ราคา ครีม Curel สำหรับผิวแพ้ง่าย มอยส์เจอร์ไรเซอร์ตัวไหนดี


สวัสดีค่าซิสสส! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยกันเรื่องมอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวแพ้ง่ายที่กำลังมาแรงแซงทุกโค้ง นั่นก็คือแบรนด์ Curel (คิวเรล) นั่นเอง! ใครที่เจอปัญหาหน้าแห้ง แดง คัน ใช้อะไรก็แพ้ไปหมด มามุงทางนี้ด่วนๆ เพราะเราจะมาเจาะลึกว่าน้อง Curel เค้าดียังไง มอยส์เจอร์ไรเซอร์ตัวไหนน่าโดน แล้วช้อปที่ไหนจะได้ราคาดีๆ ฟินๆ กลับบ้านไปบ้าง! เตรียมเงินในกระเป๋าให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!
1. ผลิตภัณฑ์ Curel มันคืออะไร ทำไมคนผิวแพ้ง่ายต้องเลิฟ?
เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับ Curel กันก่อนเลย แบรนด์นี้เค้าเป็นเวชสำอางตัวดังจากประเทศญี่ปุ่นนะซิส ไม่ใช่โนเนมนะจ๊ะ เค้าอยู่ภายใต้บริษัทแม่อย่าง Kao ที่เป็นเจ้าพ่อวงการความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมานานแล้ว จุดเด่นของ Curel เลยคือเค้าเน้นเรื่อง "เซราไมด์" (Ceramide) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในผิวของเราที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิว ถ้าเซราไมด์ในผิวเราน้อย ผิวก็จะอ่อนแอ แพ้ง่าย แห้งกร้านไปโดยปริยาย Curel เค้าก็เลยคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเติมเต็มและกระตุ้นให้ผิวสร้างเซราไมด์ตามธรรมชาติได้ดีขึ้น ทำให้ผิวเราแข็งแรงขึ้น ไม่แพ้ง่ายเหมือนเดิมนั่นเอง
ผลิตภัณฑ์ของ Curel เค้าออกแบบมาเพื่อ ผิวบอบบาง แพ้ง่ายโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่จะ ปราศจากน้ำหอม สี และแอลกอฮอล์ แถมยังเป็นสูตร pH-Balanced และ Hypoallergenic ที่ผ่านการทดสอบกับผู้มีผิวแพ้ง่ายภายใต้การควบคุมของผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังมาแล้ว คืออ่อนโยนมากๆ ใช้ได้ตั้งแต่เด็กอายุ 2 เดือนขึ้นไปเลยนะ (แต่กับเด็กเล็กมากๆ ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนชัวร์กว่านะ)
กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะกับ Curel ก็คือทุกคนที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย ไม่ว่าจะแห้ง แดง คัน เป็นขุย หรือแม้แต่ผิวมันแต่แพ้ง่ายก็ใช้ได้นะ เพราะเค้ามีหลายสูตรให้เลือกตามสภาพผิว ทั้งสูตรเน้นความชุ่มชื้น สูตรควบคุมความมัน หรือสูตรลดเลือนริ้วรอยสำหรับผิวแพ้ง่ายก็มี
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ กันบ้าง! ราคาของ Curel ในไทยก็มีหลากหลายนะ ขึ้นอยู่กับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ตัวไหน ปริมาณเท่าไหร่ และซื้อจากร้านค้าไหนด้วย แต่โดยรวมแล้วก็ถือเป็นเวชสำอางที่ ราคาเข้าถึงได้ ไม่ได้แพงหูฉี่จนเกินไปนัก
มอยส์เจอร์ไรเซอร์ตัวดังของ Curel ที่คนนิยมกันเยอะๆ ก็เช่น:
- Curel Intensive Moisture Cream (แบบกระปุก) 40g: ตัวนี้คือครีมในตำนานของเค้าเลย เนื้อเข้มข้นแต่ซึมง่าย ให้ความชุ่มชื้นดีมากๆ เหมาะกับคนผิวแห้งถึงแห้งมาก ราคาในตลาดไทยจะอยู่ที่ประมาณ 600 - 1,000 บาท (฿) แล้วแต่โปรโมชั่นนะจ๊ะ ลองเช็คราคาตามร้านค้าออนไลน์หลักๆ อย่าง Lazada, Shopee หรือร้านวัตสันออนไลน์ Konvy Beautrium ได้เลย
- Curel Deep Moisture Spray (แบบสเปรย์) 60g / 150g / 250g: อันนี้เก๋มาก เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์แบบสเปรย์ ฉีดได้ทั้งหน้าทั้งตัว พกพาสะดวก เติมความชุ่มชื้นระหว่างวันได้ดีเลย เหมาะกับคนที่ไม่ชอบทาครีมเหนอะหนะ ราคาไซส์ 60g ประมาณ 200 - 300 บาท (฿) ส่วนไซส์ใหญ่ 250g ก็จะอยู่ประมาณ 800 - 1,000 บาท (฿) นะ
ราคาอาจจะมีส่วนต่างกันเล็กน้อยตามแต่ละแพลตฟอร์ม บางทีร้าน Official ใน Lazada หรือ Shopee ก็จะมีโปรโมชั่นลดราคาบ่อยๆ หรือร้านวัตสัน บู๊ทส์ ก็มีจัดโปร 1 แถม 1 หรือลดราคาตามเทศกาลเหมือนกันนะ
3. แล้วเทียบกับแบรนด์อื่นล่ะ ราคาคุ้มมั้ย?
