รีวิว LaMetric Time นาฬิกาอัจฉริยะ แสดงข้อมูลได้หลากหลาย น่าใช้


สวัสดีจ้า! วันนี้เราจะมารีวิวของเล่นใหม่ที่ใครเห็นก็ต้องร้อง อู้หูววว! มันคือนี่เลย LaMetric Time นาฬิกาอัจฉริยะสุดคูลที่ทำได้มากกว่าบอกเวลา! เคยไหมที่อยากได้นาฬิกาตั้งโต๊ะเก๋ๆ ที่ไม่เหมือนใคร แถมยังดูข้อมูลนู่นนี่นั่นได้แบบเรียลไทม์ ไม่ต้องคอยหยิบมือถือมาเช็กให้เสียเวลา? ถ้าเคย... แปลว่านายคือเพื่อนเรา! วันนี้เราจะมาแกะกล่อง ลองเล่นเจ้า LaMetric Time ให้ดูกันแบบหมดเปลือก ตามสไตล์คนไทยใจง่าย ที่พร้อมเสียเงิน เอ้ย! พร้อมลงทุนกับของดีๆ มาดูกันว่าเจ้านาฬิกาพิกเซลตัวนี้มันจะน่าสอยมาไว้ข้างหมอน เอ้ย! ข้างโต๊ะทำงานแค่ไหน ไปลุย!
1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จัก LaMetric Time ตัวจี๊ด!
นี่ไม่ใช่แค่นาฬิกาดิจิทัลธรรมดานะจ๊ะ แต่มันคือนาฬิกาอัจฉริยะที่เชื่อมต่อโลกออนไลน์เข้ากับชีวิตประจำวันของเราได้แบบเนียนๆ ด้วยหน้าจอพิกเซลสุดเก๋ ที่จะแสดงข้อมูลต่างๆ ได้ตามใจเรา
แบรนด์: LaMetric
รุ่น: Time
ปีที่วางขาย: เริ่มเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2017 แต่ก็มีการอัปเดตซอฟต์แวร์เรื่อยๆ
ช่วงราคา: ในไทยเห็นขายกันอยู่ประมาณ 6,xxx - 7,xxx บาท แล้วแต่ร้านและโปรโมชั่นนะ
ตำแหน่งในตลาด: เป็น Gadget เฉพาะกลุ่มหน่อย เหมาะกับคนชอบเทคโนโลยี ชอบแต่งโต๊ะทำงาน/บ้าน หรือคนที่อยากได้หน้าจอเล็กๆ ไว้ดูข้อมูลสำคัญตลอดเวลา ไม่ใช่แค่นาฬิกาปลุกธรรมดาแน่นอน
จุดเด่นหลักๆ ที่ต้องรู้:
- หน้าจอพิกเซลสุดแนว: ไม่เหมือนใคร แสดงผลเป็นตัวเลขและไอคอนแบบพิกเซล สีสันสดใส มองเห็นง่ายทั้งกลางวันกลางคืน
- แสดงข้อมูลได้หลากหลาย: ไม่ใช่แค่เวลา แต่ดูสภาพอากาศ, อีเมล, นัดหมาย, ข่าว, ยอดผู้ติดตามบนโซเชียลฯ, ราคาคริปโต หรือข้อมูลอื่นๆ อีกเพียบผ่านแอปต่างๆ
- มีแอปให้เลือกเยอะ: เข้าไปเลือกดาวน์โหลดแอปใน LaMetric Market ได้ มีทั้งแอปทางการและที่นักพัฒนาทั่วไปทำขึ้น
- เชื่อมต่อ Wi-Fi ได้: ทำงานแบบ Standalone ได้ แค่เชื่อม Wi-Fi ก็พอ ไม่ต้องคอยต่อกับมือถือตลอดเวลา (แค่ตอนตั้งค่าครั้งแรก)
- เป็นลำโพง Bluetooth ได้: ฟังเพลง Spotify หรือวิทยุออนไลน์ก็ได้ แถมหน้าจอยังแสดง Visualizer เต้นไปตามเพลงอีก!
