Mercedes-Benz GLA 250 AMG ปี 2018: ราคา มือสอง ปี 2568 และจุดเด่น


สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้ฤกษ์งามยามดี เราจะมาพูดถึงรถยุโรปสุดฮิตติดลมบน ที่หลายคนหมายปอง นั่นก็คือ Mercedes-Benz GLA 250 AMG ปี 2018 นั่นเอง! ใครที่กำลังเล็งๆ อยากเป็นเจ้าของรถเบนซ์สักคัน แต่ยังอยากได้ความคล่องตัว ขับง่ายในเมือง แถมยังได้ชุดแต่ง AMG มาแบบหล่อๆ แต่ว่างบประมาณอาจจะไม่ได้พุ่งไปรถใหม่ป้ายแดง วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องราคามือสองในปี 2568 และจุดเด่นของน้องคนนี้ให้ฟังกันแบบหมดเปลือก เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลยจ้า!
1. เจ้าน้อง Benz GLA 250 AMG ปี 2018 มันคืออะไรกันนะ?
เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับเจ้าน้องเล็กตระกูลเบนซ์คันนี้กันก่อนเลย Mercedes-Benz GLA 250 AMG ปี 2018 เนี่ย มันคือรถยนต์อเนกประสงค์แนว Compact SUV หรือ Crossover SUV ขนาดกะทัดรัด ที่ผลิตโดย Mercedes-Benz แบรนด์รถยนต์หรูระดับโลกจากประเทศเยอรมนี ที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยคุณปู่คุณย่าก็ว่าได้ (แอบเว่อร์ไปนิดนะ แต่คือเก่าแก่จริง!) แบรนด์นี้เค้าขึ้นชื่อเรื่องความหรูหรา พรีเมี่ยม คุณภาพดี และนวัตกรรมล้ำๆ มาตลอด
สำหรับ GLA เค้าเป็นเหมือนน้องเล็กสุดในบรรดารถ SUV ของเบนซ์ ทำให้มีราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงง่ายกว่าพี่ๆ เค้าหน่อยนึง ส่วนรุ่น 250 AMG Dynamic ปี 2018 ที่เรากำลังพูดถึงนี้ ก็คือรุ่นที่จัดเต็มความสปอร์ตด้วยชุดแต่ง AMG รอบคัน ทำให้ดูหล่อเหลาเอาการกว่ารุ่นปกติ ขับไปไหนคนก็เหลียวหลัง! ขุมพลังก็ไม่ใช่เล่นๆ นะ เค้ามาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ที่ให้กำลัง 208 แรงม้า ขับสนุก เหยียบเป็นมา จะขับในเมืองคล่องๆ หรือออกต่างจังหวัดก็ไม่อืด เหมาะมากๆ สำหรับคนที่อยากได้รถเบนซ์ที่ขับง่าย ไม่ใหญ่เทอะทะเกินไป เน้นใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือมีครอบครัวเล็กๆ ที่ยังไม่ต้องการพื้นที่ใหญ่มาก และที่สำคัญคือ อยากได้ความหล่อแบบ AMG ในราคาที่จับต้องได้มากขึ้นจ้า!
