ราคาเครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่นยอดนิยม ฟอก PM 2.5 ได้ดีไหม

สวัสดีค่าทุกคนนน! ช่วงนี้อากาศบ้านเรานี่มันสุดจะบรรยายจริงๆ นะ ทั้งร้อนอบอ้าว ทั้งฝุ่น PM 2.5 ที่มาราวกับนัดกันมา วันนี้เราเลยจะมาเม้าท์มอยเรื่องไอเทมกู้ชีพที่ขาดไม่ได้ในช่วงนี้ นั่นก็คือ เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่นยอดนิยมต่างๆ นั่นเอง! ใครที่กำลังเล็งๆ หาเครื่องฟอกอากาศดีๆ สักตัวมาช่วยให้ปอดสดชื่นขึ้น มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาเจาะลึกว่ารุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนปัง แถมฟอก PM 2.5 ได้ดีจริงไหม และที่สำคัญคือ ราคาเป็นยังไง ช้อปยังไงให้คุ้มค่าที่สุด! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปสูดอากาศบริสุทธิ์พร้อมๆ กันเลย!

1. เจ้าเครื่องฟอกอากาศ Sharp นี่มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ เริ่มต้นกันที่ว่าเจ้าเครื่องฟอกอากาศ Sharp นี่มันคืออะไร? พูดง่ายๆ มันคืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะช่วย กรองอากาศ ภายในห้องของเราให้สะอาดขึ้น กำจัดสิ่งสกปรกต่างๆ ในอากาศ ทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่าง PM 2.5 ที่เป็นตัวร้ายทำลายสุขภาพ, ไวรัส, แบคทีเรีย, เชื้อรา, กลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ฯลฯ เรียกได้ว่ามีติดบ้านไว้ อากาศในห้องจะสะอาด สดชื่นขึ้นเยอะเลยจ้า

สำหรับแบรนด์ Sharp เนี่ย เค้าเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าแก่และมีชื่อเสียงมากๆ จากประเทศญี่ปุ่นนะ อยู่คู่คนไทยมานานนมแล้ว จุดเด่นของเครื่องฟอกอากาศ Sharp เลยก็คือ เทคโนโลยี Plasmacluster เอกสิทธิ์เฉพาะของเค้า ที่จะปล่อยไอออนประจุบวกและลบออกมาในอากาศเพื่อช่วยกำจัดเชื้อโรคและสลายกลิ่นต่างๆ นี่แหละตัวเด็ดเลย! ทำให้ไม่ใช่แค่กรองฝุ่น แต่ยังช่วยจัดการกับเชื้อโรคในอากาศได้อีกด้วย เหมาะมากๆ สำหรับบ้านที่มีเด็ก ผู้สูงอายุ หรือคนที่เป็นภูมิแพ้ และแน่นอนว่าสำหรับทุกคนที่อยากมีอากาศดีๆ หายใจในบ้านตัวเองจ้า ผลิตภัณฑ์ของ Sharp ก็เลยเป็นที่นิยมมากๆ ในตลาดไทยของเรามาตลอด

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องสำคัญที่ทุกคนรอคอย นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับเครื่องฟอกอากาศ Sharp เนี่ย ต้องบอกก่อนว่าเค้ามีหลายรุ่น หลายขนาด หลายสเปกมากๆ ราคาในตลาดก็จะมีความหลากหลายตามไปด้วยจ้า รุ่นยอดนิยมที่เห็นบ่อยๆ และเหมาะกับขนาดห้องทั่วๆ ไป ก็มักจะเป็นรุ่นที่ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 20-40 ตร.ม. ราคาโดยประมาณในตลาดไทย (อิงจากร้านค้าออนไลน์และห้างร้านต่างๆ) ก็จะอยู่ในช่วงประมาณ 3,000 - 10,000 บาท (฿) นะ

