10 อันดับ เซรั่มผิวผสม ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ปรับสมดุลผิว ชุ่มชื้น

สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ สายสกินแคร์ และชาวผิวผสมที่น่ารักทุกคน! 🥰 เคยไหมครับที่ตอนเช้าหน้ามันเยิ้มช่วงทีโซน แต่พอตกบ่ายแก้มกลับแห้งผากเป็นขุยซะงั้น? หรือบางทีก็มันสลับแห้งแบบงงๆ ทั่วหน้า จนไม่รู้จะบำรุงผิวยังไงดี?

ถ้าพยักหน้าหงึกๆ ล่ะก็... ยินดีด้วยครับ! คุณคือหนึ่งในชาวผิวผสมชนเผ่าเดียวกับผม! 😂 ปัญหาผิวผสมนี่เหมือนโดนสาปจริงๆ ครับ เพราะต้องดูแลผิวแบบสองมาตรฐาน คือต้องคุมมันตรงที่มัน และเติมชุ่มชื้นตรงที่แห้งในเวลาเดียวกัน!

และไอเทมกู้ชีพที่จะมาช่วยปรับสมดุลให้ผิวเรากลับมาแฮปปี้อีกครั้งก็คือ "เซรั่ม" นี่แหละครับ! ด้วยเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมง่าย แถมอัดแน่นไปด้วยสารบำรุงที่เข้มข้น เซรั่มนี่แหละคือตัวช่วยสำคัญที่จะจัดการปัญหาผิวผสมได้อย่างตรงจุดครับ

แต่ในยุคที่ตลาดสกินแคร์มันพุ่งแรงแซงทุกโค้ง มีเซรั่มผิวผสมออกมาเพียบจนเลือกไม่ถูกเลยใช่ไหมครับ? บางทีเห็นรีวิวแล้วก็อยากได้ไปหมด แต่ก็กลัวซื้อมาแล้วไม่ตอบโจทย์ เสียเงินฟรี เสียใจอีก...

ไม่ต้องกังวลใจไปครับ! บทความนี้ผมได้รวบรวมข้อมูลและคัดมาให้แล้วกับ 10 อันดับ เซรั่มผิวผสม ตัวเด็ด ปี 2025 ที่คัดมาแล้วว่าน่าสนใจ ตอบโจทย์ปัญหาผิวผสมของคนไทย แถมยังหาซื้อง่ายในบ้านเราอีกด้วย! อ่านจบปุ๊บ รับรองว่าได้ไอเดียไปเลือกซื้อเซรั่มตัวใหม่มาบำรุงผิวให้ปังกว่าเดิมแน่นอนครับ!

ตลาดเซรั่มผิวผสมในไทย เป็นยังไงบ้างนะ?

บอกเลยว่าตลาดสกินแคร์ในไทยนี่คึกคักสุดๆ ครับ โดยเฉพาะกลุ่มเซรั่มที่มาแรงไม่มีตก เพราะคนไทยยุคใหม่หันมาใส่ใจการดูแลผิวแบบเจาะลึกมากขึ้น ปัญหาผิวผสมก็เป็นปัญหาอันดับต้นๆ ที่หลายคนเผชิญ ทำให้เซรั่มสำหรับผิวผสมเป็นที่ต้องการในตลาดบ้านเราอย่างต่อเนื่องครับ

ในตลาดไทยเราจะเห็นทั้งแบรนด์ต่างชาติเจ้าใหญ่ๆ จากฝั่งยุโรป อเมริกา (เช่น La Roche-Posay, Vichy, Eucerin) แบรนด์ดังจากเกาหลี ญี่ปุ่น (เช่น Sulwhasoo, innisfree, Hatomugi - แม้ Hatomugi จะเป็นน้ำตบแต่ก็ฮิตในกลุ่มผิวผสม) และแบรนด์ไทยคุณภาพดีอีกเพียบ ที่พัฒนาสูตรมาเพื่อตอบโจทย์สภาพอากาศและปัญหาผิวคนไทยโดยเฉพาะ

พฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยเวลาเลือกซื้อเซรั่มผิวผสม มักจะมองหาสินค้าที่ช่วย ปรับสมดุลผิว (คุมมันเฉพาะจุด ให้ความชุ่มชื้นเฉพาะจุด) ลดปัญหาสิว รูขุมขนกระชับ และช่วยให้ ผิวกระจ่างใส ลดรอยสิว ด้วยครับ และแน่นอนว่าแหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตก็หนีไม่พ้นออนไลน์แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง Lazada และ Shopee ที่มีโปรโมชั่นและโค้ดส่วนลดให้กดกันรัวๆ รวมถึงร้านสกินแคร์ชื่อดังอย่าง Watsons, Eveandboy, Boots, Konvy และเคาน์เตอร์แบรนด์ในห้างสรรพสินค้าทั่วไปครับ

เลือกเซรั่มผิวผสมยังไง ให้ได้ตัวที่ใช่ เหมือนเจอเนื้อคู่?

