เราเตอร์ TOTOLINK ND300 ราคาเท่าไหร่? ติดตั้งง่าย ใช้ดีไหม?


สวัสดีค่าาา เหล่าบรรดาคนรักเน็ตทั้งหลาย! วันนี้เรามีเรื่องเมาท์มอยเกี่ยวกับไอเทมสำคัญสำหรับบ้านยุคดิจิทัลของเรา นั่นก็คือ เราเตอร์ (Router) นั่นเอง! และพระเอกของเราในวันนี้ก็คือเจ้า TOTOLINK ND300 นี่แหละค่ะ หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ หรือกำลังเล็งๆ อยากรู้ว่ามันราคาเท่าไหร่ ติดตั้งง่ายจริงไหม แล้วใช้ดีหรือเปล่า วันนี้เราจะมาเจาะลึกให้ฟังแบบหมดเปลือกเลยจ้า เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม แล้วไปดูกันเล้ยยย!
1. เจ้ากล่องนี้มันคืออะไรกันนะ?
มาเริ่มต้นกันที่ว่าเจ้า TOTOLINK ND300 เนี่ย มันคืออะไรกันแน่? พูดง่ายๆ มันก็คือ "เราเตอร์โมเด็ม ADSL แบบ All-in-One" นั่นแหละค่ะคุณขา! มันไม่ใช่แค่เราเตอร์กระจาย Wi-Fi ธรรมดานะคะ แต่มันมีความสามารถเป็น โมเด็ม (Modem) ในตัวด้วย ทำให้รับสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบสายโทรศัพท์ (ADSL/VDSL) จากค่ายต่างๆ ในไทย อย่าง True, 3BB, TOT ได้เลย ไม่ต้องมีโมเด็มแยกให้วุ่นวาย นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็น เราเตอร์ไร้สาย (Wireless Router) ปล่อยสัญญาณ Wi-Fi มาตรฐาน N ความเร็วสูงสุด 300 Mbps เป็น จุดกระจายสัญญาณ (Access Point) และยังมี พอร์ต LAN 4 ช่อง ไว้ต่อสายให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ได้อีกด้วย คือซื้อตัวเดียวจบ ครบทุกฟังก์ชันพื้นฐานเลยก็ว่าได้ค่ะ
แบรนด์ TOTOLINK เนี่ย เป็นแบรนด์ที่มาจากต่างประเทศนะคะ เค้าก็ผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับระบบเครือข่ายมาหลากหลาย ตั้งแต่เราเตอร์, สวิตช์, ตัวขยายสัญญาณ อะไรพวกนี้ จุดเด่นของเค้าก็คือมักจะนำเสนออุปกรณ์ในราคาที่จับต้องง่าย แต่ฟังก์ชันพื้นฐานครบครัน เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปตามบ้าน หรือสำนักงานเล็กๆ ที่ไม่ได้ต้องการความซับซ้อนอะไรมากค่ะ
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้างนะ?
มาถึงเรื่องสำคัญที่ทำให้หลายคนตาลุกวาว! เจ้า TOTOLINK ND300 เนี่ย ในตลาดไทยถือเป็นเราเตอร์โมเด็มที่ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์มากๆ ค่ะ จากที่ไปสำรวจมาตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada และ Shopee เนี่ย ราคาจะอยู่ในช่วงประมาณ 1,300 - 1,600 บาท (฿) โดยประมาณนะคะ ราคาก็อาจจะมีขึ้นมีลงบ้างแล้วแต่ร้าน แล้วแต่ช่วงโปรโมชั่นค่ะ
สำหรับร้านค้าไอทีชื่อดังอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy เนี่ย ส่วนใหญ่เค้าอาจจะเน้นขายเราเตอร์รุ่นใหม่ๆ หรือรุ่นที่สเปกสูงกว่านี้เป็นหลักนะคะ เจ้า ND300 ซึ่งเป็นรุ่นสำหรับเน็ต ADSL/VDSL พื้นฐานและออกมาได้สักพักแล้ว อาจจะไม่ค่อยเห็นวางขายหน้าร้านใหญ่ๆ เท่าไหร่ค่ะ ส่วนใหญ่จะหาซื้อง่ายตามร้านค้าออนไลน์ หรือร้านอุปกรณ์ไอทีขนาดเล็กมากกว่านะจ๊ะ
3. เทียบราคากับยี่ห้ออื่นแล้วเป็นไง?
