หลังคากันฝน: ราคาวัสดุ ปี 2568 เลือกแบบไหนดี? ติดตั้งเองได้ไหม?
สวัสดีจ้าาา พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่กำลังมองหาตัวช่วยสู้แดดสู้ฝนให้กับบ้านอันเป็นที่รัก! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่อง "หลังคากันฝน" หรือ "กันสาด" นี่แหละจ้า ที่เป็นเหมือนฮีโร่ผู้พิทักษ์พื้นที่นอกบ้านของเรา ไม่ว่าจะเป็นระเบียงหน้าบ้าน หลังบ้าน ลานซักล้าง หรือแม้แต่โรงจอดรถ! ปี 2568 นี้ จะเลือกแบบไหนดี วัสดุอะไรมาแรง ราคาเท่าไหร่ แล้วถ้ามือไม้มันอยาก DIY ขึ้นมา จะพอทำเองได้ไหม? มาค่ะ! มาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันแบบคนกันเอง สไตล์บ้านๆ ที่เข้าใจง่าย แถมอาจจะมีมุกให้พออมยิ้มได้บ้างเล็กน้อย ไปลุยกันเล้ยยย!
1. หลังคากันฝนคืออะไร? ทำไมต้องมี?
เอาล่ะ! ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าเจ้าหลังคากันฝนเนี่ย มันคืออะไรกันแน่? ก็ตามชื่อเลยจ้า มันคือส่วนที่ยื่นออกมาจากตัวบ้านเพื่อป้องกันแดดและฝนในบริเวณนั้นๆ ประโยชน์หลักๆ เลยก็คือ:
- กันฝนสาด: อันนี้ชัดเจนสุดๆ หน้าฝนเมืองไทยโหดแค่ไหน ใครๆ ก็รู้ กันสาดช่วยไม่ให้ฝนสาดเข้ามาในบ้าน หรือบริเวณที่เราอยากให้แห้ง
- กันแดด กันร้อน: แดดเมืองไทยก็ใช่ย่อย! กันสาดช่วยบังแดด ทำให้พื้นที่ใต้กันสาดเย็นขึ้น แถมยังช่วยลดความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้านได้ด้วยนะ
- เพิ่มพื้นที่ใช้สอย: พื้นที่ที่เคยเปียกแดดเปียกฝนจนใช้การไม่ได้ พอมีกันสาดก็กลายเป็นมุมนั่งเล่น มุมตากผ้า (ถ้าฝนไม่หนักมากนะ!) หรือโรงจอดรถสบายๆ
- เพิ่มความสวยงาม: เดี๋ยวนี้กันสาดมีดีไซน์สวยๆ เพียบ เลือกให้เข้ากับสไตล์บ้าน ก็เหมือนได้ตกแต่งบ้านไปในตัว
กลุ่มผู้ใช้ก็แน่นอนว่าคือ เจ้าของบ้าน ทั่วไปนี่แหละจ้า ใครมีพื้นที่นอกบ้านที่อยากใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ หรืออยากปกป้องบ้านจากแดดฝน ก็ต้องพึ่งพากันสาดนี่แหละ ส่วนเรื่องแบรนด์นี่ไม่ต้องไปสนใจประวัติอะไรมาก เพราะวัสดุพวกนี้มันมีหลายยี่ห้อ หลายโรงงานผลิต คุณภาพแตกต่างกันไปจ้า เน้นที่คุณภาพของวัสดุและฝีมือการติดตั้งเป็นหลักดีกว่านะ!
2. ราคาวัสดุปี 2568 เป็นยังไงบ้างนะ?
