10 อันดับ โทนเนอร์เกาหลี ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ผิวฉ่ำวาว กระชับรูขุมขน

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวสกินแคร์เลิฟเวอร์ และผู้ที่ใฝ่ฝันอยากมีผิวฉ่ำวาวราว "Glass Skin" เหมือนสาวเกาหลีทุกคน! 🙌 ในโลกที่เต็มไปด้วยมลภาวะ แสงแดด และความเครียดรุมเร้า การดูแลผิวหน้าให้สะอาดใส ชุ่มชื้น และแข็งแรง ถือเป็นภารกิจที่สำคัญสุดๆ ครับ และไอเท็มหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในรูทีนของใครหลายคน โดยเฉพาะสาย K-Beauty ก็คือ "โทนเนอร์" นั่นเอง!

แต่เดี๋ยวก่อน! แค่คำว่า "โทนเนอร์เกาหลี" ก็มีเป็นร้อยเป็นพันยี่ห้อ จนบางทีก็เลือกไม่ถูกว่าตัวไหนจะใช่ ตัวไหนจะปัง ตัวไหนจะช่วยเนรมิตผิวในฝันของเราได้จริง?! 🤔

ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะวันนี้ผม (ในฐานะผู้ที่ลองผิดลองถูกมาเยอะกว่าที่คิด!) จะมาเป็นเพื่อนคู่ใจ พาไปเจาะลึกทุกแง่มุมของโทนเนอร์เกาหลี พร้อมคัดมาให้เน้นๆ 10 อันดับที่ได้รับความนิยมและมีรีวิวแน่นๆ ในประเทศไทย ปี 2025 นี้ รับรองว่าอ่านจบปุ๊บ ต่อมอยากช้อปพุ่งปั๊บแน่นอน! ✨

ตลาดโทนเนอร์เกาหลีในไทย ฮอตปรอทแตกแค่ไหน?

บอกเลยว่ากระแส K-Beauty ในไทยยังคงแรงต่อเนื่อง ไม่มีแผ่ว! ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์เกาหลี ไอดอลเกาหลี ก็ล้วนเป็นแรงบันดาลใจให้สาวไทยอยากมีผิวสวยใสแบบฉบับเกาหลี ซึ่งสกินแคร์เกาหลีก็เข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ได้เป็นอย่างดีครับ. โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หรือ "สกินแคร์" เนี่ย ยอดขายแซงหน้าเครื่องสำอางไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะคนไทยหันมาเน้นดูแลผิวตั้งแต่ต้นมากขึ้น.

ตลาดเครื่องสำอางโดยรวมในไทยมีมูลค่ามหาศาลกว่า 2.8 แสนล้านบาทในปี 2567 และตลาดออนไลน์มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภค. พฤติกรรมคนไทยยุคใหม่คือ ชอบค้นหาข้อมูลเชิงลึกก่อนตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะรีวิวจากผู้ใช้จริง หรือบิวตี้บล็อกเกอร์. แพลตฟอร์มออนไลน์ยอดฮิตที่คนไทยเลือกซื้อสกินแคร์เกาหลีก็หนีไม่พ้น Lazada และ Shopee ที่มีสินค้าให้เลือกหลากหลายและมีโปรโมชั่นเย้ายวนใจเพียบ. นอกจากนี้ ร้านค้าแบบออฟไลน์อย่าง Watsons, Eveandboy, Beautrium หรือร้านมัลติแบรนด์ต่างๆ ก็เป็นแหล่งยอดนิยมในการหาซื้อและทดลองสินค้าก่อนตัดสินใจครับ.

ถึงแม้แบรนด์ไทยจะเริ่มมาแรงและน่าจับตา แต่แบรนด์เกาหลีก็ยังคงเป็นผู้นำเทรนด์และมีนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาเสมอ ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยยังคงให้ความสนใจและติดตามกันอย่างต่อเนื่องครับ.

เลือกโทนเนอร์เกาหลียังไงให้ผิวปัง ไม่พัง!

