อันนี้คือข้อดีสุดๆ เลย อยากดูอะไรก็โหลดแอปฯ เพิ่มได้เลย ไม่ต้องง้อกล่อง
• สั่งงานด้วยเสียงสะดวกมาก: หลายรุ่นรองรับ Google Assistant สั่งเปิดแอปฯ ค้นหาหนังด้วยเสียงได้เลย ไม่ต้องกดรีโมทให้เมื่อยนิ้ว
• คุ้มค่ากับราคา: เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้ ฟังก์ชันที่ครบครัน ในราคาที่เข้าถึงง่าย หลายคนบอกว่าตัดสินใจไม่ผิดที่เลือก Android TV
• ต่ออุปกรณ์เสริมได้หลากหลาย: ทั้งเมาส์ คีย์บอร์ด หรือจอยสติ๊กสำหรับเล่นเกม

ส่วนข้อสังเกตก็อาจจะมีบ้าง อย่างบางรุ่นที่ราคาไม่สูงมากๆ อาจจะมีอาการหน่วงๆ เล็กน้อยเวลาเปิดหลายแอปฯ พร้อมกัน หรือความทนทานอาจจะต้องรอดูระยะยาว แต่โดยรวมแล้วเสียงตอบรับค่อนข้างไปในทางบวกเลยจ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อที่ไหนดีล่ะเนี่ย?

สำหรับช่องทางการซื้อ Android TV 4K ที่แนะนำในไทยก็มีหลายทางเลือกเลยจ้า:

• ร้านค้า Official Store ของแบรนด์บนออนไลน์: บน Lazada และ Shopee นี่แหละแหล่งหลักเลย ช้อปง่าย สะดวก มีโปรโมชั่นบ่อย ได้ของแท้แน่นอน และมักจะมีบริการหลังการขายที่เชื่อถือได้
• ร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่: เช่น Power Buy หรือแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้างสรรพสินค้าอย่าง Central หรือ Big C ข้อดีคือเราสามารถไป ดูของจริง เปรียบเทียบภาพและเสียงของแต่ละรุ่นได้เลย มีพนักงานให้คำแนะนำ และถ้ามีปัญหาอะไรก็สามารถนำไปเคลมที่ร้านได้สะดวกกว่า
• ร้านค้าออนไลน์อื่นๆ: นอกจากสองแพลตฟอร์มหลักแล้ว ยังมีร้านค้าออนไลน์อีกมากมายที่ขาย Android TV 4K นะ ต้องเลือกดูร้านที่น่าเชื่อถือ มีรีวิวดีๆ ค่ะ

เปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้งนะจ๊ะ บางทีช่องทางออนไลน์อาจจะมีราคาถูกกว่าเพราะมีโปรโมชั่นเยอะ แต่ถ้าใครสบายใจอยากเห็นของจริงก่อน หรือเน้นบริการหลังการขายที่ดี ก็เลือกร้านค้าปลีกได้เลยจ้า

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใครกันนะ?

มาถึงช่วงสรุปแล้ว! ถามว่า Android TV 4K ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปี 2024/2567? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่:

• อยากได้ภาพคมชัดระดับ 4K ดูหนัง ดูซีรีส์ เล่นเกมได้เต็มตา
• ชอบความสะดวกสบาย อยากให้ทีวีทำได้หลายๆ อย่างเหมือนมือถือ
• ใช้งานแอปพลิเคชันสตรีมมิ่งต่างๆ เป็นหลัก และอยากโหลดแอปฯ เพิ่มได้เยอะๆ
• มีงบประมาณที่พอเหมาะ สามารถหา Android TV 4K สเปกดีๆ ในราคาหมื่นต้นๆ ได้ไม่ยาก

มันเป็นทีวีที่ คุ้มค่ามากๆ ในยุคนี้เลยแหละ ให้ประสบการณ์การรับชมที่เหนือกว่าทีวีทั่วไปเยอะมากๆ เหมาะกับทุกบ้านที่อยากอัปเกรดความบันเทิงในห้องนั่งเล่น

ส่วนจะเลือกรุ่นสูงหรือรุ่นต่ำดี? อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการเลยจ้า

• ถ้าเน้น ประหยัดงบ หรือวางแผนจะซื้อ Android TV Box แยกอยู่แล้ว อาจจะเลือกรุ่นเริ่มต้นของ Android TV 4K ขนาดที่ต้องการได้เลย เน้นที่ความละเอียด 4K เป็นหลัก
• ถ้าอยากได้ ฟังก์ชันครบๆ สเปกแรงๆ ดูหนังที่รองรับ HDR ได้สีสันจัดเต็ม ระบบเสียงดีๆ เล่นเกมได้ลื่นไหล และอยากให้ทีวีอยู่กับเราไปนานๆ ก็อาจจะต้องขยับงบไปเลือกรุ่นกลางๆ ถึงรุ่นสูงหน่อย แบรนด์ดังๆ ก็มักจะมีเทคโนโลยีภาพและเสียงที่ดีกว่า

สุดท้ายแล้ว การเลือกซื้อ Android TV 4K ก็เหมือนเลือกแฟนแหละจ้า! ต้องเลือกที่ใช่ ที่ชอบ ที่เหมาะกับเราที่สุด ลองเปรียบเทียบสเปก ราคา และอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงเยอะๆ นะจ๊ะ จะได้ไม่เสียดายทีหลัง ขอให้ทุกคนได้ทีวีที่ถูกใจ ภาพสวย เสียงดี มีความสุขกับการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมบนจอใหญ่ๆ กันถ้วนหน้านะจ๊ะ! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• สรุป 10 ทีวีที่ดีที่สุดแห่งปี 2024-2025 | คัดให้เน้นๆ ซื้อตามได้เลย
• 10 ทีวี 4K ยี่ห้อไหนดี | ล่าสุด 2025 | @thailand_smile
• สรุป 10 ทีวีที่ดีที่สุดแห่งปี 2023-2024 | ซื้อตามได้เลย
• ซื้อทีวีรุ่นไหนดี ปี 2024 Smart TV จอ 40 - 55 นิ้ว งบ 4,XXX
• 10 อันดับ สมาร์ททีวี ยี่ห้อไหนดี ปี2024 ขนาด 32 - 75 นิ้ว