มาถึงเรื่องที่ทำให้กระเป๋าสตางค์สั่นระรัว นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! ราคาวัสดุทำหลังคากันฝนในปี 2568 นี้ ก็คงจะไม่ได้หนีจากปี 2567 ไปมากนักนะ อาจจะมีปรับขึ้นลงตามกลไกตลาดนิดหน่อย วัสดุยอดฮิตที่นิยมใช้กันก็มีหลายแบบ หลายช่วงราคา ดังนี้เลยจ้า
- เมทัลชีท: ตัวนี้ยืนหนึ่งเรื่องความนิยม เพราะ ราคาเป็นมิตรสุดๆ หาซื้อง่าย ติดตั้งง่าย ราคาเฉพาะแผ่นเริ่มต้นที่ประมาณ 100 - 350 บาทต่อตารางเมตร (฿/ตร.ม.) ขึ้นอยู่กับความหนาและการเคลือบต่างๆ ถ้าแบบมีฉนวนกันร้อน PU Foam ราคาก็จะขยับขึ้นมาหน่อย
- โพลีคาร์บอเนต: ตัวนี้จะมีความโปร่งแสง มีสีให้เลือกเยอะ ดัดโค้งได้ดี ราคาเฉพาะแผ่นแบบลูกฟูกอยู่ที่ประมาณ 900 - 1,900 บาทต่อตารางเมตร (฿/ตร.ม.) ส่วนแบบแผ่นตันก็จะราคาสูงขึ้นไปอีก
- ไฟเบอร์กลาส: เป็นวัสดุโปร่งแสงอีกตัวที่ทนทาน แสงผ่านได้ดี ราคาเฉพาะแผ่นเริ่มต้นที่ประมาณ 280 - 400 บาทต่อเมตร (฿/ม.) หรือถ้าคิดเป็นตารางเมตรก็จะสูงกว่าเมทัลชีทและโพลีคาร์บอเนตพอสมควร
- ไวนิล (UPVC): ตัวนี้เด่นเรื่อง กันความร้อน กันเสียงได้ดี และแข็งแรงทนทาน แต่ราคาก็จะสูงกว่าเพื่อนๆ เลยจ้า ราคาเฉพาะแผ่นอยู่ที่ประมาณ 400 - 900 บาทต่อตารางเมตร (฿/ตร.ม.) หรือคิดเป็นเส้นประมาณ 800 - 1,300 บาทต่อเส้น ขึ้นอยู่กับรุ่นและความหนา
ราคาที่ยกมานี่คือราคาเฉพาะ "วัสดุแผ่นหลังคา" เท่านั้นนะจ๊ะ ยังไม่รวมค่าโครงสร้าง (เหล็กหรือสแตนเลส) ค่าแรงติดตั้ง และอุปกรณ์อื่นๆ จ้า ลองไปส่องราคาตามร้านวัสดุก่อสร้างใหญ่ๆ เช่น ไทวัสดุ, HomePro, Global House หรือร้านค้าออนไลน์ต่างๆ เช่น Lazada, Shopee ก็พอจะเห็นภาพราคาได้นะ
3. เปรียบเทียบราคากับตัวอื่น แล้วความคุ้มค่าอยู่ตรงไหน?
ถ้าให้เปรียบเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์เฉพาะ "ราคาวัสดุแผ่น" เนี่ย เมทัลชีทคือผู้ชนะเลิศ ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายที่สุด แต่ถ้ามองเรื่องความคุ้มค่าโดยรวม ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นด้วยจ้า
- เมทัลชีท: ราคาถูกจริง ติดตั้งง่าย แต่ เสียงดังมากเวลาฝนตก และอมความร้อนได้ดี (ถ้าไม่ติดฉนวน) เหมาะกับงานที่ไม่เน้นความสวยงามมาก หรือต้องการประหยัดงบสุดๆ เช่น หลังคาโรงงาน โกดัง หรือถ้าติดฉนวนกันร้อนกันเสียงเพิ่มก็จะดีขึ้น แต่ราคาก็ขยับขึ้นไปอีก
- โพลีคาร์บอเนต/ไฟเบอร์กลาส: โปร่งแสง สวยงาม ทำให้พื้นที่ใต้กันสาดไม่มืดทึบ โพลีคาร์บอเนตดัดโค้งได้ดี ไฟเบอร์กลาสทนทานกว่าโพลีคาร์บอเนตในระยะยาวเรื่องความกรอบแตก ราคาสูงกว่าเมทัลชีท เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่าง เช่น ระเบียง หรือหน้าบ้านที่ต้องการความสวยงาม
- ไวนิล (UPVC): ราคาแพงกว่าเพื่อน แต่ กันความร้อน กันเสียงได้ดีเยี่ยม แข็งแรง ทนทาน ไม่เป็นสนิม เหมาะกับบ้านที่ต้องการความสบายตัวใต้กันสาด ไม่หนวกหูเสียงฝน และยอมจ่ายเพิ่มเพื่อคุณภาพที่ดีกว่า
สรุปคือ ถ้า งบน้อย เน้นใช้งานได้เร็ว เมทัลชีทตอบโจทย์ ถ้า อยากได้แสงสว่าง ไม่ทึบ มองหาโพลีคาร์บอเนตหรือไฟเบอร์กลาส แต่ถ้า เน้นความสบาย ไม่ร้อน ไม่เสียงดัง ทนทานนานๆ ไวนิลคือตัวเลือกที่ดีกว่า แม้ราคาจะสูงหน่อยก็ตาม
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง? มีประกันไหม?
