10 อันดับ ผลิตภัณฑ์ Lush ปี 2025 กลิ่นหอม ส่วนผสมธรรมชาติ

สวัสดีครับเพื่อนๆ สายสกินแคร์ สายตัวหอมฟุ้ง และคนรักธรรมชาติทุกคน! 👋 ในยุคที่ชีวิตวุ่นวาย ทั้งทำงาน เรียน หรือต้องเจอฝุ่นควันเมืองกรุง การได้ปรนนิบัติตัวเองด้วยผลิตภัณฑ์ดีๆ กลิ่นหอมๆ ก็เหมือนได้ชาร์จพลังให้ร่างกายและจิตใจใช่มั้ยล่ะครับ!

และพูดถึงเรื่องผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติ แถมยังมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ไม่พูดถึงแบรนด์นี้ไม่ได้เลย... นั่นก็คือ Lush! แบรนด์อังกฤษสุดคัลท์ที่โด่งดังเรื่องเครื่องสำอางแฮนด์เมดและส่วนผสมสดใหม่จากธรรมชาติ

แต่ปัญหาคือ... พอเดินเข้าร้าน Lush ทีไรเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแห่งกลิ่นหอมและสีสันละลานตาไปหมด! มีสินค้าให้เลือกเยอะมากกก ตั้งแต่บาธบอมบ์ สบู่น่ารักๆ ยันมาส์กหน้าสดๆ จนไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดีใช่ไหมครับ? 🤔

ไม่ต้องห่วงครับ! ในฐานะที่ผมเองก็เป็นหนึ่งใน Lushie ตัวยง วันนี้ผมจะมาเป็นกูรูส่วนตัว พาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกผลิตภัณฑ์ Lush ที่น่าจับตามองในปี 2025 นี้ พร้อมคัดมาให้เน้นๆ 10 อันดับยอดฮิต ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าโดนใจคนไทยแน่นอน อ่านจบปุ๊บ พุ่งตัวไปช้อปได้ปั๊บ!

ตลาดผลิตภัณฑ์ Lush ในไทย ฮอตแค่ไหนกันนะ?

บอกเลยว่า Lush ในไทยเนี่ย ฮอตไม่หยุดฉุดไม่อยู่! คนไทยยุคใหม่หันมาใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ ปลอดภัย และไม่ทดลองกับสัตว์แบบ Lush เลยตอบโจทย์มากๆ ครับ แถมความที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และดีไซน์ที่น่ารักน่าใช้ ก็ยิ่งทำให้เป็นที่ชื่นชอบ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและคนวัยทำงานที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใคร

แบรนด์ Lush เป็นแบรนด์นำเข้าจากอังกฤษ และเข้ามาทำตลาดในไทยได้สักพักแล้ว โดยมีร้านค้าจริงให้เราไปสัมผัสความหอมได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำหลายสาขาในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น Siam Center, Central Eastville, ICONSIAM, Terminal 21 Pattaya/Asok/Rama 3, Central Festival Chiang Mai และ Central Floresta Phuket ส่วนสายช้อปออนไลน์สบายๆ อยู่บ้านก็ไม่ต้องน้อยใจ เพราะ Lush Thailand มีร้านค้าทางการบนแพลตฟอร์มดังอย่าง Shopee และ Lazada ด้วยนะ!

พฤติกรรมผู้บริโภคไทยกับ Lush ส่วนใหญ่จะหลงใหลในเรื่อง กลิ่นหอมบำบัด ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย โดยเฉพาะ Bath Bomb และ Bubble Bar ที่ใช้ในการแช่น้ำเพื่อความฟิน นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าอย่างมาส์กสดก็ได้รับความนิยมมาก เพราะเน้นส่วนผสมจากธรรมชาติสดๆ ที่เหมาะกับสภาพอากาศและปัญหาผิวของคนไทยอย่างเรื่องสิวและความมัน คนไทยยังให้ความสำคัญกับเรื่องความ Ethical ของแบรนด์ด้วย ทั้งเรื่องส่วนผสมที่มาจากการค้าที่เป็นธรรมและการไม่ทดลองกับสัตว์

เลือกผลิตภัณฑ์ Lush ยังไงให้โดนใจ?

