เครื่องดูดฝุ่น Roomba i7+: ราคาปัจจุบัน ปี 2568 คุ้มค่ากับการลงทุนไหม?

สวัสดีค่าาา พ่อบ้านแม่บ้านยุคใหม่ หรือใครที่กำลังมองหาตัวช่วยทำความสะอาดบ้านแบบที่ไม่ต้องเปลืองแรงเยอะ! วันนี้เราจะมาเจาะลึก เครื่องดูดฝุ่นหุ่นยนต์ Roomba i7+ ที่มาพร้อมแท่นเก็บฝุ่นสุดล้ำ ในปี 2568 นี้ ราคามันเป็นยังไง แล้วยังน่าโดนอยู่ไหม คุ้มค่ากับการลงทุนมั้ย มาเม้าท์มอยกันแบบไม่มีกั๊กไปเลยจ้า!

1. เจ้า Roomba i7+ นี่มันคืออะไรกันแน่?

เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับพระเอกของเรากันก่อน iRobot Roomba i7+ เนี่ย มันคือหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ ที่ไม่ได้แค่ดูดฝุ่นธรรมดานะจ๊ะ แต่มันมาพร้อมกับฟีเจอร์เด็ดที่เรียกว่า Clean Base™ Automatic Dirt Disposal หรืออธิบายง่ายๆ คือ "แท่นเก็บฝุ่นอัตโนมัติ" นั่นเอง! คือพอเจ้า Roomba เค้าดูดฝุ่นจนเต็มถัง หรือทำความสะอาดเสร็จแล้ว เค้าก็จะวิ่งกลับแท่นชาร์จ แล้วแท่นเนี่ยแหละจะดูดเอาฝุ่นจากตัวหุ่นไปเก็บไว้ในถุงเก็บฝุ่นที่แท่นต่ออีกที สบายเวอร์ ไม่ต้องคอยแกะกล่องฝุ่นไปทิ้งบ่อยๆ เลย

เหมาะกับใครน่ะเหรอ? เหมาะสุดๆ กับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาทำความสะอาดบ้าน หรือคนที่เป็นภูมิแพ้ ไม่อยากสัมผัสฝุ่นโดยตรง หรือบ้านไหนมีสัตว์เลี้ยง ขนเยอะๆ นี่เลิฟเลย เพราะมันช่วยเก็บขนสัตว์ได้ดีงามมาก ตัวแบรนด์ iRobot เค้าเป็นแบรนด์เก่าแก่จากประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นผู้บุกเบิกวงการหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเลยนะ มีประวัติยาวนาน แถมยังมีเทคโนโลยีเป็นของตัวเองเยอะแยะมากมาย การันตีความเก๋าและความน่าเชื่อถือได้เลยจ้า

2. ราคาปัจจุบัน ปี 2568 ในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องสำคัญที่หลายคนรอฟัง! สำหรับ Roomba i7+ ในปี 2568 นี้ ต้องบอกว่ามันเป็นรุ่นที่ออกมาได้สักพักแล้วนะ เพราะฉะนั้นราคาในตลาดตอนนี้จะไม่ได้สูงเท่าตอนเปิดตัวใหม่ๆ เลยจ้า จะเห็นส่วนลดเยอะมาก! จากที่ส่องๆ ดูตามแพลตฟอร์มออนไลน์และร้านค้าต่างๆ ในไทย ราคาจะค่อนข้างหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงประมาณ 20,000 บาทปลายๆ ไปจนถึง 40,000 บาทต้นๆ (฿) นะ ซึ่งถ้าเทียบกับราคาเปิดตัวตอนแรกๆ ที่เกือบห้าหมื่นหรือห้าหมื่นกว่าบาท ถือว่าลดลงมาเยอะเลยทีเดียว

ลองไปดูตามแหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตอย่าง Lazada หรือ Shopee นะ จะมีร้าน Official ของ iRobot หรือร้านค้าใหญ่ๆ ที่นำเข้ามาขาย ลองเทียบราคาดู ส่วนตามร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ อย่าง Central Online หรือ Power Buy ก็มีขายเหมือนกัน ราคาอาจจะต่างกันไปบ้างในแต่ละช่วง แล้วแต่โปรโมชั่นของร้านนั้นๆ เลยจ้า ที่สำคัญคือเช็คให้ดีว่าเป็นรุ่น i7+ ที่มีแท่น Clean Base™ มาด้วยนะ เพราะตัว i7 เฉยๆ จะไม่มีแท่นจ้า

3. เทียบราคากับรุ่นอื่น ยี่ห้ออื่น แล้วน่าสนไหม?

