รีวิว Hourglass Blush สีสวย ติดทน แพงแต่ยอมจ่าย!

สวัสดีค่ะซิส! วันนี้มารีวิวไอเทมที่เห็นแล้วต้องร้องกรี๊ดดดด! Hourglass Blush นั่นเองงงง คือจะบอกว่าน้องเค้าสีสวยมากกก ติดทนแบบเช้ายันเย็น แถมแพ็กเกจก็หรูหราจนใจเจ็บ! ถามว่าแพงไหม? ตอบเลยว่าแพง! แต่ทำไมถึงยอมจ่าย? ตามมาค่ะ จะเล่าให้ฟังแบบหมดเปลือก!

1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: สวยหรูดูแพงของจริง!

แบรนด์: Hourglass (ยืนหนึ่งเรื่องความฉ่ำวาวผิวสวย)
รุ่น: Ambient Lighting Blush (รุ่นฮิตรุ่นดังที่ทุกคนตามหา)
เปิดตัว: นานแล้วแต่ยังปังไม่หยุด! (รุ่น Ambient Lighting Powder เปิดตัวก่อน แล้วต่อยอดมาเป็นบลัชตัวนี้)
ช่วงราคา: ประมาณ 1,700 - 2,000 บาท (ราคาไทย แอบกระซิบว่า King Power มีลดราคาบ้างนะ!)

ตำแหน่งในตลาด: ลักชัวรี เมคอัพ ตัวท็อป ที่เน้นงานผิวสวยดูแพง เหมาะกับคนที่ชอบลงทุนกับเครื่องสำอางคุณภาพดี

จุดเด่นที่ต้องหวีด!

• สีสวยเป็นธรรมชาติ: ไม่ใช่แค่สีชัด แต่ละสีจะผสมชิมเมอร์เนื้อละเอียดของ Ambient Lighting Powder เข้าไปด้วย ทำให้แก้มดูมีมิติ ไม่ใช่ปื้นๆ
• ผิวดูเล่นแสง ฉ่ำโกลว์: ไม่ใช่กลิตเตอร์เม็ดเบ้อเริ่มนะ แต่เป็นความวาวแบบผู้ดี๊ผู้ดี ดูผิวสุขภาพดีเหมือนนอนครบ 8 ชั่วโมง!
• ติดทนนาน: อันนี้ยอม! ปัดเช้าอยู่ยันเย็น ไม่ต้องเติมระหว่างวันบ่อยๆ ให้เสียเวลา (แต่อาจมีบางรีวิวบอกว่ามีเฟดบ้างเล็กน้อยนะ อันนี้แล้วแต่สภาพผิวและสภาพอากาศ)
• แพ็กเกจหรูหรา: ตลับสีทอง/โรสโกลด์ ดูแพงมากกกก ถือแล้วรู้สึกเป็นเจ้าหญิง!
• เนื้อบลัชเนียนละเอียด: ปัดง่าย เบลนด์ง่าย ไม่เป็นแป้ง ไม่เป็นคราบ

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: แค่ถือก็ฟินแล้ว!

เปิดกล่องมาคือใจละลาย! ตลับบลัช Hourglass นี่เค้าทำดีจริงๆ ค่ะทุกคน เป็นสีทองเงาๆ (หรือบางคอลฯ อาจเป็นสีโรสโกลด์) ดูแข็งแรง มีน้ำหนักกำลังดี ไม่ก๊องแก๊งเลย สลักโลโก้ Hourglass ไว้ด้านบน ดูมินิมอลแต่หรูหรามาก

การออกแบบ: เรียบหรู คลาสสิก ไม่หวือหวาแต่น่ามอง
วัสดุ: ตลับโลหะเงาๆ (แต่เป็นรอยนิ้วมือง่ายนิดนึงนะ ต้องคอยเช็ดหน่อย)
ขนาดและน้ำหนัก: กำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่ไป พกใส่กระเป๋าเครื่องสำอางได้สบายๆ
สีที่มีให้เลือก: มีหลายเฉดสีเลยค่ะ ตั้งแต่ชมพู พีช คอรัล ไปจนถึงโทนม่วงพลัม (ลองเช็กสี Mood Exposure, Diffused Heat, Luminous Flush ที่ฮิตๆ ดูนะ)
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ไม่มีแปรงหรือกระจกอันใหญ่ๆ มาให้ในตลับนะคะ มีแค่ตัวบลัชเพียวๆ และกระจกในตลับพอให้ส่องได้ค่ะ

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: แก้มสวยผิวฉ่ำ เหมือนเปิดไฟให้ผิว!

