เนคไทผู้ชาย แบรนด์ต่างๆ ราคาเท่าไหร่? เลือกให้เข้ากับชุดทำงาน

สวัสดีพ่อบ้านใจกล้า! วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง "เนคไท" ไอเทมลับที่ผู้ชายหลายคนอาจจะมองข้ามไป แต่รู้ไหมว่าเจ้าเส้นเล็กๆ นี่แหละ สามารถเปลี่ยนลุคชุดทำงานจืดๆ ให้ดูหล่อเนี้ยบ มีสง่าราศีขึ้นมาได้ทันตาเห็นเลยนะ! ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มออฟฟิศที่ต้องใส่สูททุกวัน หรือหนุ่มที่นานๆ ทีจะได้ใส่เนคไทออกงาน มาดูกันว่ามีแบรนด์ไหนน่าสนใจ ราคาเท่าไหร่ แล้วจะเลือกเส้นไหนให้เข้ากับชุดทำงานของเราดี ไปลุย!

1. เนคไทนี่มันคืออะไร สำคัญไฉน แล้วมีแบรนด์ไหนบ้าง?

เอาล่ะ! มาทำความรู้จักกับเจ้าเนคไทกันก่อน หลายคนคงรู้จักอยู่แล้วว่ามันคือผ้าเส้นยาวๆ ที่เอามาผูกคอเสื้อเชิ้ตใช่มั้ย? ใช่เลย! แต่เนคไทมันไม่ใช่แค่ผ้าธรรมดานะเว้ย มันคือเครื่องประดับชิ้นสำคัญที่ช่วยเสริมลุคให้ดู เป็นทางการ ดู น่าเชื่อถือ และดู มีสไตล์ มากขึ้น เหมาะสุดๆ สำหรับหนุ่มๆ วัยทำงานที่ต้องไปประชุม พบปะลูกค้า หรือออกงานสำคัญๆ ยิ่งถ้าใส่คู่กับสูทนะ โอ้โห! ออร่าความหล่อ ความโปรเฟสชันแนลมันพุ่งกระฉูดเลยล่ะ

ส่วนเรื่องแบรนด์เนี่ย มีเยอะแยะมากมายก่ายกอง ทั้งแบรนด์ไทย แบรนด์นอก ตั้งแต่ราคาเบาๆ ไปจนถึงหลักหมื่นหลักแสน! แบรนด์ต่างประเทศดังๆ ที่คุ้นหูคนไทยก็เช่น Louis Vuitton, Dior, Gucci, Prada, Burberry, Polo Ralph Lauren, Paul Smith ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีดีไซน์ ลวดลาย และวัสดุที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ส่วนแบรนด์ไทยหรือแบรนด์ราคาน่ารักที่หาซื้อง่ายก็มีอย่าง DAPPER, SUITCUBE, ANGELINO RUFOLO, MEN IN TIE, BOW ME AWAY, Jim Thompson (สำหรับผ้าไหมไทย) หรือแบรนด์อื่นๆ อีกเพียบตามร้านสูทหรือในห้างสรรพสินค้าทั่วไปจ้า

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

เรื่องราคาเนคไทนี่บอกเลยว่ามีตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักหมื่น หลักแสนเลยทีเดียว! มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากๆ ทั้งแบรนด์ วัสดุที่ใช้ (ผ้าไหมนี่แพงสุด!) ความซับซ้อนของลวดลาย และแหล่งที่ซื้อ

ถ้าเอาแบบราคาเริ่มต้นสำหรับใส่ทำงานทั่วไป ไม่เน้นแบรนด์มากนัก ในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย สามารถหาได้ตั้งแต่ราคา หลักสิบปลายๆ ไปจนถึงหลักร้อยบาท (฿) เลยนะ พวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเนคไทที่ทำจากใยสังเคราะห์ หรือผ้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่ไหมแท้ มีทั้งแบบผูกเองและแบบสำเร็จรูปซิปรูด

ขยับมาที่ราคา หลักร้อยปลายๆ ถึงหลักพันต้นๆ (฿) ก็จะเป็นเนคไทจากแบรนด์ไทย หรือแบรนด์แฟชั่นทั่วไป ที่ใช้วัสดุดีขึ้นมาหน่อย อาจจะมีผ้าไหมผสม หรือการตัดเย็บที่เนี้ยบขึ้น หาได้ตามร้านสูท ร้านขายเครื่องแต่งกายผู้ชาย หรือในห้างสรรพสินค้าอย่าง Central หรือ The Mall