การเลือกโทนเนอร์ให้เหมาะกับผิวของเราเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ครับ ไม่ใช่แค่ตามกระแส ลองมาดูปัจจัยที่ควรพิจารณากัน:

จัดอันดับ! 10 โทนเนอร์เกาหลีสุดฮิต ผิวฉ่ำวาว กระชับรูขุมขน ปี 2025

ได้เวลาเปิดโผ 10 อันดับโทนเนอร์เกาหลีที่กำลังมาแรงและเป็นที่พูดถึงในปี 2025 นี้ (โดยอิงจากกระแสความนิยมและข้อมูลล่าสุด)!

1. ANUA Heartleaf 77% Soothing Toner

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลีที่โด่งดังสุดๆ ในไทย หรือที่หลายคนเรียกว่า "โทนเนอร์พี่จุน" หลังจาก Suho วง EXO ได้แนะนำ.

• สินค้ารุ่นเด่น: Heartleaf 77% Soothing Toner
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: มีสารสกัด Heartleaf (Houttuynia Cordata) สูงถึง 77% ช่วยปลอบประโลมผิว ลดรอยแดง ลดสิวผด และปรับสมดุลผิวได้ดีมาก. เนื้อสัมผัสบางเบา ซึมไว เหมาะกับผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย. ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม ซิลิโคน. ยอดขายดีมากในไทย.
  • ข้อเสีย: อาจจะต้องใช้เวลากับสิวอักเสบเม็ดใหญ่ๆ.
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย มีรอยแดง ต้องการโทนเนอร์ที่อ่อนโยนและช่วยปลอบประโลมผิว.
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Shopee, Lazada (ร้านค้าทางการของ Anua หรือร้านที่น่าเชื่อถือ).
  • ออฟไลน์: Watsons, Beautrium (อาจต้องตรวจสอบสินค้าที่สาขา).
• ช่วงราคา: ประมาณ 350 - 700 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดและโปรโมชั่น).
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ใช้แล้วสิวผดยุบไวมาก ผิวแดงๆ ดีขึ้นเยอะเลย". "อ่อนโยน ไม่แพ้เลยค่ะ ซื้อซ้ำหลายขวดแล้ว".

2. SKIN1004 Madagascar Centella Toning Toner

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลีที่เน้นส่วนผสมจาก Centella Asiatica บริสุทธิ์จากมาดากัสการ์.

• สินค้ารุ่นเด่น: Madagascar Centella Toning Toner
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: มีสารสกัด Centella Asiatica ที่ช่วยปลอบประโลม สมานแผล ลดการอักเสบ. ผสม PHA ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน เหมาะกับผิวแพ้ง่าย. ช่วยลดความมันและกระชับรูขุมขนได้. เนื้อบางเบา ซึมไว.
  • ข้อเสีย: บางคนอาจจะยังรู้สึกว่าผลัดเซลล์ผิวได้ไม่แรงเท่า AHA/BHA.
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการโทนเนอร์ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ และผลัดเซลล์ผิวแบบอ่อนโยน. เหมาะกับผิวแพ้ง่าย.
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Shopee, Lazada (ร้านค้าทางการของ SKIN1004 หรือร้านที่น่าเชื่อถือ).
  • ออฟไลน์: Watsons, Beautrium.
• ช่วงราคา: ประมาณ 400 - 700 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ใช้แล้วผิวสบาย ไม่ระคายเคืองเลย รอยแดงจางลงนิดหน่อย". "เนื้อเบาดี ซึมง่าย ใช้คู่กับตัวแอมพูลยิ่งเห็นผลเรื่องสิว".

3. Some By Mi AHA-BHA-PHA 30 Days Miracle Toner

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลีที่โด่งดังจากไลน์ Miracle Solution เน้นเรื่องสิวและผลัดเซลล์ผิว.

