ราคาเครื่อง KESS V2 สำหรับ Remap กล่อง ECU รุ่น Master หรือ Slave ดี


สวัสดีครับพี่น้องชาวไทย หัวใจนักเลงรถ! วันนี้เราจะมาว่ากันถึงเรื่องจี๊ดๆ ที่ทำเอาคนรักรถหลายคนหูผึ่ง นั่นก็คือไอ้เจ้าเครื่องมือวิเศษที่ชื่อว่า KESS V2 ที่เค้าว่ากันว่าสามารถเข้าไปปลุกเสือหลับในกล่อง ECU รถของเราให้ตื่นมาวิ่งได้ปรู๊ดปร๊าดกว่าเดิม หรือที่เรียกติดปากกันว่า Remap กล่อง นั่นเอง! แต่เดี๋ยวก่อน... เจ้าเครื่องนี้มันมีทั้งรุ่น Master และ Slave แล้วมันต่างกันยังไง? ราคาในไทยเป็นยังไง? ซื้อที่ไหนดี? วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังแบบหมดเปลือก สไตล์บ้านๆ เข้าใจง่าย แถมมีมุกให้พอขำๆ คลายเครียดกันไปด้วย พร้อมยัง!? ลุย!
1. เจ้า KESS V2 นี่มันคือตัวอะไรมาจากไหน?
เอาล่ะครับ เริ่มต้นที่มาที่ไปของเจ้าเครื่องมือตัวนี้ก่อนเลย KESS V2 เนี่ย มันคืออุปกรณ์สำหรับ อ่านและเขียนข้อมูลในกล่อง ECU (Engine Control Unit) ของรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ รถบรรทุก หรือแม้แต่รถแทรกเตอร์และเรือบางรุ่น พูดง่ายๆ คือมันเป็นเหมือนกุญแจพิเศษที่ไขเข้าไปในสมองกลของรถเรา เพื่อที่เราจะได้เข้าไปปรับจูน เปลี่ยนค่าต่างๆ ให้รถมีพฤติกรรมตามที่เราต้องการ เช่น อยากให้วิ่งแรงขึ้น ประหยัดน้ำมันขึ้น หรือแม้กระทั่งปิดระบบบางอย่างที่ไม่ต้องการ โดยหลักๆ เจ้า KESS V2 นี่เค้าจะทำงานผ่านช่อง OBD (On-Board Diagnostics) ที่มีอยู่แล้วในรถส่วนใหญ่ ไม่ต้องแกะกล่อง ECU ออกมาให้วุ่นวาย (อันนี้คือจุดเด่นของ KESS V2 เมื่อเทียบกับ KTAG ที่ต้องแกะกล่อง)
เจ้าเครื่องนี้จริงๆ แล้วเป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัท Alientech ซึ่งเป็นบริษัทจากประเทศอิตาลี เค้าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องมือสำหรับปรับจูน ECU มานานแล้ว แต่ในตลาดบ้านเราเนี่ย ส่วนใหญ่ที่เราเห็นขายกันเกลื่อนตามออนไลน์ ก็มักจะเป็นเวอร์ชัน "เทียบเท่า" หรือที่เรียกกันว่า "ของจีน" นั่นแหละครับพี่น้อง ซึ่งคุณภาพก็ว่ากันไปตามราคา แต่ที่แน่ๆ คือราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์คนไทยอย่างเรามากๆ
กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสมกับเจ้าเครื่องนี้ก็มีตั้งแต่ ช่างจูนรถมืออาชีพ ไปจนถึง คนรักรถที่ชอบศึกษา ทดลองทำเอง (แต่ต้องบอกก่อนว่ามีความเสี่ยงนะจ๊ะ!) หรืออู่ซ่อมรถที่ต้องการขยายบริการด้านการปรับจูน ถ้าคุณอยากจะลอง Remap รถตัวเอง หรือรับ Remap ให้คนอื่นแบบจริงจัง เจ้า KESS V2 นี่แหละคือหนึ่งในเครื่องมือยอดฮิตที่คนเค้านิยมใช้กัน
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องร้อนๆ อย่างเรื่องราคา! สำหรับ KESS V2 ในตลาดไทย โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดฮิตอย่าง Lazada และ Shopee เนี่ย ราคามันช่างหลากหลายละลานตาเหลือเกินครับพี่น้อง!