ส่วนเนคไทแบรนด์เนมจากต่างประเทศที่บอกไปข้างต้น ราคาก็จะพุ่งกระฉูดไปที่ หลักพันปลายๆ ถึงหลักหมื่นบาท (฿) เลยจ้า เช่น Louis Vuitton เริ่มต้นที่ประมาณ ฿8,600, Dior ก็ประมาณ ฿9,200, Gucci ประมาณ ฿9,600 ราคาพวกนี้ก็หาดูได้ตามเว็บไซต์ทางการของแบรนด์ หรือเคาน์เตอร์ในห้างหรูๆ จ้า

นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกอย่าง เนคไทมือสอง ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักช้อป สามารถหาซื้อได้ในราคาถูกมากๆ บางทีหลักสิบ หลักร้อยก็ได้เนคไทแบรนด์ดีๆ สภาพดีๆ มาใส่แล้วนะ! แหล่งที่เจอบ่อยๆ ก็คือใน Shopee, Lazada หรือตามร้านขายของมือสองต่างๆ

3. แล้วเทียบกับสินค้าประเภทเดียวกันล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ถ้าให้เทียบเนคไทกับเครื่องประดับอื่นๆ สำหรับผู้ชายในลุคทำงาน อย่างพวกนาฬิกา หรือกระเป๋าทำงานดีๆ เนี่ย เนคไทถือว่าเป็นไอเทมที่ ราคาเข้าถึงง่ายกว่าเยอะมาก! เราสามารถมีเนคไทหลายๆ เส้น หลายๆ แบบไว้สลับใส่ได้ โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินเป็นหมื่นเป็นแสนเหมือนซื้อนาฬิกาหรูๆ สักเรือน

การลงทุนกับเนคไทดีๆ สักเส้น (หรือหลายๆ เส้น) ในราคาหลักร้อยปลายๆ ถึงหลักพันต้นๆ ถือว่า คุ้มค่ามากๆ เลยนะ เมื่อเทียบกับการที่มันช่วยเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจของเราได้ขนาดนี้ คิดดูสิ ใส่เสื้อเชิ้ตกางเกงสแล็คธรรมดาๆ พอเพิ่มเนคไทเข้าไปปุ๊บ ลุคดูสมาร์ทขึ้นมาทันที!

แต่ถ้าเทียบกันเองในกลุ่มเนคไทด้วยกัน ราคาที่ต่างกันมากๆ ระหว่างเนคไทหลักร้อยกับเนคไทแบรนด์เนมหลักหมื่น แน่นอนว่ามันก็มีความแตกต่างกันในด้านคุณภาพของวัสดุ การตัดเย็บ และแน่นอนว่า "ชื่อแบรนด์" ก็มีส่วนทำให้ราคาสูงขึ้นด้วย เนคไทแบรนด์เนมบางทีก็เน้นที่ความหรูหรา ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และการแสดงออกถึงรสนิยมของผู้ใส่ ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการของแต่ละคนเลยจ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาซื้อเนคไทส่วนใหญ่แล้ว สิ่งที่เราจะได้ก็คือ ตัวเนคไทเพียวๆ เลยจ้า ไม่มีกล่อง มีซองผ้า หรืออะไรหรูหราเหมือนพวกกระเป๋าหรือเครื่องประดับแพงๆ เว้นแต่ว่าจะเป็นเนคไทแบรนด์เนมราคาแพงๆ บางทีก็จะมีกล่องหรือถุงผ้ามาให้ด้วยนะ

เรื่อง ค่าขนส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่ก็จะมีค่าส่งตามปกติจ้า แต่ก็มีหลายร้าน หลายแพลตฟอร์มที่ชอบจัดโปรโมชั่น ส่งฟรี อยู่เรื่อยๆ ก็ต้องคอยส่องดีๆ

ส่วน การรับประกัน นี่สิ จุดที่ต้องทำความเข้าใจ! เนคไทไม่ใช่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะมีใบรับประกันศูนย์เป็นปีๆ นะจ๊ะ ส่วนใหญ่แล้วจะ ไม่มีการรับประกัน ยกเว้นในกรณีที่เป็นสินค้ามีตำหนิจากผู้ผลิต อันนี้ก็ต้องดูนโยบายการคืนสินค้าของร้านหรือแพลตฟอร์มที่เราซื้อมา

เรื่องของ ของแถม อุปกรณ์เสริม หรือคูปอง อันนี้แล้วแต่โปรโมชั่นของร้านค้าเลย บางร้านอาจจะมีแถมกล่องสวยๆ ให้ถ้าซื้อเป็นของขวัญ หรือมีโค้ดส่วนลดพิเศษให้ใช้ ก็เป็นอีกจุดที่ช่วยให้เราตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นเนอะ

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าถามว่าช่วงไหนที่เหมาะกับการช้อปปิ้งเนคไทให้คุ้มค่าที่สุด? ก็ต้องบอกเลยว่า ช่วงที่มีโปรโมชั่น ไงล่ะ!

