logo

Car Inverter 150W ราคา อุปกรณ์แปลงไฟในรถยนต์ พกพาสะดวก

user avatar
พิมพ์ชนก บุญยืน·07/09/2025T12:07Z
点赞
Car Inverter 150W ราคา อุปกรณ์แปลงไฟในรถยนต์ พกพาสะดวก

สวัสดีจ้าาา สายเดินทาง สายGadget และสายชาร์จไม่เคยพอทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องไอเทมเด็ดที่ควรมีติดรถไว้เลยนะ นั่นก็คือ Car Inverter 150W อุปกรณ์แปลงไฟในรถยนต์ พกพาสะดวก นั่นเอง! ใครที่เคยเจอโมเมนต์แบบว่า "โอ๊ยย แบตจะหมดแล้ว แต่ไม่มีปลั๊กไฟ!" ในรถคือต้องฟังทางนี้เลยจ้า เพราะเจ้าตัวนี้แหละคือผู้ช่วยชีวิตคุณ!

1. เจ้าอุปกรณ์แปลงไฟในรถยนต์นี้มันคืออะไรกันนะ?

อธิบายง่ายๆ เลยนะ เจ้า Car Inverter 150W เนี่ย มันคืออุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เหมือน "ปลั๊กไฟบ้าน" ย่อมๆ ที่เราสามารถเอาไปเสียบในรถได้นั่นแหละ ปกติแล้วไฟในรถเราจะเป็นระบบ 12V DC (ไฟตรง) ใช่มั้ยล่ะ แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราใช้ในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นที่ชาร์จโน้ตบุ๊ก พัดลมเล็กๆ หรือแม้แต่เครื่องทำกาแฟพกพาบางรุ่น มันใช้ไฟบ้าน 220V AC (ไฟสลับ) เจ้าอินเวอร์เตอร์ตัวนี้ก็จะทำหน้าที่แปลงไฟ 12V จากช่องจุดบุหรี่ในรถ (หรือช่อง Power Outlet) ให้กลายเป็นไฟ 220V ที่เราคุ้นเคยนี่แหละ

รุ่น 150W ก็หมายถึงว่ามันสามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 150 วัตต์แบบต่อเนื่อง (และมักจะมีกำลังไฟกระชาก Peak Power สูงกว่านั้นอีกนิดหน่อย เช่น 300W) ทำให้เราสามารถชาร์จหรือใช้งานอุปกรณ์ที่ไม่กินไฟมากนักในรถได้อย่างสบายๆ เลย กลุ่มคนที่เหมาะกับเจ้าสิ่งนี้มากๆ ก็คือคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ ทำงานนอกสถานที่ นักเดินทางที่ชอบ Road Trip หรือใครก็ตามที่อยากมีแหล่งพลังงานสำรองไว้ใช้ในรถยามฉุกเฉินนั่นเองจ้า

จริงๆ แล้วอุปกรณ์แปลงไฟแบบนี้มีหลายแบรนด์ในตลาดมากๆ เลยนะ ทั้งแบรนด์จีน แบรนด์ยุโรป อเมริกา ที่ดังๆ หน่อยก็จะมีมาตรฐานรับรองต่างๆ เช่น CE, ROHS, FCC บางแบรนด์ก็อาจจะมีชื่อเสียงในด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์สำหรับรถยนต์โดยเฉพาะ ซึ่งประวัติแบรนด์พวกนี้ก็มักจะเน้นเรื่องความทนทาน ความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการแปลงไฟจ้า


2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้างนะ?

มาถึงเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญสุดๆ อย่าง "ราคา" กันบ้าง สำหรับ Car Inverter 150W ในตลาดไทยเนี่ย ต้องบอกว่าราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์มากๆ เลยจ้า ส่วนใหญ่แล้วราคาจะอยู่ในช่วงประมาณ 200 - 500 บาท (฿) โดยประมาณนะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น คุณภาพ และโปรโมชั่นของร้านค้าด้วย