ถ้าให้ลองเทียบราคากับเราเตอร์โมเด็ม ADSL/VDSL ยี่ห้ออื่นๆ ในตลาด ที่มีสเปกใกล้เคียงกัน (คือเป็น Wireless N 300Mbps เหมือนกัน) อย่าง TP-Link หรือ D-Link เนี่ย ราคาของ TOTOLINK ND300 ก็ถือว่าอยู่ในกลุ่ม ราคาประหยัด เลยค่ะ บางรุ่นของยี่ห้ออื่นอาจจะมีราคาเริ่มต้นใกล้เคียงกัน หรืออาจจะสูงกว่าเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับฟังก์ชันเสริม การรับประกัน หรือความนิยมของแบรนด์ด้วยค่ะ คือถ้ามองหาเราเตอร์โมเด็ม ADSL/VDSL พื้นฐาน ในงบที่ไม่สูงมาก เจ้า ND300 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยล่ะค่ะ
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง?
เวลาเราซื้อเจ้า TOTOLINK ND300 แบบของใหม่แกะกล่องเนี่ย สิ่งที่มักจะมาในกล่องก็จะมีหลักๆ คือ:
- ตัวเราเตอร์ TOTOLINK ND300
- อะแดปเตอร์แปลงไฟ (Power Adapter)
- สายแลน (Ethernet Cable)
- สายโทรศัพท์ (RJ11 Cable) สำหรับต่อเข้ากับเต้ารับ ADSL
- คู่มือการติดตั้งเบื้องต้น (Quick Installation Guide)
ส่วนเรื่อง การรับประกัน อันนี้แหละที่คนไทยอย่างเราให้ความสำคัญมากๆ! สำหรับ TOTOLINK เนี่ย การรับประกันสินค้าหลัก (ตัวเราเตอร์) มักจะอยู่ที่ 3 ปี แต่อุปกรณ์เสริมอย่างอะแดปเตอร์หรือเสาอากาศอาจจะรับประกัน 1 ปี ทีเด็ดคือบางร้านค้าในไทยอาจจะมีการรับประกันที่เรียกว่า "Lifetime" หรือ "Lifetime Forever" ด้วยนะคะ ซึ่งอันนี้ต้องเช็ครายละเอียดดีๆ กับร้านที่ซื้ออีกทีค่ะว่าครอบคลุมอะไรบ้าง เพราะคำว่า Lifetime ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มักจะหมายถึงอายุขัยของผลิตภัณฑ์รุ่นนั้นๆ ไม่ใช่อายุคนนะจ๊ะ! แต่อย่างน้อยก็แสดงว่าผู้จำหน่ายค่อนข้างมั่นใจในคุณภาพของสินค้านั่นแหละค่ะ
สำหรับ ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อผ่าน Lazada หรือ Shopee ส่วนใหญ่จะมีตัวเลือก ส่งฟรี ให้เลือกนะคะ บางทีก็มีขั้นต่ำในการสั่งซื้อ หรือเป็นช่วงโปรโมชั่นพิเศษ ก็ต้องคอยสังเกตดีๆ จ้า
5. มีช่วงไหนน่าสอยเป็นพิเศษมั้ยนะ?
แน่นอนว่าถ้าอยากได้ราคาดีๆ ต้องเล็งช่วง โปรโมชั่น ไว้เลยค่ะ! ถึงแม้จะเป็นเราเตอร์รุ่นที่ราคาไม่แรงอยู่แล้ว แต่ตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada กับ Shopee เค้าก็จัดโปรโมชั่นกันบ่อยๆ อยู่แล้วค่ะ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลช้อปปิ้งใหญ่ๆ อย่าง 11.11 (วันที่ 11 เดือน 11), 12.12 (วันที่ 12 เดือน 12), หรือช่วง วันเลขเบิ้ลอื่นๆ เช่น 4.4, 5.5, 6.6 ฯลฯ ช่วงนี้แหละค่ะ ที่มักจะมีส่วนลดพิเศษจากร้านค้า หรือมีโค้ดส่วนลดจากแพลตฟอร์มให้ใช้เพียบ!
