logo

เครื่องเสียงกลางแจ้งครบชุด ราคาล่าสุดปี 2025: จัดงบเท่าไหร่ดี?

user avatar
ณัฐพล ศรีสุขุม·07/08/2025 02:08
点赞
เครื่องเสียงกลางแจ้งครบชุด ราคาล่าสุดปี 2025: จัดงบเท่าไหร่ดี?

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เรามาเม้าท์เรื่องเครื่องเสียงกลางแจ้งกันดีกว่า ใครที่กำลังฝันอยากจัดงานปาร์ตี้ งานบุญ งานสังสรรค์ หรือจะเปิดท้ายขายของแบบมีดนตรีเพราะๆ (หรือมันส์ๆ!) แล้วกำลังเล็งๆ เครื่องเสียงกลางแจ้งอยู่ มามุงทางนี้เลยจ้า! เราจะพาไปดูกันว่าปี 2025 นี้ต้องเตรียมงบเท่าไหร่ ถึงจะได้ชุดเครื่องเสียงครบเซ็ตแบบไม่บานปลาย!

1. ชุดเครื่องเสียงกลางแจ้ง มันคืออะไร มีไว้ทำไม?

เอาล่ะ! ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับเจ้า เครื่องเสียงกลางแจ้ง กันก่อน ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า "กลางแจ้ง" มันก็คือระบบเสียงที่ออกแบบมาให้ใช้งานนอกอาคารนั่นแหละจ้า ไม่ว่าจะงานวัด งานบวช งานแต่ง (ที่จัดนอกบ้าน) งานปีใหม่ริมทะเล หรือแม้แต่งานออกบูธตามตลาดนัดกลางแจ้ง เจ้าพวกนี้เค้าเกิดมาเพื่อสู้กับเสียงรบกวนรอบข้างและกระจายเสียงไปได้ไกลๆ ให้คนหมู่มากได้ยินชัดๆ นั่นเอง

ชุดเครื่องเสียงกลางแจ้งครบชุดเนี่ย มันไม่ได้มีแค่ลำโพงโดดๆ นะ แต่มันคือการรวมร่างของอุปกรณ์หลายๆ อย่างเข้าด้วยกันเพื่อให้เสียงออกมาดีที่สุด ประกอบไปด้วย:

  • ลำโพง (Speakers): หัวใจหลักเลยจ้า มีหลายแบบ ทั้งลำโพงตั้งพื้น ลำโพงแขวน หรือลำโพงคอลัมน์, ขนาดก็มีตั้งแต่เล็กๆ ไปจนถึงตู้ยักษ์ที่ยกกันหลายคน,
  • มิกเซอร์ (Mixer): ตัวนี้เป็นเหมือนศูนย์บัญชาการเสียงเลยจ้า เอาไว้รวมสัญญาณจากแหล่งต่างๆ เช่น ไมโครโฟน เครื่องดนตรี หรือเพลงจากมือถือ แล้วปรับแต่งเสียงให้กลมกล่อมก่อนส่งไปที่ลำโพง
  • เพาเวอร์แอมป์ (Power Amplifier): ถ้าลำโพงเราเป็นแบบ Passive (ไม่มีแอมป์ในตัว) เจ้าเพาเวอร์แอมป์นี่แหละคือขุมพลังที่จะมาขยายสัญญาณเสียงให้ดังกระหึ่มออกลำโพง
  • ไมโครโฟน (Microphone): ขาดไม่ได้เลยสำหรับงานที่มีการพูด การร้อง หรือเล่นดนตรีจ้า มีทั้งแบบมีสายและไร้สาย,
  • อุปกรณ์อื่นๆ: เช่น สายสัญญาณต่างๆ ขาตั้งลำโพง หรืออุปกรณ์ปรับแต่งเสียงอื่นๆ เช่น Processor

