อุปกรณ์ Surge Protection สำหรับกล้องวงจรปิด (CCTV) ราคาเท่าไหร่? ติดตั้งทำไม?

สวัสดีจ้าแฟนๆ กล้องวงจรปิดที่น่ารักทุกคน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องไอเทมลับแต่โคตรสำคัญสำหรับกล้องวงจรปิดของเรา นั่นก็คือ อุปกรณ์ Surge Protection หรือที่หลายคนเรียกกันติดปากว่า "ตัวป้องกันฟ้าผ่า" นั่นเอง! ฟังดูน่าตื่นเต้นเหมือนหนังแอ็คชั่นใช่มั้ยล่ะ? จริงๆ มันก็คือฮีโร่เงียบๆ ที่ช่วยชีวิตกล้องและอุปกรณ์แพงๆ ของเราให้อยู่รอดปลอดภัยในยามที่ธรรมชาติไม่เป็นใจนี่แหละ! มาดูกันว่าเจ้าสิ่งนี้มันคืออะไร ทำไมต้องมี แล้วราคาค่าตัวจะอยู่ที่เท่าไหร่กันเชียว!

1. อุปกรณ์ Surge Protection มันคืออะไรกันแน่?

พูดง่ายๆ เลยนะ เจ้า Surge Protection Device (SPD) เนี่ย มันคืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นเกราะป้องกันให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ของเรา ไม่ให้เสียหายจากปัญหาที่เรียกว่า "ไฟกระชาก" หรือ "ไฟกระโชก" นั่นเอง ไอ้เจ้าไฟกระชากเนี่ย มันไม่ใช่ไฟดับธรรมดานะ แต่มันคือการที่แรงดันไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้นมาอย่างรวดเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว สาเหตุหลักๆ ที่เจอบ่อยในบ้านเราก็หนีไม่พ้นเรื่องฟ้าผ่า ทั้งฟ้าผ่าตรงๆ หรือฟ้าผ่าใกล้ๆ ที่ทำให้เกิดการเหนี่ยวนำไฟฟ้าเข้ามาในระบบ นอกจากนี้ การเปิด-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ๆ ก็เป็นอีกสาเหตุได้เหมือนกันนะ

ทีนี้ลองนึกภาพตามนะ กล้องวงจรปิดของเราเนี่ย โดยเฉพาะตัวที่ติดตั้งอยู่ข้างนอก หรือสายสัญญานมันลากยาวๆ ออกไปเนี่ย โอกาสที่จะเจอแจ็คพอตไฟกระชากจากฟ้าผ่ามันสูงปรี๊ดเลย! ถ้าไม่มีตัวป้องกันเนี่ย กล้องแพงๆ เครื่องบันทึก (DVR/NVR) หรือแม้แต่ Switch/Hub ของเรา อาจจะพังยกแผง ช็อต ไหม้ หรือเสียไปเฉยๆ เลยก็ได้ อุปกรณ์ Surge Protection นี่แหละ จะเข้ามาช่วยเบี่ยงเบนกระแสไฟส่วนเกินที่พุ่งเข้ามาอย่างกะทันหัน ให้ไหลลงดินไปอย่างปลอดภัย ก่อนที่จะไปทำร้ายอุปกรณ์อันบอบบางของเรา เหมือนมีบอดี้การ์ดส่วนตัวให้กล้องเรายังไงยังงั้นแหละ!

เจ้าตัวป้องกันนี้มีความสำคัญมากๆ เลยนะในเมืองไทย โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่พายุฟ้าคะนองมาบ่อยๆ การติดตั้ง Surge Protection จะช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์กล้องวงจรปิด ลดความเสี่ยงที่จะต้องมานั่งเสียตังค์ซ่อมหรือซื้อใหม่ แถมยังช่วยให้ระบบกล้องเราทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ดับไปซะดื้อๆ ตอนที่เราต้องการความปลอดภัยที่สุด

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้! ราคาของอุปกรณ์ Surge Protection สำหรับกล้องวงจรปิดเนี่ย มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันบาทเลยนะ ขึ้นอยู่กับประเภท สเปก และจำนวนช่องสัญญาณที่รองรับ

• แบบ 1 ช่องสัญญาณ (Single Channel) สำหรับป้องกันกล้องตัวเดียว หรือสายสัญญาณเส้นเดียว ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 200-1,000 บาท (฿) อันนี้ก็มีทั้งแบบสำหรับกล้อง Analog (สาย Coaxial) และแบบสำหรับกล้อง IP (สาย LAN หรือ PoE) บางรุ่นก็มีป้องกันทั้งไฟและสัญญาณในตัวเดียวด้วยนะ
• แบบ หลายช่องสัญญาณ (Multi-channel) สำหรับป้องกันหลายๆ กล้องพร้อมกัน มักจะทำมาเป็นแผงรวม ติดตั้งในตู้ Rack ได้ ราคาจะสูงขึ้นตามจำนวนช่อง เช่น แบบ 8 ช่อง หรือ 16 ช่อง ราคาอาจจะอยู่ที่ประมาณ 1,500 - 3,000 บาท (฿) หรือสูงกว่านั้นสำหรับรุ่นที่ป้องกันได้หลายระดับ หรือรองรับ PoE ด้วย