2. ราคาในตลาดมือสองปี 2568 เป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องที่ทุกคนรอคอยแบบใจจดใจจ่อ นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! อย่างที่บอกไปว่าเรากำลังพูดถึงรถมือสองปี 2018 นะ ราคาจะไม่เหมือนรถใหม่ป้ายแดงแน่นอน สำหรับ Mercedes-Benz GLA 250 AMG ปี 2018 มือสอง ในปี 2568 เนี่ย ราคาจะมีความหลากหลายมากๆ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยสุดๆ ไม่ว่าจะเป็น สภาพรถ เลขไมล์ ประวัติการเข้าศูนย์ สีรถ อุปกรณ์ที่ติดมา หรือแม้กระทั่งว่าซื้อจากเต็นท์รถหรือซื้อจากเจ้าของโดยตรง
จากการสำรวจคร่าวๆ ในตลาดรถมือสองออนไลน์ชั้นนำในไทยอย่าง One2Car หรือ Taladrod.com เนี่ย ราคาของ GLA 250 AMG ปี 2018 ในช่วงปี 2568 (ณ เดือนกรกฎาคม 2568) จะอยู่ในช่วงประมาณ 780,000 บาท (฿) ไปจนถึง 1,000,000 บาท (฿) ต้นๆ เลยทีเดียว บางคันเลขไมล์น้อย สภาพดีมากๆ อาจจะราคาสูงกว่านี้หน่อย หรือถ้าเจอคันที่ต้องเก็บงานบ้าง ราคาก็อาจจะลดหลั่นลงไปอีกนะ ก็ต้องแล้วแต่สภาพจริงๆ จ้า แหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ทั่วไปอย่าง Lazada หรือ Shopee จะไม่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายรถยนต์มือสองนะ ต้องไปดูตามเว็บไซต์หรือเต็นท์รถโดยเฉพาะเลย
เทียบกับตอนเป็นรถใหม่ป้ายแดงที่ราคาเคยเหยียบ 2 ล้านบาทกลางๆ (สำหรับรุ่น GLA 250 AMG Dynamic) ถือว่าราคาตกลงมาเยอะมากๆ เลยนะ ทำให้คนที่อยากได้เบนซ์ในงบหลักแสนถึงล้านต้นๆ มีโอกาสเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นเยอะเลยจ้า
3. แล้วถ้าเทียบกับรถอื่นๆ ในตลาดล่ะ ราคาโอเคมั้ย?
ถ้าเอา Mercedes-Benz GLA 250 AMG ปี 2018 มือสอง ไปเทียบกับรถยนต์ประเภทเดียวกันในตลาดมือสองที่เป็นคู่แข่งโดยตรง เช่น BMW X1 หรือ Audi Q3 ในปีใกล้เคียงกันเนี่ย ราคาก็จะอยู่ในช่วงใกล้เคียงกันนะ ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและสภาพรถเหมือนกัน แต่สิ่งที่ทำให้ GLA 250 AMG ดูน่าสนใจในราคานี้ก็คือ การได้ชุดแต่ง AMG มาจากโรงงานเลย ทำให้รถดูสปอร์ตและมีเสน่ห์มากกว่าบางรุ่นของคู่แข่งที่อาจจะเป็นรุ่นเริ่มต้น ไม่มีชุดแต่งสปอร์ตจัดเต็มเท่า
บางคนอาจจะเอาไปเทียบกับรถ SUV ญี่ปุ่นตัวท็อปๆ ที่ราคาป้ายแดงอาจจะแตะ 1.5 - 1.7 ล้านบาท การซื้อ GLA 250 AMG ปี 2018 มือสองในราคาไม่ถึงล้าน หรือล้านต้นๆ ก็เหมือนได้ "เพิ่มอีกนิด" แต่ได้รถยุโรปแบรนด์พรีเมี่ยม ได้ตราดาวสามแฉกมาประดับบารมี แถมยังเป็นรุ่น AMG อีกด้วยนะ ซึ่งตรงนี้มันคือเรื่องของความชอบและคุณค่าทางใจล้วนๆ เลยจ้า!