กลุ่มผู้ใช้เนี่ยก็หลากหลายมากๆ เลยนะ ตั้งแต่บ้านเรือนที่จัดงานสังสรรค์เล็กๆ ร้านอาหาร ผับ บาร์ที่จัดดนตรีสด ไปจนถึงบริษัทออร์แกไนเซอร์ที่จัดงานอีเวนต์ใหญ่ๆ หรือวงดนตรีอาชีพเลยจ้า แบรนด์ดังๆ ระดับโลกในวงการเครื่องเสียงกลางแจ้งก็มีเยอะแยะ อย่าง JBL, Electro-Voice (EV), Yamaha, Behringer พวกนี้เค้ามีประวัติมายาวนานและเป็นที่ยอมรับเรื่องคุณภาพเสียงและความทนทาน,


2. ราคาในตลาดไทยปี 2025 เป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้มากที่สุด! "ราคา" นั่นเอง บอกเลยว่าชุดเครื่องเสียงกลางแจ้งเนี่ย ราคาหลากหลายสุดๆ แล้วแต่ขนาด กำลังขับ และยี่ห้อเลยจ้า ถ้าให้แบ่งคร่าวๆ ตามงบประมาณและความต้องการใช้งาน ก็จะมีประมาณนี้:

  • ชุดเล็กๆ สำหรับงานพูด งานเปิดเพลงเบาๆ ในพื้นที่ไม่ใหญ่มาก: งบประมาณเริ่มต้นประมาณ 5,000 - 20,000 บาท (฿) ชุดพวกนี้มักจะเป็นลำโพง Active (มีแอมป์ในตัว) ขนาดไม่ใหญ่มาก อาจจะมาพร้อมมิกเซอร์เล็กๆ หรือมีช่องต่อไมค์ในตัว เหมาะกับงานในสวนเล็กๆ หรือหน้าร้าน,,
  • ชุดขนาดกลาง สำหรับงานปาร์ตี้เล็กๆ คาราโอเกะ หรืองานดนตรีสดเบาๆ: งบประมาณจะขยับขึ้นมาที่ประมาณ 20,000 - 50,000 บาท (฿) อันนี้จะได้ลำโพงที่มีขนาดใหญ่ขึ้น กำลังขับมากขึ้น อาจจะเป็นชุดลำโพง Passive พร้อมเพาเวอร์แอมป์ หรือลำโพง Active คุณภาพดีหน่อย พร้อมมิกเซอร์ที่มีช่องต่อเยอะขึ้น เหมาะกับงานเลี้ยงในหมู่เพื่อนฝูง หรืองานอีเวนต์ขนาดเล็ก,,
  • ชุดขนาดใหญ่ สำหรับงานอีเวนต์ งานคอนเสิร์ต หรืองานบุญที่คนเยอะๆ: งบประมาณจะสูงขึ้นไปอีกจ้า ตั้งแต่ 50,000 บาท (฿) ไปจนถึงหลักแสน หรือหลายแสนบาทเลยก็มี,, ชุดพวกนี้จะได้ลำโพงขนาดใหญ่ อาจจะมีตู้ Subwoofer เพิ่มเติม เพาเวอร์แอมป์กำลังสูง และมิกเซอร์แบบมืออาชีพ รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลายมากๆ สำหรับงานที่ต้องการคุณภาพเสียงที่ทรงพลังและครอบคลุมพื้นที่กว้างๆ

แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตในไทยที่สามารถหาซื้อได้ก็มีทั้ง Lazada และ Shopee เลยจ้า,, มีร้านค้าทั้งที่เป็นดีลเลอร์อย่างเป็นทางการ และร้านค้ารายย่อยทั่วไป นอกจากนี้ยังมีร้านเครื่องเสียงโดยเฉพาะ อย่าง SoundDD.shop,,, หรือ Audiocity,,, ที่มีสินค้าให้เลือกหลากหลายและมักจะมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ ส่วนร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ อย่าง Power Buy ก็อาจจะมีลำโพงหรือเครื่องเสียงบางรุ่นที่ใช้กลางแจ้งได้บ้าง แต่ถ้าเป็นชุดครบเซ็ตจริงๆ แหล่งออนไลน์หรือร้านเฉพาะทางจะมีตัวเลือกเยอะกว่าจ้า

สำหรับเรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างราคานานาชาติกับราคาไทย ส่วนใหญ่แล้วชุดเครื่องเสียงกลางแจ้งสำเร็จรูปที่นำเข้ามาขายในไทย ราคาจะมีการบวกค่าขนส่ง ภาษี และค่าการตลาดเข้าไป ทำให้ราคาสูงกว่าราคาที่ขายในต่างประเทศอยู่แล้วจ้า คงไม่ได้มีส่วนต่างที่เห็นชัดเจนแบบสินค้า IT บางประเภทนะ


3. แล้วเทียบกับสินค้าประเภทอื่นล่ะ คุ้มไหม?

ถ้าให้เทียบชุดเครื่องเสียงกลางแจ้งกับสินค้าประเภทอื่น เช่น ลำโพงบลูทูธพกพาตัวใหญ่ๆ หรือชุดเครื่องเสียงบ้าน ต้องบอกว่ามันคนละวัตถุประสงค์กันเลยจ้า ลำโพงบลูทูธพกพาสะดวกก็จริง,, แต่กำลังขับและความสามารถในการกระจายเสียงในที่โล่งแจ้งสู้ชุดเครื่องเสียงกลางแจ้งไม่ได้เลย ส่วนเครื่องเสียงบ้านเน้นคุณภาพเสียงที่ดีในห้องที่ควบคุมสภาพอะคูสติกได้, ไม่ได้ออกแบบมาให้ทนแดด ทนฝน หรือสู้กับเสียงรบกวนภายนอกได้ดีเท่าเครื่องเสียงกลางแจ้ง

ดังนั้น ถ้าความต้องการหลักคือการใช้งานในพื้นที่กลางแจ้ง ให้เสียงที่ดัง ชัดเจน และครอบคลุมพื้นที่กว้างๆ ชุดเครื่องเสียงกลางแจ้งคือคำตอบที่ คุ้มค่าที่สุด แล้วจ้า! อาจจะต้องลงทุนสูงกว่าลำโพงบลูทูธเยอะหน่อย แต่สิ่งที่ได้มาคือประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์การใช้งานกลางแจ้งโดยเฉพาะ เมื่อเทียบกับราคาแล้ว ถือว่าเป็นการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่ต้องการระบบเสียงคุณภาพสำหรับกิจกรรมนอกอาคารนะ


4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง? มีบริการอะไรให้บ้าง?

อันนี้ก็แล้วแต่ร้านแล้วแต่โปรโมชั่นเลยจ้า แต่ส่วนใหญ่แล้วชุดเครื่องเสียงกลางแจ้งครบชุดที่เราซื้อมามักจะประกอบด้วยอุปกรณ์หลักๆ ตามที่บอกไปในข้อ 1 นะ ส่วนเรื่องบริการและของแถมที่คนไทยให้ความสำคัญก็จะมี:

  • ค่าขนส่ง: ร้านค้าออนไลน์ใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee มักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนด หรือมีโค้ดส่วนลดค่าส่งให้ใช้, แต่ถ้าเป็นชุดใหญ่มากๆ อาจจะต้องสอบถามเรื่องค่าขนส่งกับร้านโดยตรงนะ เพราะบางทีตู้ลำโพงมันหนักและใหญ่มากจ้า
  • ระยะเวลารับประกัน: อันนี้สำคัญมากๆ! คนไทยเราค่อนข้างกังวลเรื่องซ่อมถ้าของมีปัญหา สินค้าแบรนด์ดังๆ หรือจากร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการมักจะมีการรับประกันสินค้าให้นานพอสมควร ตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปี หรือบางชิ้นอาจจะนานกว่านั้น,, ควรสอบถามรายละเอียดการรับประกันให้ชัดเจนว่าครอบคลุมอะไรบ้าง และเงื่อนไขเป็นอย่างไร
  • ของแถมและโปรโมชั่น: บางร้านอาจจะมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ มาให้ เช่น สายสัญญาณเพิ่ม ไมค์โครโฟนราคาไม่สูง หรือคูปองส่วนลดสำหรับการซื้อครั้งต่อไป,, ช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ ของแถมก็จะจัดเต็มกว่าปกติจ้า

