logo

เครื่องเสียงรถยนต์ Groovy GR680+ ราคาเท่าไหร่? ฟังก์ชันครบครัน

user avatar
วีรภัทร มูลทรัพย์·07/08/2025 03:11
点赞
เครื่องเสียงรถยนต์ Groovy GR680+ ราคาเท่าไหร่? ฟังก์ชันครบครัน

สวัสดีครับเพื่อนๆ สายซิ่ง สายชิล ที่ใช้เวลาอยู่บนรถมากกว่าอยู่บ้าน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องสำคัญสำหรับสุนทรียภาพในการเดินทาง นั่นก็คือ "เครื่องเสียงรถยนต์" นั่นเอง! ใครที่กำลังรู้สึกว่าเครื่องเสียงเดิมๆ ในรถมันยังไม่จี๊ดจ๊าดโดนใจ หรืออยากได้ฟังก์ชันล้ำๆ แบบที่คนอื่นเค้ามีกัน มามุงทางนี้เลยครับ เพราะเราจะมาเจาะลึกเรื่องเครื่องเสียงรถยนต์กันแบบจัดเต็ม ตามสไตล์คนไทยใจถึงพึ่งได้ ช้อปยังไงให้คุ้มค่า ถูกใจ แถมสบายกระเป๋าอีกด้วย!

1. เครื่องเสียงรถยนต์เนี่ย มันคืออะไร มีไว้ทำไมกันนะ?

เอาล่ะ เริ่มต้นกันที่พื้นฐานก่อนเลย เครื่องเสียงรถยนต์ มันก็คือระบบความบันเทิงคู่ใจเวลาที่เราขับรถนี่แหละครับ หน้าที่หลักๆ ก็คือการเล่นเพลง ฟังวิทยุ หรือแหล่งเสียงอื่นๆ ให้เราเพลิดเพลินระหว่างเดินทาง จากสมัยก่อนที่เป็นแค่เครื่องเล่นเทปคาสเซ็ตต์บ้านๆ ตอนนี้พัฒนาไปไกลมากกกก มีทั้งเล่น CD, USB, Bluetooth, หรือแม้กระทั่งเป็นจอสัมผัสที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ได้ด้วยนะ

เหมาะกับใครน่ะเหรอ? ก็เหมาะกับคนใช้รถทุกคนนั่นแหละ! ไม่ว่าจะขับไปทำงานทุกวัน ขับไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือแม้แต่ใช้นั่งรอแฟนหน้าปากซอย การมีเครื่องเสียงดีๆ ฟังก์ชันครบๆ มันช่วยให้การเดินทางไม่น่าเบื่ออีกต่อไป แถมยังเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงโปรดได้แบบสุดๆ ไปเลย

แบรนด์เครื่องเสียงรถยนต์ดังๆ ในตลาดโลกแล้วก็เป็นที่นิยมในไทยก็มีเพียบเลยนะ เช่น Pioneer, Kenwood, Sony, Alpine, JBL, HERTZ อะไรพวกนี้ ที่เค้าทำเครื่องเสียงมายาวนาน คุณภาพดี ไว้ใจได้ ส่วนแบรนด์ Groovy ที่หลายคนถามถึง (จากชื่อหัวข้อเนี่ยแหละ) จากที่ไปหาข้อมูลมาดูเหมือนจะเป็นที่รู้จักในฐานะกล้องติดรถยนต์ซะมากกว่านะ ยังไม่เจอข้อมูลว่าเป็นแบรนด์เครื่องเสียงรถยนต์โดยตรง แต่ไม่ต้องห่วง เราจะมาดูกันว่าถ้าจะหาเครื่องเสียงรถยนต์ดีๆ ฟังก์ชันครบๆ ในตลาดไทยตอนนี้มีตัวเลือกไหนน่าสนใจบ้าง!

2. ราคาในตลาดไทย ประมาณไหนนะ?

