ราคา SSD Sandisk X400 M.2 อัปเดตล่าสุด รุ่นความจุต่างๆ


สวัสดีจ้าชาวไอทีและคนรักคอมฯ ทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเจาะลึก SSD ตัวเก๋าที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นขวัญใจใครหลายๆ คน นั่นก็คือ SanDisk X400 M.2 นั่นเอง! ใครที่กำลังมองหา SSD ดีๆ สักตัวมาอัปเกรดคอมพิวเตอร์คู่ใจให้บูสต์ไวปรี๊ด เปิดโปรแกรมลื่นปรื๊ด แต่ก็อยากได้ราคาแบบเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์ มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาแกะกล่อง เอ้ย! ไม่ใช่สิ มาอัปเดตราคาและข้อมูลต่างๆ ของเจ้าตัวนี้ให้ฟังแบบหมดเปลือก ฉบับเข้าใจง่าย สไตล์กันเอง พร้อมแล้ว ไปดูกันเลย!
1. SanDisk X400 M.2 นี่มันคืออะไรกันนะ?
พูดง่ายๆ เลย เจ้า SanDisk X400 M.2 เนี่ย มันคือ อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบ SSD (Solid State Drive) ที่มีหน้าตาเรียวยาว ใช้การเชื่อมต่อแบบ M.2 ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในโน้ตบุ๊กและเมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆ จ้า ถามว่ามันดียังไง? ก็คือมันเข้ามาแทนที่ Hard Disk Drive (HDD) แบบจานหมุนรุ่นเก่าๆ ที่ทั้งช้า ทั้งเสียงดัง ให้เราได้สัมผัสกับความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลที่เร็วกว่าแบบคนละเรื่องเลย! นึกภาพว่าจากเดิมที่เปิดเครื่องคอมฯ ต้องรอจนหลับไปตื่นนึง ก็เหลือแค่แป๊บเดียวเองนะ! โหลดโปรแกรมก็ไวขึ้น ทำงานก็ลื่นขึ้นเยอะเลยล่ะ
แล้วใครเหมาะกับเจ้าตัวนี้ล่ะ? ก็คนที่ใช้โน้ตบุ๊กหรือคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปที่มีช่อง M.2 ว่างๆ อยู่นั่นแหละจ้า เหมาะมากๆ สำหรับคนที่อยากอัปเกรดความเร็วในการใช้งานทั่วไป ไม่ได้เน้นงานโหดๆ ที่ต้องใช้ความเร็วสูงสุดแบบ NVMe (อันนั้นจะแพงกว่า) แต่แค่อยากให้เครื่องมันไวขึ้นแบบรู้สึกได้ เจ้า X400 นี่แหละตอบโจทย์เลย
ส่วนแบรนด์ SanDisk เนี่ย หลายคนคงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วว่าเป็นแบรนด์ดังจากอเมริกาที่เชี่ยวชาญเรื่องอุปกรณ์เก็บข้อมูลโดยเฉพาะพวก Flash Memory ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น SD Card, USB Drive หรือ SSD นี่แหละจ้า ตอนนี้เค้าก็เป็นส่วนหนึ่งของ Western Digital ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ในวงการฮาร์ดดิสก์และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเลยนะ เรียกว่าเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือในวงการมานานจ้า
2. ราคาในตลาดไทยอัปเดตล่าสุดเป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องที่ทุกคนรอคอย! สำหรับ SanDisk X400 M.2 เนี่ย ต้องบอกตรงๆ เลยว่าเนื่องจากเป็นรุ่นที่ออกมานานพอสมควรแล้ว เราอาจจะไม่ค่อยเห็นเป็นสินค้า "มือหนึ่ง" วางขายตามร้านใหญ่ๆ ทั่วไปแล้วนะจ๊ะ ส่วนใหญ่ที่เราจะเจอตอนนี้คือจะเป็น สินค้ามือสอง หรือ สินค้าค้างสต็อก จากร้านเล็กๆ หรือผู้ขายรายย่อยมากกว่า
ราคา ณ ตอนนี้ (ช่วงกลางปี 2568) ก็เลยมีความหลากหลายมากๆ ขึ้นอยู่กับสภาพสินค้าและร้านค้าเลยจ้า ลองไปส่องๆ ดูตามแพลตฟอร์มออนไลน์ยอดฮิตอย่าง Lazada และ Shopee เนี่ย จะมีผู้ขายนำมาลงขายอยู่บ้างนะ
เท่าที่ลองเช็คดูคร่าวๆ นะ:
- รุ่น 128GB ราคาจะอยู่ประมาณ ฿500 - ฿1,000 จ้า
- รุ่น 256GB ราคาจะขยับขึ้นมาหน่อย อยู่ที่ประมาณ ฿700 - ฿1,500 บาทไทยจ้า (เจอร้าน JIB เคยขาย 256GB อยู่ที่ ฿3,190 แต่สินค้าหมดแล้ว และราคาตอนนี้ถูกลงเยอะมากตามกาลเวลา)
- ส่วนรุ่นความจุสูงๆ อย่าง 512GB หรือ 1TB อันนี้จะค่อนข้างหายากกว่า และราคามือสองก็จะโดดขึ้นไปอีก อาจจะเจอช่วง ฿1,500 - ฿3,000+ บาท ขึ้นอยู่กับสภาพมากๆ จ้า
ต้องย้ำอีกทีว่านี่เป็นราคาประมาณการจากตลาดมือสอง/ค้างสต็อกนะจ๊ะ ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และส่วนใหญ่จะไม่ใช่ราคาจากร้านค้าปลีกไอทีเจ้าใหญ่ๆ อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy ที่มักจะเน้นขายรุ่นใหม่ๆ แล้ว
3. เทียบราคากับ SSD ตัวอื่นแล้วเป็นไงนะ?
