ราคา iPhone รุ่นล่าสุด (iPhone 15, iPhone 14, iPhone 13) และรุ่นมือสอง

สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องสมาร์ทโฟนขวัญใจมหาชนอย่าง iPhone กัน ใครที่กำลังเล็งๆ จะสอยไอโฟนเครื่องใหม่ หรือเครื่องมือสองสภาพดีๆ มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาเจาะลึกเรื่อง "ราคา" กันแบบหมดเปลือก ทั้งรุ่นล่าสุด รุ่นฮิตติดลมบน แถมด้วยเคล็ดลับช้อปยังไงให้คุ้มค่า จนเพื่อนต้องเหลียวหลังมองตาเป็นประกาย! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!

1. iPhone คืออะไร แล้วทำไมใครๆ ก็อยากได้?

เอาล่ะ เริ่มต้นกันที่ว่าเจ้า iPhone นี่มันคืออะไร? พูดง่ายๆ มันคือ สมาร์ทโฟนตัวท็อป จากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Apple ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เค้าขึ้นชื่อเรื่องสินค้าดีไซน์สวย ใช้งานง่าย และมีระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่แข็งแกร่งมากๆ iPhone เนี่ยไม่ใช่แค่โทรศัพท์นะ แต่มันคืออุปกรณ์คู่ใจที่ทำได้สารพัดสิ่ง! ตั้งแต่ถ่ายรูปสวยๆ ระดับโปร เล่นเกมนี่ลื่นปรื้ดดดด ทำงาน ทำคอนเทนต์ หรือจะใช้จ่ายผ่าน Apple Pay ก็ง่ายไปหมด

เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบความ พรีเมียม ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน แถมยังได้อัปเดตซอฟต์แวร์ยาวๆ ใครที่ใช้สินค้า Apple อย่างอื่นอยู่แล้ว เช่น iPad หรือ MacBook การมี iPhone ก็จะทำให้ทุกอย่างมันเชื่อมถึงกันแบบไร้รอยต่อเลยล่ะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม iPhone ถึงได้รับความนิยมมากๆ ในตลาดไทยของเราจ้า มันเป็นเหมือนไอเท็มที่แสดงถึงความทันสมัย ความสำเร็จ (เบาๆ) และเป็นอุปกรณ์ที่ไว้ใจได้เลยล่ะ

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้างนะ? (รุ่นล่าสุด & รุ่นฮิต)

มาถึงเรื่องสำคัญที่ทำให้ใจสั่น นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ iPhone เนี่ย ต้องบอกก่อนว่าราคาเค้าก็จะแรงหน่อยๆ ตามชื่อชั้นนะจ๊ะ แต่ก็มีหลายรุ่นให้เลือกตามงบประมาณเลยจ้า เรามาดูราคาคร่าวๆ ของรุ่นฮิตๆ ในตลาดไทยกันดีกว่า (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นและร้านค้านะจ๊ะ)

• iPhone 15 Series (รุ่นล่าสุด)

  • iPhone 15: ราคาเริ่มต้นประมาณ 29,900 - 38,900 บาท (฿) ขึ้นอยู่กับความจุ
  • iPhone 15 Plus: ราคาเริ่มต้นประมาณ 32,900 - 41,900 บาท (฿) ขึ้นอยู่กับความจุ
  • iPhone 15 Pro: ราคาเริ่มต้นประมาณ 39,900 - 56,900 บาท (฿) ขึ้นอยู่กับความจุ
  • iPhone 15 Pro Max: ราคาเริ่มต้นประมาณ 44,900 - 66,900 บาท (฿) ขึ้นอยู่กับความจุ

  (รุ่น Pro และ Pro Max จะมีราคาสูงกว่ารุ่นธรรมดา เพราะสเปกจัดเต็มกว่า เช่น กล้องที่ดีกว่า วัสดุพรีเมียมกว่า ชิปแรงกว่า)

• iPhone 14 Series (รุ่นก่อนหน้า)