บางร้านที่เป็นร้านเฉพาะทาง อาจจะมีบริการเสริมอื่นๆ เช่น บริการให้คำปรึกษาในการจัดวางระบบเสียง หรือ บริการติดตั้ง ด้วยนะ,, อันนี้เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ไม่ถนัดเรื่องเทคนิค จะได้มั่นใจว่าติดตั้งถูกต้องและได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด


5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษไหม? โปรโมชั่นเยอะแค่ไหน?

แน่นอนว่าถ้าอยากได้ราคาดีๆ ต้องเล็งช่วง โปรโมชั่น เลยจ้า! แพลตฟอร์มออนไลน์ยอดฮิตอย่าง Lazada และ Shopee เค้าจัดโปรหนักจัดเต็มตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วง Double Digit Sale เช่น 6.6, 7.7, 8.8, 9.9, 10.10, 11.11, และที่พลาดไม่ได้คือ 12.12 ซึ่งเป็นช่วงที่ลดราคาเยอะที่สุดช่วงหนึ่งเลย,

นอกจากนี้ ช่วง เทศกาลสำคัญของไทย ก็เป็นโอกาสทองเหมือนกันนะ เช่น ช่วง ปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือช่วง ปลายปี/ปีใหม่สากล หลายร้านค้าก็จะจัดโปรโมชั่นลดราคาชุดเครื่องเสียงเพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข,, หรือช่วง Mid Year Sale กลางปี

ร้านค้าระดับ Flagship หรือ Official Store บน Lazada/Shopee มักจะมีส่วนลดหรือโปรโมชั่นพิเศษบ่อยๆ อยู่แล้ว ยิ่งช่วงแคมเปญใหญ่ๆ ส่วนลดก็จะยิ่งเยอะขึ้นไปอีกจ้า, ดังนั้น ถ้าไม่ได้รีบใช้มากๆ การ รอซื้อช่วงโปรโมชั่น เนี่ย ช่วยประหยัดงบไปได้เยอะเลยนะ! แนะนำให้กดติดตามร้านค้าที่สนใจไว้ จะได้ไม่พลาดข่าวสารโปรโมชั่นจ้า


6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ? รีวิวบอกว่าอะไร?

จากการส่องๆ ดูรีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย (ตามเว็บบอร์ดหรือโซเชียลมีเดีย) ส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปที่:

  • ความคุ้มค่าของราคา: หลายคนมองว่าถ้าเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ในราคาที่จ่ายไป ถือว่าคุ้มค่ามากๆ โดยเฉพาะชุดที่เหมาะกับงานเล็กๆ หรือใช้ในบ้าน
  • ความดังและชัดเจนของเสียง: อันนี้คือหัวใจของเครื่องเสียงกลางแจ้งเลย คนส่วนใหญ่พอใจกับความดังที่สามารถครอบคลุมพื้นที่กลางแจ้งได้ และเสียงที่ออกมามีความชัดเจน
  • ความทนทาน: เนื่องจากต้องใช้งานกลางแจ้ง บางทีก็เจอแดด เจอฝน (นิดหน่อย) คนไทยก็จะให้ความสำคัญกับความทนทานของอุปกรณ์มากๆ
  • ความง่ายในการติดตั้งและใช้งาน: โดยเฉพาะชุดเล็กๆ หรือชุด Portable PA ที่เน้นการเคลื่อนย้ายได้ง่าย ผู้ใช้ก็จะชอบที่สามารถต่อเอง ใช้งานเองได้ไม่ยุ่งยาก,

บางรีวิวก็จะมีการพูดถึงเรื่องเสียงเบสที่หนักแน่นสะใจ ซึ่งเป็นอีกจุดที่คนไทยหลายคนชอบสำหรับงานสังสรรค์หรืองานดนตรี สรุปคือ ถ้าชุดนั้นตอบโจทย์เรื่อง ความดัง ความชัดเจน ความคุ้มค่า และความทนทาน ก็มักจะได้รับฟีดแบ็กที่ดีจากผู้ใช้ในไทยจ้า


7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนที่น่าเชื่อถือ?