นอกจากนี้ ช่วง เทศกาลสำคัญของไทย อย่าง สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ก็มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาตามร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ด้วยเช่นกันค่ะ ถ้าไม่รีบใช้งานมากนัก การรอช่วงโปรโมชั่นก็จะช่วยให้ประหยัดเงินไปได้อีกนิดหน่อยค่ะ ส่วนร้านที่เป็น Official Store ของแบรนด์ TOTOLINK บน Lazada หรือ Shopee เนี่ย เค้าก็มักจะจัดโปรโมชั่นเรื่อยๆ อยู่แล้วค่ะ ลองกดติดตามร้านไว้ก็ไม่เสียหาย จะได้ไม่พลาดดีลดีๆ จ้า
6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง? (แอบส่องรีวิว)
จากที่ลองไปด้อมๆ มองๆ ตามรีวิว หรือกระทู้ใน Pantip ของผู้ใช้งานในไทยเนี่ย เสียงส่วนใหญ่เกี่ยวกับ TOTOLINK ND300 ก็ค่อนข้างโอเคเลยนะคะ จุดที่ผู้ใช้ในไทยมักจะพูดถึงในแง่ดีก็คือ:
- ราคาคุ้มค่า: อันนี้ยืนหนึ่งเลยค่ะ ด้วยราคาเท่านี้ แต่ได้เราเตอร์โมเด็มแบบ All-in-One ถือว่าคุ้มมากๆ สำหรับเน็ตบ้านพื้นฐาน
- ติดตั้งง่าย: หลายคนบอกว่าการตั้งค่าไม่ซับซ้อน มีคู่มือให้ทำตาม หรือบางทีโทรสอบถามค่ายเน็ตก็ทำได้ไม่ยาก เหมาะกับคนที่ไม่เก่งเรื่องไอทีเท่าไหร่ค่ะ
- ใช้งานได้ดีตามพื้นฐาน: สำหรับการใช้งานทั่วไปในบ้าน เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นโซเชียล ทำงานออนไลน์ง่ายๆ เจ้าตัวนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีค่ะ สัญญาณ Wi-Fi ครอบคลุมพื้นที่เล็กๆ ถึงปานกลางได้โอเค (ขึ้นอยู่กับสิ่งกีดขวางในบ้านด้วยนะ)
- ทนทานในระดับหนึ่ง: หลายคนที่ใช้มาสักพักก็บอกว่ามันค่อนข้างเสถียร ไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิกกวนใจ (แน่นอนว่าการดูแลรักษาก็สำคัญนะ!)
- ขนาดกะทัดรัด: ตัวเครื่องไม่ใหญ่มาก วางตรงไหนก็ไม่ค่อยเปลืองพื้นที่ค่ะ
ส่วนข้อสังเกตก็อาจจะเป็นเรื่องของสัญญาณ Wi-Fi ที่อาจจะไม่ได้แรงเท่าเราเตอร์รุ่นใหม่ๆ ที่มีเสาเยอะๆ หรือรองรับมาตรฐานใหม่กว่านี้ และฟังก์ชันการตั้งค่าขั้นสูงอาจจะไม่ละเอียดเท่าเราเตอร์ราคาสูงค่ะ แต่ถ้าเน้นใช้งานพื้นฐาน ก็ถือว่าแฮปปี้กับราคาและสิ่งที่ได้ค่ะ
7. แล้วจะไปช้อปได้ที่ไหนบ้างล่ะทีนี้?
