logo

นกเขาไฟ: ราคาซื้อขาย ปี 2568 และวิธีดูลักษณะที่ดี

user avatar
ภูมิ พงศ์ธนาธิป·07/08/2025 01:14
点赞
นกเขาไฟ: ราคาซื้อขาย ปี 2568 และวิธีดูลักษณะที่ดี

สวัสดีครับพี่น้องชาวนกชาวกา และว่าที่คนเลี้ยงนกเขาไฟทุกท่าน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องนกเขาไฟ สัตว์เลี้ยงคู่บ้านคู่เมืองที่ไม่ได้มีดีแค่ขันเพราะๆ แต่ยังมีความเชื่อและเรื่องราวที่น่าสนใจอีกเพียบ! ใครที่กำลังมองหานกมาเป็นเพื่อนแก้เหงา หรืออยากจะลองขยับเข้าสู่วงการนกแข่ง มาดูข้อมูลอัปเดตปี 2568 พร้อมวิธีดูยังไงให้นกของเราเป็น "นกเขาไฟที่ดี" ไปพร้อมกันเลย!

1. นกเขาไฟ...นี่มันคือนกแบบไหนกันนะ?

เอาล่ะ ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับเจ้า นกเขาไฟ (Red Collared Dove) กันก่อนเลย มันคือนกเขาขนาดเล็กน่ารัก ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์เก๋ๆ ว่า Streptopelia tranquebarica เป็นนกพื้นถิ่นของเอเชีย โดยเฉพาะในบ้านเราและประเทศเพื่อนบ้านแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เนี่ยเจอได้ทั่วไปเลย คนไทยเราคุ้นเคยกับนกเขาไฟมานานนม ไม่ใช่แค่ในธรรมชาติ แต่ยังนิยมนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะสีสันที่สวยงาม โดยเฉพาะเพศผู้ที่มีหัวสีเทาน้ำเงิน ลำตัวออกสีน้ำตาลแดงๆ คล้ายสีไฟ แถมยังมีแถบดำที่คอเหมือนใส่ปลอกคอ ที่สำคัญคือ เสียงร้องที่ไพเราะเป็นเอกลักษณ์ มีจังหวะนุ่มลึก ฟังแล้วสบายหูเพลินใจ เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ชอบฟังเสียงนก หรือจะเลี้ยงไว้ดูเล่นก็ได้ เพราะเค้ามีนิสัยรักสงบ ไม่ค่อยดุร้าย

กลุ่มคนที่เลี้ยงนกเขาไฟก็มีหลากหลาย ตั้งแต่คนรักนกทั่วไปที่เลี้ยงไว้ฟังเสียง ดูเล่น เป็นเพื่อนคลายเหงา ไปจนถึง นักเลงนก ที่เลี้ยงเพื่อฝึกฝนเสียงร้องเอาไว้ ประกวดแข่งขัน เลยทีเดียว ถือเป็นนกที่มีคุณค่าทั้งทางใจและมูลค่าทางเศรษฐกิจเลยนะจะบอกให้

2. ราคาค่าตัวในปี 2568 เป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่หลายคนอยากรู้ นั่นก็คือ ราคาซื้อขายในปี 2568 (2025) นี่แหละ! ต้องบอกตามตรงว่าเรื่องราคาเนี่ยสำหรับสัตว์เลี้ยงแล้วมันไม่ได้มีราคาตายตัวเหมือนสินค้าโรงงานนะจ๊ะ ราคาของนกเขาไฟขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากๆ เลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นอายุ สีสัน ความสมบูรณ์ เสียงร้อง (อันนี้สำคัญสุดๆ สำหรับสายแข่ง!) พ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาจากไหน และที่สำคัญคือแหล่งที่เราไปซื้อด้วย

จากการสำรวจราคาในช่วงที่ผ่านมา (ซึ่งก็น่าจะพอเป็นแนวทางในปี 2568 ได้) เนี่ย เรทราคาคร่าวๆ จะประมาณนี้:

  • ลูกนกเขาไฟ (ลูกป้อน): ราคาจะน่ารักหน่อย อยู่ที่ประมาณ ฿300 - ฿1,500 บาท
  • นกเขาไฟวัยหนุ่มสาว/โตเต็มวัย (เลี้ยงฟังเสียง/ดูเล่น): ราคาจะขยับขึ้นมาหน่อย ประมาณ ฿500 - ฿4,500 บาท อันนี้ก็แล้วแต่ความสวยงามและความสมบูรณ์ของนกแต่ละตัวเลย
  • นกเขาไฟสายประกวด (เสียงดี มีรางวัล): อันนี้แหละตัวท็อป! ราคาพุ่งกระฉูดไปได้ถึง ฿10,000 - ฿100,000 บาท เลยทีเดียว บางตัวที่เคยได้รางวัลใหญ่ๆ ระดับประเทศอาจมีราคาสูงกว่านั้นอีกนะ