4. ซื้อแล้วจะได้อะไรมาบ้างนะ? (เวอร์ชั่นรถมือสอง)
อันนี้แหละคือจุดที่ต้องเน้นย้ำมากๆ เวลาซื้อรถมือสอง ไม่เหมือนซื้อรถใหม่ที่จะมีของแถม มีประกันศูนย์แน่นอน สิ่งที่ได้มากับ Mercedes-Benz GLA 250 AMG ปี 2018 มือสอง เนี่ย อาจจะไม่เหมือนกันในแต่ละคันเลยนะ สิ่งสำคัญที่ต้องเช็คก่อนตัดสินใจซื้อมีดังนี้จ้า:
- ตัวรถและสภาพภายนอก/ภายใน: มีรอยขีดข่วนบุบสลายมากน้อยแค่ไหน ภายในสะอาดเรียบร้อยมั้ย เบาะช้ำหรือเปล่า ฟังก์ชันต่างๆ ในรถยังใช้งานได้ดีมั้ย (เช่น ระบบไฟฟ้า, แอร์, ระบบ Infotainment ที่รองรับ Apple CarPlay/Android Auto ในรุ่นปีนี้)
- เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง: สภาพเครื่องยนต์เป็นยังไง มีเสียงผิดปกติมั้ย เกียร์เปลี่ยนราบรื่นหรือเปล่า อันนี้สำคัญสุดๆ ควรพาช่างผู้เชี่ยวชาญไปช่วยดูด้วยจะดีมาก
- ช่วงล่างและระบบเบรค: ลองขับดูว่าช่วงล่างแน่นอยู่มั้ย มีเสียงดังผิดปกติเวลาขับผ่านพื้นผิวขรุขระมั้ย ระบบเบรคยังหนึบอยู่หรือเปล่า
- เลขไมล์: เลขไมล์บอกอะไรเราได้เยอะเกี่ยวกับสภาพการใช้งาน พยายามเลือกคันที่เลขไมล์สมเหตุสมผลกับปีรถ
- ประวัติการเข้าศูนย์บริการ: มีสมุดคู่มือและประวัติการเข้าเช็คระยะที่ศูนย์เบนซ์ตลอดมั้ย? อันนี้สำคัญมาก! แสดงว่ารถผ่านการดูแลมาอย่างดี ช่วยให้สบายใจขึ้นเยอะเลย
- กุญแจ: ได้กุญแจมาครบ 2 ดอกมั้ย?
- คู่มือรถ: มีคู่มือประจำรถมาให้ด้วยมั้ย?
- ยางอะไหล่และอุปกรณ์: มีแม่แรง ยางอะไหล่ หรือชุดปะยางฉุกเฉินติดรถมาให้ครบมั้ย
- ประกัน: รถมือสองส่วนใหญ่จะ หมดประกันศูนย์ แล้วนะ! บางเต็นท์รถอาจจะมีประกันหลังการขายให้เล็กน้อย เช่น รับประกันเครื่องยนต์/เกียร์ให้ 3 เดือน หรือ 5,000 กม. ก็ต้องสอบถามเงื่อนไขดีๆ ถ้าซื้อกับเจ้าของโดยตรง ส่วนใหญ่คือไม่มีประกันนะ ซื้อแล้วต้องดูแลเองยาวๆ จ้า
- ค่าจัดส่ง: ปกติซื้อรถมือสองคือต้องไปรับรถเองนะจ๊ะ ไม่มีบริการส่งฟรีเหมือนซื้อของออนไลน์ทั่วไป นอกจากจะตกลงกับผู้ขายเป็นพิเศษ
- ของแถม/โปรโมชั่น: อันนี้แล้วแต่เต็นท์เลย บางทีอาจจะมีโปรโมชั่นฟรีค่าโอน ฟรีเปลี่ยนถ่ายของเหลว หรือแถมขัดเคลือบสีให้บ้างนิดหน่อย ไม่ได้มีของแถมจัดเต็มเหมือนรถใหม่
สรุปคือ การซื้อรถมือสองเน้น "เช็คให้ละเอียด" สำคัญกว่าของแถมเยอะมากๆ จ้า!
5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษ หรือมีโปรโมชั่นอะไรน่าสนบ้าง?