  • iPhone 14: ราคาปัจจุบันจะปรับลดลงมาแล้ว เริ่มต้นประมาณ 25,900 - 34,900 บาท (฿)
  • iPhone 14 Plus: ราคาปัจจุบันปรับลดลง เริ่มต้นประมาณ 28,900 - 37,900 บาท (฿)

  (รุ่น 14 Pro และ 14 Pro Max มักจะเลิกขายจากร้านค้าทางการแล้ว ถ้าหาได้ก็จะเป็นเครื่องค้างสต็อกหรือมือสองนะ)

• iPhone 13 Series (รุ่นยอดนิยม)

  • iPhone 13: รุ่นนี้ยังเป็นที่นิยมและหาซื้อมือหนึ่งได้จากร้านค้าทางการบางแห่ง ราคาเริ่มต้นประมาณ 22,900 - 31,900 บาท (฿)
  • iPhone 13 mini: รุ่นจิ๋ว ราคาจะน่ารักลงมาอีก แต่ตอนนี้ค่อนข้างหายากในตลาดมือหนึ่งแล้ว

  (รุ่น 13 Pro และ 13 Pro Max ก็จะคล้ายกับรุ่น 14 คือไม่ค่อยมีมือหนึ่งแล้วจ้า)

• iPhone รุ่นมือสอง:

  อันนี้ราคาจะ หลากหลายมากกกก ขึ้นอยู่กับรุ่น สภาพเครื่อง ความจุ สี และร้านที่ขาย อาจเจอราคาตั้งแต่หลักพันปลายๆ (รุ่นเก่ามากๆ หรือสภาพไม่สมบูรณ์) ไปจนถึงสองหมื่นกลางๆ (รุ่น 14 หรือ 13 สภาพดีๆ) ต้องเช็คให้ละเอียดเลยจ้า

ลองไปส่องตามแหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตในไทยดูสิ อย่าง Apple Store ออนไลน์/สยามไอคอนสยาม, ร้านตัวแทนจำหน่ายอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy, iStudio, UStore (สำหรับนักศึกษา) หรือแม้แต่บน Lazada กับ Shopee ที่มีร้านค้าทางการของ Apple หรือร้านตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ไปเปิดอยู่ ส่วนห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง Central, Big C, The Mall บางทีก็จะมีโซนร้านค้ามือถือ หรือร้านตัวแทนจำหน่ายอยู่ในนั้นเหมือนกันนะ ก็ลองไปเดินดูได้เลยจ้า

ส่วนเรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนกับราคาต่างประเทศเนี่ย ของพวกเทคโนโลยีจากแบรนด์ดังๆ ส่วนใหญ่มักจะมีราคาสูงกว่าราคาในต่างประเทศเล็กน้อยในบ้านเรานะ เพราะมีเรื่องภาษีและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ก็ทำใจไว้นิดนึงจ้า

3. แล้วเทียบกับมือถือแบรนด์อื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ถ้าให้เทียบ iPhone กับสมาร์ทโฟนตัวท็อปของแบรนด์อื่นๆ ในตลาด อย่างเช่น Samsung Galaxy S Series, Google Pixel หรือ Huawei รุ่นเรือธงเนี่ย ต้องบอกว่า iPhone เค้าอยู่ในกลุ่ม ราคาสูง หรือ พรีเมียม เลยล่ะ ราคาเริ่มต้นมักจะสูงกว่าคู่แข่งในสเปกที่ใกล้เคียงกันเล็กน้อย

