รีวิว Clarins White Plus Serum เซรั่มผิวขาว ลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ


สวัสดีค่าทุกคนนน! กลับมาอีกแล้วกับการรีวิวไอเทมที่ใช้แล้วอิน ใช้แล้วฟินจนต้องมาบอกต่อ วันนี้เอาใจสายกู้หน้าหมองคล้ำ รอยสิว รอยดำฝังลึกที่กวนใจ กับเซรั่มตัวดังในตำนานที่เขาปรับสูตรใหม่ให้ปังกว่าเดิม นั่นก็คือ Clarins Bright Plus Advanced Brightening Dark Spot-Targeting Serum หรือชื่อยาวเฟื้อยที่จำยากมาก! 😂 ตัวนี้เขาเคลมว่าช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ ได้จึ้งจริงไหม? ใช้แล้วจะเป็นยังไง? เหมาะกับผิวคนไทยที่ต้องเจอแดด เจอฝุ่นทุกวันหรือเปล่า? ไปดูกันเล้ยยย!
1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จักเซรั่มหน้าใสตัวใหม่จาก Clarins
แบรนด์: Clarins (คลาแรงส์)
ชื่อเต็มๆ: Bright Plus Advanced Brightening Dark Spot-Targeting Serum
ปีที่วางขาย: เป็นรุ่นปรับปรุงจากสูตรเดิม Bright Plus Serum
ช่วงราคา: ประมาณ 3,xxx - 4,xxx บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดและโปรโมชั่น)
ปริมาณ: 30 ml และ 50 ml
ตำแหน่งในตลาด: พรีเมียมสกินแคร์กลุ่มปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ กระจ่างใส และลดเลือนจุดด่างดำ เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องความหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ และรอยต่างๆ บนใบหน้า
จุดเด่นที่เขาเคลมมา:
- ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส มีออร่า
- ลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ และรอยสิว
- ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดความเหลืองของผิว
- ให้ผิวดูอิ่มน้ำ เปล่งปลั่ง
- เนื้อเซรั่มบางเบา ซึมไว
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: หรูหราน่าใช้ วางบนโต๊ะเครื่องแป้งแล้วดูแพง!
แพ็คเกจของ Clarins นี่เขาขึ้นชื่อเรื่องความหรูหราอยู่แล้ว ตัวเซรั่ม Bright Plus ใหม่มาในขวดแก้วสีขาวไล่เฉดชมพูอ่อนๆ ดูมินิมอลแต่ก็ยังคงความแพงตามสไตล์ Clarins. ตัวขวดจับถนัดมือ มาพร้อมหัวปั๊มที่ใช้งานง่าย กะปริมาณเซรั่มได้พอดีเป๊ะ ไม่ต้องกลัวหกเลอะเทอะ.
วัสดุ: ขวดแก้ว ดูแข็งแรง ทนทาน
สี: ขาวไล่เฉดชมพู
ขนาด: มี 2 ขนาดคือ 30 ml และ 50 ml ขนาด 30 ml พกพาง่ายอยู่ แต่ 50 ml นี่วางสวยๆ บนโต๊ะเครื่องแป้งที่บ้านจะเหมาะกว่า
อุปกรณ์ในกล่องก็จะมีตัวเซรั่มพร้อมหัวปั๊ม และกล่องกระดาษที่ให้ฟีลพรีเมียมสุดๆ
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ใช้แล้วผิวไบร์ทขึ้น รอยจางลงจริงไหม?
ถึงเวลาทดลองใช้จริง! เนื้อเซรั่มเป็นแบบ Milky บางเบา สีขาวขุ่นๆ. พอทาลงบนผิวแล้วซึมเร็วมากกก ไม่ทิ้งความเหนอะหนะเลยแม้แต่นิดเดียว สบายผิวสุดๆ. กลิ่นหอมอ่อนๆ แนวฟลอรัล สดชื่นดีค่ะ. ใช้แล้วไม่รู้สึกระคายเคืองเลย แม้ช่วงที่ผิวบอบบาง.
เราลองใช้ต่อเนื่องเช้า-เย็น หลังทำความสะอาดผิวหน้าและลงโทนเนอร์/น้ำตบ. กดประมาณ 2-3 ปั๊มก็ทาทั่วหน้าและลำคอได้แล้ว.
ผลลัพธ์ที่สังเกตได้:
- สัปดาห์แรก: รู้สึกได้เลยว่าผิวดูสดใสขึ้น เหมือนผิวได้หายใจ. ผิวดูอิ่มๆ ขึ้นด้วย.