ถ้าให้เทียบ Curel กับแบรนด์เวชสำอางอื่นๆ ที่เน้นเรื่องผิวแพ้ง่ายในตลาดไทย เช่น La Roche-Posay, Cetaphil, Physiogel, Eucerin เนี่ย Curel จะมีราคาที่ ค่อนข้างสมเหตุสมผล อยู่ในกลุ่มราคาที่ไม่แรงมากนะ
บางทีครีมสำหรับผิวแพ้ง่ายของบางแบรนด์ดังๆ ราคาก็อาจจะพุ่งไปถึงหลักพันกลางๆ หรือปลายๆ ได้เลย ในขณะที่ Curel ตัวครีมกระปุก 40g ที่เป็นตัวฮิตสุดๆ เรายังพอหาซื้อได้ในราคาไม่เกินพันบาทตอนมีโปรดีๆ สเปรย์มอยส์เจอร์ไรเซอร์ก็สะดวกมาก แถมราคาไม่แพงเลยสำหรับไซส์เล็ก
คือถ้ามองในแง่ของคุณภาพที่ได้กับราคาที่จ่ายไป Curel ถือว่า คุ้มค่ามากๆ เลยนะ โดยเฉพาะถ้าใครที่ผิวแพ้ง่ายจริงๆ แล้วใช้ Curel แล้วเห็นผล ไม่แพ้ซ้ำซากเหมือนที่หลายๆ คนรีวิว ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากับผิวที่แข็งแรงขึ้นเลยแหละ
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ? มีประกันมั้ย?
เวลาช้อป Curel ทางออนไลน์เนี่ย ส่วนใหญ่สิ่งที่ได้มาก็จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เราสั่งนั่นแหละจ้า
- ตัวผลิตภัณฑ์: แน่นอนว่าต้องได้ตัวครีมหรือสเปรย์ที่เราเลือกซื้อมา
- ของแถม: อันนี้แล้วแต่โปรโมชั่นของแต่ละร้านและแต่ละช่วงเลย บางทีร้าน Official ใน Lazada/Shopee หรือ Watsons/Boots เค้าอาจจะมีแถมสินค้าขนาดทดลองตัวอื่นๆ ในไลน์เดียวกัน หรือบางทีก็มีเซ็ตคู่กับโฟมล้างหน้าหรือโทนเนอร์ที่ราคาคุ้มกว่าซื้อแยก ก็ต้องคอยส่องโปรดีๆ นะ
- ค่าจัดส่ง: ส่วนใหญ่ถ้าซื้อออนไลน์ก็อาจจะมีค่าจัดส่งนะ นอกจากร้านค้าจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อครบยอดที่กำหนด อันนี้ก็ต้องเช็คเงื่อนไขของแต่ละร้านดีๆ จ้า
ส่วนเรื่อง การรับประกัน สำหรับผลิตภัณฑ์สกินแคร์แบบนี้ ปกติเค้าจะไม่มีการรับประกันแบบซ่อมแซมเหมือนพวกเครื่องใช้ไฟฟ้านะซิส แต่จะเป็นการ รับประกันคุณภาพสินค้า มากกว่า ถ้าสินค้ามีปัญหาจากการผลิต เช่น เนื้อครีมผิดปกติ แพ็กเกจเสียหาย หรือได้รับสินค้าไม่ตรงตามที่สั่ง เราสามารถติดต่อร้านค้าหรือแพลตฟอร์มที่เราซื้อเพื่อขอเปลี่ยนหรือคืนสินค้าได้ตามนโยบายของเค้าเลยจ้า แนะนำให้ซื้อจากร้าน Official หรือร้านที่น่าเชื่อถือ จะได้มั่นใจเรื่องของคุณภาพและบริการหลังการขายนะ
5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?