ส่วนใหญ่แล้ว ราคาที่เราเห็นจะเป็นราคาของเวอร์ชัน "เทียบเท่า" หรือ "ของจีน" ที่กล่าวไปข้างต้นนะ โดยราคาจะเริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ 1,000 กว่าบาท ไปจนถึง 3,000-4,000 บาท (฿) โดยประมาณ ราคานี้ขึ้นอยู่กับเวอร์ชันของเฟิร์มแวร์ (เช่น V5.017) เวอร์ชันของซอฟต์แวร์ (เช่น K-Suite V2.80) และคุณภาพของบอร์ดภายใน (ที่เค้าเรียกกันว่า Red PCB หรือ EU Version อะไรพวกนี้) บางร้านก็เคลมว่าเป็นเวอร์ชันที่ไม่มีจำกัดโทเค็น (Unlimited Token) สามารถใช้งานได้ตลอด
ถ้าลองไปส่องใน Lazada หรือ Shopee แล้วเสิร์ชหาคำว่า "KESS V2" เนี่ย จะเจอเพียบเลยครับ มีทั้งร้านค้าจากจีนโดยตรงที่ส่งมาไทย หรือร้านค้าในไทยที่นำเข้ามาขาย ส่วนร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใหญ่ๆ อย่าง JIB หรือ Banana IT รวมถึงห้างสรรพสินค้าอย่าง Central, Big C, The Mall เนี่ย เค้าไม่ได้ขายอุปกรณ์เฉพาะทางแบบนี้ครับ ต้องไปหาตามร้านอะไหล่ยนต์ ร้านประดับยนต์ หรือร้านค้าออนไลน์เฉพาะทางเอา
ส่วนเรื่องความต่างของราคาระหว่างเวอร์ชัน Master กับ Slave เนี่ย ในตลาด "ของจีน" ที่ขายตาม Lazada/Shopee ส่วนใหญ่จะไม่ได้แยกชัดเจนเหมือนของแท้นะครับ คือเค้าจะพยายามทำออกมาให้มีฟังก์ชันเหมือน Master ในราคาที่เข้าถึงง่ายนั่นเอง แต่ถ้าเป็น KESS V2 ของแท้จาก Alientech ราคาจะ สูงลิ่วมากๆ ครับ รุ่น Master อาจจะราคาสูงกว่ารุ่น Slave หลายเท่าตัว และมักจะขายผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น ซึ่งราคานั้นไม่ได้อยู่ในช่วงหลักพันแน่นอนจ้า!
3. แล้วเทียบกับเครื่องมืออื่น ราคาเป็นไง?
ถ้าให้เทียบกับเครื่องมือ Remap ECU ตัวอื่นๆ ในตลาด ไม่ว่าจะเป็น KTAG (ที่เน้นแกะกล่องจูน) หรือเครื่องมือแบรนด์อื่นๆ ที่มีราคาสูงกว่า เจ้า KESS V2 (เวอร์ชันจีน) ที่ขายกันในไทยเนี่ย ต้องบอกเลยว่าราคาคือ ถูกมากๆ ครับ ทำให้คนทั่วไปที่สนใจเรื่องนี้สามารถเข้าถึงได้ง่าย เครื่องมือจูน ECU ของแท้จากแบรนด์ดังๆ เนี่ย ราคาอาจจะเหยียบแสนหรือหลายแสนเลยด้วยซ้ำ ในขณะที่ KESS V2 เวอร์ชันที่เราเห็นกันเยอะๆ เนี่ย ราคาแค่หลักพันต้นๆ เท่านั้นเอง
แน่นอนว่าราคาที่ถูกกว่ามากๆ ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงกว่า และฟังก์ชันหรือการซัพพอร์ตอาจจะไม่เท่าของแท้ แต่ถ้ามองในแง่ของราคาเริ่มต้นในการเข้าสู่โลกของการ Remap เจ้า KESS V2 เวอร์ชันจับต้องง่ายนี่แหละคือตัวเลือกที่ทำให้หลายคนตัดสินใจลองศึกษาและทำเองได้ครับ
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง? มีประกันมั้ย?