ก่อนจะพุ่งตัวไปร้านหรือกดสั่งออนไลน์ เรามาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ Lush ที่เหมาะกับเราที่สุดครับ ลองดูลิสต์นี้เป็นแนวทางได้เลย:

๑. กลิ่นที่ใช่ สำคัญที่สุด! Lush ขึ้นชื่อเรื่องกลิ่นที่หลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ บางกลิ่นอาจจะหอมหวาน บางกลิ่นสดชื่น บางกลิ่นผ่อนคลาย การได้ลองดมกลิ่นก่อนจะช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความชอบและอารมณ์ในตอนนั้นมากที่สุดครับ

๒. ส่วนผสมธรรมชาติ เหมาะกับผิวเราไหม? แม้จะเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% แต่ผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทย บางส่วนผสมอาจจะเหมาะกับผิวแห้ง ในขณะที่บางส่วนผสมเหมาะกับผิวมันหรือผิวที่มีปัญหาสิว (อย่างเปปเปอร์มินต์, ทีทรีออยล์) ลองอ่านส่วนผสมและดูว่ามีตัวไหนที่เราอาจแพ้หรือไม่ถูกกับผิวหรือเปล่า

๓. ประเภทผลิตภัณฑ์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หรือเปล่า? คุณชอบแช่น้ำอุ่นๆ ผ่อนคลายไหม? ถ้าใช่ Bath Bomb หรือ Bubble Bar คือคำตอบ คุณมองหาสบู่ที่ทำความสะอาดหมดจดและมีกลิ่นหอมติดตัวไหม? หรือคุณเน้นการบำรุงผิวหน้าแบบเร่งด่วนด้วยมาส์กสด? เลือกตามความต้องการและกิจวัตรประจำวันของคุณเลยครับ

๔. สภาพอากาศไทยก็มีผลนะ! ผลิตภัณฑ์ Lush หลายตัวโดยเฉพาะมาส์กสดมีอายุการใช้งานค่อนข้างสั้นและต้องเก็บในตู้เย็น รวมถึงบางผลิตภัณฑ์อาจละลายง่ายในอากาศร้อน ควรพิจารณาเรื่องการจัดเก็บและการใช้งานให้เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราด้วย

๕. รีวิวจากผู้ใช้จริงช่วยได้เยอะ! ลองดูรีวิวจากคนไทยตาม Pantip, Facebook, หรือ Shopee/Lazada เพื่อประกอบการตัดสินใจครับ จะได้เห็นผลลัพธ์จริงกับสภาพผิวและอากาศแบบไทยๆ

๖. ราคาและช่องทางการซื้อ Lush จัดเป็นแบรนด์ที่มีราคาสูงพอสมควร การเปรียบเทียบราคาตามช่องทางต่างๆ ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ รวมถึงการมองหาโปรโมชั่นในช่วงเทศกาลช้อปปิ้ง ก็ช่วยให้คุณได้ของดีในราคาที่คุ้มค่าขึ้นครับ

👉 แนะนำ: ถ้ามีโอกาส ลองแวะไปที่ร้าน Lush สักครั้ง เพื่อทดลองผลิตภัณฑ์จริง ดมกลิ่นที่ชอบ และสอบถามข้อมูลจากพนักงาน (Lush Staff น่ารักและให้ข้อมูลดีมากๆ)

จัดไป! 10 อันดับ ผลิตภัณฑ์ Lush น่าสอย ปี 2025 ที่โดนใจคนไทย!

ถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมคัดมาให้แล้ว 10 ผลิตภัณฑ์ยอดฮิต (อ้างอิงจากข้อมูลสินค้าขายดีและยอดฮิตในไทย) ที่เชื่อว่าน่าจะยังคงความนิยมในปี 2025 นี้ ด้วยกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์และส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติครับ ลองพิจารณาตามสไตล์และความต้องการของตัวเองได้เลย!

