รีวิว Sony XBR 8500F: ทีวี 4K HDR รุ่น... ภาพสวย คมชัด ฟีเจอร์ครบ คุ้มไหม?

สวัสดีค่าาา! วันนี้ขอเอาใจสายดูหนังดูซีรีส์ ดูบอลตาแตกกันหน่อย กับการรีวิวทีวีตัวเก่งจาก Sony รุ่น XBR 8500F ที่หลายคนเคยเล็งไว้ หรือบางคนอาจจะยังใช้อยู่! รุ่นนี้ตอนเปิดตัวนี่จัดว่าเด็ดใช่ย่อยนะ ทั้งภาพสวย คมชัด แถมฟีเจอร์ก็ครบครันตามสไตล์ Sony เขาแหละ แต่คำถามคือ...ตอนนี้ยังน่าสอยไหม? หรือถ้ามีอยู่แล้ว มันยังไหวอยู่หรือเปล่า? มาค่ะ! วันนี้จะพาไปเจาะลึกแบบบ้านๆ สไตล์คนไทย ที่ใช้งานจริงจัง ทั้งดูคอนเสิร์ตช่วงหยุดยาว ดูบอลคู่โปรดช่วงดึก หรือแม้กระทั่งเปิดการ์ตูนให้ลูกหลานดูช่วงปิดเทอม! รับรองว่ามีครบทุกมุมที่อยากรู้!

ภาพรวมสินค้า: มารู้จัก Sony XBR 8500F กันให้มากขึ้น!

ยี่ห้อ: Sony
รุ่น: XBR 8500F (หรือบางทีก็เรียก X8500F/X85F)
ปีที่วางขาย: เปิดตัวประมาณปี 2018
ช่วงราคาเปิดตัว: จัดอยู่ในกลุ่มทีวีระดับกลางค่อนไปทางสูงของ Sony ในตอนนั้น ราคาแปรผันตามขนาด แต่หลักหมื่นปลายๆ ถึงแสนต้นๆ ก็มี

การวางตำแหน่งสินค้า: ถือเป็นทีวี 4K HDR ระดับกลาง-สูง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคุณภาพของภาพที่ดี ฟีเจอร์สมาร์ททีวีครบ และไว้ใจแบรนด์ Sony ที่ขึ้นชื่อเรื่องภาพสวย

สรุปจุดเด่นหลักๆ (ที่น่าสนใจแม้วันนี้):

• ภาพ 4K HDR สวยคม: ด้วยชิปประมวลผล 4K HDR Processor X1 และเทคโนโลยี Triluminos Display สีสันสดใสเป็นธรรมชาติ
• Motionflow XR: ภาพเคลื่อนไหวลื่นไหล ดูฉากแอคชั่น หรือดูกีฬา ไม่เบลอ ไม่กระตุก
• Android TV: เป็นสมาร์ททีวีที่ใช้ระบบ Android TV เข้าถึงแอปต่างๆ ได้เยอะ และใช้งานได้หลากหลาย
• รองรับ Google Assistant & Chromecast Built-in: สั่งงานด้วยเสียงได้ และแคสต์เนื้อหาจากมือถือขึ้นจอได้ง่ายๆ
• ดีไซน์เรียบหรู: ขาตั้งดูดี วางแล้วไม่กินพื้นที่มาก (ถ้าเทียบกับขนาดจอ)

ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: เรียบแต่ดูดีตามสไตล์ Sony

พอเห็นตัวเป็นๆ ครั้งแรก Sony XBR 8500F จะมาในดีไซน์ที่ค่อนข้างเรียบง่าย แต่ดูแพง วัสดุหลักเป็นพลาสติกสีดำ แต่เก็บงานได้ดี ขอบจอบางกำลังดี ไม่ได้บางเฉียบกริบเหมือนรุ่นใหม่ๆ แต่ก็ไม่หนาจนน่าเกลียด

การออกแบบ: ขาตั้งเป็นแบบก้าน 2 ข้างวางห่างกัน ทำให้ต้องใช้ชั้นวางที่ค่อนข้างกว้างพอสมควร
ขนาดและน้ำหนัก: แล้วแต่ขนาดจอเลยค่ะ มีตั้งแต่ 43 นิ้ว ไปจนถึง 85 นิ้ว! น้ำหนักก็เอาเรื่องอยู่ ถ้าจอใหญ่ 55 นิ้วก็ประมาณ 20 กก. ได้ ต้องใช้คนช่วยยกหน่อย
สีที่มีให้เลือก: ส่วนใหญ่เป็นสีดำ
เหมาะกับวางไว้ที่ไหน: ด้วยความที่ขนาดหลากหลาย เลือกได้ตามขนาดห้องเลยค่ะ จะวางบนชั้นวางในห้องนั่งเล่น หรือจะติดผนังก็ได้ (มีรูรองรับ VESA mount)

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ก็จะมีรีโมท (บางรุ่นรองรับ Voice Remote ด้วย) คู่มือ และสายไฟมาให้ค่ะ

ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ภาพสวยจริงจัง!