แหล่งซื้อขายหลักๆ ไม่ได้อยู่บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ แบบ Lazada หรือ Shopee ที่เน้นสินค้าทั่วไปนะ (ถึงแม้จะเจออาหารนกหรืออุปกรณ์เกี่ยวกับการต่อนกขายอยู่บ้างก็ตาม) แต่ส่วนใหญ่จะซื้อขายกันที่ ตลาดนกโดยเฉพาะ, ฟาร์มเพาะเลี้ยง โดยตรง หรือตาม กลุ่มซื้อขายออนไลน์สำหรับคนรักนกเขา ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมเพราะมีตัวเลือกเยอะ สะดวก และติดต่อง่าย

3. แล้วเทียบกับนกเขาชนิดอื่นล่ะ ราคาเป็นไง?

ถ้าให้เทียบกับนกเขาชนิดอื่นๆ ที่นิยมเลี้ยงในไทย อย่างนกเขาชวา หรือนกเขาใหญ่เนี่ย นกเขาไฟก็ถือว่ามีช่วงราคาที่ค่อนข้างหลากหลายใกล้เคียงกันนะ นกเขาชวาก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงตัวแพงๆ หลักแสนสำหรับสายประกวดเสียงขัน ส่วนนกเขาใหญ่ก็มีราคาไปได้ถึงหลักแสนหลักล้านบาทสำหรับตัวเก่งๆ ที่ผ่านสนามมาเยอะๆ

จุดที่ทำให้นกเขาไฟมีราคาพิเศษขึ้นมาก็คือ สีสันที่โดดเด่น และ เสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถ้าเน้นเลี้ยงดูเล่น นกเขาไฟราคาเริ่มต้นก็จับต้องได้ง่าย แต่ถ้าอยากได้นกเสียงดีเอาไปแข่ง ราคาก็จะขยับไปเทียบเท่านกเขาชวาหรือนกเขาใหญ่เกรดดีๆ เลยล่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเราเน้นอะไร ถ้าเน้นความสวยงามแปลกตา นกเขาไฟก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเองที่นกเขาชนิดอื่นไม่มีนะจ๊ะ

4. ซื้อนกเขาไฟแล้วได้อะไรมาบ้างนะ? (ฉบับนก ไม่ใช่สินค้า!)

อันนี้ต้องปรับโหมดจากสินค้าทั่วไปมาเป็นสิ่งมีชีวิตนะจ๊ะ! เวลาเราซื้อนกเขาไฟ ส่วนใหญ่แล้วสิ่งที่เราจะได้มาก็คือ ตัวนกเพียวๆ เลยล่ะ

ส่วนเรื่อง "อุปกรณ์เสริมและบริการที่รวมมา" แบบในแค็ตตาล็อกสินค้าเนี่ยมันใช้ไม่ได้กับนกนะจ๊ะ ไม่มีแบบซื้อนกแล้วแถมกรง แถมอาหารให้ฟรีแบบจัดเต็มแพ็กเกจเหมือนซื้อโทรศัพท์นะ สิ่งที่เราต้องเตรียมเองหลังจากได้นกมาก็คือ:

  • กรงนก: สำคัญมากๆ ต้องเลือกขนาดที่เหมาะสม โปร่งโล่ง อากาศถ่ายเทดี มีพื้นที่ให้นกขยับตัวได้
  • ถ้วยใส่อาหารและน้ำ: ต้องมีติดกรงไว้ เปลี่ยนน้ำเปลี่ยนอาหารสม่ำเสมอเพื่อความสะอาด
  • อาหารนก: นกเขาไฟชอบกินเมล็ดพืชต่างๆ อาจจะต้องซื้ออาหารสำเร็จรูปสำหรับนกเขาไฟโดยเฉพาะ หรือผสมเองก็ได้
  • คอนสำหรับเกาะ: ใส่นกเขาไฟชอบเกาะนิ่งๆ บนที่สูง

ส่วนเรื่อง "การรับประกัน" เนี่ยสำหรับสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่แล้ว ไม่มีประกันศูนย์ เหมือนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์นะจ๊ะ! การซื้อขายนกส่วนใหญ่จะเป็นความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย หรือฟาร์มที่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจจะมีการรับประกันสุขภาพเบื้องต้นให้ในช่วงแรกๆ (เช่น 7 วัน) แต่ถ้าซื้อจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือก็อาจจะไม่มีการรับประกันอะไรเลยตรงนี้ต้องทำใจและเลือกซื้ออย่างระมัดระวังนะจ๊ะ

เรื่อง "ค่าจัดส่ง" ถ้าซื้อไกลๆ ก็อาจจะต้องมีค่าขนส่งสัตว์เลี้ยง ซึ่งอาจจะแพงกว่าค่าส่งพัสดุธรรมดาทั่วไป ก็ต้องตกลงกับผู้ขายให้ดีก่อนนะ

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษ หรือมีโปรโมชั่นสำหรับนกเขาไฟไหม?