1. Mask of Magnaminty (มาส์กพลังธรรมชาติ)

• เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: มาส์กหน้าและตัวยอดฮิตตลอดกาลของ Lush เป็นมาส์กโคลนผสมเปปเปอร์มินต์และถั่ว Adzuki บด
• ส่วนผสมเด่น/กลิ่น: เปปเปอร์มินต์ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่น ถั่ว Adzuki ช่วยสครับผิวเบาๆ มีส่วนผสมของน้ำผึ้งและวานิลลาช่วยปลอบประโลม กลิ่นหอมมิ้นต์ๆ ผสมหวานนิดๆ
• ข้อดี: ช่วยทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก ลดความมัน สิว และสิ่งสกปรกอุดตัน ให้ความรู้สึกสดชื่นหลังใช้ มีแบบ Self-Preserving ที่ไม่ต้องแช่ตู้เย็นด้วย
• ข้อเสีย: อาจจะรู้สึกเย็นเกินไปสำหรับบางคนที่มีผิวแพ้ง่ายมาก ถั่ว Adzuki อาจจะสครับแรงไปหากขัดแรงๆ
• เหมาะกับใคร: คนผิวมัน ผิวผสม มีปัญหาสิว หรือต้องการมาส์กเพื่อดีท็อกซ์ผิว ให้ความรู้สึกสะอาดล้ำลึก
• ช่องทางซื้อ: Lush ทุกสาขา และ Lush Official Store บน Shopee, Lazada
• ช่วงราคา: ประมาณ 625 - 1,195 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาด)
• รีวิว: "มาส์กตัวนี้คือลูกรัก ใช้แล้วหน้าสะอาด สิวผดลดลง รู้สึกเย็นสบายผิวมากค่ะ" "กลิ่นมิ้นต์สดชื่นสุดๆ เหมือนได้ดีท็อกซ์ผิวจริงๆ"

2. Intergalactic Bath Bomb (บาธบอมบ์ กาแล็กซี)

• เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: หนึ่งใน Bath Bomb ที่โด่งดังที่สุดของ Lush เมื่อลงอ่างน้ำ จะแตกตัวเป็นสีสันอวกาศสวยงาม มีกลิตเตอร์วิบวับ
• ส่วนผสมเด่น/กลิ่น: เปปเปอร์มินต์ ส้ม และน้ำมันไม้ซีดาร์ ให้กลิ่นหอมสดชื่น ซิตรัสผสมความเย็นซ่า
• ข้อดี: มอบประสบการณ์การแช่น้ำที่ตื่นตาตื่นใจด้วยสีสันและกลิตเตอร์ กลิ่นช่วยให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
• ข้อเสีย: อาจทิ้งคราบสีหรือกลิตเตอร์ไว้ในอ่างเล็กน้อยหลังใช้ ต้องล้างทำความสะอาด
• เหมาะกับใคร: คนที่ชอบการแช่น้ำ ชอบสีสันและความสนุกสนาน ต้องการความรู้สึกสดชื่นขณะอาบน้ำ หรือมองหาของขวัญชิ้นพิเศษ
• ช่องทางซื้อ: Lush ทุกสาขา และ Lush Official Store บน Shopee, Lazada
• ช่วงราคา: ประมาณ 425 บาท
• รีวิว: "สวยเหมือนยกกาแล็กซีมาไว้ในอ่างจริงๆ กลิ่นก็หอมสดชื่นมากๆ" "ซื้อมาใช้เองก็ฟิน ซื้อเป็นของขวัญก็น่ารักค่ะ"