การเลือกเซรั่มผิวผสมก็เหมือนการตามหาเนื้อคู่ครับ ต้องเลือกให้เข้ากับเราที่สุด ซึ่งปัจจัยที่ต้องพิจารณามีดังนี้ครับ

• ส่วนผสมตัวท็อป: มองหาส่วนผสมที่ช่วยปรับสมดุลผิวโดยเฉพาะ เช่น Niacinamide (วิตามินบี 3) ช่วยคุมมัน ลดรอยสิว กระชับรูขุมขน และเสริมเกราะป้องกันผิว Hyaluronic Acid เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มฟู โดยไม่ทำให้ผิวมันเพิ่ม Salicylic Acid (BHA) ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันในรูขุมขน และควบคุมความมัน Tea Tree Oil ช่วยลดแบคทีเรียและควบคุมความมัน และสารที่ช่วยปลอบประโลมผิว เช่น ใบบัวบก (Centella Asiatica), ว่านหางจระเข้
• เนื้อสัมผัส: สำหรับผิวผสม ควรเลือกเซรั่มที่มีเนื้อบางเบา ซึมง่าย ไม่เหนอะหนะ จะเป็นเนื้อน้ำใสๆ (Water-based), เนื้อเจล หรือเนื้อกึ่งเจลก็เหมาะครับ หลีกเลี่ยงเนื้อออยล์หนักๆ หรือเนื้อครีมที่อาจทำให้ผิวมันช่วงทีโซนยิ่งเยิ้มกว่าเดิม
• ปัญหาผิวอื่นๆ ที่กังวล: นอกจากเรื่องความมันและแห้งแล้ว เรามีปัญหาอื่นร่วมด้วยไหม เช่น สิว, รอยสิว, รูขุมขนกว้าง, ผิวหมองคล้ำ หรือริ้วรอย ก็เลือกเซรั่มที่มีส่วนผสมที่ช่วยแก้ปัญหานั้นๆ เพิ่มเติมครับ
• ความอ่อนโยน / ผิวแพ้ง่าย: ถ้าเป็นคนผิวผสมที่แพ้ง่ายด้วย ให้มองหาสูตรที่ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน และซิลิโคน รวมถึงมีส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิวเป็นพิเศษ
• ชื่อเสียงแบรนด์และรีวิว: เช็คดูว่าแบรนด์มีความน่าเชื่อถือไหม ลองอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริงในไทย ทั้งใน Pantip, Jeban, หรือตามกลุ่มรีวิวใน Facebook เพื่อดูผลลัพธ์และฟีดแบ็กจากคนที่มีสภาพผิวคล้ายๆ เราครับ
• ราคา: กำหนดงบประมาณไว้ครับ เซรั่มมีหลายระดับราคา ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันหรือหมื่นต้นๆ เลือกที่เหมาะสมกับเราและคุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่ได้
• ช่องทางการซื้อ: สะดวกซื้อที่ไหนมากกว่า? ออนไลน์หรือออฟไลน์? เช็คว่าเซรั่มตัวที่เราสนใจมีขายในช่องทางที่เราสะดวกไหม

เพื่อให้เห็นภาพรวมง่ายขึ้น ลองใช้หลักการประมาณนี้ในการเลือกดูนะครับ

ลองให้คะแนนแต่ละหัวข้อตามความต้องการและความกังวลของคุณ แล้วดูว่าเซรั่มตัวไหนที่ได้คะแนนรวมสูงที่สุด ก็มีแนวโน้มว่าจะเหมาะกับคุณมากที่สุดครับ!

ป้ายยาแรงๆ! 10 อันดับ เซรั่มผิวผสม ตัวเด็ด ปี 2025 ที่ต้องสอย!

มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมคัดมาให้แล้วกับ 10 เซรั่มที่น่าจับตามองในปี 2025 นี้ ซึ่งหลายตัวก็เป็นกระแสและได้รับฟีดแบ็กดีๆ จากชาวผิวผสมในไทยมาอย่างต่อเนื่องครับ!

1. La Roche-Posay Effaclar Serum

แบรนด์จากฝรั่งเศส เจ้าพ่อสกินแคร์สายเวชสำอางที่แพทย์ผิวหนังแนะนำ

• รุ่นแนะนำ: Effaclar Serum
• เกี่ยวกับแบรนด์/สินค้า: เซรั่มยืนหนึ่งเรื่องสิวและผิวผสม ตัวดังจากฝรั่งเศส สูตรเข้มข้นด้วย 3 พลังโมเลกุล (Salicylic Acid, LHA, Glycolic Acid) ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน สลายสิวอุดตัน และลดรอยดำรอยแดงจากสิว พร้อม Niacinamide ปลอบประโลมผิว เนื้อบางเบา ซึมไว เหมาะมากกับอากาศเมืองไทย
• ข้อดี: จัดการปัญหาสิวและรอยสิวได้ดีเยี่ยม ช่วยควบคุมความมันและกระชับรูขุมขน เนื้อสัมผัสดีมากก ไม่เหนอะหนะ เหมาะกับผิวเป็นสิวง่าย แพทย์ผิวหนังแนะนำ
• ข้อเสีย: บางคนผิวแห้งช่วงแก้มอาจรู้สึกแห้งตึงเล็กน้อยช่วงแรกๆ ที่ใช้ ต้องใช้มอยส์เจอไรเซอร์เสริม
• เหมาะกับใคร: ชาวผิวผสมที่มีปัญหาสิวอุดตัน สิวอักเสบ รอยสิว และผิวมันช่วงทีโซน
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee (Official Store), Watsons Online, Konvy
  • ออฟไลน์: Watsons, Boots, Eveandboy, ร้านขายยาและโรงพยาบาลชั้นนำ
• ช่วงราคา: ประมาณ 1,200 - 1,600 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ใช้แล้วสิวผดลดลงเยอะมาก หน้ามันน้อยลงด้วยค่ะ" "ซึมไว ไม่เหนอะหนะเลย ชอบมาก!" "รอยสิวจางลงจริงๆ ค่ะ"

2. The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1%

แบรนด์จากแคนาดา โดดเด่นเรื่องส่วนผสมความเข้มข้นสูงในราคาสบายกระเป๋า

• รุ่นแนะนำ: Niacinamide 10% + Zinc 1%
• เกี่ยวกับแบรนด์/สินค้า: เซรั่ม Niacinamide ตัวดังระดับโลก มาพร้อม Zinc ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการควบคุมความมัน ลดการอักเสบของสิว และกระชับรูขุมขน สูตรเรียบง่าย แต่ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
• ข้อดี: ราคาเป็นมิตร เข้าถึงง่าย ส่วนผสม Niacinamide เข้มข้น ช่วยเรื่องคุมมัน รอยสิว และรูขุมขนได้ดีมาก
• ข้อเสีย: เนื้ออาจมีความหนืดเล็กน้อยในบางคน และอาจเกิดฟองขาวๆ ถ้าใช้ปริมาณเยอะเกินไป
• เหมาะกับใคร: ชาวผิวผสมที่กังวลเรื่องความมัน รูขุมขนกว้าง รอยสิว และต้องการเซรั่มราคาน่ารักแต่เห็นผล
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee (Official Store)
  • ออฟไลน์: Sephora
• ช่วงราคา: ประมาณ 300 - 500 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ตัวนี้ขาดไม่ได้เลยค่ะ คุมมันดีมากจริงๆ" "ใช้แล้วรอยแดงจากสิวจางลงเร็วมาก" "ราคาดีงาม คุณภาพเกินราคา!"