ถ้าลองไปส่องตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดฮิตอย่าง Lazada และ Shopee เนี่ย จะเจอตัวเลือกเยอะมากๆ เลยจ้า ลองเสิร์ชคำว่า "Car Inverter 150W" ดูนะ จะมีตั้งแต่รุ่นพื้นฐานราคาไม่กี่ร้อย ไปจนถึงรุ่นที่มีดีไซน์สวยงาม มีช่อง USB เพิ่มเติม หรือมีระบบป้องกันที่ซับซ้อนขึ้นมาหน่อย ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ส่วนร้านค้าปลีกด้านอุปกรณ์ไอทีอย่าง JIB, Banana IT หรือร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ อย่าง Power Buy, Central, Big C, The Mall เนี่ย ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมี Car Inverter รุ่นเล็กๆ แบบ 150W ขายโดยตรงนะ เค้าจะเน้นไปที่อุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดใหญ่กว่า หรืออุปกรณ์ไอทีอื่นๆ มากกว่า ถ้าอยากได้รุ่น 150W ราคาดีๆ ต้องไปดูในออนไลน์เป็นหลักเลยจ้า

ส่วนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนกับราคานานาชาติ สำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ราคาไม่สูงมากแบบนี้ ส่วนต่างมักจะไม่เยอะมากจนน่าตกใจเหมือนสินค้าแบรนด์หรูๆ หรือเทคโนโลยีซับซ้อนจ้า ราคาที่ขายในไทยก็ถือว่าแข่งขันได้เลย


3. แล้วเทียบกับอุปกรณ์อื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ถ้าให้เทียบกับอุปกรณ์แปลงไฟที่มีกำลังวัตต์สูงกว่า เช่น รุ่น 300W, 500W หรือมากกว่านั้น แน่นอนว่า Car Inverter 150W เนี่ยมีราคาที่ ถูกกว่าเยอะมาก อินเวอร์เตอร์วัตต์สูงๆ นี่ราคาอาจจะพุ่งไปหลักพัน หรือหลายพันบาทเลยก็ได้ ซึ่งก็เหมาะกับการใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟเยอะขึ้น เช่น กระติกน้ำร้อน หม้อหุงข้าวขนาดเล็ก หรือเครื่องมือช่างบางชนิด

แต่ถ้าเทียบกับพวกที่ชาร์จในรถแบบธรรมดาที่เป็นแค่ช่อง USB Adapter เนี่ย เจ้าอินเวอร์เตอร์ 150W มันทำอะไรได้มากกว่าเยอะ เพราะมันมีช่องปลั๊กไฟ AC เหมือนที่บ้าน ทำให้เราต่อกับอะแดปเตอร์ของโน้ตบุ๊ก หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ไฟบ้านได้โดยตรง ซึ่งที่ชาร์จ USB ธรรมดาทำไม่ได้ ราคาก็อาจจะสูงกว่าที่ชาร์จ USB ทั่วไปหน่อย แต่ถ้าคิดถึงความสามารถที่เพิ่มเข้ามา ถือว่า คุ้มค่ามากๆ เลยจ้าสำหรับงานที่ไม่หนักมาก


4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

โดยทั่วไปแล้ว เวลาเราซื้อ Car Inverter 150W เนี่ย ในกล่องก็จะมีตัวเครื่องอินเวอร์เตอร์มาให้เป็นหลักเลยจ้า ซึ่งตัวเครื่องก็จะมีช่องเสียบไฟ AC (บางรุ่นอาจจะมี 1 หรือ 2 ช่อง) และมักจะมีช่อง USB แถมมาให้ด้วย (ส่วนใหญ่จะเป็น 1-2 ช่อง หรือมากกว่านั้นในรุ่นใหม่ๆ ที่รองรับ Fast Charge) บางรุ่นอาจจะมีช่อง USB Type-C มาให้ด้วยนะ

ส่วนใหญ่แล้ว สินค้ากลุ่มนี้ มักจะมีสายไฟสำหรับเสียบเข้ากับช่องจุดบุหรี่ในรถมาให้พร้อมใช้งานเลย อุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่อาจจะได้หรือไม่ก็ได้ ก็อย่างเช่น คู่มือการใช้งาน (ซึ่งบางทีก็เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ หรือมีภาษาไทยให้มานิดหน่อย) บางร้านใจดีอาจจะมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ เช่น ฟิวส์สำรอง (เผื่อมีการใช้ไฟเกินกำลัง) หรือถุงผ้าสำหรับเก็บก็เป็นไปได้จ้า