• สินค้ารุ่นเด่น: AHA-BHA-PHA 30 Days Miracle Toner
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: มีส่วนผสมของ AHA, BHA, PHA ช่วยผลัดเซลล์ผิว สลายสิวอุดตัน และควบคุมความมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ. มีสารสกัดทีทรีเข้มข้น ช่วยลดสิวอักเสบ. ช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง.
  • ข้อเสีย: บางคนอาจรู้สึกยิบๆ เล็กน้อยในช่วงแรก หรืออาจต้องปรับตัว. ไม่เหมาะกับคนที่ผิวแห้งมากๆ หรือผิวไวต่อกรดผลัดเซลล์ผิว.
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่มีปัญหาสิวอุดตัน สิวเสี้ยน รูขุมขนกว้าง และผิวมัน.
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Shopee, Lazada, Central Online (ร้านค้าทางการของ Some By Mi หรือร้านที่น่าเชื่อถือ).
  • ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Beautrium.
• ช่วงราคา: ประมาณ 300 - 600 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "สิวอุดตันลดลงชัดเจนใน 30 วัน รูขุมขนดูกระชับขึ้น". "ทีทรีช่วยให้สิวอักเสบยุบไวดีค่ะ".

4. Etude House Soon Jung pH5.5 Relief Toner

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลีที่เน้นความอ่อนโยน เหมาะกับผิวแพ้ง่าย.

• สินค้ารุ่นเด่น: Soon Jung pH5.5 Relief Toner
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ค่า pH 5.5 ใกล้เคียงผิว อ่อนโยนมากๆ. มีส่วนผสมของ Panthenol และ Madecassoside ช่วยปลอบประโลม ลดการระคายเคือง และลดความร้อนบนผิว. ปราศจากสารก่อการระคายเคืองหลายชนิด.
  • ข้อเสีย: อาจจะไม่เน้นเรื่องการผลัดเซลล์ผิว หรือกระชับรูขุมขนชัดเจนเท่าบางตัว.
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย ผิวแห้ง หรือมีผิวที่ระคายเคืองง่าย ต้องการโทนเนอร์ที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว.
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Shopee, Lazada (ร้านค้าทางการของ Etude House หรือร้านที่น่าเชื่อถือ).
  • ออฟไลน์: Eveandboy, Beautrium, Etude House Shop.
• ช่วงราคา: ประมาณ 400 - 600 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "เป็นโทนเนอร์ที่กู้ผิวแพ้ได้ดีมาก ใช้แล้วสบายผิวสุดๆ". "อ่อนโยนจริงๆ ไม่มีแสบ ไม่มีคันเลย".

5. Huxley Extract It Toner

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลีที่เน้นส่วนผสมจากต้นกระบองเพชร Prickly Pear Seed Oil จากซาฮาร่า.

• สินค้ารุ่นเด่น: Extract It Toner
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงและปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื้น มีชีวิตชีวา. เนื้อสัมผัสดี กลิ่นหอมผ่อนคลายแบบเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์.
  • ข้อเสีย: ราคาอาจจะสูงกว่าโทนเนอร์เกาหลีทั่วไปบางยี่ห้อ.
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการโทนเนอร์ช่วยเติมความชุ่มชื้น ปรับสมดุลผิว และปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ.
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Shopee, Lazada (ร้านค้าทางการของ Huxley หรือร้านที่น่าเชื่อถือ).
  • ออฟไลน์: Eveandboy, Beautrium.
• ช่วงราคา: ประมาณ 700 - 1,000 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ชอบกลิ่นมาก ใช้แล้วรู้สึกผิวอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี". "เนื้อดีมาก ซึมไว ไม่เหนอะหนะเลย".

6. Sulwhasoo Essential Balancing Water EX

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์สกินแคร์ระดับพรีเมียมจากเกาหลี ที่เน้นส่วนผสมจากสมุนไพรเกาหลีโบราณ.

