ราคาลิปสติก Huda Beauty ของแท้ รุ่นยอดนิยม สีไหนขายดี

สวัสดีค่าาา สาวๆ นักช้อปขาช้อปทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องลิปสติกตัวปัง ตัวแม่ ที่เรียกได้ว่าใครเป็นสายเมคอัพต้องรู้จัก นั่นก็คือ Huda Beauty นั่นเองงงง! แบรนด์นี้เค้าดังระเบิดเถิดเทิงมาจากฝั่งตะวันตก ก่อตั้งโดยบิวตี้บล็อกเกอร์และเมคอัพอาร์ติสต์ชื่อดัง คุณ Huda Kattan ที่เริ่มต้นจากการรีวิวและสอนแต่งหน้าบนโซเชียลจนโด่งดังไปทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ของ Huda Beauty เค้าขึ้นชื่อเรื่องเม็ดสีแน่น คุณภาพดี และแพ็คเกจจิ้งเริ่ดๆ ที่เห็นแล้วใจสั่นกระเป๋าตังค์สั่นไปหมด โดยเฉพาะลิปสติกนี่คือไอเทมตัวท็อปที่หลายคนเลิฟเลย ใครที่กำลังเล็งๆ อยากสอยลิป Huda Beauty มาลอง หรืออยากรู้ว่าสีไหน รุ่นไหนฮิต ราคาเท่าไหร่ มามุงทางนี้เลยจ้า รับรองว่าได้ข้อมูลไปแบบเต็มๆ ไม่มีกั๊ก!

1. ลิปสติก Huda Beauty มันคืออะไร มีรุ่นไหนบ้างนะ?

ลิปสติก Huda Beauty เนี่ย เค้ามีหลายรุ่นหลายเนื้อให้เลือกตามความชอบเลยนะ แต่รุ่นที่ฮิตๆ เป็นตำนาน และหลายคนพูดถึงก็ต้องยกให้ Liquid Matte Ultra-Comfort Transfer-Proof Lipstick ลิปจิ้มจุ่มเนื้อแมตต์ในตำนาน ที่เคลมว่าติดทนแบบจูบไม่หลุด เม็ดสีแน่น กลบสีปากได้มิด ให้ฟินิชแบบแมตต์สวย แต่ยังรู้สึกสบายปาก ไม่แห้งผากจนเกินไป เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ชอบลิปแมตต์ติดทน อยากได้สีชัดๆ จัดเต็ม หรือใครที่ต้องใส่แมสก์แล้วกลัวลิปเลอะเทอะ รุ่นนี้เค้าบอกว่า Transfer-Proof ด้วยนะ!

อีกรุ่นที่ได้รับความนิยมคือ Power Bullet - Matte Lipstick อันนี้เป็นลิปสติกแบบแท่งเนื้อแมตต์ ที่ให้สีชัดเจนเหมือนกัน แต่จะมีความทาง่ายกว่าลิปจิ้มจุ่มหน่อย ให้ฟินิชแมตต์สวยงาม

นอกจากนี้ยังมีรุ่น Demi Matte Cream Lipstick ที่ให้ความรู้สึกสบายปาก ชุ่มชื้นกว่าเนื้อแมตต์ ให้ฟินิชแบบซาตินๆ ดูอิ่มเอิบหน่อยๆ

กลุ่มผู้ใช้หลักๆ ของลิป Huda Beauty ก็คือคนที่ชื่นชอบการแต่งหน้า อยากได้ลิปสติกคุณภาพดี เม็ดสีแน่น มีเฉดสีให้เลือกเยอะ โดยเฉพาะเฉดสีที่เหมาะกับสไตล์ "สายฝอ" หรือการแต่งหน้าสไตล์ตะวันตกที่เน้นความชัดเจนของสีปากนั่นเองจ้า

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้! ราคาลิปสติก Huda Beauty ในไทยเนี่ย ส่วนใหญ่ก็จะเจออยู่ที่ Sephora ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ กับร้านค้าทางการบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee

• สำหรับรุ่นยอดฮิต Liquid Matte Ultra-Comfort Transfer-Proof Lipstick ราคาใน Sephora จะอยู่ที่ประมาณ ฿1,050 บาท ส่วนใน Lazada/Shopee ร้านทางการหรือร้านที่น่าเชื่อถือราคาก็จะใกล้เคียงกัน อาจจะมีช่วงโปรโมชั่นที่ลดลงมาหน่อย หรือเจอไซส์มินิที่ราคาถูกลงไปอีก อยู่ที่ประมาณ ฿890 - ฿1,050 บาท สำหรับไซส์ปกติ (แต่ก็มีบางร้านที่ตั้งราคาสูงกว่านี้ก็มีนะ ต้องเลือกดีๆ)
• รุ่น Power Bullet - Matte Lipstick ราคาใน Sephora อยู่ที่ประมาณ ฿1,200 บาท ส่วนตามร้านใน Shopee ราคาจะค่อนข้างหลากหลายมาก ตั้งแต่หลักร้อยปลายๆ ถึงพันกลางๆ ซึ่งอาจจะต้องเช็คให้ดีว่าเป็นของแท้จากร้านที่เชื่อถือได้หรือเปล่า
• รุ่น Demi Matte Cream Lipstick ราคาจะอยู่ที่ประมาณ ฿1,200 - ฿1,250 บาท โดยประมาณนะ

โดยรวมแล้วราคาในไทยก็จะอยู่ในช่วงประมาณ หนึ่งพันบาทต้นๆ ต่อแท่ง ซึ่งก็ถือเป็นลิปสติกในกลุ่ม High-End หรือ Premium Makeup เลยนะ ถ้าเทียบกับราคาในเว็บไซต์หลักของ Huda Beauty ที่เป็นสกุลเงิน USD แล้วนำมาแปลงเป็นเงินบาทไทย ราคาในไทยก็ถือว่าไม่ได้แตกต่างกันมากนัก อาจจะมีบวกค่าภาษี ค่าขนส่ง หรือการตลาดเข้ามานิดหน่อย ถือว่าสมเหตุสมผลกับแบรนด์และคุณภาพจ้า

3. เปรียบเทียบราคากับแบรนด์อื่นแล้วคุ้มไหม?

ถ้าให้เทียบราคาลิปสติก Huda Beauty กับแบรนด์ High-End อื่นๆ ที่ขายในไทย อย่าง MAC, Anastasia Beverly Hills, Fenty Beauty หรือ NARS เนี่ย ราคาของ Huda Beauty ก็จะอยู่ในช่วงที่ใกล้เคียงกันเลยนะ แบรนด์เหล่านี้ลิปสติกแท่งนึงก็พันกว่าบาทเหมือนกัน การเลือกว่าจะซื้อแบรนด์ไหนก็จะขึ้นอยู่กับความชอบในเนื้อสัมผัส เฉดสี และความฟินิชของลิปสติกมากกว่า

Huda Beauty เค้าจะโดดเด่นเรื่องเม็ดสีที่แน่นสะใจ และสูตรลิควิดแมตต์ที่ติดทนสุดๆ ถ้าคุณเป็นคนที่เน้นความติดทน สีชัดเป๊ะ แบบ "สายฝอ" ตัวจริง Huda Beauty ก็ถือว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปแน่นอนจ้า แต่ถ้าชอบเนื้อสัมผัสที่บางเบา หรือมีเฉดสีที่ถูกใจในแบรนด์อื่นมากกว่า ก็อาจจะลองดูตัวเลือกอื่นได้

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง? มีประกันหรือเปล่า?

เวลาซื้อลิปสติก Huda Beauty สิ่งที่คุณจะได้มาหลักๆ ก็คือ ตัวลิปสติก นั่นแหละจ้า! พวกอุปกรณ์เสริมพิเศษๆ หรือของแถมแบบจัดเต็มอาจจะไม่ได้มีมาให้เป็นปกติเหมือนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์นะ

• ค่าจัดส่ง: ถ้าซื้อออนไลน์จาก Sephora หรือร้านทางการบน Lazada/Shopee ส่วนใหญ่จะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนด อันนี้สะดวกมากๆ ไม่ต้องเสียค่าส่งเพิ่ม
• การรับประกัน: ลิปสติกเป็นเครื่องสำอางเนอะ ปกติจะ ไม่มีการรับประกัน เหมือนพวกอุปกรณ์ไฟฟ้าจ้า แต่อาจจะมีนโยบายการคืนสินค้าหากสินค้ามีปัญหา หรือไม่ใช่ของแท้ อันนี้ต้องเช็คกับร้านค้าที่คุณซื้อโดยตรงนะ โดยเฉพาะถ้าซื้อจากร้านที่ไม่ใช่ร้านทางการ ควรเช็คนโยบายให้ดีๆ
• ของแถม/คูปอง/โปรโมชั่น: อันนี้แหละคือความฟิน! เวลาซื้อช่วงที่มีโปรโมชั่นพิเศษๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือที่ Sephora อาจจะมี ของแถม เป็นไซส์มินิของผลิตภัณฑ์อื่นๆ จาก Huda Beauty หรือแบรนด์อื่นๆ มี คูปองส่วนลด ให้เก็บไปใช้ได้ หรือมี โปรโมชั่นลดราคาพิเศษ สำหรับบางรุ่นบางสี อันนี้ต้องคอยติดตามข่าวสารจาก Sephora และร้านค้าทางการของ Huda Beauty บน Lazada/Shopee ดีๆ เลยจ้า

5. ช่วงไหนน่าซื้อที่สุด? มีโปรโมชั่นเด็ดไหม?