สำหรับการซื้อรถยนต์มือสอง โดยเฉพาะรถยุโรปอย่าง Benz เนี่ย โปรโมชั่นมันจะไม่ได้อิงตามเทศกาลแบบ 12.12 หรือสงกรานต์เหมือนสินค้าทั่วไปนะจ๊ะ แต่โปรโมชั่นส่วนใหญ่จะมาจาก เต็นท์รถมือสอง เองมากกว่า
ช่วงที่อาจจะมีโปรโมชั่นน่าสนใจ:
- ช่วงปลายปี หรือปลายไตรมาส: บางทีเต็นท์รถอยากจะปิดยอดขาย ก็อาจจะมีโปรโมชั่นลดราคา หรือเงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษออกมาบ้าง
- ช่วงที่รถรุ่นใหม่เปิดตัว: พอรุ่นใหม่ของ GLA ออกมา รุ่นเก่า (รวมถึงมือสอง) ก็มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับลง หรือมีโปรโมชั่นเพื่อเร่งระบายสต็อก
- โปรโมชั่นจากสถาบันการเงิน: บางทีไฟแนนซ์ที่ร่วมกับเต็นท์รถ อาจจะมีข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ หรือให้วงเงินสูง
ร้านค้า Official ใน Lazada/Shopee ไม่ได้ขายรถยนต์นะจ๊ะ ส่วนใหญ่จะเป็นอะไหล่ หรือของแต่งเล็กๆ น้อยๆ มากกว่า
คำแนะนำในการซื้อ: ถ้าเจอคันที่ถูกใจ สภาพดี ราคาเหมาะสม ก็อย่าลังเลนาน แต่ถ้ายังไม่รีบ อาจจะลองติดตามดูราคาไปเรื่อยๆ เปรียบเทียบหลายๆ ที่ เพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุด แต่เน้นอีกครั้งว่า สภาพรถและประวัติการดูแลรักษาสำคัญกว่าโปรโมชั่นลดราคาเล็กๆ น้อยๆ นะจ๊ะ!
6. คนไทยที่เคยใช้ GLA 250 AMG รู้สึกยังไงกันบ้างนะ?
จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามเว็บบอร์ด รีวิว หรือกลุ่มผู้ใช้งานในไทยเนี่ย เสียงตอบรับเกี่ยวกับ Mercedes-Benz GLA 250 AMG ถือว่าค่อนข้างดีเลยนะ จุดที่คนไทยมักจะพูดถึงและเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้คือ:
- ตราดาวสามแฉก: แค่ขับเบนซ์ก็รู้สึกดีแล้วจ้า เสริมภาพลักษณ์ความสำเร็จ ความพรีเมี่ยมได้ดีมากๆ
- ดีไซน์สปอร์ตแบบ AMG: หลายคนชอบชุดแต่ง AMG มากๆ ทำให้รถดูไม่เหมือนเบนซ์รุ่นเริ่มต้นทั่วไป ดูมีลูกเล่นและสปอร์ตกว่าเยอะ
- ขับสนุก อัตราเร่งดี: เครื่อง 250 เนี่ย ให้กำลังมาพอตัวเลย ขับสนุก กดคันเร่งแล้วมาทันใจ ไม่ต้องลุ้นเหมือนรุ่น GLA 200
- ช่วงล่างหนึบ ขับมั่นใจ: ด้วยความที่เป็นรุ่น AMG ช่วงล่างจะเซ็ตมาค่อนข้างสปอร์ต ทำให้ขับแล้วรู้สึกมั่นใจ โดยเฉพาะเวลาใช้ความเร็ว
- ขนาดกะทัดรัด คล่องตัวในเมือง: ไม่ใหญ่เกินไป ขับซอกแซกในเมือง จอดง่าย หาที่จอดสะดวกกว่ารถ SUV คันใหญ่ๆ
- ภายในหรูหราตามสไตล์เบนซ์: วัสดุภายในดูดี สมกับเป็นรถยุโรป มีฟังก์ชันต่างๆ ให้ใช้งานสะดวก
แต่ก็มีบางมุมที่ผู้ใช้บางส่วนอาจจะรู้สึกว่ายังไม่สุด เช่น
- เบาะหลังอาจจะแคบไปหน่อย: ถ้าคนตัวใหญ่นั่งเบาะหลังนานๆ อาจจะรู้สึกไม่สบายเท่าไหร่