3. Rose Jam Shower Gel (เจลอาบน้ำกลิ่นแยมกุหลาบ)

• เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: เจลอาบน้ำยอดนิยมที่มีกลิ่นหอมหวานละมุนเหมือนแยมกุหลาบ
• ส่วนผสมเด่น/กลิ่น: มีส่วนผสมของน้ำมันกุหลาบ สารสกัดจากวานิลลา และน้ำมันอาร์แกน ให้กลิ่นหอมหวานจากกุหลาบผสมความละมุนของวานิลลา
• ข้อดี: ทำความสะอาดผิวได้ดี ให้ฟองเยอะ กลิ่นหอมติดผิวหลังอาบน้ำ ช่วยให้ผิวรู้สึกนุ่มน่าสัมผัส
• ข้อเสีย: กลิ่นค่อนข้างหวานและชัดเจนมาก บางคนอาจจะไม่ชอบ
• เหมาะกับใคร: คนที่ชอบกลิ่นหอมหวานแนวฟลอรัล/ขนมหวาน อยากให้ตัวหอมนานๆ หลังอาบน้ำ
• ช่องทางซื้อ: Lush ทุกสาขา และ Lush Official Store บน Shopee, Lazada
• ช่วงราคา: ประมาณ 495 บาท (ขนาดเล็ก)
• รีวิว: "กลิ่นหอมกุหลาบแบบตะโกน! ใช้แล้วตัวหอมฟุ้งไปทั้งวัน ชอบมากค่ะ" "อาบแล้วผิวนุ่ม ไม่แห้งตึงเลยค่ะ"

4. Sleepy Shower Gel / Body Lotion / Bubble Bar (ซีรีส์สลีปปี้)

• เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: ซีรีส์ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นลาเวนเดอร์เป็นหลัก ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เตรียมพร้อมสำหรับการพักผ่อน มีทั้งเจลอาบน้ำ บอดี้โลชั่น สบู่ และบับเบิ้ลบาร์
• ส่วนผสมเด่น/กลิ่น: น้ำมันลาเวนเดอร์ สารสกัดจากข้าวโอ๊ต และทองก้า ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของลาเวนเดอร์ผสมความหวานนุ่ม
• ข้อดี: ช่วยให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย ทำให้นอนหลับง่ายขึ้น เนื้อผลิตภัณฑ์อ่อนโยน เหมาะกับผิวที่ต้องการความผ่อนคลาย
• ข้อเสีย: กลิ่นลาเวนเดอร์อาจไม่ใช่กลิ่นโปรดของทุกคน
• เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผ่อนคลายก่อนนอน มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ หรือชอบกลิ่นลาเวนเดอร์
• ช่องทางซื้อ: Lush ทุกสาขา และ Lush Official Store บน Shopee, Lazada
• ช่วงราคา: เริ่มต้นประมาณ 400 - 1,000+ บาท (ขึ้นอยู่กับประเภทและขนาด)
• รีวิว: "ใช้เจลอาบน้ำ Sleepy ก่อนนอนแล้วรู้สึกผ่อนคลายจริงๆ ค่ะ หลับง่ายขึ้น" "บอดี้โลชั่นเนื้อนุ่ม กลิ่นหอมอ่อนๆ ทาแล้วสบายผิวมากค่ะ"

5. Honey I Washed the Kids Soap (สบู่กลิ่นน้ำผึ้ง)

• เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: สบู่ก้อนยอดนิยมตลอดกาลอีกตัวของ Lush มีส่วนผสมของน้ำผึ้ง ให้กลิ่นหอมหวานน่ากิน
• ส่วนผสมเด่น/กลิ่น: น้ำผึ้งและคาราเมล ให้กลิ่นหอมหวานเหมือนขนม
• ข้อดี: ทำความสะอาดผิวได้ดี ฟองนุ่ม กลิ่นหอมหวานติดผิว น้ำผึ้งช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและอ่อนนุ่ม อ่อนโยน ใช้ล้างหน้าได้สำหรับบางคน
• ข้อเสีย: ด้วยความที่เป็นสบู่ก้อน อาจจะละลายเร็วถ้าเก็บไม่ดีในที่ชื้น
• เหมาะกับใคร: คนที่ชอบกลิ่นหอมหวานแนวขนม ชอบสบู่ที่อ่อนโยนและช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
• ช่องทางซื้อ: Lush ทุกสาขา
• ช่วงราคา: ประมาณ 300 - 400 บาท (ต่อ 100g)
• รีวิว: "กลิ่น Honey I Washed the Kids คือที่สุดของความหอมหวาน ใช้แล้วอยากกินตัวเอง! อาบแล้วผิวนุ่มมาก"