เรื่องภาพต้องบอกว่า Sony ทำได้ดีจริงๆ ค่ะ ด้วยเทคโนโลยี 4K HDR Processor X1 และ Triluminos Display ทำให้ภาพที่ออกมามีสีสันสดใส เป็นธรรมชาติ และคมชัดมากๆ ดูช่อง 4K นี่คือชัดตาแตก รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เห็นหมด

ตอนดูซีรีส์แนวธรรมชาติ หรือสารคดี สีเขียวของต้นไม้ สีฟ้าของน้ำทะเล คือสวยสมจริงมาก ส่วนฉากที่มี HDR ก็สว่างเด่นขึ้นมา ทำให้ภาพดูมีมิติมากขึ้น

จุดเด่นอีกอย่างที่ต้องชมคือระบบ Motionflow XR ที่ช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวดูสมูทมาก ตอนดูบอล พวกลูกที่พุ่งเร็วๆ หรือนักบอลที่วิ่งสปีดเต็มที่ ภาพก็ยังดูคม ไม่เป็นเส้นเบลอๆ หรือกระตุกให้หงุดหงิด อันนี้ถูกใจสายกีฬามากๆ

เรื่องเสียง ตัวลำโพงบิ้วท์อินให้เสียงได้ในระดับโอเคสำหรับดูทีวีทั่วไปค่ะ แต่ถ้าเป็นคอหนัง อยากได้เสียงกระหึ่มๆ อาจจะต้องต่อ Soundbar เพิ่ม

ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: Android TV ใช้ง่าย (แต่...)

Sony XBR 8500F ใช้ระบบปฏิบัติการ Android TV ซึ่งข้อดีคือเข้าถึงแอปพลิเคชันได้หลากหลายมากๆ ทั้ง Netflix, YouTube, Disney+, Prime Video รวมถึงแอปไทยๆ อย่าง VIU, WeTV หรือย้อนหลังละครจากช่องต่างๆ ก็ลงได้เยอะ หน้าตาเมนูคุ้นเคยสำหรับคนใช้มือถือ Android อยู่แล้ว

การใช้งานโดยรวมถือว่าค่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อน มีภาษาไทยรองรับสบายๆ รีโมทก็ใช้งานสะดวก มีปุ่มลัดเข้าแอปหลักๆ ได้ทันที

แต่! จุดที่หลายคนอาจจะรู้สึกขัดใจนิดหน่อยคือเรื่องความลื่นไหลของระบบ บางครั้งอาจจะมีหน่วงๆ บ้าง โดยเฉพาะตอนเปิดเครื่องใหม่ๆ หรือสลับแอปไปมา แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นช้าจนรับไม่ได้ค่ะ แค่อาจจะไม่ปรู๊ดปร๊าดเท่ารุ่นใหม่ๆ หรือบางแบรนด์ที่ระบบ UI เบากว่า

ตัวเครื่องไม่ได้ร้อนง่ายอะไร เสียงพัดลมก็เงียบ ไม่รบกวนตอนดูหนัง

แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: กินไฟแค่ไหน? คุ้มมั้ยถ้าจะซื้อตอนนี้?

เรื่องพลังงาน ทีวี 4K จอใหญ่ก็กินไฟตามขนาดค่ะ รุ่นนี้กินไฟประมาณ 170W สำหรับขนาด 55 นิ้ว ไม่ได้ประหยัดเวอร์วัง แต่ก็อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของทีวีขนาดนี้

ความคุ้มค่าในระยะยาว ถ้ามองว่าเป็นการซื้อทีวีมือสอง หรือเป็นรุ่นเก่าที่ยังหาซื้อได้ในราคาที่ลดลงมาเยอะๆ อันนี้ถือว่าน่าสนใจเลยค่ะ เพราะได้คุณภาพของภาพที่ดี มี HDR ได้ระบบ Android TV ที่ยังอัปเดตแอปได้เรื่อยๆ