ถ้ารุ่นเล็กๆ หน่อย เหมาะกับห้องนอน ราคาอาจจะเริ่มต้นประมาณ 3,xxx บาท แต่ถ้ารุ่นใหญ่ขึ้นมาหน่อย มีฟังก์ชันเยอะขึ้น หรือครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขึ้น ราคาก็อาจจะไปถึง 8,xxx - 1x,xxx บาทเลยทีเดียว

ลองไปส่องตามแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ยอดฮิตในไทยดูสิ อย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย จะมีร้านค้า Official Store ของ Sharp เอง และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเยอะมากๆ ราคาจะมีการแข่งขันสูง ทำให้เรามีโอกาสเจอราคาดีๆ เยอะเลยจ้า นอกจากนี้ ตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง Central, Big C, The Mall, Power Buy ก็มีวางขายนะ ราคาในห้างบางทีอาจจะสูงกว่าออนไลน์เล็กน้อย แต่ก็แลกมากับการได้เห็นของจริง ได้สอบถามพนักงาน และบางทีก็มีโปรโมชั่นผ่อน 0% ด้วยนะ ส่วนร้านอย่าง JIB, Banana IT เค้าจะเน้นสินค้าไอที คอมพิวเตอร์ Gadget ซะมากกว่า เครื่องฟอกอากาศอาจจะมีบ้างแต่ไม่เยอะเท่าไหร่

สำหรับเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนกับราคาต่างประเทศเนี่ย สินค้าอิเล็กทรอนิกส์พวกนี้ราคาในไทยมักจะมีการปรับตามกลไกตลาดและภาษีนำเข้าอยู่แล้ว เราเน้นดูราคาในไทยเป็นหลักแล้วเปรียบเทียบกันเองจะง่ายกว่าจ้า

3. แล้วเทียบกับแบรนด์อื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ถ้าให้เทียบกับเครื่องฟอกอากาศแบรนด์อื่นๆ ในตลาดที่มีสเปกและฟังก์ชันใกล้เคียงกัน Sharp ถือว่าเป็นแบรนด์ที่มี ราคาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่ได้แพงจนเกินไป และก็ไม่ได้ถูกจนน่าสงสัยนะ

แบรนด์ดังๆ เจ้าอื่นๆ ในตลาดก็จะมีทั้ง Daikin, Xiaomi, Coway, Electrolux, Philips, Dyson อะไรพวกนี้ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นและช่วงราคาที่แตกต่างกันไป เช่น Xiaomi อาจจะมีรุ่นราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่าเล็กน้อย แต่ Sharp ก็มีจุดเด่นที่เทคโนโลยี Plasmacluster ที่เป็นเอกลักษณ์ หรืออย่าง Dyson ที่เน้นดีไซน์และความสามารถหลากหลาย ราคาก็จะสูงกว่า Sharp ไปเลย

โดยรวมแล้ว Sharp ถือเป็นตัวเลือกที่ คุ้มค่า เลยนะ เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพในการฟอกอากาศ โดยเฉพาะเรื่องการกำจัดเชื้อโรคและกลิ่น ด้วยเทคโนโลยี Plasmacluster ในราคาที่ไม่แรงจนเกินไป ทำให้เป็นตัวเลือกที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับคนไทยจ้า ไม่ได้เน้นความหรูหราฟู่ฟ่าเหมือนบางแบรนด์ แต่เน้นฟังก์ชันการใช้งานที่เชื่อถือได้มากกว่า

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาซื้อเครื่องฟอกอากาศ Sharp สิ่งที่เราจะได้มาหลักๆ เลยก็คือ