- ช่วงล่างอาจจะแข็งไปนิดสำหรับบางคน: ด้วยความสปอร์ต บางทีเจอถนนไม่เรียบก็อาจจะสะเทือนอยู่บ้าง
- ค่าบำรุงรักษา: เป็นรถยุโรป ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา ซ่อมแซม อาจจะสูงกว่ารถญี่ปุ่นพอสมควร
- ไม่มี Apple CarPlay/Android Auto ในบางคัน/ปี: รุ่นปี 2018 บางคันอาจจะต้องเช็คดีๆ ว่ามีระบบนี้มาให้เลย หรือต้องอัปเกรดเพิ่ม (ข้อมูลจากรีวิวต่างประเทศระบุว่าปี 2018 เริ่มมี Apple CarPlay/Android Auto เป็นตัวเลือก)
โดยรวมแล้ว คนไทยที่เลือกซื้อ GLA 250 AMG มักจะเน้นไปที่ แบรนด์ ภาพลักษณ์ ความสปอร์ต และสมรรถนะเครื่องยนต์ ที่คุ้มค่ากับราคาเมื่อเทียบกับตอนเป็นรถใหม่จ้า
7. แล้วจะไปหาซื้อเจ้าน้อง GLA 250 AMG ปี 2018 ได้จากที่ไหนบ้าง?
อย่างที่บอกไปตอนต้นว่ารถรุ่นนี้ส่วนใหญ่จะเป็นตลาดมือสองนะจ๊ะ ช่องทางหลักๆ ที่คนนิยมซื้อขายกันก็คือ:
- เว็บไซต์ขายรถมือสองชั้นนำ: เช่น One2Car.com, Taladrod.com เป็นแหล่งรวมรถมือสองเยอะมากๆ มีทั้งรถจากเต็นท์และรถจากเจ้าของโดยตรง ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย แต่ต้องเช็คสภาพรถและประวัติผู้ขายดีๆ
- เต็นท์รถมือสองทั่วไป: อันนี้ต้องเดินหาตามโซนเต็นท์รถมือสองต่างๆ ข้อดีคือสามารถ ดูรถ สัมผัสรถ ลองขับ ได้ด้วยตัวเอง ได้พูดคุยสอบถามกับคนขายโดยตรง บางทีมีไฟแนนซ์รองรับ และอาจจะมีประกันจากเต็นท์ให้บ้าง แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าซื้อกับเจ้าของโดยตรงเล็กน้อย
- กลุ่มซื้อขายรถยนต์มือสองใน Facebook: เป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจ มักจะเป็นการซื้อขายระหว่างผู้ใช้ด้วยกันเอง อาจจะได้ราคาดี แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่า ต้องนัดเจอเพื่อดูรถและทำสัญญาอย่างรอบคอบ
- ศูนย์รถยนต์มือสองที่ได้รับการรับรองจาก Mercedes-Benz (MB Certified): อันนี้เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ถึงแม้รถปี 2018 อาจจะไม่ได้อยู่ในโปรแกรม MB Certified ทุกคันแล้ว แต่บางทีก็มีรถเข้ามานะ ข้อดีคือรถผ่านการตรวจสภาพตามมาตรฐานของเบนซ์ อาจจะมีประกันเหลือ หรือมีโปรแกรมขยายการรับประกันให้ ทำให้มั่นใจในคุณภาพได้มากกว่า แต่ราคาก็จะสูงกว่าตลาดทั่วไปพอสมควรเลยจ้า
ช่องทาง Official ของ Mercedes-Benz Thailand จะเน้นไปที่รถใหม่ หรือรถมือสองในโปรแกรม Certified ที่อายุไม่กี่ปีนะจ๊ะ สำหรับรุ่นปี 2018 ต้องพึ่งพาช่องทางอื่นๆ เป็นหลักเลย
8. สรุปแล้วเจ้า GLA 250 AMG ปี 2018 ยังน่าซื้ออยู่ไหม? เหมาะกับใคร?