ถ้าอยากได้ลิป Huda Beauty ในราคาดีๆ คุ้มค่าที่สุด ต้องบอกเลยว่า ช่วงโปรโมชั่น นี่แหละคือโอกาสทองจ้า! แบรนด์ High-End แบบนี้ปกติเค้าไม่ค่อยลดราคาสะเปะสะปะเท่าไหร่ แต่จะมีช่วงที่จัดหนักจัดเต็มเป็นพิเศษ เช่น:

• ช่วง Double Digit Sale: ไม่ว่าจะเป็น 11.11, 12.12 ที่ Lazada และ Shopee เค้าจัดแคมเปญใหญ่ประจำปี ช่วงนี้ร้านค้าทางการของ Huda Beauty บนแพลตฟอร์มเหล่านี้มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาพิเศษ หรือมีโค้ดส่วนลดเพิ่มให้ใช้ได้
• โปรโมชั่นของ Sephora: Sephora เค้าก็มีโปรโมชั่นเรื่อยๆ นะ ทั้งลดราคาเฉพาะแบรนด์ หรือลดทั้งร้านในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ลองติดตามข่าวสารจาก Sephora Thailand ดูจ้า
• ช่วงเทศกาลไทย: บางทีช่วงเทศกาลอย่าง สงกรานต์ หรือช่วงปลายปีต่อเนื่องปีใหม่ ก็อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษจากร้านค้าต่างๆ ได้เหมือนกัน

นอกจากนี้ ร้านค้าทางการบน Lazada และ Shopee มักจะมีโปรโมชั่น ลดราคาบ่อย กว่าหน้าร้านปกติ หรือมี Flash Sale เป็นบางครั้ง แนะนำว่าถ้าไม่ได้รีบใช้มากๆ อดใจรอซื้อช่วงโปรโมชั่น ดีกว่าจ้า มีโอกาสได้ของแถมหรือส่วนลดแบบคุ้มๆ แน่นอน!

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไง? สีไหนขายดีเป็นพิเศษ?

จากที่ส่องๆ ดูรีวิวจากผู้ใช้ในไทยเนี่ย เสียงตอบรับเกี่ยวกับลิปสติก Huda Beauty ค่อนข้างดีเลยนะ โดยเฉพาะรุ่น Liquid Matte ที่หลายคนประทับใจในเรื่อง:

• เม็ดสีแน่นชัดเจน: ทาทีเดียวคือสีติดเป๊ะ กลบสีปากเดิมได้มิด
• ติดทนดี: หลายคนคอนเฟิร์มว่าติดทนจริง ทานข้าว ดื่มน้ำ ก็ยังอยู่รอด ไม่ค่อยหลุดเลือน
• สบายปากกว่าที่คิด: แม้จะเป็นเนื้อแมตต์ แต่หลายคนบอกว่าไม่ได้แห้งผากจนรู้สึกไม่สบายปาก
• แพ็คเกจจิ้งสวย: อันนี้เป็นอีกจุดที่หลายคนชอบ ถือแล้วดูแพง ดูปัง

ส่วนเรื่อง สีที่ขายดี หรือเป็นที่นิยมในหมู่คนไทยสายฝอ ก็ต้องยกให้ สี Trendsetter เลยจ้า สีนี้เป็นสีนู้ดน้ำตาลที่ฮิตมากๆ ทาแล้วได้ลุคสายฝอแบบถูกต้อง! แต่ก็มีรีวิวบางส่วนที่บอกว่าสีนี้พอทาลงบนปากจริงแล้วสีอาจจะดรอปเข้มขึ้น หรือออกอมม่วงนิดๆ ขึ้นอยู่กับสีปากเดิมของแต่ละคนนะ อีกสีที่ฮิตไม่แพ้กันคือ สี Bombshell เป็นสีนู้ดที่หลายคนบอกว่าใช้ได้กับทุกสีผิว ทาแล้วรอด!

โดยรวมแล้วผู้ใช้ในไทยจะเน้นที่ คุณภาพของเม็ดสี ความติดทน และ เฉดสีที่สวยงาม โดยเฉพาะโทนนู้ดที่กำลังเป็นที่นิยมจ้า

7. จะไปหาซื้อได้ที่ไหนบ้างนะ?