3. innisfree Green Tea Seed Hyaluronic Serum

แบรนด์จากเกาหลีใต้ สกินแคร์จากธรรมชาติ เน้นความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว

• รุ่นแนะนำ: Green Tea Seed Hyaluronic Serum (อาจมีการปรับสูตรใหม่ในปี 2025)
• เกี่ยวกับแบรนด์/สินค้า: เซรั่มชาเขียวตัวฮิตตลอดกาล ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก ด้วยสารสกัดจากเมล็ดชาเขียวและ Hyaluronic Acid หลายชนิด เนื้อสัมผัสบางเบา ซึมเร็ว ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี
• ข้อดี: เติมความชุ่มชื้นได้ดีมากโดยไม่ทำให้ผิวมันเพิ่ม ช่วยให้ผิวสมดุล เนื้อสัมผัสสบายผิว เหมาะกับอากาศร้อนชื้น กลิ่นหอมผ่อนคลาย
• ข้อเสีย: อาจไม่ได้เน้นเรื่องคุมมันหรือลดสิวโดยตรง หากมีปัญหาสิวหนักๆ อาจต้องใช้ตัวอื่นเสริม
• เหมาะกับใคร: ชาวผิวผสมที่เน้นเรื่องการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวช่วงที่แห้ง และต้องการปรับสมดุลผิวให้แข็งแรง
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee (Official Store), Konvy
  • ออฟไลน์: innisfree Shop ทุกสาขา, Eveandboy, Watsons (บางสาขา)
• ช่วงราคา: ประมาณ 900 - 1,200 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ผิวอิ่มน้ำ ฉ่ำๆ ดูสุขภาพดีขึ้นเยอะเลยค่ะ" "ซึมเร็วมากกก ไม่เหนอะหนะเลย ทาตอนเช้าสบายผิว" "กลิ่นหอมชาเขียวอ่อนๆ ใช้แล้วฟินมาก"

4. Paula's Choice 10% Niacinamide Booster

แบรนด์จากอเมริกา สกินแคร์ที่เน้นส่วนผสมที่ได้ผลตามงานวิจัย

• รุ่นแนะนำ: 10% Niacinamide Booster
• เกี่ยวกับแบรนด์/สินค้า: บูสเตอร์เซรั่ม Niacinamide เข้มข้น 10% สามารถใช้เดี่ยวๆ หรือผสมกับเซรั่มหรือมอยส์เจอไรเซอร์ตัวอื่นได้ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการคุมมัน กระชับรูขุมขน ลดรอยสิว และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
• ข้อดี: Niacinamide เข้มข้น ให้ผลลัพธ์เรื่องคุมมัน รูขุมขน รอยสิวได้ดีมาก เนื้อบางเบา ผสมกับสกินแคร์ตัวอื่นได้ง่าย
• ข้อเสีย: ราคาสูงกว่า The Ordinary Niacinamide เล็กน้อย ปริมาณน้อย
• เหมาะกับใคร: ชาวผิวผสมที่ต้องการ Niacinamide เข้มข้นพิเศษ หรืออยากเพิ่ม Niacinamide เข้าไปในสกินแคร์รูทีนปัจจุบัน
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee (Official Store), Konvy
  • ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Paula's Choice (ในห้างสรรพสินค้าบางแห่ง), Eveandboy (บางสาขา)
• ช่วงราคา: ประมาณ 1,600 - 1,800 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "รูขุมขนกระชับขึ้นจริงค่ะ ใช้ผสมกับเซรั่มตัวอื่นแล้วดีมาก" "คุมมันได้ดีกว่าตัวอื่นที่เคยใช้มา" "ยอมลงทุนกับตัวนี้ เพราะเห็นผลจริงๆ"

5. Vichy Liftactiv Vitamin C Brightening Skin Corrector

แบรนด์จากฝรั่งเศส สกินแคร์จากน้ำแร่ภูเขาไฟ ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว

• รุ่นแนะนำ: Liftactiv Vitamin C Brightening Skin Corrector
• เกี่ยวกับแบรนด์/สินค้า: เซรั่มวิตามินซีเข้มข้น ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ รอยสิว และช่วยต้านอนุมูลอิสระ ปลุกผิวให้ดูสดใส เนื้อบางเบา ซึมไว เหมาะกับผิวผสมที่หมองคล้ำและมีรอยสิว
• ข้อดี: ช่วยเรื่องความกระจ่างใสและรอยสิวได้ดี เนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนอะหนะ
• ข้อเสีย: วิตามินซีอาจไวต่อแสงและความร้อน ควรเก็บให้พ้นแสงแดด และใช้คู่กับครีมกันแดดเสมอ
• เหมาะกับใคร: ชาวผิวผสมที่เน้นเรื่องความกระจ่างใส ลดรอยสิว และผิวหมองคล้ำ
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee (Official Store), Watsons Online, Konvy
  • ออฟไลน์: Watsons, Boots, Eveandboy, ร้านขายยาชั้นนำ
• ช่วงราคา: ประมาณ 1,200 - 1,500 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "หน้าใสขึ้น รอยดำจางลงค่ะ ชอบมาก" "เนื้อดี ซึมเร็ว ไม่แสบผิวเลย" "ใช้ตอนเช้าคู่กับกันแดด รู้สึกผิวแข็งแรงขึ้น"