ช่องทางการซื้อชุดเครื่องเสียงกลางแจ้งครบชุดที่แนะนำก็มีหลากหลายตามความสะดวกเลยจ้า:

  • ช่องทางทางการ (ร้านตัวแทนจำหน่าย/เว็บไซต์แบรนด์): สำหรับแบรนด์ดังๆ มักจะมีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย ข้อดีคือมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ มีการรับประกันที่ชัดเจน และมักจะมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ, เว็บไซต์อย่าง SoundDD.shop หรือ Audiocity ก็เป็นแหล่งที่น่าเชื่อถือ,,
  • แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ในไทย (Lazada / Shopee): สะดวกสบายมากๆ มีร้านค้าให้เลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย และมักจะมีโปรโมชั่นหรือโค้ดส่วนลดต่างๆ,, ข้อควรระวังคือต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ มีคะแนนรีวิวดีๆ และอ่านรายละเอียดสินค้ากับเงื่อนไขการรับประกันให้รอบคอบก่อนซื้อนะ
  • ร้านค้าปลีก: ร้านเครื่องเสียงตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ อาจจะมีสินค้าให้เลือกไม่หลากหลายเท่าร้านเฉพาะทาง แต่อาจจะได้ลองฟังเสียงจริงก่อนตัดสินใจซื้อ และสามารถสอบถามข้อมูลจากพนักงานได้โดยตรง

ไม่ว่าจะเลือกช่องทางไหน อย่าลืมเช็คเรื่องการรับประกันและบริการหลังการขายให้ดีๆ นะจ๊ะ เพราะเป็นเรื่องสำคัญมากๆ สำหรับสินค้าประเภทนี้


8. สรุปแล้วจัดงบเท่าไหร่ดี? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปแล้ว! การจะจัดงบเท่าไหร่สำหรับชุดเครื่องเสียงกลางแจ้งครบชุดในปี 2025 เนี่ย ขึ้นอยู่กับ ขนาดของพื้นที่ใช้งาน และ ประเภทของงาน เป็นหลักเลยจ้า

  • ถ้าเน้นใช้งานเล็กๆ ในบ้าน หรือพื้นที่ไม่เกิน 50-100 ตร.ม. สำหรับงานพูด งานเปิดเพลงเบาๆ งบประมาณ หลักพันปลายๆ ถึงสองหมื่นบาท ก็เพียงพอแล้วจ้า ได้ชุดเล็กๆ คุณภาพดี ใช้งานง่าย
  • ถ้าสำหรับงานขนาดกลาง ปาร์ตี้ คาราโอเกะ หรืองานดนตรีสดเบาๆ ในพื้นที่ที่ใหญ่ขึ้นหน่อย (หลักร้อย ตร.ม.) งบประมาณ สองหมื่นปลายๆ ถึงห้าหมื่นบาท จะได้ชุดที่มีกำลังขับมากขึ้น คุณภาพเสียงดีขึ้น รองรับการเชื่อมต่อหลากหลายขึ้น
  • ถ้าสำหรับงานใหญ่ๆ ที่คนเยอะๆ หรือต้องการคุณภาพเสียงระดับมืออาชีพจริงๆ งบประมาณ ห้าหมื่นบาทขึ้นไป จนถึงหลักแสน เลยจ้า ถึงจะได้ชุดที่ตอบโจทย์ความต้องการระดับมืออาชีพ

ถามว่าคุ้มค่าที่จะซื้อไหม? ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้งานระบบเสียงในพื้นที่กลางแจ้งเป็นประจำ บอกเลยว่า คุ้มค่ามากๆ จ้า เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนในแง่ของความสุข ความบันเทิง และความสะดวกในการจัดกิจกรรมต่างๆ