อย่างเช่น สมมติว่า Samsung Galaxy รุ่นท็อป ราคาเริ่มต้น xxx บาท ขณะที่ iPhone รุ่นท็อป อาจจะราคาเริ่มต้น xxx+ บาท ซึ่งตรงนี้เนี่ย มันไม่ได้มีแค่เรื่องสเปกอย่างเดียว แต่ iPhone เค้าขายเรื่อง ประสบการณ์การใช้งาน, ความเสถียรของระบบ, การอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ยาวนาน และที่สำคัญคือ มูลค่าตอนขายต่อ (Resale Value) ที่ค่อนข้างดีกว่าคู่แข่งในตลาดนะจ๊ะ ดังนั้น การที่ราคาเค้าสูงกว่า ก็มีเหตุผลของมันอยู่ ไม่ได้แพงแบบไร้เหตุผลซะทีเดียวจ้า มันคือการเลือกระหว่างความคุ้มค่าด้านสเปกต่อราคา (ในแบรนด์อื่น) กับความพรีเมียม ประสบการณ์ใช้งาน และมูลค่าในระยะยาว (ใน iPhone) นั่นเอง!

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะในกล่อง? (สำคัญมาก!)

อันนี้เป็นจุดที่หลายคนอาจจะงงๆ ในช่วงหลังๆ นะจ๊ะ สำหรับ iPhone รุ่นใหม่ๆ ตั้งแต่ iPhone 12 เป็นต้นมา เนี่ย สิ่งที่คุณจะได้ในกล่องก็จะมีแค่ ตัวเครื่อง iPhone กับ สายชาร์จแบบ USB-C to Lightning (รุ่น 15 ได้ USB-C to USB-C) เท่านั้นจ้า!

ใช่จ้ะ! คุณอ่านไม่ผิด! ไม่มีหัวชาร์จ ไม่มีหูฟังมาให้แล้วนะจ๊ะ!

ทาง Apple เค้าให้เหตุผลเรื่องสิ่งแวดล้อมนะ คือเค้าคิดว่าหลายคนน่าจะมีหัวชาร์จหรือหูฟังอยู่แล้ว ก็เลยลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ซะเลย (แต่คนซื้อก็ต้องไปหาซื้อเพิ่มเอาเองนะสิ! 😅)

สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติม:

• ค่าจัดส่ง: ถ้าซื้อจาก Apple Store ออนไลน์ หรือร้านค้าทางการใหญ่ๆ มักจะมีบริการ จัดส่งฟรี ถึงบ้านเลยจ้า สะดวกสุดๆ
• ระยะเวลารับประกัน: อันนี้สำคัญมากๆ สำหรับคนไทยที่ค่อนข้างกังวลเรื่องการซ่อม! iPhone ที่ซื้อจากร้านค้าทางการในไทย จะได้รับ การรับประกันตัวเครื่อง 1 ปี จาก Apple ทั่วโลกจ้า ถ้ามีปัญหาที่เกิดจากการผลิต สามารถนำเครื่องเข้าศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Apple ในไทยได้เลย ซึ่งมีอยู่หลายที่มากๆ หายห่วงเรื่องบริการหลังการขายไปได้เลย นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือก AppleCare+ ที่สามารถซื้อเพิ่มได้ เพื่อขยายระยะเวลาการรับประกันและเพิ่มความคุ้มครอง เช่น กรณีทำเครื่องตกจอแตก แบตเตอรี่เสื่อม ก็จะมีส่วนลดค่าซ่อม หรือเปลี่ยนเครื่องให้ในราคาที่ถูกลง (แต่มีค่าบริการเพิ่มเติมนะ)
• ของแถม/โปรโมชั่น: ถ้าซื้อกับค่ายมือถือ อาจจะมีโปรโมชั่นพ่วงสัญญา ได้ส่วนลดค่าเครื่อง หรือได้แพ็กเกจดีๆ ถ้าซื้อกับร้านตัวแทนจำหน่าย บางทีอาจจะมีแถมฟิล์มกันรอย เคส หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ เล็กๆ น้อยๆ หรือมีโปรโมชั่นผ่อน 0% กับบัตรเครดิตต่างๆ ก็ต้องลองเช็คกับร้านโดยตรงเลยจ้า
• คูปองส่วนลด: ถ้าซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada/Shopee บางทีจะมีโค้ดส่วนลดจากร้านค้า หรือโค้ดส่วนลดจากแพลตฟอร์มเองในบางช่วง ก็ต้องหมั่นเก็บโค้ดไว้นะจ๊ะ

5. มีช่วงไหนน่าซื้อ iPhone เป็นพิเศษมั้ยนะ?