เวลาซื้อ KESS V2 โดยเฉพาะจากร้านค้าออนไลน์ใน Lazada หรือ Shopee เนี่ย สิ่งที่เรามักจะได้มาในชุดก็จะมี:
- ตัวเครื่อง KESS V2
- สายเชื่อมต่อ OBD
- สาย USB
- ชุดสายอื่นๆ สำหรับเชื่อมต่อแบบต่างๆ (แล้วแต่แพ็คเกจ)
- แผ่น DVD หรือลิงก์สำหรับดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ K-Suite
- กล่องหรือกระเป๋าสำหรับเก็บอุปกรณ์
ส่วนเรื่อง ค่าขนส่ง ถ้าซื้อจากร้านในไทย ส่วนใหญ่ก็จะมีตัวเลือกการจัดส่งให้เลือกครับ บางร้านอาจจะมีโปรโมชั่นส่งฟรีเมื่อซื้อครบยอดที่กำหนด หรือใช้โค้ดส่วนลดค่าจัดส่งของแพลตฟอร์มได้
สิ่งที่คนไทยค่อนข้างกังวลคือ การรับประกัน ครับ สำหรับ KESS V2 เวอร์ชันจีนเนี่ย ไม่มีประกันศูนย์ Alientech แน่นอน การรับประกันจะขึ้นอยู่กับร้านค้าที่ขายครับ ส่วนใหญ่อาจจะมีประกันร้านให้ระยะเวลาสั้นๆ เช่น 7 วัน หรือ 30 วัน สำหรับเปลี่ยนสินค้าหากมีปัญหาตั้งแต่ได้รับ บางร้านอาจจะไม่มีประกันเลย ต้องสอบถามกับผู้ขายให้ชัดเจนก่อนซื้อนะจ๊ะ!
เรื่อง ของแถม หรือ โปรโมชั่น ก็แล้วแต่ร้านเลยครับ บางร้านอาจจะมีแถมไฟล์จูนเบื้องต้นให้ หรือมีกลุ่มซัพพอร์ตเล็กๆ น้อยๆ ให้คำปรึกษา (อันนี้ต้องดูเครดิตร้านดีๆ นะ)
5. ช่วงไหนน่าซื้อ มีโปรโมชั่นเด็ดๆ ไหม?
ถ้าอยากได้ KESS V2 ในราคาคุ้มๆ เนี่ย ช่วงเวลาทองของการช้อปปิ้งออนไลน์ในไทยคือช่วง โปรโมชั่นใหญ่ๆ ของแพลตฟอร์มครับ ไม่ว่าจะเป็น 11.11, 12.12 ที่ Lazada กับ Shopee เค้าจัดเต็มทุกปี รวมถึงช่วงเทศกาลสำคัญๆ อย่าง สงกรานต์ หรือช่วง Pay Day ในแต่ละเดือน ร้านค้าต่างๆ มักจะมีส่วนลด โค้ดส่วนลด หรือโปรโมชั่นส่งฟรีออกมาจ้า
ร้านค้าระดับ แฟลกชิพสโตร์ บน Lazada/Shopee เนี่ย ส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าทางการของแบรนด์ใหญ่ๆ ซึ่งอย่างที่บอกไปว่า KESS V2 เวอร์ชันที่เราเห็นราคาถูกๆ ไม่ใช่ของแท้ที่ขายผ่านช่องทางนี้โดยตรง ดังนั้น โปรโมชั่นหลักๆ จะมาจากร้านค้าย่อยที่นำเข้ามาขายมากกว่าครับ ต้องหมั่นเข้าไปส่องเข้าไปเช็คในแอปพลิเคชันของ Lazada และ Shopee บ่อยๆ ในช่วงที่มีแคมเปญลดราคาครับ รับรองว่ามีโอกาสเจอดีลดีๆ เพียบ!
6. คนไทยใช้แล้วเป็นไงบ้าง? มีฟีดแบ็กอะไรน่าสนใจ?