ถ้าเอา Roomba i7+ มาเทียบกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ๆ ที่เพิ่งออกมา หรือรุ่นท็อปของยี่ห้ออื่นๆ ในตลาดตอนนี้เนี่ย แน่นอนว่ารุ่นใหม่กว่า ฟังก์ชันอาจจะล้ำกว่า (เช่น มีระบบถูพื้นในตัว หรือหลบสิ่งกีดขวางได้ฉลาดขึ้น) แต่ราคาก็จะแรงกว่า Roomba i7+ ที่ลดราคาอยู่ในปัจจุบันเยอะเลยนะ

เมื่อเทียบกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นแบรนด์อื่นๆ ในราคาใกล้เคียงกัน อาจจะต้องมาดูฟังก์ชันหลักที่เราต้องการ ถ้าเราเน้นเรื่อง การดูดฝุ่นที่ทรงพลัง มีระบบสร้างแผนที่อัจฉริยะที่วิ่งเป็นระเบียบ ไม่มั่วซั่ว และที่สำคัญคือ อยากได้แท่นเก็บฝุ่นอัตโนมัติ เพื่อความสบายขั้นสุด Roomba i7+ ถือว่าสอบผ่านและเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ในช่วงราคาประมาณนี้เลยนะ บางยี่ห้อในราคานี้อาจจะยังไม่มีแท่นเก็บฝุ่น หรือระบบนำทางอาจจะยังไม่ฉลาดเท่า Roomba i7+ จ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง? มีประกันให้รึเปล่า?

ส่วนใหญ่แล้ว ถ้าซื้อ Roomba i7+ แบบครบชุดพร้อมแท่น Clean Base™ จะได้ของมาประมาณนี้จ้า :

• ตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Roomba i7+
• แท่นชาร์จและแท่นกำจัดขยะอัตโนมัติ Clean Base™
• ถุงเก็บฝุ่นสำหรับแท่น Clean Base™ (ปกติจะมีมาให้ 2 ถุง)
• สายไฟ
• ฟิลเตอร์กรองฝุ่นสำรอง (มักจะมีมาให้ 1 อัน)
• แปรงปัดขอบ/มุมสำรอง (มักจะมีมาให้ 1 อัน)
• บางทีอาจจะมี Virtual Wall Barrier (ตัวสร้างกำแพงเสมือน) มาให้ด้วย แล้วแต่โปรโมชั่นหรือร้านค้า

เรื่อง การรับประกัน คนไทยอย่างเราให้ความสำคัญมาก! ปกติแล้วสินค้า iRobot ที่นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย จะมีการรับประกันตัวเครื่องและแบตเตอรี่ อย่างน้อย 1 ปี นะจ๊ะ แต่รายละเอียดเงื่อนไขการรับประกันต้องลองเช็คกับร้านค้าที่ซื้ออีกทีนึงนะ เพราะบางร้านอาจจะมีประกันเพิ่มให้ หรือมีบริการหลังการขายอื่นๆ ที่แตกต่างกันไป

ส่วนเรื่อง ค่าขนส่ง ถ้าซื้อจากร้านค้า Official หรือแพลตฟอร์มใหญ่ๆ ส่วนใหญ่มักจะมีโปรโมชั่น จัดส่งฟรี อยู่แล้วจ้า สะดวกสบายไปอีก!

5. ช่วงไหนน่าซื้อ มีโปรโมชั่นเด็ดๆ ไหมนะ?

ถ้าจะให้ดีและคุ้มสุดๆ ต้องบอกเลยว่า ช่วงจัดโปรโมชั่นใหญ่ๆ นี่แหละคือเวลาทอง! โดยเฉพาะเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ยอดฮิตของไทย เช่น 11.11, 12.12 ที่ Lazada กับ Shopee เค้าจัดหนักจัดเต็มลดกระหน่ำ หรือจะเป็นช่วงเทศกาลสำคัญอื่นๆ อย่าง สงกรานต์ หรือ โปรโมชั่นปีใหม่ ก็มีโอกาสที่ Roomba i7+ จะมีส่วนลดพิเศษออกมา

แนะนำให้กดติดตามร้านค้า Official ของ iRobot หรือร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ ใน Lazada หรือ Shopee ไว้เลย เพราะร้านพวกนี้มักจะมีโปรโมชั่น มีโค้ดส่วนลดออกมาเรื่อยๆ นะจ๊ะ การซื้อในช่วงโปรโมชั่นเนี่ย ช่วยเซฟเงินในกระเป๋าไปได้เยอะเลยแหละ!

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง?