หัวใจหลักของน้องคนนี้คือ "ความเล่นแสง" กับ "ความติดทน" ค่ะ

ตอนปัดลงไปครั้งแรก จะรู้สึกว่าเนื้อเค้าเนียนละเอียดมากกกก ปัดง่าย ไม่ต้องกลัวเป็นปื้น สีที่ได้จะเป็นธรรมชาติมากๆ เหมือนเลือดฝาดจริงๆ ไม่ใช่สีโดดๆ ออกมา ที่ว้าวคือแสงที่ตกกระทบแก้ม! มันไม่ใช่ชิมเมอร์เม็ดหยาบๆ ที่เห็นชัด แต่เป็นความละเอียดที่ทำให้ผิวดูโกลว์ ดูสุขภาพดี เหมือนเพิ่งไปวิ่งมาแล้วแก้มอมชมพูระเรื่อๆ

ลองแต่งหน้าไปทำงานตั้งแต่เช้า ยันเลิกงานค่ำๆ แก้มก็ยังดูมีสีอยู่! อาจจะมีเฟดไปบ้างตามสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย (ถ้าวันไหนเจออากาศอบอ้าวมาก อาจจะต้องมีซับหน้าบ้าง แต่สีบลัชก็ยังอยู่) ถือว่าสอบผ่านเรื่องความติดทนเลยค่ะ!

ใช้งานง่ายไหม? มือใหม่ก็รอด!

บอกเลยว่าใช้ง่ายมากกกกค่ะ แค่ใช้แปรงบลัชวนๆ ที่ตลับ แล้วเคาะส่วนเกินออกนิดหน่อย ก็เอามาปัดที่แก้มได้เลย เนื้อบลัชเค้าเบลนด์ง่าย ไม่ต้องใช้เทคนิคอะไรพิเศษ มือใหม่หัดแต่งหน้าก็ใช้ได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวพลาด ปัดแล้วไม่เป็นคราบ ผิวดูเนียนขึ้นด้วยซ้ำ!

4. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: แพงแต่ใช้ได้นาน!

เรื่องความคุ้มค่า Hourglass Ambient Lighting Blush เค้าไม่ได้เน้นเรื่องแบตเตอรี่หรือพลังงานอยู่แล้วค่ะ (ก็เป็นบลัชออนเนอะ)

แต่ถ้าพูดถึงความคุ้มค่าในระยะยาวกับราคาเกือบสองพัน ต้องบอกว่า

• ใช้ได้นานมากกก: ด้วยความที่เม็ดสีเค้าชัดพอสมควร (แม้จะให้ลุคธรรมชาติ) ทำให้ใช้แค่นิดเดียวก็พอแล้ว ตลับนึงใช้ได้เป็นปีๆ เลยค่ะ บางคนใช้มา 5 ปีแล้วก็ยังโอเคอยู่เลย ถ้าเก็บดีๆ
• คุณภาพคงที่: คุณภาพของบลัชยังคงดี ไม่ได้เสื่อมสภาพง่ายๆ เหมือนพวกลิควิดหรือครีมบลัช

เมื่อเทียบกับบลัชราคาถูกที่อาจจะต้องปัดซ้ำหลายรอบ หรือสีเฟดเร็วกว่า ทำให้ต้องใช้ปริมาณเยอะและหมดไว การลงทุนกับ Hourglass ตลับนึงที่ใช้ได้นานมากๆ ก็ถือว่าคุ้มค่านะคะ ตกเฉลี่ยต่อวันอาจจะไม่ได้แพงอย่างที่คิด

5. สรุปข้อดีข้อเสีย: มีรักก็มีเกลียดนิดๆ!