ช่องทางการซื้อ TOTOLINK ND300 ในไทยที่สะดวกและง่ายที่สุดในตอนนี้ คงหนีไม่พ้น แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ อย่าง Shopee และ Lazada ค่ะ ข้อดีคือมีร้านค้าให้เลือกเยอะมากๆ สามารถเปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีระบบการจ่ายเงินที่ปลอดภัย และมีโอกาสเจอโปรโมชั่นหรือโค้ดส่วนลดบ่อยๆ ค่ะ
นอกจากนี้ ก็ยังมี ร้านค้าไอทีออนไลน์ บางร้าน ที่มีเว็บไซต์ตัวเอง หรือมีหน้าร้านเล็กๆ ที่อาจจะมีเจ้าตัวนี้ขายอยู่ด้วยค่ะ ลองค้นหาชื่อรุ่นตาม Google ดูก็จะเจอค่ะ ส่วนร้านค้าปลีกขนาดใหญ่แบบ physical store อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy อาจจะต้องเช็คเป็นรุ่นๆ ไปนะคะ เพราะอย่างที่บอกว่ารุ่นนี้อาจจะไม่ใช่รุ่นหลักที่เค้าวางขายแล้ว
ช่องทาง Official ของ TOTOLINK เองก็มีเว็บไซต์อยู่ค่ะ แต่ส่วนใหญ่ก็จะลิงก์ไปยังตัวแทนจำหน่ายหรือร้านค้าต่างๆ ให้เราไปซื้ออีกทีค่ะ
8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใครกันแน่?
มาถึงช่วงสรุปแล้วค่ะ ถามว่า TOTOLINK ND300 ยังน่าซื้ออยู่ไหม? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยค่ะ ถ้าคุณเป็นคนที่:
- ใช้ อินเทอร์เน็ตบ้านแบบ ADSL หรือ VDSL อยู่
- ต้องการ เราเตอร์โมเด็มแบบ All-in-One ตัวเดียวจบ ไม่ต้องต่อหลายอุปกรณ์
- มี งบประมาณจำกัด และมองหาเราเตอร์ราคาประหยัดแต่ใช้งานได้ดี
- ใช้งานอินเทอร์เน็ตสำหรับ กิจกรรมพื้นฐานทั่วไป ในบ้าน เช่น ดูหนัง HD (ไม่ได้เน้น 4K โหดๆ), เล่นโซเชียล, ทำงาน หรือเรียนออนไลน์
- ไม่ได้ต้องการฟังก์ชันพิเศษหวือหวามากนัก เน้นความ เสถียรและใช้งานง่าย
เจ้า ND300 คือตัวเลือกที่ คุ้มค่า สำหรับคุณเลยค่ะ มันทำหน้าที่พื้นฐานได้ครบถ้วนในราคาที่เข้าถึงง่ายมากๆ
แต่ถ้าคุณใช้เน็ตไฟเบอร์ออปติก (Fiber Optic) หรือต้องการเราเตอร์ที่รองรับ Wi-Fi มาตรฐานใหม่ๆ อย่าง Wi-Fi 5 (AC) หรือ Wi-Fi 6 (AX) ที่ให้ความเร็วสูงกว่ามากๆ หรือต้องการฟังก์ชันขั้นสูงสำหรับการเล่นเกมจริงจัง สตรีมมิ่ง 4K เยอะๆ หรือมีอุปกรณ์เชื่อมต่อพร้อมกันมากๆ เจ้า ND300 อาจจะไม่ตอบโจทย์ตรงนั้นนะคะ คุณอาจจะต้องมองหารุ่นที่สูงกว่านี้ หรือเป็นเราเตอร์สำหรับเน็ตไฟเบอร์โดยเฉพาะค่ะ
แต่สำหรับเน็ต ADSL/VDSL ในราคาพันต้นๆ เจ้า TOTOLINK ND300 เนี่ย ถือเป็นมวยที่คุ้มค่าตัวมากๆ ค่ะ! หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของทุกคนนะคะ ขอให้ได้เราเตอร์ที่ถูกใจ ใช้เน็ตกันแบบลื่นปรื๊ดๆ เลยจ้า!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ไส้กรองน้ำ Lux Alva ราคาล่าสุด เปลี่ยนเมื่อไหร่ดี?
Ableton Push 2: ราคาล่าสุด ปี 2568 และรีวิวคอนโทรลเลอร์สำหรับทำเพลง
คาลิมบา (Kalimba) ราคาถูก เริ่มต้นกี่บาท? ยี่ห้อไหนดีสำหรับมือใหม่
รวมราคา Samsung Galaxy J Prime ทุกรุ่นฮิต (J2, J5, J7 Prime)
กระเป๋า Porter จากญี่ปุ่น: ราคาล่าสุด ปี 2568 รุ่นไหนยอดนิยม ซื้อที่ไหนดี?
หมวกเบสบอล LA Dodgers ราคาล่าสุด: ซื้อของแท้ได้ที่ไหน?