6. CeraVe Resurfacing Retinol Serum

แบรนด์จากอเมริกา พัฒนาร่วมกับแพทย์ผิวหนัง โดดเด่นเรื่องเซราไมด์เสริมเกราะป้องกันผิว

• รุ่นแนะนำ: Resurfacing Retinol Serum
• เกี่ยวกับแบรนด์/สินค้า: เซรั่มที่มี Encapsulated Retinol ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ลดรอยสิว จุดด่างดำ และปรับผิวให้เรียบเนียน พร้อม Niacinamide และเซราไมด์ ช่วยปลอบประโลมและเสริมเกราะป้องกันผิว ทำให้ Retinol ระคายเคืองน้อยลง
• ข้อดี: ช่วยเรื่องรอยสิวและปรับผิวให้เรียบเนียนได้ดี มีส่วนผสมที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ลดโอกาสการระคายเคืองจาก Retinol เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
• ข้อเสีย: อาจใช้เวลาเห็นผลเรื่องรอยสิวนานกว่าเซรั่มกลุ่มผลัดเซลล์ผิวแบบอื่นเล็กน้อย
• เหมาะกับใคร: ชาวผิวผสมที่มีปัญหารอยสิว ผิวไม่เรียบเนียน และต้องการใช้ Retinol แต่อยากได้สูตรที่อ่อนโยน
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee (Official Store), Watsons Online, Konvy
  • ออฟไลน์: Watsons, Boots, Eveandboy, ร้านขายยาชั้นนำ
• ช่วงราคา: ประมาณ 800 - 1,000 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "รอยแดงจางลง หน้าเรียบเนียนขึ้นค่ะ ใช้แล้วไม่แพ้เลย" "เป็น Retinol ที่อ่อนโยนจริง ใช้ได้ทุกวัน" "เซราไมด์ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นจริงๆ ค่ะ"

7. SKIN1004 Madagascar Centella Ampoule

แบรนด์จากเกาหลีใต้ เน้นส่วนผสมหลักจากใบบัวบกบริสุทธิ์

• รุ่นแนะนำ: Madagascar Centella Ampoule
• เกี่ยวกับแบรนด์/สินค้า: แอมพูลใบบัวบกเข้มข้น 100% ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ ลดรอยแดง ลดการระคายเคือง และเสริมเกราะป้องกันผิว เหมาะสำหรับผิวผสมที่เป็นสิวง่ายหรือผิวแพ้ง่าย เนื้อเป็นน้ำ ซึมเร็วมาก
• ข้อดี: ช่วยปลอบประโลมผิว ลดรอยแดง การอักเสบของสิวได้ดีมาก อ่อนโยนสุดๆ เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
• ข้อเสีย: อาจไม่ได้เน้นเรื่องคุมมันหรือกระชับรูขุมขนโดยตรง
• เหมาะกับใคร: ชาวผิวผสมที่ผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย หรือมีรอยแดงจากการอักเสบ ต้องการเซรั่มที่ช่วยปลอบประโลมผิวเป็นพิเศษ
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee (Official Store), Konvy, Beautrium
  • ออฟไลน์: Eveandboy, Beautrium, Watsons (บางสาขา)
• ช่วงราคา: ประมาณ 500 - 800 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "เป็นสิวอักเสบทาตัวนี้แล้วยุบเร็วมาก" "หน้าไม่ค่อยแดง ไม่ค่อยแพ้อะไรเหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะ" "เนื้อเป็นน้ำ ซึมหายไปเลย สบายผิวมากๆ"