6. Ocean Salt Scrub (สครับเกลือโอเชี่ยน)

• เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: สครับสำหรับหน้าและตัวที่ใช้เกลือทะเลเป็นส่วนผสมหลัก
• ส่วนผสมเด่น/กลิ่น: เกลือทะเล มะนาว เกรปฟรุต วอดก้า และอะโวคาโด ให้กลิ่นหอมสดชื่น ซิตรัสเปรี้ยวนำ
• ข้อดี: ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้ผิวเนียนนุ่มขึ้น ความเย็นจากเกลือและซิตรัสช่วยให้รู้สึกสดชื่น
• ข้อเสีย: เกลือค่อนข้างเม็ดใหญ่ อาจจะบาดผิวได้ถ้าขัดแรงเกินไป ไม่เหมาะกับผิวที่บอบบางมากหรือมีสิวอักเสบ
• เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการสครับผิวแบบจริงจัง ชอบความรู้สึกสดชื่นหลังสครับผิว
• ช่องทางซื้อ: Lush ทุกสาขา และ Lush Official Store บน Shopee, Lazada
• ช่วงราคา: ประมาณ 725 - 1,395 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาด)
• รีวิว: "สครับตัวนี้คือตำนาน! ขัดแล้วผิวเนียนนุ่มขึ้นทันที รู้สึกสะอาด สดชื่นดีค่ะ" "ต้องค่อยๆ ขัดนะคะ เม็ดเกลือใหญ่ แต่ผลลัพธ์ดีมากๆ ค่ะ"

7. Cup o' Coffee Mask (มาส์กกาแฟ)

• เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: มาส์กหน้าและตัวที่มีส่วนผสมหลักเป็นกาแฟ
• ส่วนผสมเด่น/กลิ่น: กาแฟคั่วบด วานิลลา และเมล็ดโกโก้ ให้กลิ่นหอมเข้มข้นของกาแฟ เหมือนอยู่ในร้านกาแฟ
• ข้อดี: ช่วยปลุกผิวที่ดูอ่อนล้าให้กลับมาสดชื่น กาแฟช่วยสครับผิวและกระตุ้นการไหลเวียน
• ข้อเสีย: กลิ่นกาแฟค่อนข้างแรง อาจไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบกลิ่นกาแฟ อาจทิ้งคราบผงกาแฟเล็กน้อย
• เหมาะกับใคร: คนที่อยากให้ผิวดูสดใส ตื่นตัว ต้องการมาส์กที่ช่วยสครับผิวและให้กลิ่นหอมแบบ Aroma Therapy
• ช่องทางซื้อ: Lush ทุกสาขา และ Lush Official Store บน Shopee, Lazada
• ช่วงราคา: ประมาณ 625 - 1,195 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาด)
• รีวิว: "ชอบกลิ่นกาแฟมาก ใช้แล้วรู้สึกเหมือนได้เติมพลังให้ผิวจริงๆ ผิวดูสดใสขึ้นค่ะ" "เป็นมาส์กที่เหมาะกับเช้าวันจันทร์มากๆ ค่ะ!"