ในประเทศไทยเนี่ย เรามีเทศกาลและช่วงลดราคาเยอะแยะไปหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลใหญ่ๆ อย่าง ปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือช่วง Double Digit Sale สุดฮิตอย่าง 11.11 และ 12.12 บนแพลตฟอร์มอย่าง Lazada และ Shopee เนี่ย รับรองว่ามีร้านค้าเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายผู้ชาย จัดโปรโมชั่นลดราคาเนคไทกันเพียบแน่นอน!

นอกจากนี้ ร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านค้าใหญ่ๆ ในห้างสรรพสินค้าอย่าง Central หรือ The Mall ก็มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาตามฤดูกาล หรือช่วงเทศกาลต่างๆ ด้วยนะ ถ้าเล็งเนคไทแบรนด์เนมอยู่ การซื้อในช่วงลดราคาของห้างก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ของดีราคาเบาลงหน่อย

สรุปง่ายๆ คือ ถ้าไม่รีบใช้มากๆ อดใจรอช่วงโปรโมชั่นหน่อย รับรองว่าได้เนคไทถูกใจในราคาที่คุ้มค่ากว่าเดิมแน่นอน!

6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทยเป็นยังไงบ้างนะ?

เท่าที่ลองส่องๆ ดูตามรีวิวหรือกระทู้ในเว็บต่างๆ (อย่าง Pantip ก็มีคนมาถามเรื่องเนคไทนะ) ฟีดแบ็กส่วนใหญ่เกี่ยวกับเนคไทในไทยก็จะเป็นประมาณนี้:

• เรื่องคุณภาพกับราคา: หลายคนบอกว่าเนคไทราคาหลักร้อยบางยี่ห้อ คุณภาพก็โอเคเลยนะ ใช้ทำงานได้สบายๆ ไม่จำเป็นต้องซื้อแพงเสมอไป แต่ถ้าขยับงบขึ้นมาหน่อยก็ได้วัสดุที่ดีขึ้น ลายน่าสนใจขึ้น
• ความหลากหลายของดีไซน์: มีให้เลือกเยอะมากจริงๆ ทั้งสีพื้น ลายทาง ลายจุด ลายตาราง หรือลายแปลกๆ ก็มี ทำให้เลือกได้ตามสไตล์ที่ชอบ
• ช่วยเสริมลุคได้จริง: อันนี้คือจุดที่ทุกคนเห็นตรงกันว่า พอใส่เนคไทแล้วดูดีขึ้นจริงๆ ดูเป็นผู้ใหญ่ เป็นมืออาชีพมากขึ้น
• เรื่องการดูแลรักษา: เนคไทส่วนใหญ่ต้องส่งซักแห้งนะ ถ้าซักน้ำอาจจะเสียทรงได้
• เนคไทสำเร็จรูปก็เป็นตัวเลือกที่ดี: สำหรับคนที่ไม่ถนัดผูกเอง เนคไทแบบซิปรูดนี่ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ!

โดยรวมแล้ว ผู้ใช้ในไทยก็เน้นที่ ความคุ้มค่า, ความหลากหลายของดีไซน์ และการที่เนคไทมันช่วย เสริมบุคลิกภาพ ให้ดูดีขึ้นนี่แหละจ้า

7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ

อยากได้เนคไทสักเส้น (หรือหลายเส้น!) จะไปซื้อที่ไหนดีล่ะ? มีหลายช่องทางให้เลือกเลยจ้า