เรื่องราคาเครื่องเสียงรถยนต์เนี่ย มีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นหลักแสนเลยครับ ขึ้นอยู่กับประเภท ฟังก์ชัน และแบรนด์ ถ้าเป็นเครื่องเล่นวิทยุแบบ 1DIN (แบบเก่าๆ หน่อย ที่เป็นช่องเล็กๆ) ที่มีแค่ฟังวิทยุ เล่น USB Bluetooth ราคาเริ่มต้นก็ประมาณ 2,000 - 5,000 บาท (฿) ก็พอหาได้แล้ว

แต่ถ้าอยากได้แบบหน้าจอสัมผัส 2DIN (แบบเต็มช่องที่คอนโซลรถ) ที่รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ดูหนัง ฟังเพลงได้เนี่ย ราคาจะสูงขึ้นมาอีกหน่อย เริ่มต้นประมาณ 5,000 - 15,000 บาท (฿) สำหรับรุ่นทั่วๆ ไป แต่ถ้าเป็นรุ่นที่รองรับ Apple CarPlay หรือ Android Auto แบบไร้สาย ฟังก์ชันแน่นๆ แบรนด์ดังๆ ราคาก็อาจจะขยับไปถึง 20,000 บาท (฿) ขึ้นไปเลยก็มีนะ

แหล่งช้อปปิ้งหลักๆ ที่เราจะเจอเครื่องเสียงรถยนต์ก็จะมีตาม ร้านประดับยนต์ หรือ ร้านเครื่องเสียงรถยนต์โดยเฉพาะ ซึ่งร้านพวกนี้มักจะมีบริการติดตั้งให้ด้วย นอกจากนี้ก็หาได้ตามแพลตฟอร์มออนไลน์ยอดฮิตอย่าง Lazada และ Shopee ก็มีร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายมาลงขายเพียบ แถมบางทีมีโปรโมชั่นดีๆ ด้วยนะ ส่วนร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ อย่าง Power Buy หรือร้านคอมพิวเตอร์อย่าง JIB, Banana IT อาจจะไม่ได้เน้นขายเครื่องเสียงรถยนต์เท่าไหร่ครับ

สำหรับ Groovy GR680+ อย่างที่บอกไปว่ามันคือกล้องติดรถยนต์ ซึ่งราคากล้องติดรถยนต์ของ Groovy รุ่นใกล้เคียงก็อยู่ประมาณ 1,000 กว่าบาท ถึง 2,000 บาทนิดๆ นะครับ ซึ่งคนละประเภทกับเครื่องเสียงรถยนต์เลย


3. เทียบราคากับชาวบ้านเค้าเป็นไงบ้าง?

ถ้าเทียบราคาเครื่องเสียงรถยนต์กับสินค้าประเภทอื่นๆ ในตลาดอิเล็กทรอนิกส์ในรถเนี่ย เครื่องเสียงถือเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างคุ้มค่านะ ถ้าเทียบกับคุณภาพเสียงและฟังก์ชันที่เราได้กลับมา ยกตัวอย่างเช่น เครื่องเล่น 2DIN ที่รองรับ Bluetooth ราคาไม่กี่พัน ก็ดีกว่าฟังจากมือถือเยอะแล้ว

ลองดูแบรนด์คู่แข่งในตลาดเดียวกัน อย่าง Pioneer หรือ Kenwood รุ่นที่มีฟังก์ชันใกล้เคียงกัน ราคาอาจจะพอๆ กับแบรนด์อื่นๆ หรือบางทีอาจจะสูงกว่าเล็กน้อยในรุ่นท็อปๆ แต่ก็แลกมาด้วยชื่อเสียงและคุณภาพที่หลายคนไว้วางใจ ในขณะที่แบรนด์น้องใหม่ๆ หรือแบรนด์ทางเลือกอื่นๆ อาจจะเสนอราคาที่เย้ายวนกว่า โดยมีฟังก์ชันคล้ายๆ กัน ก็ต้องพิจารณาเรื่องคุณภาพเสียง ความทนทาน และบริการหลังการขายควบคู่ไปด้วยนะ


4. ซื้อแล้วได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้างนะ?

เวลาซื้อเครื่องเสียงรถยนต์สิ่งที่สำคัญมากๆ ที่ต้องเช็คเลยก็คือ:

  • ตัวเครื่อง: อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว
  • สายไฟและอุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆ: ต้องมีมาให้ครบ ถ้ารุ่นไหนมีรีโมท ก็เช็คด้วยนะ
  • คู่มือการใช้งาน: ถึงแม้จะติดตั้งโดยช่าง แต่เราควรอ่านคู่มือไว้บ้าง จะได้ใช้ฟังก์ชันต่างๆ ได้เต็มที่
  • ใบรับประกัน: อันนี้สำคัญสุดๆ สำหรับคนไทย! เครื่องเสียงรถยนต์ส่วนใหญ่มีการรับประกัน 1 ปี นะครับ ต้องได้ใบรับประกันมาด้วย เผื่อมีปัญหาจะได้ส่งซ่อมได้
  • ค่าติดตั้ง: บางร้านที่ซื้อเครื่องเสียงอาจจะ รวมค่าติดตั้ง ไปแล้วในราคาโปรโมชั่น หรืออาจจะ ลดราคาค่าติดตั้ง ให้พิเศษ แต่บางร้านก็แยกค่าติดตั้งต่างหาก ซึ่งค่าติดตั้งก็ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของรถและระบบที่เราจะติดตั้งด้วย
  • ของแถม/โปรโมชั่น: อันนี้แล้วแต่ร้านเลย บางทีอาจจะมีแถมพวกกรอบหน้ากากวิทยุ, สายแปลงปลั๊ก, หรือบางทีก็มีโปรโมชั่น แลกซื้อกล้องติดรถยนต์ในราคาพิเศษ เมื่อซื้อเครื่องเสียงด้วยนะ