ถ้าลองไปดูตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่ในไทยอย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย จะเจอร้านค้าและผู้ขายเยอะแยะมากมายเลย ลองค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดว่า "Surge Protection CCTV", "กันฟ้าผ่ากล้องวงจรปิด", "อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก กล้องวงจรปิด" จะเห็นตัวเลือกและราคาที่หลากหลายมาก ส่วนร้านอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือร้านที่ขายอุปกรณ์กล้องวงจรปิดโดยเฉพาะ บางทีก็มีขายเหมือนกัน แต่ตัวเลือกอาจจะไม่เยอะเท่าออนไลน์นะ

เรื่องราคานานาชาติกับราคาในไทยก็อาจมีส่วนต่างบ้างตามค่าขนส่ง ภาษี หรือกำไรของร้านค้านะ แต่โดยรวมแล้วอุปกรณ์พวกนี้ก็ถือว่ามีราคาที่เข้าถึงง่าย เมื่อเทียบกับค่าเสียหายถ้ากล้องหรือเครื่องบันทึกพังจากไฟกระชาก!

3. แล้วเทียบกับสินค้าอื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ถ้าให้เปรียบเทียบราคาของเจ้า Surge Protection กับอุปกรณ์อื่นๆ ในระบบกล้องวงจรปิดเนี่ย ต้องบอกว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่มีราคาค่อนข้าง "เล็กน้อย" มากๆ เมื่อเทียบกับราคาของตัวกล้องเอง หรือเครื่องบันทึก DVR/NVR ที่บางทีมีราคาหลักพัน หลักหมื่น หรือแม้กระทั่งหลักแสน คิดดูสิว่าถ้ากล้องตัวละ 5,000 บาท พังเพราะไฟกระชาก เราก็ต้องเสียเงิน 5,000 บาทเพื่อซื้อใหม่ แต่ถ้าลงทุนซื้อ Surge Protection ตัวละไม่กี่ร้อยบาทมาป้องกันไว้เนี่ย มันคุ้มยิ่งกว่าคุ้มซะอีกนะ!

นอกจาก Surge Protection สำหรับกล้องวงจรปิดโดยเฉพาะ ก็ยังมีอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากสำหรับระบบไฟฟ้าทั่วไปด้วยนะ (Whole House Surge Protector) หรือสำหรับสาย LAN ทั่วไป พวกนี้ก็มีราคาแตกต่างกันไปตามกำลังในการป้องกัน แต่สำหรับกล้องวงจรปิดโดยตรง เราควรเลือกใช้ Surge Protection ที่ออกแบบมาสำหรับกล้องและสายสัญญาณเฉพาะของมันนะ เพื่อการป้องกันที่ได้ผลเต็มที่

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาซื้อ Surge Protection สำหรับกล้องวงจรปิด สิ่งที่เรามักจะได้มาหลักๆ ก็คือ:

• ตัวอุปกรณ์ Surge Protection: อันนี้มาแน่ๆ! ดูว่ามันมีกี่ช่อง รองรับกล้องประเภทไหน (Analog หรือ IP) และรองรับแรงดันไฟฟ้าสูงสุดเท่าไหร่
• คู่มือการติดตั้งเบื้องต้น: บางรุ่นอาจจะมีมาให้ เพื่อบอกวิธีการต่อสายต่างๆ
• อุปกรณ์สำหรับยึดติดตั้ง: เช่น น็อต สกรู หรือตัวยึดกับราง (DIN Rail) สำหรับติดตั้งในตู้

สิ่งที่เรา อาจจะได้ หรือ อาจจะต้องซื้อเพิ่ม ก็คือ:

• สายกราวด์: อันนี้สำคัญมากๆ นะ! การทำงานของ Surge Protection จะสมบูรณ์ได้ต้องมีการต่อสายกราวด์ที่ดี เพื่อให้กระแสไฟส่วนเกินไหลลงดินไป บางทีอุปกรณ์ก็มีจุดให้ต่อสายกราวด์มาให้ แต่ตัวสายกราวด์เองอาจจะต้องจัดหาเองนะ
• ค่าจัดส่ง: ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่จะมีค่าจัดส่งนะ นอกจากร้านจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี
• การรับประกัน: อันนี้คนไทยให้ความสำคัญมากๆ! อุปกรณ์ Surge Protection มักจะมีการรับประกันจากผู้ขายหรือแบรนด์นะ ลองสอบถามดูว่ารับประกันนานแค่ไหน (บางทีก็ 1-3 ปี) และครอบคลุมอะไรบ้าง บางแบรนด์ที่มั่นใจในคุณภาพมากๆ อาจจะมีประกันอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงด้วย (Connected Equipment Warranty) แต่ต้องอ่านเงื่อนไขดีๆ นะ
• ของแถม/โปรโมชั่นพิเศษ: อันนี้แล้วแต่ร้านเลย บางทีอาจจะมีแถมสายนำสัญญาณเล็กๆ น้อยๆ หรือมีโค้ดส่วนลดพิเศษให้