ถ้าอยากช้อป Curel ให้คุ้มค่าที่สุด ต้องจับตาดูช่วง โปรโมชั่น เลยจ้า! เหมือนกับแบรนด์อื่นๆ ในไทย Curel ก็มักจะเข้าร่วมแคมเปญลดราคาใหญ่ๆ ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนะ เช่น:
- Double Digit Sales: โปรเลขเบิ้ลยอดฮิตอย่าง 4.4, 5.5, 6.6, 7.7, 8.8, 9.9, 10.10, 11.11, และ 12.12 เนี่ย Curel มักจะมีโปรโมชั่นลดราคา หรือมีของแถมพิเศษให้เพียบ โดยเฉพาะช่วงปลายปีอย่าง 11.11 และ 12.12 คือจัดหนักจัดเต็มมากๆ
- เทศกาลไทย: ช่วงสงกรานต์ ปีใหม่ไทย หรือเทศกาลอื่นๆ ที่คนไทยนิยมช้อปปิ้ง ร้านค้าออนไลน์และร้านค้าปลีกอย่าง Watsons หรือ Boots ก็มักจะมีโปรโมชั่นลดราคา Curel ด้วยเหมือนกันนะ
- โปรโมชั่นจากร้านค้า: ร้าน Official ใน Lazada/Shopee หรือร้าน Watsons/Boots Konvy Beautrium เค้าก็มีจัดโปรโมชั่นของตัวเองอยู่เรื่อยๆ ไม่จำเป็นต้องรอช่วงเทศกาลใหญ่เสมอไปนะ บางทีก็มีลดราคา มีโค้ดส่วนลด หรือมีของแถมพิเศษให้
คำแนะนำคือ ถ้าไม่รีบมากๆ ควรรอซื้อช่วงโปรโมชั่นนะ จะได้ราคาที่ดีกว่าเดิมเยอะเลย หรือได้ของแถมคุ้มๆ มาด้วย ลองกดติดตามร้านค้า Official ของ Curel ใน Lazada/Shopee หรือแอปพลิเคชันของ Watsons/Boots/Konvy/Beautrium ไว้ จะได้ไม่พลาดทุกโปรโมชั่นเด็ดๆ จ้า!
6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?
จากที่ไปส่องๆ ดูรีวิวของคนไทยตามเว็บบอร์ดหรือแพลตฟอร์มต่างๆ เนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่เกี่ยวกับ Curel คือ ดีมากๆ เลยนะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย
จุดที่คนไทยชอบและรีวิวกันเยอะๆ เลยคือ:
- อ่อนโยนจริง ไม่แพ้: อันนี้คือจุดแข็งที่สุดของ Curel เลย หลายคนบอกว่าลองมาหลายยี่ห้อก็แพ้ แต่มาจบที่ Curel นี่แหละ ไม่แสบ ไม่คัน ผดผื่นลดลง
- ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น: หลายเสียงคอนเฟิร์มว่าใช้ไปสักพักแล้วรู้สึกว่าผิวแข็งแรงขึ้น ไม่ไวต่อสิ่งกระตุ้นภายนอกเหมือนเมื่อก่อน
- ให้ความชุ่มชื้นดีมาก: โดยเฉพาะตัว Intensive Moisture Cream คือให้ความชุ่มชื้นแบบจัดเต็ม เหมาะกับคนผิวแห้งมาก ส่วนสเปรย์ก็ช่วยเติมน้ำให้ผิวได้ดีระหว่างวัน
- เนื้อสัมผัสดี: แม้ครีมกระปุกจะดูเข้มข้น แต่หลายคนบอกว่าซึมง่าย ไม่เหนอะหนะ สเปรย์ก็ละอองละเอียด ใช้สบายผิว
- คุ้มค่ากับราคา: เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้และปัญหาผิวที่แก้ไขได้ หลายคนมองว่าราคา Curel คุ้มค่ามากๆ
แต่ก็มีบางส่วนที่รีวิวว่าเนื้อครีมอาจจะหนักไปนิดสำหรับคนผิวมันมากๆ หรือบางคนก็อาจจะยังมีการอุดตันเล็กน้อย ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละบุคคลด้วยนะ
7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำในไทย
สำหรับชาวเราที่อยากได้ Curel มาบำรุงผิวแพ้ง่ายเนี่ย มีช่องทางซื้อหลายแบบเลยจ้า ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์:
- แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่: นี่คือแหล่งช้อปหลักๆ เลย ทั้ง Lazada และ Shopee มีร้านค้าให้เลือกเพียบ ทั้งร้าน Official ของ Curel เอง ร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่าย หรือร้านมัลติแบรนด์ ข้อดีคือสะดวกสบาย ช้อปได้ 24 ชั่วโมง มีโค้ดส่วนลดและโปรโมชั่นบ่อย เปรียบเทียบราคาง่าย มีรีวิวจากผู้ใช้จริงให้ดูเยอะแยะ แต่ต้องเลือกซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้ของแท้นะจ๊ะ