จากที่ไปแอบส่องรีวิวของคนไทยที่เคยใช้ Roomba i7+ มาเนี่ย ฟีดแบ็กส่วนใหญ่ค่อนข้างไปในทางที่ดีเลยนะ จุดที่คนไทยชอบและพูดถึงบ่อยๆ ก็คือ:

• ความสะดวกสบายจากแท่นเก็บฝุ่น: อันนี้คือจุดขายหลักเลย คนใช้แล้วบอกว่าชีวิตง่ายขึ้นเยอะ ไม่ต้องคอยเทฝุ่นบ่อยๆ เป็นอะไรที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่สุดๆ
• ระบบสร้างแผนที่และการนำทางที่ฉลาด: หุ่นยนต์วิ่งเป็นระเบียบ เรียบร้อย ทำความสะอาดทั่วถึงจำแผนที่บ้านได้ดี
• เก็บขนสัตว์ได้ดีเยี่ยม: บ้านไหนมีน้องหมาน้องแมว จะแฮปปี้มาก เพราะ Roomba i7+ จัดการขนสัตว์ได้สบายๆ
• ทำความสะอาดได้หลากหลายพื้นผิว: ไม่ว่าจะเป็นพื้นไม้ พื้นกระเบื้อง หรือพรม ก็ทำความสะอาดได้ดี
• ควบคุมง่ายผ่านแอป: ตั้งเวลา สั่งทำความสะอาด เลือกห้องได้สะดวกผ่านแอปบนมือถือ

แต่ก็มีบางคนพูดถึงเรื่อง เสียง ตอนที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเข้าไปที่แท่นเพื่อเทฝุ่นว่าเสียงค่อนข้างดังอยู่เหมือนกัน อันนี้ก็เป็นจุดที่ต้องพิจารณาถ้าที่บ้านต้องการความเงียบมากๆ จ้า แต่โดยรวมแล้ว คนที่เน้นความสะดวกและประสิทธิภาพในการดูดฝุ่น รวมถึงฟีเจอร์แท่นเก็บฝุ่นอัตโนมัติ มักจะบอกว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปนะ

7. จะไปหาซื้อได้ที่ไหนดีนะ?

สำหรับ Roomba i7+ ช่องทางหลักๆ ที่แนะนำให้ไปตำ ก็จะมี:

• เว็บไซต์ iRobot Thailand โดยตรง: อันนี้ชัวร์สุด ได้ของแท้ มีการรับประกันและบริการหลังการขายตามมาตรฐาน
• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ (Shopee, Lazada): มองหาร้านค้า Official Store หรือร้านที่น่าเชื่อถือ ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ มีโปรโมชั่น ส่วนลด และมักจะจัดส่งฟรี ข้อควรระวังคือต้องเช็คเครดิตร้านและอ่านรีวิวผู้ขายให้ดีจ้า
• ร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่: เช่น Power Buy, Central สามารถไปดูสินค้าจริง สอบถามพนักงานได้ มีโปรโมชั่นผ่อนชำระกับบัตรเครดิตต่างๆ แต่ราคาอาจจะไม่ได้ถูกเท่าซื้อออนไลน์ช่วงจัดโปรฯ

เลือกช่องทางที่สะดวกและมั่นใจได้เลยจ้า แต่ถ้าเน้นราคาคุ้มๆ แนะนำให้ส่องออนไลน์ช่วงโปรโมชั่นนะ!

8. สรุปแล้ว Roomba i7+ ในปี 2568 คุ้มค่าไหม? เหมาะกับใคร?

ฟันธงไปเลยว่า Roomba i7+ ในปี 2568 ยังถือว่าคุ้มค่ามากๆ เลยนะ ถ้าดูจากฟังก์ชันหลักที่ได้คือ เป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ฉลาด มีระบบสร้างแผนที่ ทำความสะอาดได้ดี และมีแท่นเก็บฝุ่นอัตโนมัติ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ชีวิตสบายขึ้นเยอะจริงๆ

เหมาะสุดๆ สำหรับ:

• คนที่ อยากได้ความสะดวกสบายขั้นสุด จากการทำความสะอาดบ้าน ไม่อยากเทฝุ่นบ่อยๆ
• บ้านที่มี สัตว์เลี้ยง และต้องการตัวช่วยจัดการขนอย่างจริงจัง
• คนที่ เป็นภูมิแพ้ และอยากลดการสัมผัสฝุ่น
• คนที่ มีงบประมาณระดับกลางถึงสูง และมองหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีฟังก์ชันครบครัน ไม่ใช่แค่ดูดฝุ่นพื้นฐาน

ถ้าคุณไม่ได้ต้องการฟังก์ชันล่าสุดแบบตัวท็อปสุดๆ เช่น ระบบถูพื้นในตัว หรือการหลบสิ่งกีดขวางที่ล้ำกว่านี้มากๆ แต่เน้นประสิทธิภาพการดูดฝุ่น ฟังก์ชันอัจฉริยะ และความสะดวกจากแท่นเก็บฝุ่นอัตโนมัติในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้นกว่าตอนเปิดตัว Roomba i7+ คือตัวเลือกที่น่าลงทุนมากๆ ในปีนี้เลยจ้า!

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะทุกคน ขอให้ได้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นคู่ใจไปช่วยให้บ้านสะอาดแบบสบายๆ กันนะจ๊ะ บ๊ายบาย!