แน่นอนว่าถ้าอยากได้ iPhone ในราคาที่พอจะเบาลงมาบ้าง ช่วง โปรโมชั่น นี่แหละคือเวลาทองเลยจ้า!

• ช่วงเปิดตัวรุ่นใหม่: อันนี้ไม่ได้ลดราคารุ่นใหม่นะ แต่พอรุ่นใหม่ออก (เช่น iPhone 15 ออก) ราคาของรุ่นก่อนหน้า (iPhone 14, iPhone 13) ก็จะ ปรับลดราคาลง จ้า นี่แหละคือโอกาสของคนที่อยากได้ไอโฟนรุ่นที่ไม่ใช่ล่าสุดแต่ยังคงดีมากๆ ในราคาที่จับต้องง่ายขึ้น
• ช่วงโปรโมชั่น Double Digit Sale: อันนี้จัดกันทุกปีบนแพลตฟอร์มออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่าง Lazada และ Shopee เช่น 11.11, 12.12 หรือแม้กระทั่ง 9.9, 10.10 ช่วงนี้ร้านค้าทางการของ Apple หรือร้านตัวแทนจำหน่ายต่างๆ มักจะมีโปรโมชั่นพิเศษ ลดราคา หรือมีโค้ดส่วนลดที่ใช้ร่วมกับสินค้า Apple ได้ ก็ต้องคอยติดตามให้ดีเลยจ้า
• โปรโมชั่นกับค่ายมือถือ: AIS, True, dtac มักจะมีโปรโมชั่นลดค่าเครื่อง iPhone พร้อมพ่วงสัญญา ซึ่งบางทีก็ได้ส่วนลดที่เยอะมากๆ เลยนะ ถ้าใครไม่ได้ติดว่าจะต้องใช้ซิมเติมเงิน หรือไม่ได้กังวลเรื่องการติดสัญญา ตัวเลือกนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ
• ช่วงเทศกาลสำคัญๆ: ถึงแม้ Apple เองอาจจะไม่ได้จัดโปรโมชั่นรับเทศกาลไทยโดยตรง แต่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ อาจจะจัดโปรโมชั่นรับเทศกาลอย่าง ปีใหม่ หรือ สงกรานต์ ซึ่งอาจจะมีส่วนลดสำหรับสินค้าไอทีรวมถึง iPhone ด้วย ก็ลองไปส่องๆ ดูนะจ๊ะ

สรุปคือ ถ้าอยากได้ราคาดีๆ อาจจะต้องอดใจรอหน่อย หรือเลือกซื้อรุ่นก่อนหน้าที่ปรับราคาลงมาแล้ว หรือไปดูโปรโมชั่นกับค่ายมือถือหรือร้านตัวแทนจำหน่ายในช่วงเวลาพิเศษจ้า

6. คนไทยใช้ iPhone แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิว หรือฟังจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ใช้ iPhone เนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่ถือว่า ดีมากๆ เลยนะ จุดที่คนไทยชอบและพูดถึงบ่อยๆ ก็คือ:

• กล้องสวย ถ่ายง่าย: อันนี้เป็นจุดเด่นที่ปฏิเสธไม่ได้เลย! iPhone ขึ้นชื่อเรื่องกล้องที่ถ่ายรูปสวย สีเป็นธรรมชาติ ใช้งานง่าย ไม่ต้องปรับอะไรเยอะก็ได้รูปสวยๆ แล้ว โดนใจคนไทยที่ชอบถ่ายรูปมากๆ จ้า
• ประสิทธิภาพลื่นไหล ใช้งานง่าย: ระบบ iOS เค้าขึ้นชื่อเรื่องความเสถียรและความลื่นไหล ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน แม้คนที่ไม่เก่งเทคโนโลยีก็เรียนรู้ได้เร็ว แอปต่างๆ ก็ทำงานเข้ากันได้ดี
• ตัวเครื่องทนทาน (ในระดับหนึ่ง): ถึงแม้จะไม่ได้แข็งแรงแบบสุดๆ แต่โดยรวมแล้ว iPhone ค่อนข้างมีความทนทาน วัสดุดี งานประกอบแน่นหนา
• แอปเยอะ ใช้งานได้หลากหลาย: แอปพลิเคชันบน App Store มีให้เลือกเยอะมากๆ ทั้งแอปทำงาน แอปโซเชียล แอปตัดต่อวิดีโอ/รูปภาพ หรือแอปเกม คุณภาพดีๆ เพียบ
• มูลค่าตอนขายต่อดี: จุดนี้คนไทยแฮปปี้มากๆ! เวลาจะเปลี่ยนรุ่นใหม่ iPhone รุ่นเก่ามักจะยังขายได้ราคาดีกว่ามือถือแบรนด์อื่นๆ ทำให้รู้สึกว่าลงทุนแล้วไม่เสียเปล่า
• เป็นที่นิยม พกแล้วดูดี: อันนี้เป็นเรื่องของภาพลักษณ์และกระแสด้วยเนอะ การใช้ iPhone ก็เป็นที่ยอมรับในสังคมไทยอย่างกว้างขวาง

ส่วนจุดที่คนไทยอาจจะบ่นๆ บ้างก็คือ ราคาสูง, ไม่มีหัวชาร์จ/หูฟังมาให้, และ ปรับแต่งอะไรได้ไม่เยอะเท่า Android แต่โดยรวมแล้วความพอใจค่อนข้างสูงเลยจ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อ iPhone ได้ที่ไหนบ้างล่ะ?

ช่องทางการซื้อ iPhone ในไทยมีให้เลือกเยอะมากๆ จ้า ลองดูว่าแบบไหนสะดวกกับเราที่สุดนะ:

• Apple Store (ออนไลน์และสาขา Iconsiam): เป็นช่องทาง ทางการที่สุด ได้เครื่องแท้แน่นอน มีบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม พนักงานให้คำแนะนำได้ดี ซื้อออนไลน์ก็ได้ของไว แถมส่งฟรีด้วยจ้า
• ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต (Authorized Resellers): อันนี้มีเยอะมากๆ ทั่วประเทศ เช่น iStudio, UStore (ในมหาวิทยาลัย), JIB, Banana IT, Power Buy, King Power (บางสาขา) ข้อดีคือมีหน้าร้านให้ไปดู ไปลองจับเครื่องจริงได้ มีพนักงานคอยให้คำแนะนำ และมักจะมีโปรโมชั่นผ่อน 0% กับบัตรเครดิตต่างๆ
• แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่: เช่น Shopee และ Lazada มีร้านค้า Apple Flagship Store เอง และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ ไปเปิดขายอยู่ ข้อดีคือสะดวก นั่งช้อปอยู่บ้านได้เลย บางช่วงมีโปรโมชั่น ส่วนลด หรือโค้ดส่งฟรีเยอะมากๆ แต่ก็ต้อง เช็คชื่อร้านและรีวิวให้ดีๆ ก่อนซื้อนะจ๊ะ ซื้อจากร้านค้าทางการ หรือร้านที่มีชื่อเสียงเชื่อถือได้จะปลอดภัยที่สุด
• ร้านค้าอย่างเป็นทางการของค่ายมือถือ: เช่น AIS Shop, True Shop, dtac Shop ซื้อจากที่นี่มักจะต้องซื้อเครื่องพร้อมแพ็กเกจรายเดือน ซึ่งอาจได้ส่วนลดค่าเครื่องที่คุ้มค่ามากๆ ถ้าเราใช้งานแพ็กเกจอยู่แล้ว
• ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ที่มีโซนไอที: อย่าง Central, Big C, The Mall บางสาขาจะมีร้านค้ามือถือ หรือร้านตัวแทนจำหน่ายอยู่ข้างใน ก็เป็นอีกทางเลือกที่สามารถไปเดินดูของจริงได้
• ตลาดมือสอง: สำหรับ iPhone รุ่นเก่าๆ หรือคนที่อยากประหยัดงบ ก็จะมีแหล่งซื้อมือสอง เช่น ตามกลุ่มซื้อขายใน Facebook, เว็บไซต์ขายของมือสองต่างๆ หรือร้านตู้ตามห้าง ต้อง ตรวจสอบสภาพเครื่องและประวัติให้ดีมากๆ ก่อนตัดสินใจซื้อนะจ๊ะ