ถ้าให้เทียบกับ SSD M.2 รุ่นใหม่ๆ ที่เพิ่งออกมา โดยเฉพาะพวกที่ใช้เทคโนโลยี NVMe PCIe เนี่ย ต้องบอกเลยว่าเจ้า SanDisk X400 M.2 ที่เป็นแบบ SATA III เนี่ย ราคาถูกกว่าเยอะมากๆๆๆ เลยจ้า SSD NVMe รุ่นใหม่ๆ ความจุเท่ากัน บางทีราคาแพงกว่า 2-3 เท่าตัวเลยนะ! แต่แน่นอนว่าความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลของ NVMe มันก็เร็วกว่า SATA แบบเห็นได้ชัดเหมือนกัน
แต่ถ้าเทียบกับ SSD M.2 แบบ SATA รุ่นอื่นๆ ที่ออกมาไล่เลี่ยกัน หรือ SSD แบบ 2.5 นิ้วที่เป็น SATA เหมือนกันเนี่ย ราคาของ X400 มือสองก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ น่าสนใจมากๆ สำหรับคนงบน้อย นะจ๊ะ ด้วยความที่เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเรื่องความทนทานในระดับหนึ่ง ทำให้มันยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคนที่อยากอัปเกรดจาก HDD จานหมุนแบบไม่ต้องจ่ายแพงจ้า
4. ซื้อแล้วจะได้อะไรติดไม้ติดมือมาบ้าง?
อันนี้ต้องบอกว่า แล้วแต่ดวง เอ้ย! แล้วแต่ผู้ขาย เลยจ้า! เพราะส่วนใหญ่ที่เราเจอตอนนี้คือสินค้ามือสอง บางทีก็มาแค่ตัว SSD เปล่าๆ เลย ไม่มีกล่อง ไม่มีอุปกรณ์เสริมอะไรทั้งสิ้น สิ่งที่ควรสอบถามผู้ขายให้ชัดเจนเลยคือ:
- ตัว SSD: สภาพเป็นยังไง มีรอยขีดข่วนบุบสลายมั้ย ลองขอรูปหรือวิดีโอเพิ่มเติมได้ยิ่งดี
- น็อตยึด M.2: อันนี้สำคัญ! บางเมนบอร์ด/โน้ตบุ๊กอาจจะมีน็อตมาให้แล้ว แต่บางทีก็ไม่มี ต้องเช็คดีๆ ไม่งั้นจะใส่น็อตไม่ได้นะจ๊ะ
- กล่อง/แพ็คเกจเดิม: ส่วนใหญ่จะไม่มีแล้ว แต่ถ้าใครซีเรียสเรื่องนี้ก็ลองถามดู
- คู่มือ: ไม่มีแน่นอนจ้า หาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตเอาเนอะ
- ประกัน: นี่คือจุดสำคัญมากๆ! สินค้ามือสองส่วนใหญ่ ไม่มีประกันศูนย์ แล้วนะจ๊ะ ถ้าโชคดีอาจจะเจอร้านที่ให้ ประกันร้าน เล็กๆ น้อยๆ สัก 7 วัน หรือ 30 วัน อันนี้ต้องสอบถามให้ชัดเจนเลยจ้า เพราะถ้าเสียหลังจากนี้คือซ่อมเองหรือทิ้งอย่างเดียว (แต่ SSD SanDisk X400 ก็ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานระดับนึงนะ!) สินค้ามือหนึ่งแต่ค้างสต็อกบางร้านอาจจะมีประกันร้านที่ยาวขึ้นมาหน่อย ก็ต้องเช็คเป็นเคสๆ ไปจ้า
- ของแถม/โปรโมชั่น: น้อยมากที่จะมีของแถมสำหรับ SSD รุ่นนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นแค่ตัว SSD อย่างเดียวเลยจ้า
ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่จะมีค่าส่งนะจ๊ะ นอกจากผู้ขายจะจัดโปรโมชั่นส่งฟรี อันนี้ก็ต้องดูเงื่อนไขตอนสั่งซื้อให้ดีๆ
5. ช่วงไหนน่าสอย SanDisk X400 M.2 ที่สุด?