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ: Shopee และ Lazada นี่แหละคือสวรรค์ของนักช้อปออนไลน์! มีร้านค้าเยอะมากกกก ตั้งแต่ร้านเล็กๆ ไปจนถึง Official Store ของบางแบรนด์ ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะสุดๆ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีโค้ดส่วนลดเพียบ แถมยังนั่งช้อปอยู่บ้านได้สบายๆ แต่ข้อเสียคือไม่ได้เห็นของจริง ต้องดูจากรูปและรายละเอียดที่ผู้ขายให้มา ต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือหน่อยนะ
• ห้างสรรพสินค้า: ไปเดินช้อปที่แผนกเสื้อผ้าผู้ชายในห้างดังๆ อย่าง Central หรือ The Mall ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี ข้อดีคือเราสามารถไป เลือกดู ลองสัมผัสเนื้อผ้า ได้ด้วยตัวเอง ได้เห็นสีจริง ลายจริง แถมยังมีพนักงานคอยให้คำแนะนำด้วย เหมาะสำหรับคนที่อยากได้เนคไทคุณภาพดี หรือแบรนด์ที่อยากลองดูของจริงก่อนตัดสินใจซื้อ
• ร้านสูท หรือร้านขายเครื่องแต่งกายผู้ชายโดยเฉพาะ: ร้านพวกนี้มักจะมีเนคไทให้เลือกเยอะ และมีความเข้าใจเรื่องการแต่งกายด้วยสูทเป็นอย่างดี อาจจะได้คำแนะนำดีๆ ในการเลือกเนคไทให้เข้ากับชุดได้ด้วย
• ร้านขายของมือสอง หรือแหล่งออนไลน์ขายของมือสอง: ถ้าอยากได้เนคไทแบรนด์เนมในราคาเบาๆ ลองไปส่องตามร้านมือสอง หรือในกลุ่มซื้อขายของมือสองใน Facebook หรือ Instagram ก็มีโอกาสเจอของดีราคาถูกนะ แต่ก็ต้องดูสภาพให้ดีๆ ด้วยล่ะ

เลือกช่องทางที่สะดวกและตรงกับความต้องการได้เลยจ้า

8. สรุปหรือคำแนะนำเรื่องราคา

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! การมีเนคไทติดตู้เสื้อผ้าไว้สัก 2-3 เส้นเนี่ย ถือเป็นการลงทุนที่ คุ้มค่ามากๆ เลยนะ เมื่อเทียบกับราคาที่เราจ่ายไปกับการที่มันช่วยเสริมลุคการแต่งกายของเราให้ดูดีขึ้นได้เยอะเลย

สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มต้น หรือมีงบประมาณจำกัด เนคไทในราคาหลักร้อย ที่หาซื้อได้ทั่วไปตามออนไลน์ หรือร้านเสื้อผ้าแฟชั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับการใส่ทำงานในชีวิตประจำวัน เลือกสีพื้นๆ อย่างสีกรม สีเทา หรือสีดำไว้ก่อน เพราะแมทช์ง่ายกับเสื้อเชิ้ตเกือบทุกสี

ถ้าอยากขยับมาใช้เนคไทที่คุณภาพดีขึ้นอีกหน่อย ลองมองหาเนคไทที่ทำจากผ้าไหม หรือมีส่วนผสมของไหม ในราคา หลักร้อยปลายๆ ถึงหลักพันต้นๆ อันนี้จะให้สัมผัสที่นุ่มลื่น ทิ้งตัวสวย และดูหรูหรากว่า

ส่วนเนคไทแบรนด์เนมราคา หลักพันปลายๆ ขึ้นไปจนถึงหลักหมื่น อันนี้ก็เหมาะสำหรับคนที่อยากได้เนคไทที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์มากๆ เน้นชื่อแบรนด์เพื่อเสริมภาพลักษณ์ หรือต้องการเนคไทสำหรับออกงานสำคัญสุดๆ ซึ่งความคุ้มค่าตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองและความพึงพอใจส่วนบุคคลเลยจ้า

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเนคไทราคาเท่าไหร่ สิ่งสำคัญคือการ เลือกสี ลวดลาย และขนาดให้เหมาะสมกับชุดที่เราใส่ และเข้ากับบุคลิกของเรา แค่นี้ก็จะช่วยให้ลุคชุดทำงานของเราดูดีขึ้นได้อีกเป็นกองแล้ว! ขอให้ทุกคนสนุกกับการเลือกเนคไทคู่ใจนะจ๊ะ!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• เจ้าบ่าวฟังทางนี้! นี่คือร้านที่มีเนคไทสไตล์ Classic เยอะที่สุด ...
• เนคไท Hermes รุ่นฟาคอนเน่ ขายดีที่สุด
• รีวิว เนคไท Necktie เลือกยังไงดี #ใครไม่สนผมสน
• เนคไท 7 แบบที่ผู้ชายทุกคนต้องมี
• การแต่งตัวกับเนคไทด์สไตล์เท่ๆ และไอเดียแต่งตัวเพื่อจุใบใหม่