• สินค้ารุ่นเด่น: Essential Balancing Water EX
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ช่วยปรับสมดุลผิวให้พร้อมรับการบำรุงขั้นต่อไป ด้วยส่วนผสมจากสมุนไพรเกาหลี. มอบความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างล้ำลึก ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ.
  • ข้อเสีย: ราคาสูงเมื่อเทียบกับโทนเนอร์ทั่วไป.
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการโทนเนอร์ระดับพรีเมียม ช่วยปรับสมดุลและเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างจริงจัง เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติแบบเกาหลี.
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Central Online, Lazada, Shopee (ร้านค้าทางการของ Sulwhasoo หรือห้างสรรพสินค้า).
  • ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Sulwhasoo ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ.
• ช่วงราคา: ประมาณ 1,500 - 2,000+ บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "เป็นโทนเนอร์ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา ใช้แล้วผิวดูเนียนนุ่ม อิ่มน้ำ". "กลิ่นสมุนไพรหอมผ่อนคลายดีค่ะ".

7. Mamonde Rose Water Toner

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลีที่เน้นส่วนผสมจากดอกไม้ โดยเฉพาะกุหลาบ.

• สินค้ารุ่นเด่น: Rose Water Toner
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: มีส่วนประกอบของน้ำจากดอกกุหลาบแท้ๆ ถึง 90.97% ช่วยปลอบประโลมและเติมความชุ่มชื้นให้ผิว พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ จากกุหลาบ.
  • ข้อเสีย: บางคนอาจไม่ชอบผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม (ถึงแม้จะเป็นกลิ่นจากธรรมชาติ).
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการโทนเนอร์ช่วยปลอบประโลมและเติมความชุ่มชื้นด้วยคุณค่าจากกุหลาบ ชอบผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ.
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Shopee, Lazada, Central Online (ร้านค้าทางการของ Mamonde หรือร้านที่น่าเชื่อถือ).
  • ออฟไลน์: Eveandboy, Beautrium.
• ช่วงราคา: ประมาณ 400 - 600 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ชอบกลิ่นกุหลาบมาก ใช้แล้วรู้สึกสดชื่น ผิวชุ่มชื้นดี". "ใช้เป็นมาส์กหน้าแบบ DIY ก็ได้ รู้สึกผ่อนคลาย".

8. innisfree Green Tea Seed Skin

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลีที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติจากเกาะเชจู.

• สินค้ารุ่นเด่น: Green Tea Seed Skin (บางครั้งถูกจัดอยู่ในกลุ่มโทนเนอร์หรือน้ำตบ)
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: มีสารสกัดจากชาเขียวและ Green Tea Seed Oil ช่วยเติมความชุ่มชื้นและปรับสมดุลผิว. เนื้อสัมผัสบางเบา ซึมง่าย. ช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำ สุขภาพดี.
  • ข้อเสีย: บางคนอาจจะคาดหวังผลเรื่องสิวหรือรูขุมขนที่ชัดเจนกว่านี้.
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการโทนเนอร์หรือน้ำตบที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและปรับสมดุลผิวด้วยคุณค่าจากชาเขียว.
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Shopee, Lazada, Eveandboy Online (ร้านค้าทางการของ innisfree หรือร้านที่น่าเชื่อถือ).
  • ออฟไลน์: innisfree Shop, Eveandboy, Beautrium, Watsons (บางสาขา).
• ช่วงราคา: ประมาณ 500 - 800 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ใช้แล้วผิวชุ่มชื้นดีมาก เหมือนเติมน้ำให้ผิว". "เป็นไอเท็มกันตาย ใช้ได้ทุกวัน".

9. COSRX Propolis Synergy Toner

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลีที่เน้นส่วนผสมที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเรื่องสิวและผิวแพ้ง่าย.

• สินค้ารุ่นเด่น: Propolis Synergy Toner (บางครั้ง COSRX AHA/BHA Clarifying Treatment Toner ก็เป็นที่นิยมเรื่องสิว)
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: Propolis Extract ช่วยต้านการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว. ช่วยให้ผิวดูฉ่ำโกลว์ สุขภาพดี. เนื้อสัมผัสมีความหนืดเล็กน้อยแต่ซึมเข้าผิวได้ดี.
  • ข้อเสีย: คนที่แพ้ส่วนผสมจากผึ้งควรหลีกเลี่ยง.
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการโทนเนอร์ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ และเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว พร้อมมอบความฉ่ำวาว.
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Shopee, Lazada (ร้านค้าทางการของ COSRX หรือร้านที่น่าเชื่อถือ).
  • ออฟไลน์: Eveandboy, Beautrium, Watsons (บางสาขา).
• ช่วงราคา: ประมาณ 500 - 700 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ใช้แล้วผิวดูอิ่มฟู ฉ่ำมาก แต่งหน้าติดทนขึ้น". "ช่วยลดสิวผดได้ดีเลย".