มาถึงช่วงสรุปแล้ว! ถามว่า Mercedes-Benz GLA 250 AMG ปี 2018 มือสอง ในปี 2568 เนี่ย ยังน่าซื้ออยู่ไหม? ถ้าให้ตอบแบบตรงๆ เลยก็คือ ยังน่าซื้อมากๆ จ้า! ถ้าคุณเป็นคนที่:
- อยากขับรถยุโรปแบรนด์หรูอย่าง Mercedes-Benz ในงบประมาณที่จำกัดลงมาเยอะมากๆ จากรถใหม่
- ชอบรถที่มีดีไซน์สปอร์ต หล่อเหลา ด้วยชุดแต่ง AMG ทั้งภายนอกและภายใน
- ต้องการรถที่ขับสนุก อัตราเร่งดี คล่องตัว เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก
- รับได้กับขนาดที่อาจจะไม่ได้ใหญ่มากนัก (โดยเฉพาะพื้นที่เบาะหลังและที่เก็บของ)
- เข้าใจธรรมชาติของรถยุโรปมือสอง และพร้อมที่จะดูแลบำรุงรักษาตามระยะ (ซึ่งค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่ารถญี่ปุ่น)
ถ้าคุณสมบัติตรงตามนี้ บอกเลยว่า GLA 250 AMG ปี 2018 มือสอง เป็นตัวเลือกที่ คุ้มค่า มากๆ เลยจ้า ในราคาหลักแสนปลายๆ ถึงล้านต้นๆ คุณได้รถยุโรปพรีเมี่ยมที่ทั้งหล่อ ทั้งขับสนุก และยังใช้งานได้ดีอยู่
ส่วนจะเลือกรุ่นนี้ หรือเพิ่มงบไปเล่นรุ่นใหม่กว่า หรือไปดูคู่แข่ง ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณเลย ถ้าเน้นประหยัด ได้แบรนด์ ได้ความสปอร์ต ในราคาเข้าถึงง่าย รุ่นนี้ตอบโจทย์เลย แต่ถ้าต้องการฟังก์ชันที่ใหม่กว่ามากๆ เช่น จอใหญ่ขึ้น มีระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ล้ำกว่า หรือต้องการพื้นที่ภายในที่กว้างขวางขึ้น อาจจะต้องมองหารุ่นปีใหม่กว่า หรือขยับไปดูพี่ใหญ่ในตระกูล SUV ของเบนซ์แทนนะจ๊ะ แต่สำหรับในงบประมาณและปีรถเท่านี้ GLA 250 AMG ปี 2018 ถือเป็นมวยที่น่าจับตามองมากๆ เลยทีเดียว!
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังตัดสินใจซื้อ Mercedes-Benz GLA 250 AMG ปี 2018 นะคะ ขอให้ได้รถที่ถูกใจ สภาพดี ขับขี่ปลอดภัยและมีความสุขกับการเป็นเจ้าของรถเบนซ์ในฝันจ้า! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ไส้กรองน้ำ Lux Alva ราคาล่าสุด เปลี่ยนเมื่อไหร่ดี?
Ableton Push 2: ราคาล่าสุด ปี 2568 และรีวิวคอนโทรลเลอร์สำหรับทำเพลง
คาลิมบา (Kalimba) ราคาถูก เริ่มต้นกี่บาท? ยี่ห้อไหนดีสำหรับมือใหม่
รวมราคา Samsung Galaxy J Prime ทุกรุ่นฮิต (J2, J5, J7 Prime)
กระเป๋า Porter จากญี่ปุ่น: ราคาล่าสุด ปี 2568 รุ่นไหนยอดนิยม ซื้อที่ไหนดี?
หมวกเบสบอล LA Dodgers ราคาล่าสุด: ซื้อของแท้ได้ที่ไหน?