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าอยากได้ Surge Protection ในราคาที่สบายกระเป๋ามากขึ้นล่ะก็ ต้องเล็งช่วง โปรโมชั่น เลยจ้า! แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada และ Shopee เค้าจัดโปรโมชั่นลดราคาบ่อยมากๆ โดยเฉพาะช่วง Double Digit Sale ยอดฮิต เช่น 9.9, 10.10, 11.11, 12.12 ที่ลดกันแบบจัดเต็ม นอกจากนี้ ช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทยอย่าง สงกรานต์ หรือช่วงปลายปีก็อาจจะมีโปรโมชั่นจากร้านค้าต่างๆ ด้วยนะ

การซื้อในช่วงโปรโมชั่นเนี่ยมีโอกาสได้ราคาที่ถูกลง ได้โค้ดส่วนลดเพิ่ม หรือได้โปรโมชั่นส่งฟรี ซึ่งช่วยประหยัดไปได้เยอะเลย ถึงแม้ Surge Protection จะไม่ใช่สินค้าที่ซื้อบ่อยๆ เหมือนเสื้อผ้าหรือเครื่องสำอาง แต่ถ้าเรากำลังวางแผนติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด หรืออยากจะอัปเกรดระบบเดิมให้ปลอดภัยขึ้น การรอซื้อช่วงโปรโมชั่นก็เป็นไอเดียที่ดีนะ จะได้เอาส่วนต่างไปซื้ออย่างอื่นต่อได้ไงล่ะ!

6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทยเป็นยังไงบ้างนะ?

จากที่ลองส่องๆ ดูตามรีวิวและความคิดเห็นของผู้ใช้ในไทย ส่วนใหญ่ที่ติดตั้ง Surge Protection แล้วจะรู้สึกอุ่นใจและสบายใจมากขึ้นนะ

• หลายคนบอกว่า คุ้มค่า มากๆ เมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่าย ถ้าเกิดปัญหาไฟกระชากแล้วอุปกรณ์พัง ค่าซ่อมหรือค่าเปลี่ยนมันแพงกว่าเยอะ
• ผู้ใช้ที่อยู่ในพื้นที่ที่ฟ้าผ่าบ่อยๆ จะเห็นความสำคัญของอุปกรณ์นี้เป็นพิเศษ เพราะเคยมีประสบการณ์กล้องเสีย หรืออุปกรณ์เน็ตเวิร์คพังมาแล้ว พอติดตั้ง Surge Protection แล้วก็มั่นใจมากขึ้น
• บางคนก็บอกว่าช่วยให้ สัญญาณภาพนิ่งขึ้น หรือ ลดปัญหากล้องค้าง ในช่วงที่สภาพอากาศไม่ดีได้ด้วยนะ (แต่อันนี้อาจจะไม่ใช่หน้าที่หลักโดยตรง แต่การป้องกันไฟกระชากก็มีส่วนทำให้ระบบเสถียรขึ้น)
• เรื่อง ความทนทาน ผู้ใช้บางส่วนก็รีวิวว่าอุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่าบางยี่ห้อใช้งานได้ดี ทนทาน แต่ก็ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของไฟกระชากด้วยนะ บางทีเจอหนักๆ ตัว SPD เองก็อาจจะต้องเสียสละตัวเองพังไป เพื่อปกป้องอุปกรณ์ที่ต่อพ่วง ซึ่งถือว่ามันทำหน้าที่ของมันได้ดีแล้ว!

สรุปคือ ฟีดแบ็กส่วนใหญ่เน้นเรื่อง ความอุ่นใจ, ความคุ้มค่า และการ ป้องกันความเสียหาย ให้กับอุปกรณ์ราคาแพงจ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