10. Round Lab 1025 Dokdo Toner

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลีที่โด่งดังจากไลน์ Dokdo ซึ่งเน้นน้ำทะเลลึกจากเกาะอุลลึงโด.

• สินค้ารุ่นเด่น: 1025 Dokdo Toner
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: มีส่วนผสมของน้ำทะเลลึกที่มีแร่ธาตุ ช่วยบำรุงผิวและปรับสมดุล. ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนและเติมความชุ่มชื้น. อ่อนโยน ปราศจากสารระคายเคืองหลายชนิด เหมาะกับผิวแพ้ง่าย.
  • ข้อเสีย: อาจจะต้องใช้คู่กับผลิตภัณฑ์อื่นเพื่อผลลัพธ์ด้านอื่นๆ ที่ชัดเจนขึ้น.
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการโทนเนอร์ที่อ่อนโยนมากๆ ช่วยปรับสมดุลและเติมความชุ่มชื้นให้ผิว. เหมาะกับผิวแพ้ง่าย.
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Shopee, Lazada (ร้านค้าทางการของ Round Lab หรือร้านที่น่าเชื่อถือ).
  • ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Beautrium (อาจต้องตรวจสอบสินค้าที่สาขา).
• ช่วงราคา: ประมาณ 500 - 800 บาท.
• รีวิวผู้ใช้งาน: "เป็นโทนเนอร์ที่ใช้แล้วสบายผิวมากๆ รู้สึกผิวสะอาดและชุ่มชื้น". "อ่อนโยนจริง ใช้แล้วไม่แพ้เลย".

คำถามยอดฮิตติดชาร์ต! (สไตล์คนไทย)

Q: โทนเนอร์เกาหลีตัวไหนเหมาะกับผิวเป็นสิว ผิวมัน รูขุมขนกว้าง?
A: แนะนำ Some By Mi AHA-BHA-PHA 30 Days Miracle Toner ครับ ตัวนี้เน้นเรื่องสิว ผลัดเซลล์ผิว และคุมมันได้ดี. หรือถ้าเน้นปลอบประโลมสิวผด ผิวแดงๆ ลอง ANUA Heartleaf 77% Soothing Toner หรือ SKIN1004 Madagascar Centella Toning Toner ครับ.

Q: ผิวแพ้ง่ายมากๆ ใช้อะไรดี?
A: ต้องเน้นความอ่อนโยนครับ แนะนำ Etude House Soon Jung pH5.5 Relief Toner, ANUA Heartleaf 77% Soothing Toner หรือ Round Lab 1025 Dokdo Toner ครับ. พวกนี้ค่า pH ใกล้เคียงผิวและปราศจากสารระคายเคืองหลายชนิด.

Q: อยากได้ผิวฉ่ำวาว "Glass Skin" ต้องใช้ตัวไหน?
A: ลองมองหาโทนเนอร์ที่เน้นความชุ่มชื้นครับ เช่น Sulwhasoo Essential Balancing Water EX, Huxley Extract It Toner หรือ COSRX Propolis Synergy Toner ครับ. การเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเพียงพอจะช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู ฉ่ำวาวขึ้นได้.

Q: ซื้อโทนเนอร์เกาหลีใน Lazada/Shopee ของแท้ไหม? ดูยังไง?
A: ส่วนใหญ่ร้านที่เป็น Official Store ของแบรนด์ หรือร้านที่ได้ LazMall/Shopee Mall จะค่อนข้างมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ครับ. ถ้าซื้อจากร้านทั่วไป ให้ดูเรตติ้งร้าน รีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ และจำนวนผู้ติดตาม. บางแบรนด์อาจมีจุดสังเกตของแท้ของปลอม เช่น โทนเนอร์พี่จุน Anua สามารถเช็คที่กล่องได้ครับ. ทางที่ดีที่สุดคือซื้อจากร้านค้าทางการ หรือตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือในไทยครับ.