• ตัวเครื่องฟอกอากาศ: อันนี้แน่นอนอยู่แล้วจ้า
• ชุดไส้กรอง: ส่วนใหญ่เครื่องใหม่จะมาพร้อมกับชุดไส้กรอง 1 ชุด พร้อมใช้งานเลยนะ ไส้กรองหลักๆ ก็จะมี Pre-filter (กรองหยาบ), แผ่นกรอง Activated Carbon (กรองกลิ่น), และแผ่นกรอง HEPA (กรองฝุ่นละเอียด PM 2.5 และเชื้อโรค) อันนี้ สำคัญมากๆ ที่ต้องเช็คว่ามีมาให้ครบและเป็นของใหม่นะจ๊ะ
• คู่มือการใช้งาน: ช่วยให้เราติดตั้งและใช้งานเครื่องได้อย่างถูกต้อง
• ใบรับประกัน: อันนี้แหละสำคัญมากสำหรับคนไทย! Sharp เค้ามีการรับประกันสินค้าที่ค่อนข้างดีนะ ส่วนใหญ่จะ รับประกันตัวเครื่อง 1 ปี และบางรุ่นอาจจะมีรับประกันมอเตอร์หรือชิ้นส่วนอื่นๆ เพิ่มเติม อันนี้ต้องเช็ครายละเอียดในใบรับประกันดีๆ เลยจ้า ถ้าซื้อจากร้านค้า Official หรือห้างใหญ่ๆ การเคลมก็จะค่อนข้างสะดวกหายห่วง
• อุปกรณ์เสริมอื่นๆ: บางรุ่นอาจจะมีรีโมทคอนโทรลมาให้ด้วย หรือบางทีร้านค้าอาจจะมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ เช่น น้ำยาทำความสะอาด หรือโค้ดส่วนลดสำหรับการซื้อไส้กรองในอนาคต

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่ร้านค้าใหญ่ๆ หรือ Official Store มักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อครบยอดที่กำหนด หรือบางทีก็ส่งฟรีทั่วประเทศเลย อันนี้ต้องเช็คเงื่อนไขของแต่ละร้านนะจ๊ะ แต่ถ้าซื้อจากห้างแล้วให้เค้ามาส่งที่บ้าน อาจจะมีค่าบริการเพิ่มเติม

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

แน่นอนว่าถ้าอยากได้ของดีราคาโดน ช่วง โปรโมชั่น นี่แหละคือเวลาทองเลยจ้า! ร้านค้าออนไลน์และห้างร้านต่างๆ ในไทยมักจะมีโปรโมชั่นลดราคาเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ตลอด โดยเฉพาะช่วงเทศกาลใหญ่ๆ หรือช่วงปลายปี

• ช่วง Double Digit Sale: ยอดฮิตสุดๆ บน Lazada กับ Shopee เลยจ้า ทั้ง 4.4, 5.5, 6.6, 7.7, 8.8, 9.9, 10.10, 11.11 และที่จัดหนักจัดเต็มที่สุดคือ 12.12 (วันที่ 12 เดือน 12) ช่วงนี้แหละที่ Official Store ของ Sharp บนแพลตฟอร์มเหล่านี้มักจะจัดโปรโมชั่นลดราคาแรงๆ มีโค้ดส่วนลดพิเศษ หรือแถมของเพิ่ม ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ตื่นมาเก็บโค้ดกันให้ทันนะจ๊ะ!
• เทศกาลไทย: ช่วง สงกรานต์ (ปีใหม่ไทย) หรือช่วง ปีใหม่สากล ร้านค้าต่างๆ ก็มักจะจัดโปรโมชั่นลดราคาเพื่อฉลองเทศกาลด้วยเช่นกัน
• โปรโมชั่น Payday: บางทีช่วงสิ้นเดือนที่เงินเดือนออก Lazada/Shopee หรือห้างร้านต่างๆ ก็อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษเล็กๆ น้อยๆ ได้ด้วย
• โปรโมชั่นตามฤดูกาล: อย่างช่วงที่ฝุ่น PM 2.5 หนักๆ เครื่องฟอกอากาศจะเป็นที่ต้องการสูง ราคาอาจจะไม่ได้ลดเยอะ แต่ก็อาจจะมีโปรโมชั่นแถมไส้กรอง หรือผ่อน 0% แทน

สรุปคือ ถ้าไม่รีบมากๆ รอช่วงโปรโมชั่น เนี่ย มีโอกาสได้เครื่องฟอกอากาศ Sharp ในราคาที่ถูกลง หรือได้ของแถมเพิ่มเยอะเลยจ้า โดยเฉพาะช่วง 11.11 และ 12.12 นี่พลาดไม่ได้เลยนะ!