8. Karma Perfume / Body Spray (ซีรีส์คาร์มา)

• เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: ซีรีส์น้ำหอมและบอดี้สเปรย์ที่มีกลิ่นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นกลิ่นคลาสสิกของ Lush
• ส่วนผสมเด่น/กลิ่น: แพทชูลี่ ส้ม และสน ให้กลิ่นหอมแนวเอิร์ธตี้ สไปซี่ และซิตรัส ผสมผสานกันอย่างลงตัว
• ข้อดี: กลิ่นเป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร ติดทนพอสมควร ให้ความรู้สึกสงบและมีพลังในเวลาเดียวกัน
• ข้อเสีย: กลิ่นแพทชูลี่ค่อนข้างชัดเจน บางคนอาจจะไม่ชอบ ราคาค่อนข้างสูงสำหรับน้ำหอมแบบ EDP
• เหมาะกับใคร: คนที่ชอบกลิ่นแนวสมุนไพร เอิร์ธตี้ๆ ไม่ชอบกลิ่นหวานหรือฟลอรัลทั่วไป ต้องการกลิ่นที่เป็นซิกเนเจอร์
• ช่องทางซื้อ: Lush ทุกสาขา และ Lush Official Store บน Shopee, Lazada
• ช่วงราคา: บอดี้สเปรย์ประมาณ 1,995+ บาท น้ำหอมประมาณ 2,095 - 3,795+ บาท (ขึ้นอยู่กับขนาด)
• รีวิว: "กลิ่น Karma คือกลิ่นประจำตัวของหลายๆ คนเลยค่ะ หอมเท่ๆ มีสไตล์" "ฉีดแล้วรู้สึกมั่นใจดี เป็นกลิ่นที่คนทักบ่อยมากค่ะ"

9. Outback Mate Soap (สบู่เอาท์แบ็คเมท)

• เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: สบู่ก้อนสีฟ้าสดใส ที่มีกลิ่นหอมเย็นสดชื่น
• ส่วนผสมเด่น/กลิ่น: ยูคาลิปตัส เปปเปอร์มินต์ และตะไคร้ ให้กลิ่นหอมเย็น ซ่า สดชื่นมากๆ
• ข้อดี: ช่วยให้รู้สึกสดชื่น ตื่นตัวขณะอาบน้ำ เหมาะมากสำหรับเช้าวันที่งัวเงีย หรือหลังออกกำลังกาย ทำความสะอาดผิวได้ดี
• ข้อเสีย: กลิ่นเย็นชัดเจน อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความรู้สึกซ่าๆ บนผิว
• เหมาะกับใคร: คนที่ชอบกลิ่นแนวเมนทอล ยูคาลิปตัส ต้องการสบู่ที่ช่วยปลุกความสดชื่น
• ช่องทางซื้อ: Lush ทุกสาขา และ Lush Official Store บน Shopee, Lazada
• ช่วงราคา: ประมาณ 300 - 400 บาท (ต่อ 100g)
• รีวิว: "อาบด้วยสบู่ Outback Mate แล้วเหมือนได้ชาร์จพลัง รู้สึกสดชื่นสุดๆ ค่ะ" "กลิ่นหอมเย็นๆ ใช้แล้วสบายผิวดีค่ะ"

10. Charity Pot Body Lotion / Soap (โลชั่น/สบู่แชริตี้พอต)

• เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: บอดี้โลชั่นและสบู่พิเศษที่รายได้ 100% (ไม่รวมภาษี) มอบให้กับองค์กรการกุศลที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อม สิทธิสัตว์ และสิทธิมนุษยชน การซื้อผลิตภัณฑ์นี้เท่ากับได้ทำบุญด้วย!
• ส่วนผสมเด่น/กลิ่น: บอดี้โลชั่นมีส่วนผสมของโกโก้บัตเตอร์ เชียบัตเตอร์ น้ำมันมะกอก และน้ำมันมะลิ กลิ่นหอมหวานละมุน เป็นกลิ่นเฉพาะตัวของ Charity Pot สบู่จะมีส่วนผสมและกลิ่นแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น
• ข้อดี: ได้บำรุงผิวพร้อมกับได้ช่วยเหลือสังคม บอดี้โลชั่นให้ความชุ่มชื้นได้ดี เป็นผลิตภัณฑ์ที่สื่อถึงปรัชญาของแบรนด์ Lush ได้อย่างชัดเจน
• ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าโลชั่นทั่วไปของแบรนด์เล็กน้อย เพราะรายได้ส่วนใหญ่ถูกนำไปบริจาค
• เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการบำรุงผิวและอยากสนับสนุนโครงการดีๆ ขององค์กรต่างๆ ผ่านการซื้อผลิตภัณฑ์
• ช่องทางซื้อ: Lush ทุกสาขา และ Lush Official Store บน Shopee, Lazada
• ช่วงราคา: บอดี้โลชั่นเริ่มต้นประมาณ 800 - 1,700+ บาท (ขึ้นอยู่กับขนาด) สบู่ราคาแตกต่างกันไป
• รีวิว: "ซื้อ Charity Pot แล้วรู้สึกดีมากๆ ค่ะ ได้ช่วยน้องหมาน้องแมว แถมโลชั่นก็หอมและบำรุงผิวดีมาก" "เป็นไอเท็มที่ต้องมีติดบ้านค่ะ ใช้แล้วสบายใจ ได้ทำบุญด้วย"