อันนี้ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับว่าเราซื้อที่ไหนและซื้อแบบไหนนะจ๊ะ
- ซื้อเฉพาะวัสดุแผ่น: อันนี้ก็จะได้แค่แผ่นหลังคานั่นแหละจ้า อุปกรณ์ติดตั้งอื่นๆ เช่น สกรู แปรง ยาแนว ต้องซื้อแยกเอง
- ซื้อแบบชุด DIY สำเร็จรูป: บางทีจะมีขายเป็นชุดเล็กๆ พร้อมโครงและอุปกรณ์ติดตั้งมาให้ครบในชุดเดียว อันนี้ก็จะได้ทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการติดตั้งในขนาดพื้นที่ที่กำหนด
- ซื้อแบบรวมติดตั้ง: ถ้าจ้างช่างหรือบริษัทมาทำให้ ส่วนใหญ่ราคาก็จะรวมค่าของ ค่าแรง และอุปกรณ์ทั้งหมดไว้แล้ว
เรื่อง การรับประกัน อันนี้สำคัญมากๆ สำหรับคนไทยที่ชอบความสบายใจ! วัสดุแผ่นหลังคาส่วนใหญ่จะมีการรับประกันจากผู้ผลิตนะจ๊ะ เช่น รับประกันเรื่องสีซีดจาง การผุกร่อน หรือการทนต่อรังสี UV ระยะเวลารับประกันก็แตกต่างกันไป ตั้งแต่ 5 ปี 10 ปี หรือบางทีถึง 15 ปีเลยก็มี ควรสอบถามและเก็บใบรับประกันไว้ให้ดีนะจ๊ะ ส่วนการรับประกันงานติดตั้ง ถ้าจ้างช่างหรือบริษัท ควรตกลงเงื่อนไขการรับประกันงานติดตั้งให้ชัดเจน เช่น รับประกันการรั่วซึมกี่ปี
ส่วนเรื่อง ของแถม คูปอง หรือโปรโมชั่น อันนี้แล้วแต่ร้านเลยจ้า บางทีซื้อเยอะๆ อาจจะมีส่วนลด หรือแถมอุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ ให้ ต้องลองสอบถามดูนะ
สำหรับ ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่ก็จะมีค่าส่งนะจ๊ะ บางร้านอาจจะมีโปรโมชั่นส่งฟรีเมื่อซื้อครบยอดที่กำหนด หรือส่งฟรีเฉพาะพื้นที่ใกล้เคียง แต่ถ้าซื้อที่ร้านใหญ่ๆ บางทีก็มีบริการรถส่งถึงบ้านนะ ลองเช็คกับร้านดู
5. ช่วงไหนน่าสอยที่สุด? มีโปรโมชั่นเด็ดไหม?
ถ้าถามว่าช่วงไหนน่าซื้อหลังคากันฝนที่สุดในไทย แน่นอนว่าต้องเป็นช่วงที่มี โปรโมชั่น จัดหนักจัดเต็มไงล่ะ!