แต่ถ้าเทียบกับทีวีรุ่นใหม่ๆ ในราคาใกล้เคียงกันตอนนี้ อาจจะมีเทคโนโลยีภาพที่ใหม่กว่า หรือความสว่างสูงสุด (Peak Brightness) สำหรับ HDR ที่ทำได้ดีกว่า รวมถึงความลื่นไหลของระบบปฏิบัติการที่เร็วกว่าด้วย

สรุปคือ ถ้าเจอในราคาดีๆ แบบลดสุดๆ แล้วงบประมาณจำกัด แต่อยากได้ทีวีภาพสวย มีฟีเจอร์ครบ XBR 8500F ยังเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าค่ะ

ข้อดี-ข้อเสีย (วิเคราะห์แบบตรงไปตรงมา!)

ข้อดี (ที่คนไทยน่าจะชอบ):

• ภาพสวย สีสดใส เป็นธรรมชาติ: ดูละคร ดูซีรีส์เกาหลี ญี่ปุ่น จีน คือฟิน!
• ภาพเคลื่อนไหวโคตรสมูท: ดูกีฬา ดูหนังแอคชั่นมันส์ๆ ไม่ต้องกลัวภาพเบลอหรือกระตุก
• Android TV ลงแอปได้เพียบ: อยากดูอะไร หาได้เกือบหมด ไม่ต้องต่อกล่องเพิ่มให้วุ่นวาย
• รองรับ Chromecast & Google Assistant: สั่งงานด้วยเสียง หรือแคสต์หนังจากมือถือสบายๆ
• แบรนด์ Sony ไว้ใจได้: คุณภาพดี ทนทาน (ส่วนใหญ่)

ข้อเสีย (ที่อาจทำให้ลังเล):

• ระบบ Android TV มีหน่วงบ้าง: ไม่ได้ลื่นปรื๊ดเหมือนมือถือเรือธง
• ค่า Contrast ไม่สูงมากในห้องมืดสนิท: สีดำอาจจะดูเทาๆ ถ้าดูในห้องที่มืดมากๆ (แต่ถ้าดูในห้องที่มีแสงสว่างบ้างก็ไม่มีปัญหา)
• ความสว่างสูงสุดของ HDR ไม่ได้สูงปรี๊ด: สู้พวกรุ่นท็อปๆ หรือรุ่นใหม่กว่าไม่ได้
• เป็นรุ่นปีเก่า: เทคโนโลยีภาพ หรือพอร์ตเชื่อมต่อบางอย่างอาจจะไม่ล่าสุด (เช่น HDMI 2.1 ไม่มี)
• ขาตั้งกว้าง: ต้องใช้ชั้นวางที่ใหญ่หน่อย

เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ซื้อเลยไหม? หรือควรรอ?

เหมาะกับใครบ้าง?

• คนที่ชอบดูหนัง ดูซีรีส์ หรือดูกีฬา ที่เน้นคุณภาพของภาพและ Motionflow ดีๆ
• คนที่อยากได้สมาร์ททีวีที่ลงแอปได้เยอะๆ ใช้งานง่ายแบบ Android TV
• คนที่มองหาทีวีคุณภาพดีในงบประมาณระดับกลางๆ (ถ้าเจอราคาที่ลดลงมาเยอะๆ นะ)
• เหมาะกับการใช้งานในห้องนั่งเล่น หรือห้องที่มีแสงสว่างพอสมควร

ควรซื้อเลยไหม? หรือรอดีกว่า?

ถ้าเจอ Sony XBR 8500F ในสภาพดี และ ราคาดีแบบถูกกว่าตอนเปิดตัวเยอะมาก และรับได้กับการที่มันไม่ใช่รุ่นล่าสุด ระบบอาจมีหน่วงบ้างเล็กน้อย และไม่ได้ต้องการความสว่าง HDR สูงสุดแบบตาแตก... ซื้อเลยก็คุ้มค่ะ! โดยเฉพาะถ้าเน้นดูภาพรวมๆ สวยๆ ดูกีฬา ดูหนังทั่วไป

แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เน้นความลื่นไหลของระบบมากๆ อยากได้เทคโนโลยีภาพล่าสุด หรือต้องการทีวีที่แสดง HDR ได้สว่างสุดๆ เพื่อดูหนังในห้องมืดสนิท... ควรรอรุ่นใหม่กว่า หรือมองหารุ่นอื่นในงบที่สูงขึ้นหน่อยจะดีกว่าค่ะ

เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (เผื่อตัดสินใจง่ายขึ้น!)