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์ Lushie มือใหม่!

Q: ผลิตภัณฑ์ Lush ตัวไหนเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทยคะ?
A: ผลิตภัณฑ์กลุ่มที่เน้นความสดชื่นอย่าง Mask of Magnaminty , Whoosh Shower Jelly , Outback Mate Soap หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยคุมความมันอย่าง Herbalism Cleanser จะเหมาะกับอากาศร้อนๆ ของไทยครับ ส่วนบอดี้โลชั่น แนะนำตัวที่เนื้อไม่หนักมาก หรือลองใช้ Dusting Powder อย่าง Silky Underwear ช่วยลดความอับชื้นครับ

Q: ผิวแพ้ง่ายใช้ Lush ได้ไหมคะ?
A: ผลิตภัณฑ์ Lush ทำจากส่วนผสมธรรมชาติเป็นหลัก แต่ผิวแต่ละคนแตกต่างกันครับ แนะนำให้ลองทดสอบผลิตภัณฑ์บริเวณเล็กๆ ที่ท้องแขนก่อนใช้กับผิวหน้าหรือผิวกายในวงกว้างครับ ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เช่น Dream Cream หรือสบู่ Fighting Animal Testing (สูตรเฉพาะสำหรับไทยในอดีต) อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผิวแพ้ง่าย แต่ทางที่ดีควรปรึกษาพนักงานที่ร้านหรือผู้เชี่ยวชาญก่อนครับ

Q: ซื้อ Lush ที่ไหนคุ้มสุด? หน้าร้านหรือออนไลน์?
A: ทั้งสองช่องทางมีข้อดีต่างกันครับ การซื้อที่ หน้าร้าน คุณจะได้ลองดมกลิ่น สัมผัสเนื้อผลิตภัณฑ์ และรับคำแนะนำจากพนักงานโดยตรง ส่วนการซื้อ ออนไลน์ บน Shopee หรือ Lazada มักจะมีโปรโมชั่นหรือโค้ดส่วนลดต่างๆ ออกมาให้เก็บ ทำให้ได้ราคาที่ถูกลงครับ ลองเปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นในช่วงที่ต้องการซื้อดูครับ

Q: ผลิตภัณฑ์ Lush มีอายุการใช้งานนานแค่ไหน? เก็บยังไงในไทย?
A: ผลิตภัณฑ์ Lush โดยเฉพาะมาส์กสดจะมีอายุค่อนข้างสั้น (ประมาณ 28 วันถึง 3 เดือน) เนื่องจากไม่มีสารกันเสีย ควรเก็บในตู้เย็นตามคำแนะนำ ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เป็นก้อน เช่น สบู่ หรือแชมพูบาร์ ควรเก็บในที่แห้งและเย็นเพื่อไม่ให้ละลายเร็ว หลีกเลี่ยงการวางไว้ในห้องน้ำที่เปียกชื้นตลอดเวลาครับ

Q: Lush มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยังไงบ้างคะ?
A: Lush เน้นเรื่องนี้มากๆ ครับ ทั้งการใช้วัตถุดิบธรรมชาติ การทำผลิตภัณฑ์แบบ "Naked" ที่ไม่มีแพ็คเกจจิ้ง การใช้บรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ และการต่อต้านการทดลองในสัตว์อย่างแข็งขัน รวมถึงโครงการ Charity Pot ที่นำรายได้ไปช่วยเหลือสังคมด้วย

สรุปและคำแนะนำ: เลือก Lush ให้ฟิน ในสไตล์เรา!