เรื่องที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ ก็คือ การรับประกัน ใช่ไหมล่ะ! สำหรับ Car Inverter ราคาประมาณนี้ ส่วนใหญ่การรับประกันจะไม่ยาวนานมากนักนะ อาจจะอยู่ที่ประมาณ 3 เดือนถึง 1 ปี แล้วแต่ร้านค้าและแบรนด์ บางร้านอาจจะมีการรับประกันเปลี่ยนสินค้าหากเสียภายใน 7 วัน หรือ 30 วัน อันนี้ต้องเช็ครายละเอียดกับผู้ขายโดยตรงเลยจ้า อ่านเงื่อนไขการรับประกันดีๆ ก่อนตัดสินใจซื้อนะ

สำหรับเรื่อง ค่าขนส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่จะมีค่าส่งนะ แต่หลายร้านก็ชอบจัดโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนด หรือใช้โค้ดส่วนลดค่าจัดส่งได้ อันนี้ก็เป็นอีกจุดที่ช่วยให้เราประหยัดเงินได้นะ


5. มีช่วงไหนน่ากดน่าช้อปเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าอยากได้ Car Inverter 150W ในราคาแบบว่า "ว้าววว" ต้องรอช่วงโปรโมชั่นเลยจ้า! แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada และ Shopee เนี่ย ขยันจัดโปรโมชั่นลดราคากันสุดๆ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลช้อปปิ้งยอดฮิตอย่าง Double Digit Sale เช่น 9.9, 10.10, 11.11 (ลดเดือดที่สุด!), และ 12.12 (ปิดท้ายปีแบบจัดเต็ม!) ช่วงนี้แหละที่ร้านค้าต่างๆ จะขนสินค้ามาลดราคา มีโค้ดส่วนลดให้เก็บ ทั้งโค้ดส่วนลดจากแพลตฟอร์ม โค้ดส่วนลดจากร้านค้า แถมบางทีมีโปรโมชั่นส่งฟรีอีกด้วย!

นอกจากนี้ ช่วง เทศกาลสำคัญของไทย อย่าง สงกรานต์ หรือช่วง ปีใหม่ หลายๆ ร้านก็มักจะมีโปรโมชั่นพิเศษออกมาเอาใจนักช้อปเหมือนกันนะ ร้านค้าระดับ แฟลกชิพสโตร์ (Flagship Store) หรือร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการบน Lazada/Shopee เนี่ย เค้าก็มีโปรโมชั่นลดราคาบ่อยๆ เหมือนกันนะ ต้องคอยเข้าไปกดติดตามร้านไว้ แล้วก็หมั่นเข้าไปเช็คดีลดีๆ บ่อยๆ จ้า

สรุปง่ายๆ คือ ถ้าไม่รีบใช้มากๆ แล้วอยากได้ราคาดีๆ แบบสุดๆ การ รอซื้อช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์เนี่ย คุ้มค่าที่สุดแล้วจ้า เตรียมตัวให้พร้อม ใส่รถเข็นไว้ก่อน พอถึงวันโปรก็กดสั่งซื้อโลด!


6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวของคนที่เคยใช้ Car Inverter 150W ในไทยเนี่ย เสียงส่วนใหญ่ไปในทางบวกนะ! จุดที่คนไทยชอบมากๆ เลยก็คือ:

  • ราคาถูก คุ้มค่า: อันนี้เป็นเหตุผลอันดับต้นๆ เลยจ้า ในราคาไม่กี่ร้อยบาท ได้อุปกรณ์ที่แปลงไฟบ้านในรถได้ คือมันตอบโจทย์มากๆ
  • ขนาดเล็ก พกพาสะดวก: ตัวเครื่องส่วนใหญ่มีขนาดไม่ใหญ่มาก เสียบคาไว้ที่ช่องจุดบุหรี่ได้เลย หรือจะเก็บไว้ในเก๊ะรถก็ไม่เปลืองที่
  • ใช้งานง่าย: แค่เสียบเข้าช่องจุดบุหรี่ แล้วกดสวิตช์ (ถ้ามี) ก็พร้อมใช้งานแล้ว ไม่ต้องตั้งค่าอะไรซับซ้อนเลย
  • มีช่อง USB ด้วย: หลายรุ่นมีช่อง USB ให้ชาร์จมือถือ แท็บเล็ต ไปพร้อมๆ กับใช้งานปลั๊กไฟ AC ได้เลย สะดวกสุดๆ
  • ช่วยชีวิตยามฉุกเฉิน: เวลาไปเที่ยว หรือเดินทางไกล แล้วต้องการใช้ไฟชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ เจ้าตัวนี้ช่วยได้เยอะจริงๆ
  • ทนทานพอสมควร: แม้ราคาจะไม่แรง แต่หลายคนก็รีวิวว่าใช้งานได้ทนทานดี ถ้าไม่ได้เอาไปใช้กับอุปกรณ์ที่กินไฟเกินกำลังมากๆ