ถ้าถามถึงโปรโมชั่นแบบ 12.12 หรือช่วงเทศกาลใหญ่ๆ ที่ลดราคาสินค้าแบบถล่มทลายบนแพลตฟอร์มออนไลน์เนี่ย สำหรับการซื้อขายนกเขาไฟโดยตรงมัน ไม่ได้มีโปรโมชั่นแบบนั้นนะจ๊ะ

แต่! ถ้าพูดถึง "ช่วงเวลาที่น่าสนใจในการซื้อ" อาจจะหมายถึงช่วงที่มีการ จัดงานประกวดนกเขา หรืองานเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงต่างๆ เพราะมักจะมีผู้เพาะพันธุ์หรือคนเลี้ยงนำนกมาโชว์ มาแบ่งปันความรู้ หรืออาจจะมีนกแบ่งขายคุณภาพดีๆ ให้ได้เลือกชมและตัดสินใจซื้อถึงที่ได้เห็นตัวเป็นๆ กันไปเลย

ส่วนเรื่องโปรโมชั่นบนร้านค้าออนไลน์ (ที่ขายอุปกรณ์นก) หรือตามฟาร์ม อาจจะมีบ้างเป็นการลดราคาอาหาร กรง หรืออุปกรณ์ต่างๆ เป็นครั้งคราว ก็ต้องคอยติดตามจากแหล่งนั้นๆ โดยตรงจ้า

สรุปคือ ถ้าอยากได้นกเขาไฟที่ดีอาจจะต้องไปดูตามแหล่งซื้อขายเฉพาะทางมากกว่ารอช่วงโปรโมชั่นออนไลน์แบบสินค้าทั่วไปนะ

6. คนไทยเลี้ยงนกเขาไฟแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ? (ฟังเสียงตอบรับจากชาวนก)

จากการไปส่องๆ ดูตามกลุ่มคนรักนก หรือคอมมูนิตี้ออนไลน์ต่างๆ เนี่ย เสียงตอบรับจากคนไทยที่เลี้ยงนกเขาไฟส่วนใหญ่จะแฮปปี้กับหลายๆ อย่างเลยนะ จุดที่คนเค้าเม้าท์มอยกันเยอะๆ ก็คือ:

  • เสียงร้องเพราะ ฟังสบาย: อันนี้คือจุดเด่นหลักที่ทำให้หลายคนตัดสินใจเลี้ยงเลย ฟังแล้วเพลินใจ คลายเครียดได้ดี
  • สีสันสวยงาม ดูแลง่าย: นกเขาไฟมีสีขนที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ไม่ซับซ้อน ดูแลไม่ยากเกินไปสำหรับมือใหม่
  • นิสัยดี รักสงบ: เป็นนกที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องความก้าวร้าว เลี้ยงแล้วสบายใจ
  • ความเชื่อและสิริมงคล: คนไทยบางส่วนเชื่อว่าการเลี้ยงนกเขาบางชนิด โดยเฉพาะนกเขาที่มีลักษณะดีตามตำราโบราณจะนำโชคลาภและความเป็นสิริมงคลมาให้ผู้เลี้ยงได้ นกเขาไฟก็เป็นหนึ่งในนั้นที่มีการกล่าวถึงลักษณะที่เป็นมงคลอยู่บ้าง
  • ความคุ้มค่า (ถ้าเน้นเลี้ยงทั่วไป): สำหรับนกที่ไม่ได้เน้นประกวด ราคาเริ่มต้นถือว่าเข้าถึงง่ายกว่านกเขาชนิดอื่นบางประเภท ทำให้คนทั่วไปสามารถเลี้ยงได้สบายๆ

แต่ก็มีบางส่วนที่บอกว่าเสียงร้องของนกเขาไฟอาจจะไม่ได้ไพเราะถูกหูทุกคนเท่าเสียงนกเขาชวา อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลเลยนะจ๊ะ

7. แล้วจะไปหาซื้อนกเขาไฟได้ที่ไหนล่ะ?