เรื่อง ค่าขนส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่จะมีค่าส่งนะ นอกจากร้านจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี ก็ต้องลองดูเงื่อนไขดีๆ จ้า


5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าอยากได้เครื่องเสียงรถยนต์ในราคาคุ้มๆ ช่วงเวลาที่น่าจับตามองคือช่วง โปรโมชั่น ต่างๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นที่ร้านเครื่องเสียงจัดเอง หรือโปรโมชั่นใหญ่ๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee

ช่วงเทศกาลใหญ่ๆ ของไทยก็เป็นโอกาสทองนะ เช่น ช่วงปีใหม่ไทย (สงกรานต์) ที่หลายร้านอาจจะมีโปรโมชั่นต้อนรับวันหยุดยาว หรือช่วง Double Digit Sale ยอดฮิตอย่าง 11.11 และ 12.12 ที่ลดกันสนั่นหวั่นไหว! ช่วงนี้แหละครับที่เราอาจจะเจอเครื่องเสียงรถยนต์รุ่นที่เล็งไว้ลดราคาพิเศษ หรือมีโค้ดส่วนลดให้ใช้เพียบ นอกจากนี้ ตามงานมอเตอร์โชว์หรืองานแสดงรถต่างๆ ก็มักจะมีร้านเครื่องเสียงไปออกบูธพร้อมโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะงานด้วยนะ

ร้านที่เป็น Official Store หรือร้านใหญ่ๆ บน Lazada/Shopee ก็มักจะมีโปรโมชั่น Flash Sale หรือส่วนลดตามช่วงเวลาต่างๆ อยู่เรื่อยๆ ครับ แนะนำให้กดติดตามร้านไว้ จะได้ไม่พลาดโปรโมชั่นดีๆ สรุปคือ ถ้าไม่รีบมากๆ รอช่วงโปรโมชั่น เนี่ย ได้ของดีราคาถูกลงชัวร์!


6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ลองส่องๆ ตามรีวิวหรือคอมเมนต์ตามกลุ่มคนรักรถในไทยเนี่ย ฟีดแบ็กเกี่ยวกับเครื่องเสียงรถยนต์รุ่นต่างๆ ในตลาดก็หลากหลายนะ จุดที่คนไทยมักจะให้ความสำคัญและคอมเมนต์ถึงบ่อยๆ ก็คือ:

  • คุณภาพเสียง: แน่นอนว่าซื้อเครื่องเสียงก็ต้องเน้นเสียงดี หลายคนจะบอกว่าเสียงเบสแน่นมั้ย เสียงกลางชัดรึเปล่า ฟังแล้วเพราะถูกใจรึเปล่า
  • ฟังก์ชันการใช้งาน: เชื่อมต่อ Bluetooth ง่ายมั้ย? ต่อ Apple CarPlay / Android Auto เสถียรรึเปล่า? จอทัชสกรีนลื่นไหลดีมั้ย?
  • ความทนทาน: ใช้ไปนานๆ มีปัญหาจุกจิกมั้ย? บางทีเจอแดดเมืองไทยร้อนๆ เครื่องเสียงยังทำงานปกติดีอยู่รึเปล่า?
  • ความคุ้มค่ากับราคา: จ่ายไปเท่านี้ ได้คุณภาพ/ฟังก์ชันประมาณไหน คุ้มมั้ยเมื่อเทียบกับตัวเลือกอื่น
  • การติดตั้ง: ช่างติดตั้งดีมั้ย? งานเรียบร้อยรึเปล่า? (อันนี้สำคัญมาก เพราะถ้าติดตั้งไม่ดีอาจมีปัญหาตามมาได้)

โดยรวมแล้วคนไทยก็เน้นความคุ้มค่า ใช้แล้วต้องดี มีฟังก์ชันครบครันตามที่ต้องการ และที่สำคัญคือต้อง ทนทาน กับสภาพอากาศเมืองไทย และมี บริการหลังการขายหรือการรับประกัน ที่ไว้ใจได้ครับ


7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนดีล่ะทีนี้?