แต่ก็มีข้อสังเกตบ้างเล็กน้อย เช่น บางรุ่นที่ไม่มีพัดลมระบายความร้อน อาจจะมีความร้อนสะสมอยู่บ้าง หรือรุ่นที่มีพัดลมก็อาจจะมีเสียงพัดลมดังรบกวนได้เล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วคนไทยแฮปปี้กับความคุ้มค่าและประโยชน์ใช้สอยของเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้มากๆ เลยจ้า


7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

ช่องทางหลักๆ ที่แนะนำในการซื้อ Car Inverter 150W ในไทยก็คือ:

  • แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่: อันดับหนึ่งเลยต้องยกให้ Shopee และ Lazada เป็นแหล่งรวมร้านค้าและสินค้าเยอะที่สุด มีตัวเลือกหลากหลาย ราคาแข่งขันกันสูง หาโปรโมชั่นหรือโค้ดส่วนลดได้ง่าย มีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย และมีการคุ้มครองผู้ซื้อพอสมควร แต่ข้อเสียคือเราไม่ได้เห็นสินค้าจริงก่อนซื้อ ต้องอาศัยการดูรูปภาพ รายละเอียดสินค้า และอ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ แทนจ้า
  • ร้านค้าออนไลน์อื่นๆ: นอกจากสองแพลตฟอร์มใหญ่แล้ว ก็อาจจะมีร้านค้าออนไลน์ย่อยๆ หรือเว็บไซต์ของตัวแทนจำหน่ายบางเจ้าที่มีขายบ้าง แต่ตัวเลือกและโปรโมชั่นอาจจะไม่หลากหลายเท่าสองเจ้าหลักนะ
  • ร้านอุปกรณ์ประดับยนต์ หรือร้านเครื่องเสียงรถยนต์: บางร้านอาจจะมี Car Inverter ขายบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นที่มีกำลังวัตต์สูงขึ้นมาหน่อย หรือเป็นแบรนด์เฉพาะทาง ราคาก็อาจจะสูงกว่าในออนไลน์ และตัวเลือก 150W อาจจะไม่เยอะเท่าจ้า

สำหรับร้านค้าปลีกใหญ่ๆ อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy, Central, Big C, The Mall อย่างที่บอกไปแล้วว่าอาจจะไม่มีรุ่น 150W ขายนะจ๊ะ เน้นไปที่ออนไลน์สะดวกสุด


8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปแล้ว! ถามว่า Car Inverter 150W น่าซื้อไหม? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่มองหาอุปกรณ์แปลงไฟในรถสำหรับใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ไม่กินไฟเยอะมาก ในราคาที่ไม่แพง มันเป็นอุปกรณ์ที่ คุ้มค่าเกินราคา มากๆ สำหรับประโยชน์ที่ได้รับ

เหมาะกับใครบ้างน่ะเหรอ? ก็เหมาะกับคนที่:

  • ต้องเดินทางด้วยรถยนต์บ่อยๆ และต้องการชาร์จหรือใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าส่วนตัว เช่น โทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต, โน้ตบุ๊ก (สำหรับชาร์จไฟเข้า ไม่ได้ใช้งานพร้อมกันหนักๆ), พัดลมขนาดเล็ก, โคมไฟอ่านหนังสือพกพา
  • ชอบไปเที่ยวแบบ Road Trip หรือตั้งแคมป์ ที่อาจจะหาปลั๊กไฟยาก
  • อยากมีอุปกรณ์สำรองไฟยามฉุกเฉิน ในรถยนต์
  • มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้อุปกรณ์แปลงไฟที่มีช่องปลั๊กไฟ AC ด้วย

สำหรับใครที่คิดจะเอาไปใช้กับอุปกรณ์ที่กินไฟเยอะกว่า 150W เช่น หม้อหุงข้าว ไดร์เป่าผม หรือเครื่องมือช่างกำลังสูงๆ อันนี้บอกเลยว่า รุ่น 150W ไม่เหมาะนะจ๊ะ! ต้องมองหารุ่นที่มีกำลังวัตต์สูงกว่านี้มากๆ ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย

สรุปคือ ถ้าความต้องการของคุณตรงกับที่บอกไปข้างต้น เจ้า Car Inverter 150W เนี่ย คุ้มค่าที่จะซื้อมาติดรถไว้เลยจ้า! เป็นไอเทมเล็กๆ แต่ช่วยให้ชีวิตในรถสะดวกสบายขึ้นเยอะมากๆ!