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: มินิมอลแต่เตะตา!
เปิดกล่องมาปุ๊บ สิ่งแรกที่เห็นคือความมินิมอลแต่ดูดี ตัวเครื่องสีดำด้านๆ ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ขนาดประมาณ 20.1 x 6.1 x 3.6 ซม. น้ำหนักเบาแค่ 223 กรัม
การออกแบบ: เรียบๆ แต่มีเอกลักษณ์ด้วยหน้าจอพิกเซลนี่แหละ ที่ทำให้มันดูโดดเด่นขึ้นมาทันที เหมาะจะวางไว้บนโต๊ะทำงาน ชั้นวางของ หรือเคาน์เตอร์ต่างๆ วัสดุรู้สึกแข็งแรงพอประมาณ ไม่ได้ก๊องแก๊ง แต่ก็คงไม่ได้ทนทานขนาดเอาไปลุยน้ำลุยฝนได้นะ
สีที่มีให้เลือก: เท่าที่เห็นในไทยหลักๆ คือสีดำนะ
เหมาะกับวางไว้ที่ไหน: วางตรงไหนก็ดูเก๋ไปหมด ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงานหัวเตียง หรือชั้นวางของในห้องนั่งเล่น
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: หลักๆ ก็จะมีตัวเครื่อง, สาย USB, อะแดปเตอร์ (มีหัวแปลงสำหรับหลายประเทศ), คู่มือเล็กน้อย
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: หน้าจอน่ารัก บอกอะไรก็ได้!
หัวใจหลักของ LaMetric Time คือหน้าจอพิกเซลนี่แหละ ที่จะแสดงข้อมูลต่างๆ ให้เราเห็นได้ทันทีโดยไม่ต้องง้อโทรศัพท์ ลองนึกภาพนะ ตื่นเช้ามาเหลือบมองนาฬิกา เห็นเวลากับอุณหภูมิวันนี้เลย ก็สะดวกดีใช่ไหมล่ะ
เราสามารถเลือกแอปที่ต้องการให้แสดงบนหน้าจอได้ผ่านแอป LaMetric บนมือถือ (มีทั้ง iOS และ Android) พอกดเลือกแล้ว ข้อมูลก็จะเด้งไปแสดงบนหน้าจอ LaMetric Time ทันที
ตัวอย่างข้อมูลที่มันแสดงได้:
- เวลาและวันที่: แน่นอนว่านี่คือฟังก์ชันหลัก มีหน้าปัดให้เลือกเยอะมากกกก ทั้งแบบตัวเลขธรรมดา หรือแบบมีไอคอนน่ารักๆ เปลี่ยนตามเทศกาลก็มี
- สภาพอากาศ: ดูอุณหภูมิ ความชื้นได้ พร้อมไอคอนบอกสภาพอากาศ เช่น แดดออก ฝนตก
- ยอดผู้ติดตาม/ยอดไลก์: อันนี้เหมาะกับคนทำคอนเทนต์ หรือร้านค้าออนไลน์มากๆ สามารถเชื่อมกับ Facebook, Instagram, YouTube เพื่อดูยอดผู้ติดตามแบบเรียลไทม์ได้เลย
- ข่าวสาร: เลือกแอปข่าวที่สนใจ ข่าวพาดหัวก็จะวิ่งบนหน้าจอ
- นัดหมายในปฏิทิน: ซิงค์กับ Google Calendar หรืออื่นๆ เพื่อแสดงนัดหมายสำคัญของวัน
- การแจ้งเตือนจากมือถือ: ตั้งค่าให้แสดงการแจ้งเตือนจากบางแอปบนมือถือได้ด้วย
- ราคาหุ้น/คริปโต: สำหรับสายลงทุน อันนี้มีประโยชน์มาก
- ข้อความส่วนตัว: พิมพ์ข้อความอะไรก็ได้ให้วิ่งบนหน้าจอ แสดงความรู้สึก หรือเป็นข้อความต้อนรับเก๋ๆ ก็ได้
- Pomodoro Timer: สำหรับสายทำงาน/อ่านหนังสือ มีตัวจับเวลา Pomodoro ช่วยเพิ่มสมาธิ
- เพลง: เชื่อมต่อ Bluetooth แล้วเปิดเพลง หน้าจอก็จะแสดง Visualizer เปลี่ยนไปตามเสียง
ใช้งานง่าย แค่กดปุ่มซ้ายขวาเพื่อสลับดูแอปต่างๆ ที่เราตั้งค่าไว้ หรือกดปุ่มกลางเพื่อดำเนินการบางอย่าง (เช่น หยุดนาฬิกาจับเวลา)
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: งงมั้ย? บอกเลยว่าง่าย!