อย่างที่บอกไปตอนต้น ช่องทางหลักๆ ที่คนไทยนิยมไปหาซื้อนกเขาไฟก็คือ:

  • ตลาดนก: อันนี้คือแหล่งคลาสสิกเลยจ้า มีนกให้เลือกเยอะ แต่ก็ต้องดูดีๆ เลือกดีๆ นะจ๊ะ
  • ฟาร์มเพาะเลี้ยงโดยตรง: เป็นอีกแหล่งที่ดี เพราะเราสามารถสอบถามข้อมูลจากผู้เพาะพันธุ์ได้โดยตรง มั่นใจเรื่องที่มาและสุขภาพของนกได้มากกว่า แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าซื้อตามตลาดทั่วไป
  • กลุ่มซื้อขายออนไลน์สำหรับคนรักนกเขา: เช่น ใน Facebook หรือแอปพลิเคชันเฉพาะทาง สะดวกสบาย มีตัวเลือกหลากหลาย แต่ก็ต้องระมัดระวังเรื่องผู้ขายที่ไม่น่าเชื่อถือ เช็คประวัติให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ และถ้าเป็นไปได้ ควรนัดเจอเพื่อดูนกตัวจริงก่อนจ่ายเงิน จะปลอดภัยที่สุดนะจ๊ะ

ส่วนร้านขายสัตว์เลี้ยงทั่วไปตามห้างสรรพสินค้าอาจจะมีบ้าง แต่ก็ไม่เยอะเท่าแหล่งเฉพาะทาง และราคาก็อาจจะสูงกว่าด้วย

8. สรุปแล้วนกเขาไฟน่าเลี้ยงไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่านกเขาไฟน่าเลี้ยงไหมในปี 2568 เนี่ย? ถ้าคุณเป็นคนที่:

  • ชอบเสียงนกเขาที่ไพเราะเป็นเอกลักษณ์
  • ชอบนกที่มีสีสันสวยงาม ดูแลง่าย
  • มีพื้นที่ในการเลี้ยงดูที่เหมาะสม (มีกรงที่โปร่งสบาย)
  • อยากได้สัตว์เลี้ยงที่รักสงบ ไม่ส่งเสียงรบกวนตลอดเวลา
  • สนใจในความเชื่อและสิริมงคลเกี่ยวกับการเลี้ยงนกเขา
  • มีงบประมาณหลากหลาย ตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักหมื่น (หรือหลักแสนถ้าเอาดีทางแข่ง)

บอกเลยว่า นกเขาไฟเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยจ้า! เหมาะทั้งกับมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นเลี้ยงนก และนักเลงนกที่มองหานกเสียงดีมีแววเอาไปพัฒนาต่อ

ถ้าเน้นเลี้ยงดูเล่น ฟังเสียงเพลินๆ ไม่ต้องเข้าประกวด นกเขาไฟราคาเริ่มต้นก็ถือว่า คุ้มค่า ไม่แพงเลยนะจ๊ะ แต่ถ้าอยากได้นกสายประกวด อันนี้ก็ต้องยอมลงทุนสูงหน่อย เพราะราคามันไปตามคุณภาพเสียงและความสามารถในการขันเลยจ้า

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังเล็งๆ อยากจะรับนกเขาไฟมาเป็นสมาชิกในครอบครัวนะจ๊ะ! เลี้ยงนกให้มีความสุข ได้ฟังเสียงเพราะๆ คลายเหงาไปกับเพื่อนขนปุยตัวน้อยๆ จ้า! บ๊ายบายยย!


วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีค่าชาวช้อปปิ้งออนไลน์ที่น่ารักทุกคน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด นั่นก็คือ ไส้กรองน้ำ Lux Alva ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้น้ำดื่มของเราสะอาดใสปิ๊ง! ใครที่กำลังใช้เครื่องกรองน้ำ Lux Alva อยู่ หรือกำลังเล็งๆ จะเปลี่ยนไส้กรองใหม
ไส้กรองน้ำ Lux Alva ราคาล่าสุด เปลี่ยนเมื่อไหร่ดี?
สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้ขอเอาใจสายโปรดิวเซอร์ สายทำเพลง หรือใครที่ฝันอยากมีสตูดิโอเล็กๆ เป็นของตัวเองที่บ้าน ด้วยการมาเม้าท์มอยถึงอุปกรณ์สุดปังที่ชื่อว่า Ableton Push 2 กันจ้า บอกเลยว่าเจ้านี่ไม่ใช่แค่คอนโทรลเลอร์ธรรมดา แต่มันคือเครื่องมือท
Ableton Push 2: ราคาล่าสุด ปี 2568 และรีวิวคอนโทรลเลอร์สำหรับทำเพลง
สวัสดีค่าาทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องเครื่องดนตรีจิ๋วแต่แจ๋วที่กำลังฮิตสุดๆ นั่นก็คือ คาลิมบา (Kalimba) นั่นเอง! ใครที่อยากลองเล่นดนตรีแต่ไม่รู้จะเริ่มจากอะไรดี หรืออยากได้เครื่องดนตรีพกพาง่ายๆ ไว้ดีดเพลินๆ แก้เบื่อ มามุงทางนี้เลย
คาลิมบา (Kalimba) ราคาถูก เริ่มต้นกี่บาท? ยี่ห้อไหนดีสำหรับมือใหม่

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