ช่องทางการซื้อเครื่องเสียงรถยนต์ในไทยก็มีให้เลือกหลายแบบเลยครับ:

  • ร้านเครื่องเสียงรถยนต์โดยเฉพาะ: อันนี้เป็นช่องทางหลักเลย ข้อดีคือมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำโดยตรง สามารถดูตัวอย่างสินค้า หรือทดลองฟังเสียงก่อนได้ และที่สำคัญคือมีบริการ ติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ สำหรับการติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ให้ได้คุณภาพและไม่มีปัญหาตามมา ร้านพวกนี้มักจะมีโปรโมชั่นพร้อมติดตั้ง หรือโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะรุ่นอยู่เรื่อยๆ
  • ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: บางแบรนด์อาจจะมีโชว์รูมหรือร้านตัวแทนจำหน่ายของตัวเอง อันนี้ก็มั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ มีการรับประกันแน่นอน
  • แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่: อย่าง Shopee และ Lazada เป็นแหล่งรวมร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายจำนวนมาก ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะมากกก เปรียบเทียบราคาได้ง่าย สะดวกสบาย กดสั่งได้ตลอด 24 ชั่วโมง บางทีเจอราคาดีกว่าหน้าร้านเยอะ แถมมีโค้ดส่วนลดหรือโปรโมชั่นส่งฟรีให้ใช้ด้วยนะ แต่ข้อเสียคือเราไม่เห็นของจริงก่อนซื้อ และต้องหาช่างติดตั้งเอง (นอกจากบางร้านออนไลน์จะมีบริการติดตั้งให้ด้วย) ต้องดูเครดิตร้านค้าและอ่านรีวิวดีๆ ก่อนตัดสินใจซื้อครับ

ส่วนร้านใหญ่ๆ อย่าง Central, Big C, The Mall ส่วนใหญ่จะเน้นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านมากกว่า อาจจะมีเครื่องเสียงรถยนต์บ้างแต่น้อยรุ่น และร้านอย่าง JIB, Banana IT จะเน้นคอมพิวเตอร์ Gadget เป็นหลัก ไม่ใช่ช่องทางหลักสำหรับเครื่องเสียงรถยนต์ครับ


8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

สรุปแบบฟันธงเลยว่าการอัพเกรดเครื่องเสียงรถยนต์เนี่ย น่าซื้อมากๆ เลยครับ ถ้าคุณรู้สึกว่าเครื่องเสียงเดิมๆ มันยังไม่ตอบโจทย์ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่ใช้เวลาอยู่ในรถนานๆ ฟังเพลงบ่อยๆ หรืออยากได้ฟังก์ชันเชื่อมต่อกับมือถือแบบล้ำๆ การลงทุนกับเครื่องเสียงดีๆ สักชุดจะช่วยเพิ่มความสุขในการขับขี่ของคุณได้เยอะเลย

เหมาะกับใคร?

  • คนที่อยากได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน
  • คนที่ต้องการฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย เช่น Bluetooth, USB, AUX, หรือหน้าจอสัมผัสรองรับ Apple CarPlay / Android Auto
  • คนที่อยากให้การเดินทางไม่น่าเบื่อ มีความบันเทิงครบครัน

ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดีนั้น ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการเลยครับ ถ้าเน้นแค่ฟังเพลงผ่าน Bluetooth หรือ USB เครื่องเล่น 1DIN ราคาเบาๆ ก็พอแล้ว แต่ถ้าอยากได้หน้าจอไว้ดูแผนที่ ดูหนัง หรือเชื่อมต่อกับแอปต่างๆ ในมือถือแบบเต็มรูปแบบ ก็ต้องขยับไปที่เครื่องเล่น 2DIN จอสัมผัส รุ่นที่รองรับ Apple CarPlay / Android Auto ก็จะสะดวกสบายขึ้นไปอีก

สำหรับคนที่มองหา "Groovy GR680+" ถ้าคุณต้องการเครื่องเสียงรถยนต์ ต้องบอกว่าข้อมูลที่เราหาได้คือรุ่นนี้เป็นกล้องติดรถยนต์นะครับ ไม่ใช่เครื่องเสียง ดังนั้นถ้าต้องการเครื่องเสียง อาจจะต้องมองหารุ่นอื่นๆ จากแบรนด์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องเสียงรถยนต์โดยเฉพาะครับ

ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน แบรนด์อะไร สิ่งสำคัญคือเลือกที่ตรงกับการใช้งานของเรามากที่สุดครับ ลองศึกษาฟังก์ชัน เปรียบเทียบราคา อ่านรีวิว และถ้าเป็นไปได้ก็ลองไปฟังเสียงจริงที่ร้านก่อนตัดสินใจซื้อนะครับ ขอให้ทุกคนได้เครื่องเสียงรถยนต์คู่ใจ ที่ทำให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความสุขและเสียงเพลงที่ถูกใจครับ!