ตอนแรกอาจจะคิดว่ามันจะตั้งค่ายากหรือเปล่า? แต่จริงๆ แล้วง่ายกว่าที่คิดเยอะเลยค่ะ แค่เสียบปลั๊ก เครื่องก็จะให้เราดาวน์โหลดแอป LaMetric Time บนมือถือ (ต้องเป็นเวอร์ชันที่ตรงกับปีที่ผลิตเครื่องด้วยนะ) จากนั้นก็เชื่อมต่อ Wi-Fi ผ่านแอป แล้วทุกอย่างก็พร้อมใช้งาน
ความง่ายในการใช้งาน: ตัวแอปบนมือถือออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน จัดการแอปต่างๆ บน LaMetric Time ได้สะดวก ส่วนบนตัวเครื่องก็มีแค่ 3 ปุ่มให้กด สลับไปมาไม่หลงแน่นอน
ระบบซอฟต์แวร์: ส่วนใหญ่ถือว่าลื่นไหลดี แต่บางคนก็เคยเจอ Bug บ้างหลังอัปเดตแอป ตัวเครื่องมีการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ Over-the-air ได้เรื่อยๆ เพื่อเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ
เสียง/ความร้อน: เสียงตอนแสดงผลถือว่าเงียบ ไม่รบกวน ส่วนเรื่องความร้อน ไม่พบว่าเครื่องร้อนผิดปกติจากการใช้งานทั่วไป
รองรับภาษาไทย?: ตัวเครื่องไม่สามารถแสดงภาษาไทยได้ตรงๆ นะคะ จะแสดงเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษและตัวเลขเป็นหลัก แต่ข้อความบางอย่างอาจจะพอสื่อสารได้ถ้าพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ แอปบนมือถือก็เป็นภาษาอังกฤษ
ใช้กับแอปในไทยได้ไหม?: ตัว LaMetric Time เชื่อมต่อกับบริการออนไลน์ต่างๆ ทั่วโลกเป็นหลัก พวกแอป Social Media ยอดนิยมก็ใช้ได้ค่ะ ส่วนแอปเฉพาะทางของไทยอาจจะต้องลองหาดูว่ามีนักพัฒนาคนไหนทำแอปสำหรับ LaMetric Time ไว้บ้างไหม
5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: เสียบปลั๊กเป็นหลัก!