Q: โทนเนอร์เกาหลีช่วยกระชับรูขุมขนได้จริงเหรอ?
A: โทนเนอร์บางชนิดที่มีส่วนผสมช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA, PHA หรือส่วนผสมที่ช่วยควบคุมความมัน เช่น ทีทรี หรือใบบัวบก สามารถช่วยทำความสะอาดรูขุมขน ขจัดสิ่งอุดตัน และทำให้รูขุมขนดูตื้นขึ้นหรือกระชับขึ้นได้ครับ. แต่ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล.

สรุปให้ฟัง! เลือกโทนเนอร์เกาหลีให้ถูกใจ ผิวใสแน่นอน

การเลือกโทนเนอร์เกาหลีคู่ใจก็เหมือนการหาคู่ (มั้งนะ!) ต้องดูที่ใจ เอ๊ย! ต้องดูที่สภาพผิวและความต้องการของเราเป็นหลักครับ

• ถ้า เน้นกู้ผิวแพ้ ลดรอยแดง: ไปที่ ANUA Heartleaf 77%, Etude House Soon Jung หรือ SKIN1004 Centella.
• ถ้า เน้นสิว คุมมัน กระชับรูขุมขน: ลอง Some By Mi Miracle Toner หรือ SKIN1004 Centella.
• ถ้า เน้นผิวฉ่ำวาว อิ่มน้ำ: เลือก Sulwhasoo Essential Balancing Water, Huxley Extract It หรือ COSRX Propolis.
• ถ้า งบจำกัด: มองหา Some By Mi หรือ Etude House ที่มักมีโปรโมชั่นดีๆ.

สิ่งที่ต้องระวังมากๆ ในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทย และการช้อปออนไลน์ คือ "ของปลอม" ครับ! ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ร้านค้าทางการ หรือร้านที่มีฉลากภาษาไทยจะปลอดภัยที่สุดครับ. และที่สำคัญ! การใช้โทนเนอร์บางตัวที่มีสารผลัดเซลล์ผิว อาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดด อย่าลืมทา ครีมกันแดด เป็นประจำทุกเช้าด้วยนะครับ เพื่อผิวสวยใสอย่างยั่งยืน! 😎

มาเมาท์มอย หรือมีตัวไหนอยากป้ายยา?

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 10 อันดับโทนเนอร์เกาหลีที่เราคัดมาให้? มีตัวไหนเล็งไว้ หรือใช้อยู่แล้วบ้างไหมครับ? หรือมีโทนเนอร์เกาหลีตัวไหนในดวงใจที่ไม่ได้อยู่ในลิสต์นี้ อยากป้ายยาเพื่อนๆ บ้าง? มาคอมเมนต์แบ่งปันประสบการณ์ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้เลยนะครับ! 👇

ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ อยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้านค้าออนไลน์ที่น่าเชื่อถือสำหรับแต่ละแบรนด์ ลองพิมพ์ "ขอพิกัดร้านหน่อย!" เดี๋ยวผมจะพยายามรวบรวมลิงก์ดีๆ มาให้เป็นพิเศษเลยครับ แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า ขอให้ทุกคนมีผิวสวยใส ฉ่ำวาวแบบที่ฝันนะครับ! ❤️

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• 10 อันดับ โทนเนอร์เกาหลี ยี่ห้อไหนดี 2023
• สกินแคร์เกาหลีที่คุณต้องลอง
• โทนเนอร์ COSRX AHA/BHA สำหรับผิวชัดเจนและกระจ่างใส
• รวม Toner Pad ที่ชอบและใช้แล้วได้ผล
• รีวิว Toner Pad คุณภาพสูงที่ควรลองในปีนี้