สำหรับช่องทางการซื้อลิปสติก Huda Beauty ของแท้ในไทยที่แนะนำก็จะมี:

• Sephora (หน้าร้านและออนไลน์): อันนี้คือช่องทางหลักและน่าเชื่อถือที่สุด มีสินค้าครบครัน เทสเตอร์ให้ลองสีได้ที่หน้าร้าน พนักงานให้คำแนะนำได้ และมั่นใจว่าเป็นของแท้แน่นอน ส่วน Sephora ออนไลน์ก็สะดวก มีโปรโมชั่นบ่อยๆ
• ร้านค้าทางการของ Huda Beauty บน Lazada/Shopee: แบรนด์ Huda Beauty มี Official Store อยู่บนแพลตฟอร์ม E-commerce ใหญ่ๆ ของไทยแล้วนะ อันนี้ก็เป็นอีกช่องทางที่มั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ สะดวกสบายในการสั่งซื้อ มีโปรโมชั่นและคูปองให้ใช้บ่อยๆ
• ร้าน Multi-brand อื่นๆ ที่ได้รับอนุญาต: อาจจะมีร้านเครื่องสำอาง Multi-brand ใหญ่ๆ บางร้านที่นำเข้ามาขาย ซึ่งควรเลือกร้านที่น่าเชื่อถือมากๆ
• ระวังร้านค้ารายย่อยบน Lazada/Shopee: แม้จะมีสินค้า Huda Beauty ขายเยอะมาก แต่ก็มีร้านที่ไม่ใช่ร้านทางการอยู่เยอะเช่นกัน ซึ่งอาจมีความเสี่ยงเจอของปลอมได้ ถ้าจะซื้อจากร้านเหล่านี้ ควรเช็คคะแนนร้าน รีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ และดูว่ามีนโยบายคืนสินค้าที่ชัดเจนหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยจ้า

พวกช่องทางร้านค้าไอทีอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy หรือห้างร้านอย่าง Big C, The Mall จะไม่มีลิปสติก Huda Beauty ขายนะจ๊ะ เพราะเค้าเน้นกลุ่มสินค้าคนละประเภทกันจ้า

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ลิปสติก Huda Beauty ถือเป็นไอเทมที่ น่าซื้อมากๆ เลยนะ ถ้าคุณเป็นคนที่:

• ชื่นชอบการแต่งหน้าสไตล์ "สายฝอ" หรือชอบลิปสติกที่ให้ฟินิชแมตต์สวยๆ สีแน่นๆ
• อยากได้ลิปสติกที่ติดทนนาน ไม่ต้องเติมบ่อยๆ
• มองหาลิปสติกที่เม็ดสีชัด กลบสีปากได้มิด
• มีงบประมาณสำหรับลิปสติกในกลุ่ม Premium

โดยเฉพาะรุ่น Liquid Matte คือต้องลองเลยสำหรับคนที่ชอบลิปแมตต์ติดทน ส่วนรุ่นอื่นๆ ก็มีเนื้อสัมผัสที่น่าสนใจแตกต่างกันไป ถ้าชอบความสบายปากมากขึ้นก็ลองดูรุ่น Demi Matte ได้

ถามว่าคุ้มค่าที่จะซื้อไหม? ถ้าคุณสมบัติที่กล่าวมาตรงกับความต้องการของคุณ และรับได้กับราคาหลักพันต้นๆ ก็บอกเลยว่า คุ้มค่าแน่นอน เพราะคุณภาพเค้าดีจริงสมกับราคาจ้า! ส่วนสีไหนจะขายดีหรือเหมาะกับคุณที่สุด ก็คงต้องบอกว่า สี Trendsetter กับ Bombshell เป็นสีกันตายยอดฮิตที่หลายคนแนะนำ แต่ทางที่ดีที่สุดคือถ้ามีโอกาส ไปลองสีจริงที่ Sephora ก่อนตัดสินใจซื้อ จะได้เลือกสีที่เข้ากับสีผิวและสีปากของเราจริงๆ นะจ๊ะ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจซื้อลิปสติก Huda Beauty ของทุกคนนะค้าาา ขอให้ได้ลิปสีที่ถูกใจ ทาแล้วสวยปังมั่นใจกันทุกคนเลยจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิวลิป Huda Beauty สีฟ็อกซี่และบอมเซลล์
• สัมผัสใหม่ของลิปกลอสจาก HUDA BEAUTY: Faux Filler Lip Gloss
• รีวิวลิปสติก Huda Beauty ให้ออร่าจับใจ
• รีวิวลิป Huda Beauty: เนื้อดี สีสวยมาก
• รีวิวผลิตภัณฑ์บิวตี้จาก Huda Beauty