เจ้านาฬิกาตัวนี้หลักๆ แล้วต้องเสียบปลั๊กใช้งานค่ะ มันมีแบตเตอรี่ในตัวก็จริง แต่เอาไว้ใช้ในกรณีที่ไฟดับ หรือถอดปลั๊กแป๊บๆ เท่านั้น ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้งานแบบไร้สายตลอดเวลา
ระยะเวลาการใช้งานต่อการชาร์จ: ไม่ได้เน้นเรื่องนี้ เพราะปกติเสียบปลั๊กตลอด
ความเร็วในการชาร์จ: ไม่ได้ระบุชัดเจน แต่ก็เสียบชาร์จกับอะแดปเตอร์ที่ให้มา
ค่าใช้จ่ายระยะยาว: หลักๆ ก็คือค่าไฟ ซึ่งถือว่าน้อยมากสำหรับอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ แบบนี้ การบำรุงรักษาก็ไม่มีอะไรซับซ้อน ส่วนอะไหล่ก็คงไม่มีให้เปลี่ยนเป็นชิ้นๆ ยกเว้นเสีย อาจจะต้องส่งซ่อมหรือเคลมตามเงื่อนไขการรับประกัน
วิเคราะห์ความคุ้มค่า: ด้วยราคาที่เฉียดหมื่น LaMetric Time ถือว่าราคาสูงกว่านาฬิกาดิจิทัลทั่วไปเยอะเลย แต่ถ้ามองว่ามันคือ Gadget ที่แสดงข้อมูลหลากหลายได้ตลอดเวลา เป็นเหมือนหน้าจอเล็กๆ ที่ปรับแต่งได้เต็มที่ และเป็นของแต่งบ้านที่ดูดีมีสไตล์ด้วย ก็อาจจะมองว่าคุ้มค่าสำหรับบางคนค่ะ
6. ข้อดี-ข้อเสีย (กลางๆ ไม่เว่อร์วัง!)
มาดูมุมดีมุมด้อยกันบ้าง จะได้ตัดสินใจถูก!
ข้อดีเด็ดๆ ที่คนไทยน่าจะชอบ:
- ดีไซน์เก๋ ไม่ซ้ำใคร: หน้าจอพิกเซลนี่แหละคือ Signature วางตรงไหนก็ดูเป็นคนมีอะไร
- ดูข้อมูลสำคัญได้ตลอด: เช็กยอดไลก์ ยอดผู้ติดตาม ข่าวสาร อุณหภูมิ ได้แค่เหลือบมอง ไม่ต้องกดมือถือให้เสียเวลา
- ปรับแต่งได้หลากหลาย: เลือกแอป เลือกหน้าปัดนาฬิกา เปลี่ยนข้อความ ได้ตามสไตล์เราเลย
- เป็นลำโพงได้ด้วย: แถมมี Visualizer เต้นตามเพลงอีก ฟังเพลินๆ ก็ได้
- เหมาะเป็นของขวัญให้สาย Geek/IT: ถ้ามีเพื่อนหรือคนรู้จักชอบ Gadget หรือทำงานสายนี้ ซื้อให้ถูกใจแน่นอน
ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเล:
- ราคาสูง: เมื่อเทียบกับนาฬิกาธรรมดา ถือว่าแพงเอาเรื่องนะ
- แสดงภาษาไทยไม่ได้: อันนี้อาจจะเป็นข้อจำกัดสำหรับบางคนที่อยากให้แสดงผลเป็นภาษาไทย
- ไม่ได้พกพาสะดวกมาก: ถึงจะน้ำหนักเบา แต่ต้องเสียบปลั๊กเป็นหลัก ไม่ใช่แบตอึดแบบมือถือ
- แอปบนมือถือบางครั้งมีปัญหา: บางรีวิวบอกว่าเจอ Bug หรือมีปัญหาในการเชื่อมต่อบ้าง
- ฟังก์ชันลำโพงอาจจะไม่ดีเท่าลำโพงเฉพาะทาง: เสียงพอใช้ได้ แต่ถ้าเน้นฟังเพลงจริงๆ จังๆ ลำโพง Bluetooth ทั่วไปอาจจะให้คุณภาพเสียงดีกว่า
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรตำ? ใครควรรอ?