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวของผู้ใช้จริงในไทย โดยเฉพาะบน Lazada และ Shopee เนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่เกี่ยวกับเครื่องฟอกอากาศ Sharp ถือว่าค่อนข้างดีเลยนะ จุดที่คนไทยชอบและรีวิวถึงบ่อยๆ เลยก็คือ:

• ฟอก PM 2.5 ได้ดีจริง: หลายคนบอกว่าเปิดเครื่องแล้วรู้สึกว่าอากาศในห้องสดชื่นขึ้น หายใจโล่งขึ้นชัดเจน หน้าจอแสดงผลค่า PM 2.5 ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด [รีวิวจากผู้ใช้บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ]
• เทคโนโลยี Plasmacluster เวิร์ค: ผู้ใช้หลายคนรู้สึกว่าช่วยลดกลิ่นอับ กลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องได้ดีมาก [รีวิวจากผู้ใช้บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ] และรู้สึกว่าช่วยลดอาการภูมิแพ้ได้บ้าง [รีวิวจากผู้ใช้บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ]
• ใช้งานง่าย: การควบคุมไม่ซับซ้อน ฟังก์ชันต่างๆ เข้าใจง่าย [รีวิวจากผู้ใช้บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ]
• เสียงไม่ดังรบกวน: ในโหมดการทำงานปกติหรือโหมดนอนหลับ เสียงค่อนข้างเงียบ ไม่รบกวนการพักผ่อน [รีวิวจากผู้ใช้บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ]
• คุ้มค่ากับราคา: เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพและเทคโนโลยีที่ได้ ในราคาที่จับต้องได้ ถือว่าคุ้มค่ามากๆ [รีวิวจากผู้ใช้บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ]
• ดีไซน์สวยงาม เข้ากับบ้าน: หลายรุ่นมีการออกแบบที่เรียบง่าย ทันสมัย เข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้านได้ง่าย [รีวิวจากผู้ใช้บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ]
• ไส้กรองหาซื้อง่าย: ไส้กรองสำหรับเปลี่ยนหาซื้อได้ไม่ยาก มีขายทั้งออนไลน์และตามร้านค้าทั่วไป [รีวิวจากผู้ใช้บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ]

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาคือ บางรุ่นอาจจะไม่มีฟังก์ชัน Smart Home เชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ ซึ่งถ้าใครเน้นตรงนี้อาจจะต้องมองหารุ่นที่สูงขึ้นไปอีกนิด แต่โดยรวมแล้ว Sharp ถือว่าตอบโจทย์ความต้องการหลักของคนไทยที่อยากได้เครื่องฟอกอากาศที่ฟอกฝุ่น PM 2.5 ได้ดี กำจัดเชื้อโรคและกลิ่นได้ ในราคาที่สมเหตุสมผลเลยจ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

สำหรับเครื่องฟอกอากาศ Sharp เนี่ย ช่องทางการซื้อมีหลากหลายมากๆ เลยจ้า แล้วแต่ความสะดวกของเราเลยนะ

• ช่องทางออนไลน์ขนาดใหญ่: เช่น Shopee และ Lazada อันนี้เป็นช่องทางที่สะดวกที่สุดในยุคนี้เลยนะ เพราะมี Official Store ของ Sharp เองอยู่บนแพลตฟอร์มเหล่านี้ ซึ่งมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ มีการรับประกันที่ชัดเจน และมักจะมีโปรโมชั่นดีๆ อยู่ตลอด นอกจากนี้ยังมีร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ ให้เลือกเปรียบเทียบราคาอีกเพียบ ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีระบบการจ่ายเงินที่ปลอดภัย และมักจะมีโปรโมชั่นส่งฟรีด้วยจ้า
• ร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าและห้างสรรพสินค้า: ไปดูได้เลยที่แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง Central, Big C, The Mall หรือร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะอย่าง Power Buy ข้อดีคือเราสามารถไป ดูของจริง ลองดูขนาด ลองฟังเสียง ก่อนตัดสินใจซื้อได้เลย มีพนักงานคอยให้ข้อมูล และบางทีก็มีโปรโมชั่นผ่อน 0% กับบัตรเครดิตต่างๆ ด้วยนะ
• ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: บางร้านอาจจะไม่ได้อยู่ในห้างใหญ่ แต่เป็นร้านตัวแทนจำหน่าย Sharp โดยตรง ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