ถ้าเทียบกับทีวีรุ่นใกล้ๆ กันในสมัยนั้นอย่าง Sony XBR 9000F (หรือ X90F) รุ่น 9000F จะใช้ระบบ Full-Array Local Dimming ทำให้ Contrast ดีกว่า สีดำสนิทกว่า และความสว่าง HDR สูงกว่า XBR 8500F ที่เป็น Edge LED ถ้าเน้นคุณภาพของภาพในห้องมืด 9000F จะดีกว่า แต่ราคาก็สูงกว่าด้วย

ถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นในช่วงราคาเดียวกันเมื่อปี 2018 เช่น Samsung หรือ LG รุ่นกลางๆ XBR 8500F จะเด่นเรื่อง Motionflow และระบบ Android TV ที่ยืดหยุ่นกว่า ส่วนเรื่อง Contrast หรือความสว่าง HDR อาจจะต้องเทียบเป็นรุ่นๆ ไป

บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ (ซื้อแล้วสบายใจ!)

Sony เป็นแบรนด์ใหญ่ในไทย บริการหลังการขายค่อนข้างดีค่ะ ปกติทีวี Sony จะมีการรับประกันจากผู้จัดจำหน่ายในประเทศ สามารถนำเครื่องเข้าศูนย์บริการได้ทั่วประเทศ (ลองเช็คเงื่อนไขการรับประกันของร้านหรือผู้ขายอีกครั้งนะคะ เพราะเป็นรุ่นปีเก่าแล้ว)

ช่องทางการซื้อตอนนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ที่ยังมีสต็อกอยู่ หรือเป็นสินค้ามือสองตามกลุ่มซื้อขายต่างๆ ต้องเลือกซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือ หรือเช็คสภาพสินค้าดีๆ ก่อนตัดสินใจ

ถ้าซื้อออนไลน์ตามแพลตฟอร์มใหญ่ๆ อย่าง Lazada, Shopee อาจจะมีโปรโมชั่นลดราคา, โค้ดส่วนลด, หรือผ่อนชำระได้ ส่วนค่าจัดส่งก็แล้วแต่ขนาดและระยะทางค่ะ แนะนำให้เช็คกับร้านค้าโดยตรง

บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: คุ้มหรือไม่? อยู่ที่งบและการใช้งาน!

โดยสรุปแล้ว Sony XBR 8500F เป็นทีวี 4K HDR ที่มีคุณภาพของภาพที่ดีมาก โดยเฉพาะเรื่องสีสันและความลื่นไหลของภาพเคลื่อนไหว ระบบ Android TV ก็เป็นมิตรกับผู้ใช้ เข้าถึงแอปได้เยอะ

ถ้าคุณ:

• มีงบประมาณจำกัด
• เจอทีวีรุ่นนี้ในราคาที่ลดลงมาเยอะมากๆ
• เน้นดูหนัง ดูซีรีส์ ดูกีฬาในห้องที่มีแสงสว่างปกติ
• ต้องการสมาร์ททีวีที่ลงแอปได้หลากหลาย

Sony XBR 8500F ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่าที่จะซื้อค่ะ! ถือว่าเป็นทีวีระดับกลางค่อนสูงในสมัยนั้น ที่คุณภาพยังใช้ได้ดีอยู่ถึงปัจจุบัน

แต่ถ้าคุณซีเรียสเรื่อง Contrast ในห้องมืด หรืออยากได้ความสว่าง HDR สูงสุดแบบสุดๆ หรือต้องการเทคโนโลยีล่าสุดแบบไม่ต้องมีอาการหน่วงของระบบเลย... อาจจะต้องพิจารณารุ่นที่ใหม่กว่า หรือยอมเพิ่มงบไปเล่นรุ่นที่สูงกว่านี้ค่ะ

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะคะ! ถ้ามีคำถามเพิ่มเติม คอมเมนต์มาคุยกันได้เลยจ้า!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• ยกโรงหนังมาไว้ที่บ้าน Sony BRAVIA 7 TV ขนาด 85 นิ้ว รุ่นใหม่ 2024
• รีวิว Auto Framing ฟีเจอร์ใหม่ใน Samsung S25 Ultra
• รีวิวแว่น Ophtus Zero แก้ตาล้า ตัดแสงสีฟ้า
• Super Mirror กับ Mirror Air Zoom: เปรียบเทียบคุณสมบัติและ ...
• TOP 10 มือถือกล้องสวยในต้นปี 2025