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังเล็งๆ เจ้าอุปกรณ์แปลงไฟตัวนี้อยู่นะจ๊ะ ขอให้ช้อปปิ้งอย่างมีความสุข ได้ของดีราคาโดนกันทุกคนจ้า! แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะ บ๊ายบายยย!


วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดีชาวแก๊งค์คนรักความบางเบาทุกคน! วันนี้เราจะมาเมาท์มอยหอยสังข์กันเรื่องโน้ตบุ๊คที่ได้ฉายาว่า "บางที่สุดในโลก" อย่าง Acer Swift 7 นั่นเอง! ใครที่กำลังมองหาโน้ตบุ๊คคู่ใจที่พกไปไหนมาไหนเหมือนพกสมุดเล่มบางๆ ใส่กระเป๋าแบบชิลๆ ไม่ต้องแบกจนไหล
อัปเดต ราคา Acer Swift 7 โน๊ตบุ๊คบางที่สุดในโลก พกพาสะดวก
โอ้โห! วันนี้มาจับโน้ตบุ๊กที่เค้าว่ากันว่า "สวย เบา พกสะดวก" แถมราคายังน่ารักน่าลุ้นอีกด้วยกับ Asus VivoBook S14 (S430) รุ่นนี้เห็นคนพูดถึงเยอะมากว่าเหมาะกับคนทำงานที่ต้องเดินทางบ่อยๆ หรือน้องๆ นักศึกษาที่อยากได้โน้ตบุ๊กคู่ใจไปเรียน ไปทำราย
รีวิว Asus VivoBook S14 (S430): โน้ตบุ๊กทำงาน ดีไซน์สวย เบา พกพาสะดวก คุ้มค่าไหม?
สวัสดีค่าชาวแก๊งนักช้อปปิ้งออนไลน์ทุกท่าน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยถึงไอเทมคู่ใจที่ขาดไม่ได้สำหรับคนใช้คอมฯ ยุคนี้ นั่นก็คือ "เมาส์ไร้สาย" นั่นเอง! และรุ่นที่เราจะหยิบมาตีแผ่กันแบบหมดเปลือกวันนี้ก็คือเจ้าหนูตัวจิ๋วแต่แจ๋วอย่าง Logitech M187 เ
Logitech M187 เมาส์ไร้สายขนาดเล็ก ราคาดี พกพาสะดวก คุ้มไหม?

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ! สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนมือสองคุณภาพดีในงบประมาณที่คุ้มค่า วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึง Samsung Galaxy A9s หรือที่รู้จักกันในชื่อ Samsung Galaxy A9 (2018) กันครับ โทรศัพท์รุ่นนี้เคยสร้างความฮือฮาในตลาดมาแล้วด้วยฟ
โทรศัพท์ Samsung Galaxy A9s ราคามือสองล่าสุดตอนนี้เท่าไหร่
สวัสดีค่ะทุกคน! วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง แหวนทอง 2 กรัม กันค่ะ ใครที่กำลังมองหาเครื่องประดับทองคำชิ้นเล็กๆ น่ารักๆ ที่สวมใส่ได้ทุกวัน หรืออยากจะเริ่มต้นเก็บออมทองคำในรูปแบบที่จับต้องได้ ห้ามพลาดเลยนะคะ เพราะแหวนทอง 2 กรัม ถือเป็นตัวเลือกที
แหวนทอง 2 กรัม ราคาเท่าไหร่? อัปเดตราคาล่าสุดและลายยอดนิยม
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเครื่องดนตรีไทยประเภทเครื่องตีที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์อย่าง "อังกะลุง" กันค่ะ ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นเครื่องดนตรีที่มักใช้ในการเรียนการสอน หรือพบเห็นตามงานแสดงวัฒนธรรมต่างๆ
อังกะลุงราวและอังกะลุงเดี่ยว ราคาเท่าไหร่? ซื้อที่ไหนได้มาตรฐาน

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