8. Fyne BHA Clarifying Serum

แบรนด์ไทย สกินแคร์คุณภาพดี เน้นส่วนผสมที่อ่อนโยนและได้ผล

• รุ่นแนะนำ: BHA Clarifying Serum
• เกี่ยวกับแบรนด์/สินค้า: เซรั่ม BHA 2% ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน ลดสิวอุดตัน สิวเสี้ยน และช่วยกระชับรูขุมขน มีส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิว ทำให้ระคายเคืองน้อยลง
• ข้อดี: จัดการสิวอุดตัน สิวเสี้ยนได้ดี ช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง พัฒนาสูตรมาเพื่อผิวคนไทยโดยเฉพาะ อ่อนโยนใช้ได้ทุกวัน
• ข้อเสีย: บางคนอาจต้องปรับการใช้ในช่วงแรกๆ หากไม่เคยใช้ BHA มาก่อน
• เหมาะกับใคร: ชาวผิวผสมที่มีปัญหาสิวอุดตัน สิวเสี้ยน รูขุมขนกว้าง และผิวมันช่วงทีโซน
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee (Official Store), Konvy, เว็บไซต์แบรนด์
  • ออฟไลน์: Eveandboy, Beautrium (บางสาขา)
• ช่วงราคา: ประมาณ 900 - 1,100 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "สิวอุดตันที่คางหายไปเยอะเลยค่ะ ปลื้มมาก" "รูขุมขนตรงจมูกดูเล็กลง หน้าเนียนขึ้น" "เป็น BHA ที่อ่อนโยนจริงค่ะ ใช้ได้ทุกวันไม่มีปัญหา"

9. Oriental Princess Natural Power C Miracle Brightening Complex Advanced Brightening Serum

แบรนด์ไทย แบรนด์ดังที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน โดดเด่นเรื่องวิตามินซี

• รุ่นแนะนำ: Natural Power C Miracle Brightening Complex Advanced Brightening Serum
• เกี่ยวกับแบรนด์/สินค้า: เซรั่มวิตามินซีเข้มข้น ช่วยเรื่องความกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิว และช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น เป็นอีกหนึ่งเซรั่มวิตามินซีตัวดังในตำนานของไทย
• ข้อดี: ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดรอยสิวได้ดี หาซื้อง่าย มีโปรโมชั่นบ่อย ราคาเข้าถึงง่าย
• ข้อเสีย: เนื้ออาจจะมีความหนึบเล็กน้อยในบางคน
• เหมาะกับใคร: ชาวผิวผสมที่กังวลเรื่องความหมองคล้ำ จุดด่างดำ รอยสิว และต้องการเซรั่มวิตามินซีคุณภาพดีในราคาที่คุ้มค่า
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee (Official Store), เว็บไซต์แบรนด์
  • ออฟไลน์: Shop Oriental Princess ทุกสาขา, Watsons, Eveandboy, ห้างสรรพสินค้าทั่วไป
• ช่วงราคา: ประมาณ 700 - 1,000 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ใช้ตัวนี้แล้วหน้าใสขึ้นจริงๆ ค่ะ รอยสิวจางไวมาก" "ราคาดี แถมมีโปรโมชั่นบ่อย ตุนไว้เลย" "เป็นวิตซีที่ใช้มาตลอด ไม่เคยเปลี่ยนใจ"

10. MizuMi Peptide Acne mỹ Serum

แบรนด์ไทย สกินแคร์สำหรับผิวแพ้ง่ายและเป็นสิวง่าย ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

• รุ่นแนะนำ: Peptide Acne mỹ Serum
• เกี่ยวกับแบรนด์/สินค้า: เซรั่มลดสิวที่มาพร้อม Peptide ช่วยลดการอักเสบ ลดสิว ควบคุมความมัน และลดโอกาสการเกิดสิวใหม่ อ่อนโยน ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
• ข้อดี: ช่วยลดสิวได้ดี ควบคุมความมันได้ ปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคือง เหมาะกับผิวแพ้ง่ายมากๆ
• ข้อเสีย: หากเป็นสิวฮอร์โมนหรือสิวอักเสบรุนแรง อาจต้องใช้ร่วมกับการรักษาสิวอื่นๆ
• เหมาะกับใคร: ชาวผิวผสมที่เป็นสิวง่าย ผิวแพ้ง่าย และต้องการเซรั่มลดสิวที่อ่อนโยน ใช้ได้ทุกวัน
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee (Official Store), Watsons Online, Konvy, Beautrium
  • ออฟไลน์: Watsons, Boots, Eveandboy, Beautrium, Matsumoto Kiyoshi, Tsuruha
• ช่วงราคา: ประมาณ 400 - 600 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "สิวผดลดลงเยอะมากค่ะ ไม่แพ้เลย เลิฟมาก!" "ใช้แล้วหน้าไม่มันเพิ่ม สิวไม่ค่อยขึ้นแล้ว" "อ่อนโยนจริง ผิวแพ้ง่ายแบบเราใช้ได้สบายๆ"

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนไทย ช่างสงสัย!