ข้อดีที่ทำให้ยอมจ่าย!

• สีสวยละมุน เป็นธรรมชาติมากกก: เหมือนแก้มอมชมพูจากภายใน
• ผิวดูฉ่ำโกลว์ สุขภาพดี: ไม่ใช่ชิมเมอร์หยาบๆ แต่เป็นความวาวแบบผู้ดี๊ผู้ดี
• ติดทนนาน: แต่งเช้าอยู่ยันเย็น ไม่ต้องคอยเติม
• แพ็กเกจหรูหราขั้นสุด: ถือแล้วฟิน แค่วางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งก็สวยแล้ว
• เนื้อเนียนละเอียด ปัดง่าย เบลนด์ง่าย: มือใหม่ก็ใช้ได้สบายๆ

ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเลใจ:

• ราคาแรงมากกก: อันนี้ข้อใหญ่สุดเลยค่ะ ต้องทำใจก่อนกดเงินจ่าย!
• เฉดสีอาจจะไม่ได้หลากหลายเท่าแบรนด์อื่น: ถ้าต้องการสีแปลกๆ แหวกแนว อาจจะต้องดูแบรนด์อื่นเสริม
• ความเล่นแสงอาจจะไม่ชัดมากสำหรับคนผิวเข้ม: บางเฉดสีอาจจะต้องบิ้วเยอะหน่อยถึงจะเห็นชัดบนผิวโทนแทน
• ตลับเป็นรอยนิ้วมือง่าย: ใครที่ชอบความเป๊ะอาจจะต้องพกผ้าเช็ดตลับไปด้วยค่ะ

6. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ถ้าเงินถึง...จัดเลย!

เหมาะกับใคร?

• คนรักงานผิว: ชอบให้ผิวดูสวย ดูโกลว์แบบธรรมชาติ Hourglass ตอบโจทย์มาก
• คนที่ต้องการบลัชติดทน: ไม่ชอบเติมหน้าระหว่างวันบ่อยๆ
• คนที่ชอบแบรนด์ลักชัวรี: เน้นคุณภาพและแพ็กเกจจิ้งที่ดูดี
• คนที่แต่งหน้าเป็นประจำ: ใช้บลัชทุกวัน ลงทุนกับตัวนี้ถือว่าคุ้มในระยะยาว

ควรซื้อเลยไหม? หรือรอโปรดีกว่า?

ถ้างบถึงและอยากได้บลัชดีๆ สักตลับที่ใช้ได้นานๆ คุณภาพแน่นๆ ซื้อเลยค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอน! แต่ถ้าอยากเซฟงบหน่อย แนะนำให้รอช่วงโปรโมชั่นของห้างสรรพสินค้า หรือในออนไลน์อย่าง Sephora, King Power อาจจะมีลดราคา หรือมีของแถมคุ้มๆ ได้ราคาดีกว่าค่ะ

เทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: น้องต่างจากคนอื่นยังไง?

ถ้าเทียบกับบลัชออนแบรนด์อื่นในตลาด Hourglass Ambient Lighting Blush จะเด่นกว่าตรงที่เค้าผสม Ambient Lighting Powder เข้ามา ทำให้ฟินิชที่ได้มันไม่ใช่แค่สี แต่เป็น "แสง" ที่ทำให้ผิวดูสวย ดูมีมิติ ไม่ใช่บลัชเนื้อแมตต์ หรือบลัชที่มีแต่ชิมเมอร์หยาบๆ

บลัชของ NARS อาจจะสีชัด ติดทน แต่ฟินิชก็ต่างกันไป Hourglass จะให้ความธรรมชาติกว่า ไม่ได้ดู "บลัช" ขนาดนั้น แต่ดูเหมือนผิวดีมาตั้งแต่เกิด

7. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ช้อปง่ายหลายช่องทาง!