การซื้อจากช่องทางทางการหรือร้านค้าที่มีชื่อเสียง มั่นใจได้ว่าจะได้สินค้าของแท้ มีใบรับประกัน และสะดวกในการเคลมสินค้าหรือขอรับบริการหลังการขายมากๆ จ้า

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่าเครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่นยอดนิยมต่างๆ น่าซื้อไหม? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่:

• กังวลเรื่องฝุ่น PM 2.5 และอยากได้อากาศสะอาดในบ้าน: Sharp ฟอกฝุ่น PM 2.5 ได้ดีหายห่วง แถมมีเทคโนโลยี Plasmacluster ช่วยกำจัดเชื้อโรคและกลิ่นอีกด้วย
• อยากได้เครื่องฟอกอากาศที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน: Sharp มีฟังก์ชันที่ไม่ยุ่งยาก เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย
• มองหาเครื่องฟอกอากาศที่คุ้มค่าคุ้มราคา: เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพและราคา Sharp เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ
• อยากได้แบรนด์ที่มีชื่อเสียงและเชื่อถือได้: Sharp เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นเก่าแก่ มีมาตรฐานการผลิตที่ดี และมีการรับประกันสินค้าที่ชัดเจน
• มีงบประมาณตั้งแต่หลักพันต้นๆ ถึงหลักหมื่นต้นๆ: Sharp มีรุ่นให้เลือกหลากหลายครอบคลุมช่วงราคานี้

ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดี อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของห้องและงบประมาณเลยจ้า

• ถ้าเน้นประหยัด งบไม่สูงมาก ห้องขนาดเล็ก (ไม่เกิน 20-30 ตร.ม.): เลือกรุ่นเริ่มต้นได้เลย ฟังก์ชันพื้นฐานครบครัน ฟอกฝุ่น PM 2.5 ได้ดีเหมือนกัน
• ถ้าห้องใหญ่ขึ้นมาหน่อย (30-40 ตร.ม. ขึ้นไป) หรืออยากได้ฟังก์ชันพิเศษเพิ่ม: อาจจะต้องมองหารุ่นที่ใหญ่ขึ้น หรือมีฟังก์ชันเสริม เช่น โหมดทำงานเงียบพิเศษ, เซ็นเซอร์ตรวจจับกลิ่น, หน้าจอแสดงผลค่าต่างๆ ที่ละเอียดขึ้น หรือมีล้อเลื่อนเคลื่อนย้ายสะดวก

โดยรวมแล้ว Sharp เป็นแบรนด์เครื่องฟอกอากาศที่ตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานได้อย่างยอดเยี่ยมในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย คุ้มค่าที่จะลงทุนเพื่อสุขภาพปอดที่ดีของคนในครอบครัวจ้า!

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังตัดสินใจซื้อเครื่องฟอกอากาศ Sharp นะจ๊ะ ขอให้ได้เครื่องที่ถูกใจ หายใจได้เต็มปอด สุขภาพดีกันทุกคนจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิวเครื่องฟอกอากาศXiaomi​ VS​ Sharp​ ใช้ได้จริงมั้ย?
• 5 เครื่องฟอกอากาศน่าใช้ งบไม่เกิน 4000 ป้องกัน PM2.5 !!
• เล่าให้ฟังหลังใช้งาน เครื่องฟอกอากาศราคาน่าคบ Sharp FP-J30TA ...
• เลือกเครื่องฟอกอากาศดูยังไง? รุ่นไหนคุ้มค่าที่สุดในงบ 5000 บาท
• EP.39 รีวิวเครื่องฟอกอากาศ Sharp FP-J30TA-B ว่าลด PM 2.5 ได้ ...