Q: ระหว่าง La Roche-Posay Effaclar Serum กับ The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1% อันไหนเหมาะกับผิวผสมเป็นสิวง่ายกว่ากัน?
A: ทั้งสองตัวช่วยเรื่องสิวและคุมมันได้ดีทั้งคู่ครับ แต่ La Roche-Posay Effaclar Serum จะเน้นเรื่องการผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันเป็นหลัก เหมาะกับคนที่มีสิวอุดตันเยอะๆ ส่วน The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1% จะเน้นเรื่องคุมมัน ลดรอยสิว และกระชับรูขุมขนมากกว่าครับ ถ้าสิวอุดตันเยอะเน้น LRP ถ้าเน้นคุมมัน รอยสิว รูขุมขน ลอง The Ordinary หรือใช้คู่กันก็ได้ครับ!

Q: เซรั่มวิตามินซีของ Vichy กับ Oriental Princess ต่างกันยังไง?
A: ทั้งคู่เป็นเซรั่มวิตามินซีที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใสและรอยสิวเหมือนกันครับ แต่ Vichy Liftactiv Vitamin C เป็นวิตามินซีบริสุทธิ์ (L-Ascorbic Acid) ที่มีความเสถียรและซึมซาบสู่ผิวได้ดี ให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างไว ส่วน Oriental Princess Natural Power C เป็นวิตามินซีในรูปแบบอื่นที่อ่อนโยนกว่า และมีส่วนผสมอื่นๆ ช่วยเสริมเรื่องความชุ่มชื้นด้วยครับ Vichy อาจเหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์เร่งด่วน แต่ OP จะอ่อนโยนกว่าและราคาย่อมเยากว่าครับ

Q: ซื้อเซรั่มใน Lazada / Shopee ไว้ใจได้ไหม กลัวเจอของปลอม?
A: เป็นคำถามยอดฮิตจริงๆ ครับ! ใน Lazada / Shopee มีร้านค้าเยอะมาก ทั้งร้าน Official ของแบรนด์โดยตรง และร้านค้าอื่นๆ ถ้าซื้อจาก Official Store ของแบรนด์โดยตรงจะมั่นใจว่าเป็นของแท้ 100% ครับ แต่ถ้าซื้อจากร้านอื่น ให้ดูที่ คะแนนร้านค้า รีวิวจากผู้ซื้อคนอื่น และจำนวนผู้ติดตามครับ ถ้าราคาถูกกว่าปกติมากๆ จนน่าตกใจ ก็อาจจะต้องระวังเป็นพิเศษครับ บางทีของปลอมทำแพ็คเกจเหมือนมาก แต่เนื้อเซรั่มหรือกลิ่นต่างไปเลย

Q: เซรั่มสำหรับผิวผสมต้องใช้คู่กับมอยส์เจอไรเซอร์ไหม?
A: จำเป็นต้องใช้ครับ! แม้ผิวผสมจะมีส่วนที่มัน แต่ส่วนที่แห้งก็ยังต้องการความชุ่มชื้น และมอยส์เจอไรเซอร์จะช่วยล็อคความชุ่มชื้นที่ได้จากเซรั่มไว้ในผิว และเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้นด้วย เลือกมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบาสำหรับผิวผสม/ผิวมัน จะได้ไม่เหนอะหนะเกินไปครับ

Q: ใช้เซรั่มหลายตัวพร้อมกันได้ไหมสำหรับผิวผสม?
A: ใช้ได้ครับ! แต่ควรเลือกเซรั่มที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันและใช้ตามลำดับจากเนื้อบางเบาไปเนื้อหนัก เช่น ใช้เซรั่มคุมมัน/รักษาสิวก่อน ตามด้วยเซรั่มให้ความชุ่มชื้น หรือเซรั่มวิตามินซี แต่ไม่ควรใช้ Active Ingredients ที่แรงมากๆ หลายตัวพร้อมกัน เช่น AHA/BHA คู่กับ Retinol ในรูทีนเดียวกัน เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ครับ

สรุปส่งท้าย เลือกเซรั่มผิวผสมให้ปัง รับปี 2025!