ส่วนใครควรซื้อรุ่นสูงหรือต่ำ? ถ้าเป็นมือใหม่ เพิ่งเริ่มต้น หรือใช้งานไม่บ่อย เริ่มต้นจากชุดขนาดเล็กหรืองบประมาณไม่สูงมากก่อนก็ได้ ลองดูว่าตอบโจทย์ความต้องการไหม ถ้าใช้ไปสักพักแล้วรู้สึกว่ายังไม่พอ หรือต้องการคุณภาพที่ดีขึ้น ค่อยขยับขยายไปเล่นชุดที่ใหญ่ขึ้นหรือรุ่นสูงขึ้นก็ได้จ้า แต่ถ้าใช้งานเป็นอาชีพ หรือต้องจัดงานใหญ่ๆ เป็นประจำ ลงทุนกับชุดที่มีคุณภาพสูงไปเลยจะดีกว่าในระยะยาว เพราะอุปกรณ์จะทนทานกว่า ให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า และรองรับการใช้งานที่หลากหลายกว่าจ้า

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ให้ทุกคนตัดสินใจเลือกซื้อชุดเครื่องเสียงกลางแจ้งที่เหมาะกับตัวเองและงบประมาณที่มีนะจ๊ะ ขอให้สนุกกับการจัดงานและฟังเพลงแบบเสียงดังฟังชัดกันถ้วนหน้าจ้า! บ๊ายบาย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องที่ใกล้ตัวผู้ใหญ่ที่บ้าน หรือบางทีก็ใกล้ตัวเราเองนี่แหละ นั่นก็คือเรื่อง อาหารเสริมสำหรับผู้สูงอายุ จ้า โดยเฉพาะตัวที่ชื่อว่า B.Senior ที่หลายคนอาจจะเคยเห็นผ่านตา หรือกำลังเล็งๆ อยู่ว่าจะซื้อดีไ
B.Senior อาหารเสริม ราคาล่าสุดปี 2025: เหมาะกับผู้สูงอายุ?

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีค่าชาวช้อปปิ้งออนไลน์ที่น่ารักทุกคน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด นั่นก็คือ ไส้กรองน้ำ Lux Alva ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้น้ำดื่มของเราสะอาดใสปิ๊ง! ใครที่กำลังใช้เครื่องกรองน้ำ Lux Alva อยู่ หรือกำลังเล็งๆ จะเปลี่ยนไส้กรองใหม
ไส้กรองน้ำ Lux Alva ราคาล่าสุด เปลี่ยนเมื่อไหร่ดี?
สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้ขอเอาใจสายโปรดิวเซอร์ สายทำเพลง หรือใครที่ฝันอยากมีสตูดิโอเล็กๆ เป็นของตัวเองที่บ้าน ด้วยการมาเม้าท์มอยถึงอุปกรณ์สุดปังที่ชื่อว่า Ableton Push 2 กันจ้า บอกเลยว่าเจ้านี่ไม่ใช่แค่คอนโทรลเลอร์ธรรมดา แต่มันคือเครื่องมือท
Ableton Push 2: ราคาล่าสุด ปี 2568 และรีวิวคอนโทรลเลอร์สำหรับทำเพลง
สวัสดีค่าาทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องเครื่องดนตรีจิ๋วแต่แจ๋วที่กำลังฮิตสุดๆ นั่นก็คือ คาลิมบา (Kalimba) นั่นเอง! ใครที่อยากลองเล่นดนตรีแต่ไม่รู้จะเริ่มจากอะไรดี หรืออยากได้เครื่องดนตรีพกพาง่ายๆ ไว้ดีดเพลินๆ แก้เบื่อ มามุงทางนี้เลย
คาลิมบา (Kalimba) ราคาถูก เริ่มต้นกี่บาท? ยี่ห้อไหนดีสำหรับมือใหม่

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