- 2 สัปดาห์: สีผิวเริ่มดูสม่ำเสมอมากขึ้น ความหมองคล้ำดูจางลง.
- 4 สัปดาห์ (1 เดือน): อันนี้เริ่มเห็นผลชัดเจนเรื่องจุดด่างดำและรอยสิวค่ะ พวกรอยใหม่ๆ จางลงไวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนรอยเก่าที่ฝังลึกก็ดูจางลงแต่ยังไม่หายไปหมด. ผิวโดยรวมดูกระจ่างใสขึ้นแบบมีออร่า ไม่ใช่แค่ขาวซีดๆ. เหมือนผิวสุขภาพดีจากข้างใน!
- 8 สัปดาห์ (2 เดือน): จุดด่างดำจางลงไปอีกเยอะมาก ผิวเนียนละเอียดขึ้นด้วย. ประทับใจในผลลัพธ์เรื่องจุดด่างดำมากๆ ค่ะ
ส่วนผสมสำคัญที่เขาใส่มาอย่าง Purple Tea Extract, Acerola Seed Extract, Vitamin C Derivative, และ Niacinamide นี่น่าจะเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้เห็นผลเรื่องความกระจ่างใสและลดจุดด่างดำได้ดี.
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: มือใหม่ใช้ได้สบายๆ
เซรั่มตัวนี้ใช้ง่ายมากค่ะ ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย.
- วิธีใช้: แค่กดเซรั่มออกมา 2-3 ปั๊ม วอร์มเบาๆ ที่มือก่อน แล้วค่อยๆ กดหรือลูบไล้ให้ทั่วใบหน้า ลำคอ และเนินอก. ใช้เช้า-เย็น เป็นสเต็ปก่อนลงมอยส์เจอร์ไรเซอร์.
- เนื้อสัมผัส: อย่างที่บอกว่าเนื้อบางเบา ซึมไว ไม่เหนอะหนะ. ทาแล้วสบายผิวมากก ไม่รู้สึกหนักหน้าเลย.
- ทาก่อนแต่งหน้า: สบายมากค่ะ ไม่ทำให้เครื่องสำอางเป็นคราบหรือเป็นขุยเลย. เหมือนช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นด้วยซ้ำ ทำให้แต่งหน้าง่ายขึ้น.
สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มใช้สกินแคร์ หรือเพิ่งเคยใช้เซรั่ม บอกเลยว่าตัวนี้เป็นมิตรกับผู้ใช้สุดๆ ไม่ต้องเรียนรู้อะไรเยอะ แค่ทาเป็นประจำก็เห็นผลแล้วค่ะ
5. ความคุ้มค่าในระยะยาว: ราคาแรง แต่ผลลัพธ์น่าลงทุนไหม?
มาถึงเรื่องสำคัญคือความคุ้มค่า! ยอมรับว่าราคาเปิดตัวค่อนข้างสูง. แต่ถ้ามองในระยะยาว ขวด 30 ml ใช้ได้ประมาณ 1-1.5 เดือน (ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้แต่ละครั้ง) ส่วนขวด 50 ml ก็จะใช้ได้นานกว่าค่ะ
เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ ทั้งเรื่องความกระจ่างใสที่ชัดเจน จุดด่างดำที่จางลง และผิวที่ดูสุขภาพดีขึ้น. เราว่ามันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าค่ะ ไม่ต้องไปเสียเงินทำเลเซอร์ หรือซื้อผลิตภัณฑ์ลดรอยต่างๆ มาใช้หลายตัวให้วุ่นวาย ตัวเดียวจบเอาอยู่.
แบรนด์ Clarins เองก็เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมายาวนานเรื่องส่วนผสมจากธรรมชาติและเทคโนโลยีที่น่าเชื่อถือ. ดังนั้นมั่นใจได้ในคุณภาพระดับหนึ่งค่ะ.
ถ้าเทียบกับเซรั่มลดจุดด่างดำแบรนด์ไฮเอนด์อื่นๆ ในตลาด ราคาอาจจะใกล้เคียงกัน แต่ตัวนี้มีจุดเด่นเรื่องความบางเบา ซึมไว และเหมาะกับผิวแพ้ง่ายด้วย.
6. สรุปข้อดีข้อเสีย: อะไรที่เลิฟ อะไรที่แอบติดนิดหน่อย?