เป็นไงบ้างครับกับ 10 อันดับ ผลิตภัณฑ์ Lush ยอดฮิตที่คัดมาให้ หวังว่าคงจะพอเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ ได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ถูกใจและเหมาะกับการใช้งานนะครับ จำไว้ว่า Lush ไม่ใช่แค่สบู่หรือมาส์กธรรมดาๆ แต่คือประสบการณ์การดูแลตัวเองที่สนุก ปลอดภัย และเป็นมิตรกับโลก!

• ถ้า เน้นความผ่อนคลาย เตรียมตัวนอน ต้องยกให้ซีรีส์ Sleepy เลยครับ หอมลาเวนเดอร์นุ่มๆ เคลิ้มแน่นอน
• ถ้าเป็น สายชอบแช่น้ำ สร้างสีสันและความสนุก Bath Bomb อย่าง Intergalactic คือคำตอบครับ
• ถ้าเน้น ดูแลผิวหน้า ลดความมัน สิว Mask of Magnaminty หรือ Cup o' Coffee ไม่ทำให้ผิดหวังครับ
• ถ้าอยากได้ กลิ่นหอมติดตัวเป็นเอกลักษณ์ ลอง Rose Jam หรือซีรีส์ Karma ดูนะครับ
• ถ้าอยาก สนับสนุนสิ่งดีๆ ไปด้วย อย่าลืมมองหาผลิตภัณฑ์ Charity Pot นะครับ

ข้อควรระวังเล็กๆ น้อยๆ ในการใช้ Lush ในไทยคือเรื่อง การเก็บรักษา เนื่องจากบ้านเราอากาศร้อนชื้น ผลิตภัณฑ์สดๆ อาจจะต้องดูแลเป็นพิเศษหน่อย และบางผลิตภัณฑ์อาจจะละลายได้ง่าย รวมถึงเรื่อง ราคา ที่ค่อนข้างสูง ควรเช็คโปรโมชั่นดีๆ ก่อนซื้อครับ

สุดท้ายแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการได้ลองและค้นพบผลิตภัณฑ์ที่ใช่สำหรับตัวเองครับ Lush มีอะไรให้ลองอีกเยอะมากๆ!

มาเมาท์มอยกันหน่อย! แชร์ประสบการณ์ Lush ของคุณสิครับ!

เพื่อนๆ คนไหนเคยใช้ผลิตภัณฑ์ Lush ตัวไหนบ้าง? ชอบกลิ่นไหนเป็นพิเศษ หรือมีตัวไหนอยากป้ายยาเพื่อนๆ คนอื่นอีกไหม? มาแชร์ประสบการณ์กันได้เลยในคอมเมนต์ข้างล่างนี้เลยนะครับ! 👇

ถ้าใครถูกใจบทความนี้ อยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์โปรโมชั่นดีๆ รบกวนพิมพ์คำว่า "อยากตัวหอม จัดลิงก์มาเลย!" เดี๋ยวผมรวบรวมดีลเด็ดๆ จาก Shopee/Lazada มาฝากเป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• LUSH Thailand: ลัชประเทศไทย - ความสดชื่นจากธรรมชาติ
• รีวิว 5 สินค้าจาก Lush ที่ควรมีในครอบครอง
• 🌟📌LUSHIE ห้ามพลาดงานนี้! กับ LUSH THAILAND SHOWCASE ...
• เคล็ดลับตัวหอมทั้งวันด้วยผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด
• 💡How to วิธีใช้ Bubble bath bomb ของสบู่ไทยแลนด์ค่ะ ใช้ยังไงให้ ...