- ช่วงเทศกาลใหญ่ๆ: อย่าง สงกรานต์ ปีใหม่ หรือช่วง ปลายปี มักจะเป็นช่วงที่ร้านค้าต่างๆ จัดโปรโมชั่นลดราคา หรือมีของแถมพิเศษ
- ช่วง Double Digit Sale: 11.11, 12.12 บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดฮิตอย่าง Lazada และ Shopee ก็เป็นอีกช่วงที่น่าจับตา! ร้านค้าต่างๆ มักจะมีโค้ดส่วนลด หรือ Flash Sale ลดราคาแรงๆ
- งานแสดงสินค้าเกี่ยวกับบ้านและวัสดุก่อสร้าง: งานเหล่านี้มักจะมีโปรโมชั่นพิเศษจากแบรนด์ต่างๆ โดยตรง ไปเดินดู ไปเทียบราคา ไปคุยกับผู้ขายโดยตรงได้เลย
- โปรโมชั่นของร้านวัสดุก่อสร้างใหญ่ๆ: เช่น ไทวัสดุ และ HomePro มักจะมีโปรโมชั่นหมุนเวียนตลอดปี ลองติดตามข่าวสารจากเว็บไซต์หรือเพจของร้านดูนะ บางทีมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสินค้าบางประเภท หรือเมื่อซื้อครบยอดที่กำหนด
ร้านค้าระดับแฟลกชิพบน Lazada/Shopee ก็มีส่วนลดบ่อยนะ แต่ต้องเปรียบเทียบราคากับร้านอื่นๆ ด้วยนะจ๊ะ เพราะบางทีร้านเล็กๆ ก็อาจจะให้ราคาที่ดีกว่าในบางรุ่น
สรุปคือ ถ้าไม่รีบมากๆ การ รอช่วงโปรโมชั่น เนี่ย มีโอกาสได้ของดีราคาดีกว่าเดิมเยอะเลยจ้า!
6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไง? รีวิวจากผู้ใช้จริง!
จากการไปส่องๆ ดูรีวิวตามเว็บบอร์ด หรือคอมเมนต์ในโซเชียลเนี่ย คนไทยที่ใช้หลังคากันฝนก็มีฟีดแบ็กหลากหลายนะจ๊ะ
- เมทัลชีท: ส่วนใหญ่จะบอกว่า ราคาถูกจริง ติดตั้งง่าย แต่เรื่องเสียงดังเวลาฝนตกนี่เป็นปัญหาคลาสสิกเลย บางคนก็แก้ด้วยการติดฉนวนเพิ่ม ซึ่งก็ช่วยได้เยอะ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
- โพลีคาร์บอเนต/ไฟเบอร์กลาส: คนที่ใช้มักจะชอบเรื่อง ความโปร่งแสง ทำให้พื้นที่ใต้กันสาดดูโปร่ง ไม่มืด ติดตั้งแล้วสวยงาม แต่ก็มีบางส่วนที่เจอปัญหาเรื่องความทนทานในระยะยาว โดยเฉพาะโพลีคาร์บอเนตที่อาจจะกรอบแตกง่ายเมื่อเจอแดดจัดๆ นานๆ ไฟเบอร์กลาสจะทนกว่าในจุดนี้
- ไวนิล (UPVC): ผู้ใช้มักจะชมเรื่อง ความเงียบ เวลาฝนตก และ กันความร้อนได้ดีจริง ทำให้ใต้กันสาดเย็นสบายกว่าวัสดุอื่น แม้ราคาจะสูงหน่อย แต่หลายคนก็บอกว่าคุ้มค่ากับความสบายที่ได้
นอกจากเรื่องวัสดุแล้ว เรื่องการติดตั้งก็มีคนพูดถึงนะจ๊ะ บางคนลอง ติดตั้งเองแบบ DIY ก็บอกว่าไม่ได้ยากเกินไป ถ้ามีพื้นฐานช่างบ้างและอุปกรณ์พร้อม แต่บางคนก็เลือกจ้างช่างมืออาชีพเพื่อความเป๊ะและความสบายใจ ปัญหาที่เจอส่วนใหญ่ถ้าติดตั้งไม่ดีก็คือเรื่อง การรั่วซึม บริเวณรอยต่อหรือจุดยึด
7. จะไปสอยได้ที่ไหนดี?