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดีค่ะชาวรถซิ่ง เอ๊ย! ชาวรถยนต์ที่รักทุกท่าน วันนี้เราจะมาเจาะลึก Gadget คู่ใจที่คนรักเครื่องเสียงในรถต้องรู้จัก นั่นก็คือ Pioneer AVH-Z7250BT นั่นเอง! บอกเลยว่าไม่ใช่แค่เปิดเพลงฟังธรรมดา แต่ยกระดับความบันเทิงในรถให้ฟินสุดๆ ไปเลยจ้า ใครท
เครื่องเสียงรถยนต์ Pioneer AVH-Z7250BT ราคาล่าสุดและฟังก์ชัน
สวัสดีค่าทุกคนนน! กลับมาอีกแล้วกับดิฉัน ป้าอร อรเองค่ะ กูรูนักช้อปตัวยงแห่งโลกออนไลน์เมืองไทย วันนี้ป้าอรไม่ได้มาเล่นๆ นะคะ แต่จะพาไปส่องไอเทมเด็ดที่ชีวิตคนยุค 2025 ขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือ "เครื่องปริ้น" นั่นเองค่ะ! แหม... ยุคนี้ Work From H
10 เครื่องปริ้น ราคาไม่เกิน 5000 บาท ปี 2025 พิมพ์เร็ว ฟังก์ชันครบครัน
สวัสดีครับทุกคน! 😊 วันนี้เจอกันอีกแล้วกับไกด์ไลน์ช้อปปิ้งสุดปัง ที่จะช่วยให้ชีวิตในครัวง่ายขึ้นเยอะ! พูดถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเนี่ย ถ้าไม่มีเจ้าสิ่งนี้ ชีวิตคงจะเหี่ยวเฉาเหมือนดอกไม้รดน้ำไม่ถึง... ใช่แล้วครับ! ผมกำลังพูดถึง ไมโครเวฟ นั่น
10 ไมโครเวฟ Electrolux รุ่นไหนดี ปี 2025 ทำอาหารง่าย ฟังก์ชันครบ

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีค่าชาวช้อปปิ้งออนไลน์ที่น่ารักทุกคน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด นั่นก็คือ ไส้กรองน้ำ Lux Alva ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้น้ำดื่มของเราสะอาดใสปิ๊ง! ใครที่กำลังใช้เครื่องกรองน้ำ Lux Alva อยู่ หรือกำลังเล็งๆ จะเปลี่ยนไส้กรองใหม
ไส้กรองน้ำ Lux Alva ราคาล่าสุด เปลี่ยนเมื่อไหร่ดี?
สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้ขอเอาใจสายโปรดิวเซอร์ สายทำเพลง หรือใครที่ฝันอยากมีสตูดิโอเล็กๆ เป็นของตัวเองที่บ้าน ด้วยการมาเม้าท์มอยถึงอุปกรณ์สุดปังที่ชื่อว่า Ableton Push 2 กันจ้า บอกเลยว่าเจ้านี่ไม่ใช่แค่คอนโทรลเลอร์ธรรมดา แต่มันคือเครื่องมือท
Ableton Push 2: ราคาล่าสุด ปี 2568 และรีวิวคอนโทรลเลอร์สำหรับทำเพลง
สวัสดีค่าาทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องเครื่องดนตรีจิ๋วแต่แจ๋วที่กำลังฮิตสุดๆ นั่นก็คือ คาลิมบา (Kalimba) นั่นเอง! ใครที่อยากลองเล่นดนตรีแต่ไม่รู้จะเริ่มจากอะไรดี หรืออยากได้เครื่องดนตรีพกพาง่ายๆ ไว้ดีดเพลินๆ แก้เบื่อ มามุงทางนี้เลย
คาลิมบา (Kalimba) ราคาถูก เริ่มต้นกี่บาท? ยี่ห้อไหนดีสำหรับมือใหม่

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