หลังจากใช้มาพักใหญ่ ขอสรุปแบบตรงไปตรงมาเลยค่ะ
ข้อดี (ที่เลิฟมาก):
- เห็นผลเรื่องความกระจ่างใสและจุดด่างดำจริงจัง!. ไม่ได้มโนไปเอง!
- เนื้อเซรั่มดีงามมากก บางเบา ซึมไว สบายผิว ไม่เหนอะหนะ.
- อ่อนโยนต่อผิว ใช้แล้วไม่แพ้ ไม่ระคายเคืองเลยค่ะ.
- แพ็คเกจสวยหรู วางบนโต๊ะเครื่องแป้งแล้วเพิ่มพลังความอยากใช้.
- กลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุน ไม่เวียนหัว.
ข้อเสีย (ที่แอบคิดหนัก):
- ราคาค่อนข้างสูง. ต้องทำใจและเก็บเงินนิดนึง 😅
- ปริมาณ 30 ml อาจจะหมดเร็วไปหน่อย ถ้าใช้อย่างต่อเนื่องเช้า-เย็น
- รอยฝังลึกมากๆ อาจจะต้องใช้เวลานานขึ้น หรือใช้ร่วมกับตัวอื่นช่วย
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ซื้อเลยดีไหม? หรือรอช่วงไหนคุ้มกว่า?
เซรั่มตัวนี้เหมาะกับ:
- คนที่กังวลเรื่องความหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ.
- คนที่มีจุดด่างดำ ฝ้า กระ หรือรอยสิวที่อยากให้จางลง.
- คนที่มองหาเซรั่มที่ช่วยให้ผิวดูไบร์ท เปล่งปลั่งขึ้นแบบสุขภาพดี.
- คนที่ผิวแพ้ง่าย แต่อยากใช้เซรั่มกลุ่มไวท์เทนนิ่ง.
- คนที่พร้อมลงทุนกับสกินแคร์ดีๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
คำแนะนำในการซื้อ:
ถ้าคุณมีปัญหาตามที่กล่าวมาข้างต้นและมีงบประมาณถึง ตัวนี้คุ้มค่าที่จะลงทุนค่ะ! ผลลัพธ์เรื่องความกระจ่างใสและจุดด่างดำน่าพอใจมากๆ.
แต่ถ้ารู้สึกว่าราคาสูงไปนิด แนะนำให้รอช่วงโปรโมชั่นตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าออนไลน์ต่างๆ เช่น Central Online, King Power, Sephora หรือในแอปส้ม (Shopee) แอปน้ำเงิน (Lazada). ช่วงจัดรายการมักจะมีส่วนลด ของแถม หรือโปรโมชั่นผ่อน 0% ซึ่งจะทำให้ซื้อได้ในราคาที่คุ้มค่าขึ้นเยอะเลยค่ะ.
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: มีตัวไหนน่าสนใจอีกบ้าง? (อันนี้แถมให้!)
ในตลาดก็มีเซรั่มกลุ่มไวท์เทนนิ่งและลดจุดด่างดำหลายแบรนด์เลยค่ะ ที่เป็นที่นิยมและมักถูกนำมาเทียบกันก็เช่น:
- Kiehl's Clearly Corrective Dark Spot Solution: เป็นเซรั่มวิตามินซีที่ดังมากๆ เรื่องลดจุดด่างดำ เนื้อสัมผัสดี เห็นผลเช่นกันค่ะ แต่บางคนอาจจะรู้สึกว่าเนื้อหนักกว่า Clarins นิดหน่อย
- SK-II GenOptics Aura Essence: ตัวนี้ก็เน้นเรื่องผิวกระจ่างใส มีออร่า ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ แต่ราคาก็จะสูงกว่า Clarins ขึ้นไปอีกระดับ
- The Ordinary Alpha Arbutin 2% + HA: อันนี้มาในราคามิตรภาพสุดๆ เน้นเรื่องลดรอยดำ รอยแดง แต่เนื้ออาจจะหนืดๆ นิดนึง และผลลัพธ์เรื่องความกระจ่างใสอาจจะไม่เท่าสองตัวบน
ถ้าเทียบกับตัวอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน Clarins Bright Plus จะเด่นเรื่องเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมไว และความอ่อนโยน เหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่าย หรือคนที่ไม่ชอบสกินแคร์เนื้อหนักๆ ค่ะ.
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนมั่นใจ ได้ของแท้?