สำหรับ SSD รุ่นเก่าอย่าง SanDisk X400 M.2 เนี่ย การรอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ แบบ 11.11, 12.12 หรือช่วงเทศกาลไทยอย่างสงกรานต์ อาจจะไม่ได้มีส่วนลดแบบอลังการเหมือนสินค้าไอทีรุ่นใหม่ๆ นักนะจ๊ะ แต่! ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีเลยนะ
ในช่วงเทศกาลลดราคาใหญ่ๆ บน Lazada หรือ Shopee เนี่ย ผู้ขายรายย่อยบางรายอาจจะ tranh (แย่ง) ลูกค้าด้วยการลดราคา SSD มือสองลงมาบ้างเล็กน้อย หรืออาจจะมีโค้ดส่วนลดของแพลตฟอร์มเองที่สามารถนำมาใช้กับสินค้าพวกนี้ได้ ก็ช่วยประหยัดไปได้อีกนิดหน่อยจ้า
ร้านค้าที่เป็น Official Store ของแบรนด์ SanDisk/WD ใน Lazada/Shopee เค้าจะเน้นขายรุ่นใหม่ๆ เป็นหลักนะจ๊ะ ไม่ได้มี X400 แล้ว ดังนั้น ถ้าจะหาซื้อ X400 ก็ต้องพึ่งพาร้านค้าทั่วไปหรือผู้ขายรายย่อยแทนจ้า
สรุปคือ ไม่ต้องรอเทศกาลจ๋าๆ ก็ซื้อได้เลย แต่ถ้าช่วงเทศกาลลองเข้าไปส่องดูก่อนก็ไม่เสียหาย อาจจะเจอดีลดีๆ โดยบังเอิญนะจ๊ะ
6. ผู้ใช้งานในไทยเค้าว่ายังไงกันบ้างนะ?
จากที่ลองไปแอบส่องตามเว็บบอร์ดหรือกลุ่มคอมพิวเตอร์ในไทยนะ ผู้ใช้งานที่เคยใช้ SanDisk X400 M.2 ส่วนใหญ่เค้าก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า:
- ความเร็ว: มันไม่ได้เร็วที่สุดในตลาด SSD M.2 นะจ๊ะ เพราะมันเป็น SATA III แต่ถ้าเทียบกับ HDD จานหมุนคือคนละโลกเลย เร็วขึ้นแบบเห็นได้ชัดในการใช้งานทั่วไป บูสต์เครื่องไว เปิดโปรแกรมเร็วขึ้น ดีกว่าเดิมเยอะ!
- ความทนทาน: หลายคนบอกว่า SanDisk X400 ค่อนข้างทนทานนะ ใช้มานานหลายปีก็ยังทำงานได้ดีอยู่ อันนี้เป็นจุดเด่นที่คนไทยค่อนข้างให้ความสำคัญ เพราะซื้อมาแล้วก็อยากให้มันใช้ได้นานๆ
- ความคุ้มค่า: ด้วยราคาในตลาดมือสองที่ถูกลงมาเยอะมากๆ ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ คุ้มค่าสุดๆ สำหรับคนที่อยากอัปเกรดแบบประหยัดงบ ได้ความเร็วระดับ SSD ในราคาที่ไม่แรง
- ขนาดเล็ก: ด้วยความที่เป็น M.2 2280 มันก็มีขนาดเล็กจิ๋ว ติดตั้งง่าย ไม่เปลืองพื้นที่ในเคสคอมฯ หรือในโน้ตบุ๊ก
โดยรวมคือ คนไทยที่ใช้ SanDisk X400 M.2 ส่วนใหญ่จะพอใจกับประสิทธิภาพที่ได้ในราคาที่จ่ายไปจ้า ถือเป็น SSD ตัวเก่าที่ยังคงมีคุณค่าในแง่ของความคุ้มค่านะ
7. จะไปหาซื้อได้ที่ไหนดีล่ะทีนี้?
อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าหลักๆ เลยคือต้องพึ่งพาตลาด สินค้ามือสอง จ้า ช่องทางที่แนะนำก็คือ:
- แพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่ๆ: Shopee กับ Lazada นี่แหละคือแหล่งหลักเลยจ้า มีผู้ขายรายย่อยเอามาลงขายเยอะมาก ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย บางทีมีโปรโมชั่นหรือโค้ดส่วนลดให้ใช้ มีระบบการจ่ายเงินที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่ข้อควรระวังคือเราไม่ได้เห็นของจริง ต้องดูจากรูปและรายละเอียดที่ผู้ขายให้มา และต้องเลือกซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือ มีรีวิวดีๆ นะจ๊ะ
- กลุ่มซื้อขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มือสองใน Facebook: ในกลุ่มต่างๆ เนี่ย มักจะมีผู้ใช้เอา SSD เก่ามาปล่อยขายเองโดยตรง บางทีอาจจะได้ราคาดีกว่าซื้อจากร้านด้วยนะ แต่ก็ต้องระวังมิจฉาชีพนิดนึง ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้นัดเจอเพื่อเช็คของและจ่ายเงินกับมือจะปลอดภัยที่สุดจ้า
- ร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ หรือร้านรับซื้อขายอุปกรณ์ไอทีมือสอง: บางร้านอาจจะมี SSD รุ่นเก่าๆ ค้างสต็อกอยู่บ้าง หรือรับซื้อจากลูกค้าแล้วนำมาขายต่อ ข้อดีคือเราสามารถไปดูสภาพสินค้าจริงได้เลย แต่ราคาก็อาจจะไม่ได้ถูกเท่าซื้อจากผู้ใช้โดยตรงนะ
ส่วนร้านค้าปลีกไอทีเจ้าใหญ่ๆ อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy, Advice ตอนนี้จะไม่ค่อยมี SanDisk X400 M.2 มือหนึ่งขายแล้วนะจ๊ะ เค้าจะเน้นไปที่รุ่นใหม่ๆ แทน
8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?
มาถึงช่วงสรุปแล้ว! ถามว่า SanDisk X400 M.2 ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปีนี้? ถ้าคุณเป็นคนที่:
- มีงบประมาณจำกัดมากๆ แต่อยากอัปเกรดคอมฯ จาก HDD ให้เร็วขึ้น
- มีโน้ตบุ๊กหรือเมนบอร์ดที่มีช่อง M.2 ว่างอยู่ และต้องการใช้ประโยชน์จากช่องนี้
- ไม่ได้ต้องการความเร็วสูงสุด แบบ SSD NVMe แต่แค่อยากได้ความเร็วที่ดีกว่า HDD แบบคนละเรื่อง
- เน้นความคุ้มค่า และรับได้กับสินค้ามือสองที่อาจจะไม่มีประกันศูนย์แล้ว
ถ้าเข้าข่ายตามนี้ บอกเลยว่า SanDisk X400 M.2 ในตลาดมือสองยังน่าซื้อมากๆ จ้า! มันเหมือนได้ SSD ในราคาเบาๆ เพื่อมายกระดับประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนเรื่องความจุ ก็เลือกตามงบและการใช้งานเลยจ้ะ ถ้าแค่อยากเอามาลงวินโดวส์กับโปรแกรมหลักๆ สักเล็กน้อย 128GB ก็พอไหว แต่ถ้าอยากลงโปรแกรมเยอะหน่อย หรือมีไฟล์งานที่ต้องเปิดบ่อยๆ 256GB หรือ 512GB จะใช้งานได้สบายใจกว่านะ รุ่น 1TB ก็มีแต่จะหายากและราคาสูงขึ้นไปอีกจ้า
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เน้นความเร็วสูงสุด ต้องการ SSD ที่แรงที่สุดในตลาด มีงบประมาณเยอะ หรือต้องการสินค้ามือหนึ่งพร้อมประกันเต็มๆ อันนี้ข้ามเจ้า X400 ไปมอง SSD NVMe รุ่นใหม่ๆ ได้เลยนะจ๊ะ ตอบโจทย์กว่าแน่นอน
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของทุกคนนะจ๊ะ! ขอให้ได้ SSD ที่ถูกใจ และคอมพิวเตอร์ทำงานได้รวดเร็วทันใจ บูสต์ปรี๊ดกันทุกคนเลยจ้า! ไปก่อนนะ บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ไส้กรองน้ำ Lux Alva ราคาล่าสุด เปลี่ยนเมื่อไหร่ดี?
Ableton Push 2: ราคาล่าสุด ปี 2568 และรีวิวคอนโทรลเลอร์สำหรับทำเพลง
คาลิมบา (Kalimba) ราคาถูก เริ่มต้นกี่บาท? ยี่ห้อไหนดีสำหรับมือใหม่
รวมราคา Samsung Galaxy J Prime ทุกรุ่นฮิต (J2, J5, J7 Prime)
กระเป๋า Porter จากญี่ปุ่น: ราคาล่าสุด ปี 2568 รุ่นไหนยอดนิยม ซื้อที่ไหนดี?
หมวกเบสบอล LA Dodgers ราคาล่าสุด: ซื้อของแท้ได้ที่ไหน?