จากที่ลองเล่นมา LaMetric Time น่าจะเหมาะกับคนกลุ่มนี้:
- คนชอบแต่งโต๊ะทำงาน/บ้าน: อยากได้ Gadget เก๋ๆ มาเพิ่มลูกเล่นให้กับพื้นที่ส่วนตัว
- สาย IT/Creator/Online Seller: ที่ต้องการมอนิเตอร์ข้อมูลสำคัญแบบเรียลไทม์ เช่น ยอดผู้ติดตาม ยอดขาย
- คนรัก Gadget: ชอบลองของใหม่ๆ ชอบเทคโนโลยีที่ไม่เหมือนใคร
- คนที่ต้องการนาฬิกาที่ไม่ใช่แค่นาฬิกา: อยากได้ฟังก์ชันอื่นๆ เพิ่มเติมที่เชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้
เหมาะกับการใช้งานแบบไหน: วางไว้บนโต๊ะทำงานที่บ้าน ที่ออฟฟิศ ในร้านค้า หรือห้องนั่งเล่น เป็นเหมือนหน้าจอเสริมที่ให้ข้อมูลที่เราสนใจได้ตลอด
ควรซื้อเลยไหม? หรือรอโปรดีกว่า?: ถ้าคุณเป็นคนในกลุ่มที่บอกมาข้างบน และงบประมาณถึง ก็ถือว่าน่าสนใจมากๆ ค่ะ แต่ถ้ารู้สึกว่าราคายังแรงไป หรือยังไม่แน่ใจว่าจะใช้คุ้มไหม แนะนำให้ลองรอช่วงโปรโมชั่นตามแพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่ๆ เช่น Lazada, Shopee อาจจะมีโค้ดส่วนลด หรือ Flash Sale ทำให้ได้ราคาที่ถูกลงไปอีก
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (ถ้ามี): คู่แข่งมีมั้ย?
จริงๆ แล้ว LaMetric Time ค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะเน้นหน้าจอพิกเซลที่ปรับแต่งได้เยอะ และมีแอปให้เลือกใช้หลากหลาย อาจจะหาของที่เหมือนเป๊ะๆ ยากหน่อย
ถ้าเทียบกับนาฬิกาดิจิทัลทั่วไป แน่นอนว่า LaMetric Time ทำอะไรได้มากกว่าเยอะมากกกก ทั้งการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต การแสดงข้อมูลหลากหลาย และความสามารถในการปรับแต่ง
ถ้าเทียบกับพวก Smart Display หรือ Smart Speaker ที่มีหน้าจอ อย่าง Google Nest Hub หรือ Amazon Echo Show พวกนั้นจะเน้นการสั่งงานด้วยเสียง และการแสดงผลแบบรูปภาพ/วิดีโอมากกว่า ในขณะที่ LaMetric Time จะเน้นการแสดงข้อมูลแบบตัวเลขและไอคอนสั้นๆ ที่มองเห็นง่ายในระยะไกล และมีความเป็น Gadget สำหรับแต่งห้องมากกว่า
สรุปคือ LaMetric Time ยังอยู่ในกลุ่มสินค้าที่ค่อนข้าง Niche หรือเฉพาะทาง ยังไม่มีคู่แข่งตรงๆ ที่เหมือนกันเป๊ะๆ ในตลาดค่ะ
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดี? มีประกันไหม?
สำหรับเรื่องบริการหลังการขายและการรับประกัน เท่าที่ทราบในไทยจะมีตัวแทนจำหน่ายบางรายที่ให้การรับประกัน 1 ปีสำหรับตัวเครื่อง ควรสอบถามกับร้านค้าโดยตรงก่อนซื้อเพื่อให้แน่ใจนะคะ
ช่องทางการซื้อ: หาซื้อ LaMetric Time ได้ง่ายตามร้านค้าออนไลน์ใหญ่ๆ ในไทยเลยค่ะ เช่น
- Lazada: มีร้านค้าที่นำเข้ามาขาย ลองค้นหาดู อาจเจอโปรโมชั่นดีๆ
- Shopee: เช่นกันค่ะ มีร้านค้า Official หรือร้านที่เชื่อถือได้นำเข้ามาขายอยู่ ลองเปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่น
- ร้าน Gadget Online เฉพาะทาง: บางร้านที่ขาย Gadget หรืออุปกรณ์ Smart Home ก็มีนำเข้ามาขายด้วย เช่น Groov.asia หรือ Boonlapo
โปรโมชั่นและส่วนลด: แนะนำให้เช็กช่วงเทศกาลใหญ่ๆ เช่น 11.11, 12.12, Mid-Year Sale หรือโปรโมชั่นของแต่ละแพลตฟอร์ม อาจจะมีโค้ดส่วนลด คูปอง หรือโปรผ่อน 0% ด้วยค่ะ
ระยะเวลาจัดส่ง: ถ้าสั่งจากร้านในไทยส่วนใหญ่มักจะส่งไวค่ะ บางร้านในกรุงเทพฯ อาจจะส่งได้ภายใน 1-2 วันทำการ
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ตกลงซื้อดีไหมนะ?