จากที่ลองส่องๆ ดูตามเว็บบอร์ด กลุ่มโซเชียล หรือรีวิวใน Shopee/Lazada ของคนไทยที่ใช้ KESS V2 เวอร์ชันจีน เนี่ย เสียงตอบรับก็มีทั้งบวกและลบปะปนกันไปครับ จุดที่คนไทยหลายคนชอบก็คือ:
- ราคาเข้าถึงง่าย: อันนี้เป็นเหตุผลหลักเลยที่ทำให้หลายคนตัดสินใจซื้อมาลองเล่น ลองศึกษา
- ใช้งานไม่ยากเกินไป (สำหรับฟังก์ชันพื้นฐาน): ซอฟต์แวร์ K-Suite ค่อนข้างใช้งานง่าย มีภาษาให้เลือกหลายภาษา (รวมถึงภาษาอังกฤษ)
- ทำรถได้หลากหลายรุ่น: ตัวเครื่องรองรับรถยนต์ได้หลายยี่ห้อ หลายรุ่น ผ่านช่อง OBD
แต่ก็มีฟีดแบ็กที่ต้องระวังเช่นกันครับ:
- ความเสี่ยงในการทำให้กล่อง ECU เสียหาย (Bricked ECU): อันนี้คือความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของการ Remap และยิ่งใช้เครื่องมือที่ไม่ใช่ของแท้ ความเสี่ยงก็อาจจะสูงขึ้นครับ หลายคนเคยเจอปัญหาอ่านหรือเขียนไฟล์แล้วกล่องพัง ต้องส่งไปซ่อมหรือซื้อใหม่
- คุณภาพของไฟล์จูน: ถ้าใช้เครื่อง Slave แล้วต้องพึ่ง Master ในการโมดิฟายไฟล์ ก็ต้องหา Master ที่ไว้ใจได้ มีความรู้จริงๆ ถ้าได้ไฟล์ไม่ดีมา รถอาจจะวิ่งไม่ดีเท่าที่ควร หรือมีปัญหาตามมาได้
- ปัญหาเรื่องซอฟต์แวร์และไดรเวอร์: บางครั้งอาจจะมีปัญหาเรื่องการติดตั้ง การเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการ Windows เวอร์ชันต่างๆ
- การซัพพอร์ตจากผู้ขาย: บางร้านขายอย่างเดียว ไม่มีบริการหลังการขาย ไม่มีคำแนะนำ ทำให้เวลาเจอปัญหาต้องหาทางแก้เอง หรือไปสอบถามในกลุ่มออนไลน์
สรุปคือ ถ้าใช้ KESS V2 เวอร์ชันจีน ต้องทำใจเรื่องความเสี่ยง และต้องศึกษาหาความรู้เยอะๆ ครับ ถ้าทำสำเร็จก็คุ้มค่า แต่ถ้าพลาดก็เสียเงินหนักเหมือนกัน
7. จะไปหาซื้อได้จากช่องทางไหนบ้าง?
ช่องทางการซื้อ KESS V2 ในไทยที่แนะนำ หลักๆ ก็จะมี:
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่: อย่าง Lazada และ Shopee นี่คือแหล่งใหญ่ที่สุดเลยครับ มีร้านค้าให้เลือกเยอะมาก ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีระบบชำระเงินและขนส่งที่ค่อนข้างสะดวกและปลอดภัย ข้อเสียคือต้องดูเครดิตร้าน อ่านรีวิวให้ดีๆ เพราะคุณภาพของสินค้าอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละร้าน
- กลุ่มซื้อขายอุปกรณ์จูนรถใน Facebook: เป็นอีกแหล่งที่น่าสนใจครับ บางทีเจอผู้ขายที่เค้ามีความรู้ด้านนี้โดยตรง อาจจะให้คำแนะนำหรือมีไฟล์จูนให้ด้วย แต่ก็ต้องระวังเรื่องการโกงครับ แนะนำให้นัดเจอเพื่อเช็คของและจ่ายเงินกับมือถ้าทำได้
- ร้านค้าอุปกรณ์ประดับยนต์ หรืออู่ซ่อมรถบางแห่ง: บางร้านอาจจะมีเครื่องมือนี้ขาย หรือมีบริการ Remap ด้วยเครื่องมือนี้ ลองสอบถามดูได้ครับ ข้อดีคืออาจจะได้คำแนะนำโดยตรง แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าซื้อออนไลน์
สำหรับช่องทาง Official จาก Alientech ในไทยเนี่ย จะเป็นคนละตลาดกับ KESS V2 ราคาหลักพันที่เราเห็นกันนะครับ ของแท้จะขายผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าที่เป็นอู่ หรือจูนเนอร์มืออาชีพจริงๆ จ้า
8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? Master หรือ Slave ดี?
มาถึงบทสรุปกันแล้วครับ สำหรับคำถามว่า KESS V2 น่าซื้อไหม? และจะเลือกรุ่น Master หรือ Slave ดี?