ชาวผิวผสมอย่างเราๆ ไม่ต้องกลุ้มใจกับการดูแลผิวอีกต่อไปแล้วนะครับ เพราะตลาดสกินแคร์บ้านเรามีเซรั่มดีๆ ออกมาตอบโจทย์เพียบเลย!

• ถ้าคุณเป็นสาย เน้นคุมมัน ลดสิว รูขุมขนกระชับ งบปานกลาง ลองดู La Roche-Posay Effaclar Serum หรือ Fyne BHA Clarifying Serum ครับ
• ถ้า งบน้อย แต่อยากได้ตัวช่วยเรื่องคุมมัน รอยสิว รูขุมขน ตัวเทพต้อง The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1% เลยครับ
• ถ้า ผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย ต้องการเซรั่มปลอบประโลมผิวแบบสุดๆ ต้อง SKIN1004 Madagascar Centella Ampoule หรือ MizuMi Peptide Acne mỹ Serum ครับ
• ถ้า ผิวหมองคล้ำ มีรอยสิว อยากให้หน้าใสปิ๊ง ลอง Vichy Liftactiv Vitamin C หรือ Oriental Princess Natural Power C ครับ
• ถ้าอยากใช้ Retinol แต่อยากได้สูตรอ่อนโยนสำหรับผิวผสมแพ้ง่าย ลอง CeraVe Resurfacing Retinol Serum ครับ

ไม่ว่าเลือกตัวไหน อย่าลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผิวคนไทยนะครับ นั่นคือ "ครีมกันแดด" ในสภาพอากาศบ้านเรา แดดแรงเบอร์สุด การทากันแดดสำคัญมากกกก เพื่อปกป้องผิวจากการทำร้ายของแสงแดด ซึ่งเป็นสาเหตุของความหมองคล้ำ จุดด่างดำ และริ้วรอยก่อนวัยครับ! เซรั่มจะดีแค่ไหน ถ้าไม่ทากันแดดทุกอย่างก็จบเห่!

และสุดท้าย เรื่อง "ของปลอม" ในตลาดออนไลน์ ต้องระวังให้มากๆ ครับ ถ้าไม่มั่นใจจริงๆ ซื้อจากร้าน Official หรือร้านที่มีหน้าร้านเชื่อถือได้จะปลอดภัยที่สุดครับ

มาแชร์ประสบการณ์กันหน่อย! หรืออยากให้ชี้เป้าอีก?

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เป็นยังไงกันบ้างครับ? ได้เซรั่มตัวที่เล็งไว้ในใจบ้างหรือยัง? หรือใครเคยใช้ตัวไหนในลิสต์นี้แล้วเป็นยังไงบ้าง มาเม้าท์มอย แชร์ประสบการณ์กันได้ในคอมเมนต์เลยนะครับ!

ถ้าใครอยากให้ผมช่วยหาข้อมูลเพิ่มเติม หรืออยากได้พิกัดร้านค้าออนไลน์ที่น่าเชื่อถือสำหรับเซรั่มตัวไหนเป็นพิเศษ บอกเลยนะครับ! พิมพ์มาว่า "อยากได้พิกัด!" เดี๋ยวผมจะพยายามรวบรวมข้อมูลมาให้เลยครับ!

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ชาวผิวผสมทุกคนนะครับ ขอให้ได้เซรั่มที่ใช่ ปรับสมดุลผิวให้สวยใส ชุ่มชื้น ไม่มันเยิ้มกันทุกคนในปี 2025 นี้ครับ! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า บ๊ายบายยย! 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• ประชันส่วนผสมครีมซองยอดฮิต 2025! ตัวไหนลดรอย หน้าใสได้จริง ...
• แนะนำแบรนด์ไทยเพื่อผิวสวยจากประสบการณ์ตรง
• รวมสกินแคร์สุดปังที่ใช้หมดแล้วต้องซื้อซ้ำ ปี 2025
• สกินแคร์ Vegan Mucin สำหรับผิวแพ้ง่ายปี 2025
• เซรั่มญี่ปุ่นเพื่อผิวหน้ากระจ่างใสและชุ่มชื้น