สรุปแล้ว LaMetric Time เป็น Gadget ที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนที่มองหานาฬิกาที่ไม่ธรรมดา ที่สามารถเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ แสดงข้อมูลที่เราสนใจได้แบบเรียลไทม์ และมีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์สุดๆ
ถ้าคุณเป็นคนชอบแต่งโต๊ะ ชอบ Gadget ไม่เหมือนใคร อยากได้หน้าจอเล็กๆ ไว้อัปเดตข้อมูลสำคัญตลอดเวลา มีงบประมาณพอสมควร และยอมรับได้ว่ามันแสดงภาษาไทยไม่ได้ LaMetric Time ถือเป็นตัวเลือกที่น่าตำมากๆ ค่ะ! มันจะเข้ามาช่วยเพิ่มสีสันและความเก๋ให้กับพื้นที่ของคุณได้เป็นอย่างดี
แต่ถ้าคุณแค่อยากได้นาฬิกาไว้ดูเวลาธรรมดาๆ เน้นฟังก์ชันนาฬิกาปลุก หรือมีงบจำกัดมากๆ อาจจะต้องพิจารณาตัวเลือกอื่นที่ดีกว่าในด้านความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาค่ะ
คำแนะนำเพิ่มเติม: ลองเข้าไปดูแอปพลิเคชันที่มีใน LaMetric Market ก่อนตัดสินใจซื้อก็ได้นะคะ ว่ามีแอปที่เราสนใจหรืออยากใช้งานจริงๆ หรือเปล่า จะได้รู้ว่าซื้อมาแล้วจะได้ใช้ฟังก์ชันต่างๆ คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปไหมค่ะ
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- รีวิวนาฬิกาที่ Youtuber ต้องมี LaMetric Time ดีจริง!!!
- เพิ่มสีสันให้กับบ้านด้วย LaMetric Time นาฬิกาอัจฉริยะตัวช่วยให้ชีวิต ...
- ดีลพิเศษ 11.11 | LaMetric TIME นาฬิกาอัจฉริยะสุดล้ำ เพิ่มความสมา ...
- รีวิว Kieslect Actor นาฬิกา Smart Watch ที่คุ้มที่สุด ครบที่สุด ในงบ ...
- รีวิว Lametic Time นาฬิกาตั้งโต๊ะ ที่บอกได้มากกว่าเวลา
แนะนำสำหรับคุณ
ซุ้มกาแฟสดมือสอง ราคาถูก พร้อมใช้ สภาพดี อัปเดตล่าสุดปี 2568
อัพเดท ราคา สุรา หงส์ทอง ขนาดต่างๆ 2025 ซื้อยกลังถูกกว่าไหม หาซื้อได้ที่ไหน?
ราคา Nissan Silvia S15 รถสปอร์ตในตำนาน หายากแค่ไหน?
ราคา Naphcon A ยาหยอดตา ลดอาการภูมิแพ้ ตาแดง คันตา
ราคา ลำโพง Creative T30 Wireless เสียงดี เชื่อมต่อไร้สาย
อัปเดต ราคาทองคำแท่ง วันนี้ ซื้อขายอย่างไร ให้ได้กำไร?