- ร้าน Health & Beauty ชั้นนำ: ร้านยอดฮิตตลอดกาลอย่าง Watsons และ Boots ก็มีขาย Curel ทั้งหน้าร้านและออนไลน์นะ ข้อดีคือมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ มีโปรโมชั่นลดราคาบ่อยๆ สะสมแต้มสมาชิกได้ด้วย ถ้าใครชอบไปเลือกดูสินค้าจริง สัมผัสเนื้อผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อ ช่องทางนี้ก็สะดวกมากๆ
- ร้านมัลติแบรนด์บิวตี้ออนไลน์/ออฟไลน์: ร้านดังๆ อย่าง Konvy หรือ Beautrium ก็มี Curel ให้ช้อปเช่นกันนะ ช่องทางเหล่านี้ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี มีสินค้าหลากหลาย บางทีก็มีโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะร้านด้วย
- ห้างสรรพสินค้า: ตามเคาน์เตอร์เครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้าอย่าง Central หรือ The Mall บางสาขาก็อาจจะมี Curel วางขายนะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินช้อปปิ้งในห้าง และอยากปรึกษาพนักงานโดยตรง
สรุปคือ ช่องทางออนไลน์อย่าง Lazada, Shopee, Watsons Online, Konvy, Beautrium สะดวกที่สุดสำหรับคนชอบช้อปจากที่บ้าน ส่วน Watsons, Boots, Beautrium ที่มีหน้าร้านก็ดีตรงที่ได้เห็นของจริงจ้า
8. สรุปแล้ว Curel น่าซื้อไหม? มอยส์เจอร์ไรเซอร์ตัวไหนดี?
จากที่เม้าท์มาทั้งหมดเนี่ย Curel เป็นแบรนด์ที่น่าซื้อมากๆ เลยนะ ถ้าคุณเป็นคนที่มีปัญหา ผิวบอบบาง แพ้ง่าย และกำลังมองหามอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่อ่อนโยน ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นจริงๆ คุณภาพดีสมราคา แถมยังหาซื้อได้ไม่ยากด้วย
สำหรับมอยส์เจอร์ไรเซอร์ตัวไหนดีในไลน์ Curel Intensive Moisture Care เนี่ย ก็ขึ้นอยู่กับความชอบและสภาพผิวของคุณเลยจ้า:
- ถ้าผิว แห้งถึงแห้งมาก หรือต้องการเน้นบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นแบบจัดเต็ม ครีมกระปุก Intensive Moisture Cream คือตัวเลือกที่ดีมากๆ เนื้อเค้าเข้มข้นแต่ไม่หนักผิวจนเกินไป
- ถ้าชอบความ สะดวกสบาย อยากเติมความชุ่มชื้นระหว่างวัน หรือไม่ชอบทาครีมหนักๆ Deep Moisture Spray คือตอบโจทย์ พกไปฉีดได้ทุกที่ แถมยังใช้เป็นขั้นตอนแรกก่อนลงสกินแคร์อื่นๆ ได้ด้วย
ส่วนตัวอื่นๆ ในไลน์ Intensive Moisture Care เช่น โลชั่น (Moisture Lotion III Enrich) ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจนะ เนื้อจะบางเบากว่าครีม เหมาะกับคนผิวธรรมดาถึงแห้ง หรือใช้ในวันที่อากาศร้อนๆ
โดยรวมแล้ว Curel เป็นแบรนด์ที่ คุ้มค่าที่จะลอง สำหรับคนผิวแพ้ง่ายนะ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา วัยทำงาน หรือผู้สูงอายุ ก็ใช้ได้หมด ถ้าเพิ่งเริ่มต้นหรืออยากลองตัวฮิต แนะนำให้เริ่มที่ Intensive Moisture Cream กระปุก 40g ก่อนก็ได้ หรือถ้าชอบแบบใช้ง่าย พกสะดวก ก็จัดสเปรย์เลยจ้า
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อมอยส์เจอร์ไรเซอร์ Curel ที่ใช่สำหรับผิวแพ้ง่ายของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้มีผิวสวยแข็งแรง ไม่แพ้อะไรง่ายๆ กันถ้วนหน้าจ้า! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ไส้กรองน้ำ Lux Alva ราคาล่าสุด เปลี่ยนเมื่อไหร่ดี?
Ableton Push 2: ราคาล่าสุด ปี 2568 และรีวิวคอนโทรลเลอร์สำหรับทำเพลง
คาลิมบา (Kalimba) ราคาถูก เริ่มต้นกี่บาท? ยี่ห้อไหนดีสำหรับมือใหม่
รวมราคา Samsung Galaxy J Prime ทุกรุ่นฮิต (J2, J5, J7 Prime)
กระเป๋า Porter จากญี่ปุ่น: ราคาล่าสุด ปี 2568 รุ่นไหนยอดนิยม ซื้อที่ไหนดี?
หมวกเบสบอล LA Dodgers ราคาล่าสุด: ซื้อของแท้ได้ที่ไหน?