ช่องทางการซื้อ Surge Protection สำหรับกล้องวงจรปิดที่สะดวกและมีตัวเลือกเยอะในไทย ก็หนีไม่พ้น:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่: อย่าง Shopee และ Lazada นี่แหละแหล่งรวมเลย มีร้านค้าให้เลือกเพียบ ทั้งร้านที่เน้นขายอุปกรณ์กล้องวงจรปิดโดยตรง หรือร้านที่ขายอุปกรณ์ไฟฟ้า/อิเล็กทรอนิกส์ ข้อดีคือเปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ให้ดู และมักมีโปรโมชั่นดีๆ แต่ต้องดูรายละเอียดสินค้าและสอบถามผู้ขายให้แน่ใจก่อนซื้อนะว่าตรงตามสเปกที่เราต้องการ
• ร้านค้าออนไลน์เฉพาะทาง: บางบริษัทที่นำเข้าหรือจำหน่ายอุปกรณ์ระบบรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะ ก็มีเว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์ของตัวเอง ข้อดีคือมีความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ อาจให้คำแนะนำได้ดีกว่า และสินค้ามีความน่าเชื่อถือ แต่ราคาอาจจะสูงกว่าในแพลตฟอร์มทั่วไปเล็กน้อย
• ร้านอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือร้านกล้องวงจรปิด: ร้านตามบ้านหม้อ คลองถม หรือร้านตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์กล้องวงจรปิดในพื้นที่ต่างๆ ก็อาจจะมีขายนะ ข้อดีคือสามารถไปดูของจริง สอบถามคนขายได้โดยตรง แต่ตัวเลือกอาจไม่หลากหลายเท่าออนไลน์

สำหรับช่องทาง Official Store ของแบรนด์ Surge Protection โดยตรงใน Lazada หรือ Shopee อาจจะไม่ค่อยมีเหมือนสินค้า consumer ทั่วไป เพราะเป็นอุปกรณ์เฉพาะทางมากกว่า แต่บางแบรนด์อุปกรณ์เน็ตเวิร์คอย่าง Link ก็อาจจะมี Surge Protector ขายในร้าน Official Store ของตัวเองนะ

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

ถามว่าอุปกรณ์ Surge Protection สำหรับกล้องวงจรปิดน่าซื้อไหม? ตอบเลยว่า น่าซื้อมากๆ! โดยเฉพาะถ้าคุณ:

• ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ภายนอกอาคาร หรือในบริเวณที่เสี่ยงต่อฟ้าผ่า
• อยู่ในพื้นที่ที่เกิดพายุฟ้าคะนองบ่อยๆ ในช่วงหน้าฝน
• ลงทุนกับอุปกรณ์กล้องวงจรปิดราคาแพง ทั้งตัวกล้องและเครื่องบันทึก
• ต้องการให้ระบบกล้องวงจรปิดทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุดจากปัญหาไฟกระชาก
• อยากประหยัดค่าใช้จ่าย ในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เสียหายจากไฟกระชาก

เจ้า Surge Protection ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆ นะ คิดซะว่าเป็นการซื้อประกันชั้นดีให้กับอุปกรณ์ของเรา! ราคาค่าตัวของมันน่ะจิ๊บๆ มาก เมื่อเทียบกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้

ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดีนั้น ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของกล้องวงจรปิดที่เราใช้ (Analog หรือ IP) และจำนวนกล้องที่เราต้องการป้องกัน ถ้ามีไม่กี่ตัวอาจจะใช้แบบ Single Channel แยกเป็นจุดๆ ไป แต่ถ้ามีหลายตัว การใช้แบบ Multi-channel ที่รวมอยู่ในแผงเดียวก็สะดวกดีในการจัดการ สำหรับกล้อง IP ที่ใช้สาย LAN และ PoE ก็ต้องเลือก SPD ที่รองรับ PoE ด้วยนะ ที่สำคัญอย่าลืมดูสเปกเรื่องระดับการป้องกัน (กี่ kV, กี่ kA) และมาตรฐานที่อุปกรณ์รองรับด้วยนะ

สุดท้ายนี้ ขอแนะนำว่าถ้าติดตั้ง Surge Protection แล้ว อย่าลืมต่อสายกราวด์ให้ถูกต้องด้วยนะ เพราะถ้าไม่มีสายกราวด์ เจ้าฮีโร่ของเราก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่ หรืออาจจะทำงานไม่ได้เลย! หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจซื้ออุปกรณ์ Surge Protection ให้กับกล้องวงจรปิดของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้กล้องของทุกท่านปลอดภัย ไร้กังวลเรื่องไฟกระชากไปเลยจ้า! บ๊ายบาย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• EP28. แนะนำอุปกรณ์กันฟ้าผ่า SURGE PROTERTOR เพื่อความ ...
• EP.3"การติดตั้งระบบป้องกันฟ้าผ่าและการเลือกใช้ Surge Proection ...
• ราคาติดตั้งกล้องวงจรปิดสำหรับบ้าน ร้านค้า สำนักงาน เน้นความคมชัด ...
• UDtechnology | กล้อง IP #Tiandy มาแล้วค้าาา ติดตั้งง่ายราคาสบาย ...
• ปลั๊กไฟพรีเมี่ยม Adsawin สุดเจ๋งสำหรับของที่ระลึก