8. สรุปแล้ว iPhone น่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า iPhone น่าซื้อไหมในปีนี้? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่:

• มีงบประมาณเพียงพอ และอยากได้สมาร์ทโฟนระดับท็อป
• ชอบความเรียบง่าย ใช้งานง่าย และความเสถียรของระบบ
• ให้ความสำคัญกับคุณภาพกล้อง สำหรับถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ
• ใช้ผลิตภัณฑ์ Apple อื่นๆ อยู่แล้ว และต้องการให้ทุกอย่างเชื่อมต่อกันได้ดี
• ต้องการสมาร์ทโฟนที่มีมูลค่าตอนขายต่อดี
• อยากได้อุปกรณ์ที่ดูพรีเมียม และเป็นที่ยอมรับในสังคม

iPhone ตอบโจทย์ทุกข้อเลยจ้า!

ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดีระหว่าง iPhone 15 (ล่าสุด), iPhone 14 (ลดราคาแล้ว) หรือ iPhone 13 (รุ่นฮิตราคาเป็นมิตร)?

• ถ้าเน้น สเปกแรงสุด ฟีเจอร์ใหม่สุดๆ งบถึง จัดไปเลย iPhone 15 Pro หรือ 15 Pro Max ไม่ผิดหวังแน่นอน!
• ถ้าอยากได้ รุ่นใหม่หน่อย สเปกดี กล้องสวย แต่ไม่จำเป็นต้องท็อปสุด iPhone 15 หรือ 15 Plus ก็เพียงพอแล้วจ้า
• ถ้าอยากได้ ไอโฟนที่ยังใหม่พอสมควร สเปกดีพอใช้ กล้องสวยในงบที่สบายกระเป๋าลงมาอีก iPhone 14 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ตอนนี้ เพราะราคาปรับลงมาแล้ว
• ถ้าเน้น ความคุ้มค่าสูงสุด ในบรรดารุ่นใหม่ๆ ที่ยังหาซื้อมือหนึ่งได้ และสเปกยังใช้งานได้ดีเยี่ยมในระยะยาว iPhone 13 คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์เลยจ้า
• ถ้า งบจำกัดมากๆ แต่อยากลองใช้ iPhone หรือใช้แอปเฉพาะของ iOS การมองหา iPhone รุ่นมือสอง ที่สภาพดีๆ ก็เป็นอีกทางเลือก แต่ต้องตรวจสอบให้ละเอียดมากๆ ก่อนซื้อนะ!

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนตัดสินใจเลือกซื้อ iPhone ที่เหมาะกับตัวเองและงบประมาณได้ง่ายขึ้นนะจ๊ะ ขอให้ได้ iPhone เครื่องที่ถูกใจ ใช้แล้วแฮปปี้ ถ่ายรูปสวยๆ กันทุกคนจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• อัพเดทราคา iPhone 15 l iPhone 14 l iPhone 13 ราคาล่าสุด ทั้งมือ ...
• อัปเดตราคา iPhone มือสอง ถูกกว่าเดิม ที่นี่ห่วยแบงค์
• อัพเดท ราคาไอโฟน iPhone 15 I iPhone 14 I iPhone 13 ครบทุก ...
• อัปเดตราคา iPhone มือสอง ลดราคากว่าเดิม
• อัพเดทราคา iPhone 15 l iPhone 14 l iPhone 13 | อัพเดทราคา ...