Clarins เป็นแบรนด์เคาน์เตอร์แบรนด์ที่มีชื่อเสียงค่ะ การบริการหลังการขายค่อนข้างดี
- การรับประกัน: สินค้าของแท้จากเคาน์เตอร์หรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการมักจะมีการรับประกันคุณภาพค่ะ หากมีปัญหาจากการผลิต สามารถสอบถามกับทางร้านได้เลย.
- การคืน/เปลี่ยนสินค้า: ถ้าซื้อจากห้างสรรพสินค้า เคาน์เตอร์ Clarins หรือเว็บไซต์ทางการ มักจะมีนโยบายคืนหรือเปลี่ยนสินค้าได้ตามเงื่อนไข เช่น กรณีแพ้ หรือสินค้ามีปัญหา.
- ช่องทางการซื้อ:
- เคาน์เตอร์ Clarins ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ: ได้ลองเนื้อผลิตภัณฑ์ ได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ แต่ราคาเต็มอาจจะสูงหน่อย
- เว็บไซต์ Clarins ประเทศไทยโดยตรง: มั่นใจได้ของแท้ มีโปรโมชั่นพิเศษบ่อยๆ
- ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ (Official Store) ใน Lazada, Shopee, Central Online, King Power: สะดวก มีโปรโมชั่นและส่วนลดเยอะมากก แข่งขันกันสุดๆ. บางทีมีโค้ดลดเพิ่ม หรือเงินคืนอีกด้วย.
- โปรโมชั่น: แนะนำให้ติดตามข่าวสารจากแบรนด์ หรือร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ค่ะ ช่วงเทศกาล หรือช่วง Double Day (เช่น 10.10, 11.11, 12.12) มักจะมีโปรโมชั่นเด็ดๆ ลดเยอะจนน่าสอย.
- การผ่อนชำระ: บางช่องทางออนไลน์หรือบัตรเครดิตบางประเภท อาจมีโปรโมชั่นผ่อน 0% ด้วยนะคะ.
- ค่าจัดส่งและระยะเวลา: ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่มักจะมีโปรฯ ส่งฟรี เมื่อซื้อครบยอดที่กำหนดค่ะ. ระยะเวลาจัดส่งก็แล้วแต่ร้านและพื้นที่ ส่วนใหญ่ถ้าอยู่ในกรุงเทพฯ ก็ไวอยู่นะคะ.
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ควรตำไหม?
หลังจากใช้และรีวิวมาทั้งหมด ขอฟันธงเลยว่า Clarins Bright Plus Advanced Brightening Dark Spot-Targeting Serum เป็นเซรั่มที่น่าลงทุนมาก ถ้าคุณกำลังมองหาตัวช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ และอยากได้สกินแคร์ที่อ่อนโยน เนื้อสัมผัสดี ใช้สบายผิว.
สำหรับผู้เริ่มต้นที่อยากลองใช้เซรั่มกลุ่มไวท์เทนนิ่งดีๆ ตัวนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะใช้ง่ายและไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการระคายเคือง.
แต่ถ้างบประมาณจำกัดมากๆ อาจจะต้องลองพิจารณาตัวเลือกอื่นๆ ที่ราคาย่อมเยาลงมาหน่อย หรือรอซื้อช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ จะคุ้มที่สุดค่ะ.
โดยรวมแล้ว ให้คะแนนความพึงพอใจกับผลลัพธ์มากๆ ค่ะ เป็นเซรั่มกู้หน้าหมองคล้ำที่ได้ผลจริง และใช้แล้วรู้สึกดีกับผิวมากๆ เลิฟเลยค่า!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิว Sudocrem: ครีมสารพัดประโยชน์ แก้ผื่นผ้าอ้อม สิว และปัญหาผิวต่างๆ
รีวิว MX10 Android TV Box: กล่องทีวีดูหนังฟังเพลง รุ่นเล็ก ราคาประหยัด ดีพอไหม?
รีวิว Charlotte Tilbury Magic Cream: ครีมบำรุงผิวตัวดัง ผิวอิ่มฟู ฉ่ำโกลว์จริงไหม?
รีวิว Akyra Manor Chiang Mai: โรงแรมบูติคสุดฮิปในเชียงใหม่ บรรยากาศดี น่าพักไหม?
รีวิว Adare Garden Pool Villas Pattaya: พูลวิลล่าส่วนตัว บรรยากาศดีจริงไหม?
รีวิว Brother MFC-J3930DW: ปริ้นเตอร์ Inkjet พิมพ์งานใหญ่ ฟังก์ชันครบ