Hourglass เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในระดับสากลค่ะ การรับประกันสินค้าต่างๆ จะเป็นไปตามนโยบายของร้านค้าหรือเคาน์เตอร์ที่เราซื้อมา

ช่องทางการซื้อหลักๆ ในไทย:

• Sephora: มีทั้งหน้าร้านและออนไลน์
• เคาน์เตอร์ Hourglass ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ: ลองเช็กดูตามสาขาห้างใหญ่ๆ ค่ะ
• King Power: สำหรับคนที่มีแผนเดินทางไปต่างประเทศ ซื้อที่ King Power มักจะได้ราคาดีกว่า แถมมีโปรบ่อยๆ
• ร้านค้าออนไลน์อื่นๆ (Lazada, Shopee): มีร้านค้า Official หรือร้านที่รับหิ้ว/นำเข้า ต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือนะคะ

โปรโมชั่น/สิทธิพิเศษ:

• ช่วงจัดรายการของห้าง หรือโปรโมชั่นใหญ่ๆ ของ Sephora หรือ King Power มักจะมีส่วนลด
• บางร้านในออนไลน์อาจจะมีโค้ดส่วนลด, เงินคืน (Cashback) หรือผ่อนชำระ 0% ได้ด้วย
• เช็กเรื่องค่าจัดส่งดีๆ บางร้านอาจจะมีโปรส่งฟรีเมื่อยอดถึงกำหนดค่ะ

ระยะเวลาการจัดส่งก็ขึ้นอยู่กับร้านค้าและพื้นที่ค่ะ ถ้าซื้อจากร้านในประเทศก็มักจะได้รับสินค้าภายใน 1-3 วันทำการ

8. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: แพงแต่คุ้มค่าการลงทุน!

หลังจากที่ได้ลองใช้ Hourglass Ambient Lighting Blush มาพักใหญ่ ต้องบอกว่าประทับใจมากๆ ค่ะ

ถ้าถามว่า "ควรซื้อไหม?" สำหรับเราที่มีงบประมาณและอยากได้บลัชที่ให้ฟินิชผิวสวยเป็นธรรมชาติ ติดทนนาน แพ็กเกจจิ้งดีงาม แนะนำให้ซื้อเลยค่ะ!

มันเหมาะมากๆ กับคนที่:

• อยากได้บลัชที่ปัดแล้วผิวดูสวย ดูแพง: ไม่ได้แค่สี แต่เป็นความเล่นแสงที่ทำให้ผิวดูมีออร่า
• ขี้เกียจเติมหน้าระหว่างวัน: ปัดทีเดียวจบ อยู่ได้ทั้งวัน
• พร้อมลงทุนกับไอเทมคุณภาพดีที่ใช้ได้นาน: แม้ราคาจะสูงแต่แลกมากับคุณภาพและความทนทาน

แต่ถ้าคุณเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มแต่งหน้า งบน้อย หรือชอบเปลี่ยนบลัชไปเรื่อยๆ อาจจะลองดูตัวอื่นที่ราคาเป็นมิตรกว่านี้ก่อนก็ได้ค่ะ หรือถ้าอยากลองจริงๆ อาจจะเริ่มจากขนาด Travel Size ที่ราคาจะเบาลงมาหน่อย จะได้ลองใช้ดูก่อนว่าชอบฟินิชแบบนี้จริงๆ ไหม

ส่วนตัวคือ "แพงแต่ยอมจ่าย" จริงๆ ค่ะ เพราะคุณภาพกับผลลัพธ์ที่ได้มันเกินราคาไปมากโข!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• Hourglass บลัชแพงที่สุด สวยจบครบในอันเดียว
• รีวิวบรัชน้ำ Hourglass สี Vision และ Whim ที่สุดแห่งความไวรัล
• รีวิวบลัชออน Hourglass ที่ Sephora
• Blush Hourglass Mood Exposure สีตุ่นสุดสวย
• ไม่ซื้อพาเลท Hourglass รีวิวบิวตี้ คำแนะนำการใช้งาน