ช่องทางการซื้อหลังคากันฝนในไทยนี่มีให้เลือกเพียบเลยจ้า ขึ้นอยู่กับความสะดวกและงบประมาณเลย:
- ร้านวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่: เช่น ไทวัสดุ, HomePro, Global House เป็นแหล่งรวมวัสดุหลากหลายแบบ หลายยี่ห้อ มีพนักงานให้คำแนะนำ สามารถไป ดูของจริง เปรียบเทียบกันได้เลย มักจะมีโปรโมชั่นและบริการจัดส่ง
- ร้านวัสดุก่อสร้างท้องถิ่น: ร้านเล็กๆ ตามพื้นที่ต่างๆ ก็มีขายนะ ราคาอาจจะย่อมเยากว่าร้านใหญ่ แต่ตัวเลือกอาจจะไม่เยอะเท่า
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ: Lazada, Shopee ก็มีร้านที่ขายวัสดุหลังคากันฝน หรือชุด DIY สำเร็จรูปเยอะแยะ สะดวกสบาย สั่งง่าย ส่งถึงบ้าน มีโค้ดส่วนลดให้ใช้บ่อยๆ แต่ข้อเสียคือไม่ได้เห็นของจริง ต้องดูจากรูปและรายละเอียดที่ผู้ขายให้มา และต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือนะจ๊ะ
- ช่องทางออนไลน์อื่นๆ: บางแบรนด์อาจจะมีเว็บไซต์ของตัวเอง หรือขายผ่านโซเชียลมีเดีย ก็เป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจ
ถ้าอยากได้คำแนะนำ หรืออยากดูของจริง แนะนำให้ไปร้านวัสดุก่อสร้างใหญ่ๆ หรือร้านเฉพาะทาง แต่ถ้าพอมีความรู้เรื่องวัสดุอยู่แล้ว หรือต้องการแค่ชุด DIY เล็กๆ สั่งออนไลน์ก็สะดวกดีนะ
8. สรุปแล้ว... น่าซื้อไหม? เลือกแบบไหนดี?
มาถึงบทสรุปกันแล้วจ้า! ถามว่าหลังคากันฝนน่าซื้อไหม? ตอบเลยว่า น่าซื้อมากๆ จ้า โดยเฉพาะบ้านในเมืองไทยที่เจอทั้งแดดทั้งฝน การมีกันสาดช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและปกป้องบ้านได้เยอะเลย
ส่วนจะเลือกแบบไหนดี? อันนี้ขึ้นอยู่กับ งบประมาณ ความต้องการ และสไตล์ของบ้าน เลยจ้า:
- ถ้า งบจำกัดสุดๆ และไม่ติดเรื่องเสียงดัง เมทัลชีทคือเพื่อนแท้
- ถ้า อยากได้แสงสว่าง ทำให้พื้นที่ใต้กันสาดไม่มืดทึบ เลือกลูกค้าโปร่งแสงอย่างโพลีคาร์บอเนตหรือไฟเบอร์กลาส โพลีคาร์บอเนตเหมาะกับงานดัดโค้ง ไฟเบอร์กลาสจะทนทานกว่า
- ถ้า เน้นความสบายตัว ไม่ร้อน ไม่เสียงดัง ยอมจ่ายแพงหน่อยเพื่อคุณภาพที่ดี ไวนิลคือคำตอบ
เรื่อง ติดตั้งเองได้ไหม? ถ้าเป็นชุด DIY ขนาดเล็กๆ และพอมีทักษะช่างอยู่บ้าง ก็พอทำได้นะจ๊ะ แต่ถ้าเป็นงานขนาดใหญ่ หรือต้องการความแข็งแรง เป๊ะปัง แนะนำให้จ้างช่างมืออาชีพดีกว่า เพื่อความปลอดภัยและป้องกันปัญหาการรั่วซึมในภายหลัง
สุดท้ายนี้ การเลือกหลังคากันฝนก็เหมือนเลือกคู่ชีวิตนะจ๊ะ ต้องเลือกที่ใช่ เข้ากับเรา และอยู่กับเราไปได้นานๆ หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะทุกคน ขอให้ได้หลังคากันฝนที่ถูกใจ ปกป้องบ้านจากแดดฝนได้อย่างแข็งแกร่ง! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม
แนะนำสำหรับคุณ
ไส้กรองน้ำ Lux Alva ราคาล่าสุด เปลี่ยนเมื่อไหร่ดี?
Ableton Push 2: ราคาล่าสุด ปี 2568 และรีวิวคอนโทรลเลอร์สำหรับทำเพลง
คาลิมบา (Kalimba) ราคาถูก เริ่มต้นกี่บาท? ยี่ห้อไหนดีสำหรับมือใหม่
รวมราคา Samsung Galaxy J Prime ทุกรุ่นฮิต (J2, J5, J7 Prime)
กระเป๋า Porter จากญี่ปุ่น: ราคาล่าสุด ปี 2568 รุ่นไหนยอดนิยม ซื้อที่ไหนดี?
หมวกเบสบอล LA Dodgers ราคาล่าสุด: ซื้อของแท้ได้ที่ไหน?
บทความยอดนิยม
บทความที่แนะนำ