ถ้าคุณเป็นคนที่:
- มีงบประมาณจำกัด แต่อยากลองศึกษาหรือเริ่มต้นเข้าสู่โลกของการ Remap ECU
- ชอบเรียนรู้และทดลองทำสิ่งใหม่ๆ ด้วยตัวเอง
- เข้าใจและยอมรับความเสี่ยง ที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการใช้เครื่องมือเวอร์ชันเทียบเท่า
เจ้า KESS V2 (เวอร์ชันจีน) ก็น่าซื้อมาลองครับ ด้วยราคาหลักพันที่เข้าถึงง่าย มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทำความเข้าใจกระบวนการ Remap ผ่านช่อง OBD ครับ
ส่วนจะเลือกรุ่น Master หรือ Slave เนี่ย ถ้าเป็นเวอร์ชันจีนที่ขายเกลื่อนๆ ตามออนไลน์ ส่วนใหญ่เค้าจะโฆษณาว่าเป็น Master อยู่แล้วครับ คือสามารถอ่านไฟล์แบบไม่เข้ารหัสได้ เพื่อนำไปโมดิฟายเองได้ ซึ่งถ้าคุณคิดจะศึกษาการโมดิฟายไฟล์ด้วยตัวเอง (เช่น ใช้โปรแกรม ECM Titanium หรือ WinOLS) ก็ต้องเลือกรุ่นที่เคลมว่าเป็น Master อยู่แล้วครับ
แต่ถ้าเป็น KESS V2 ของแท้จาก Alientech การเลือกระหว่าง Master กับ Slave จะต่างกันชัดเจนมาก:
- รุ่น Master (ของแท้): ราคาแพงมาก เหมาะสำหรับจูนเนอร์มืออาชีพ หรืออู่ที่ต้องการโมดิฟายไฟล์เองทั้งหมด หรือต้องการสร้างเครือข่าย Slave ของตัวเอง มีอิสระเต็มที่ในการทำงาน
- รุ่น Slave (ของแท้): ราคาถูกกว่า Master (แต่ก็ยังแพงกว่าเวอร์ชันจีนเยอะมาก) เหมาะสำหรับอู่ หรือช่างที่ต้องการบริการ Remap โดยพึ่งพาไฟล์โมดิฟายจาก Master ที่เป็นพาร์ทเนอร์ คุณจะอ่านไฟล์ได้ แต่ไฟล์จะเข้ารหัส และต้องส่งให้ Master เพื่อโมดิฟายแล้วส่งกลับมาให้เขียนใส่กล่อง ข้อดีคือได้ไฟล์คุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ และมีความเสี่ยงน้อยกว่าการทำเอง แต่ข้อเสียคือต้องจ่ายเงินให้ Master ทุกครั้งที่ขอไฟล์ และขึ้นอยู่กับคุณภาพและการซัพพอร์ตของ Master นั้นๆ
สรุปง่ายๆ สำหรับคนทั่วไปที่เพิ่งเริ่มต้น หรืออยากลองทำเองในงบจำกัด KESS V2 เวอร์ชันจีน (ที่เคลมว่าเป็น Master) คือตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับเริ่มต้นครับ แต่ต้องศึกษาและยอมรับความเสี่ยงให้ได้นะ!
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อ KESS V2 ของทุกคนนะครับ ขอให้สนุกกับการปรับจูนรถ และขับขี่ปลอดภัยไร้ควันดำจ้า! ไปละน้าาา!
แนะนำสำหรับคุณ
ไส้กรองน้ำ Lux Alva ราคาล่าสุด เปลี่ยนเมื่อไหร่ดี?
Ableton Push 2: ราคาล่าสุด ปี 2568 และรีวิวคอนโทรลเลอร์สำหรับทำเพลง
คาลิมบา (Kalimba) ราคาถูก เริ่มต้นกี่บาท? ยี่ห้อไหนดีสำหรับมือใหม่
รวมราคา Samsung Galaxy J Prime ทุกรุ่นฮิต (J2, J5, J7 Prime)
กระเป๋า Porter จากญี่ปุ่น: ราคาล่าสุด ปี 2568 รุ่นไหนยอดนิยม ซื้อที่ไหนดี?
หมวกเบสบอล LA Dodgers ราคาล่าสุด: ซื้อของแท้ได้ที่ไหน?