10 อันดับ ลิปสติก สำหรับวัย 40 ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 บำรุงปาก ไม่ตกร่อง

สวัสดีค่า เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ วัยเก๋า (แต่ใจไม่เก่านะจ๊ะ!) 👋 วันนี้ป้ามาพร้อมกับเรื่องใกล้ตัว ที่บางทีก็ทำให้กลุ้มใจไม่เบา นั่นก็คือ... ปัญหาปากแห้ง ปากเป็นร่อง ทาลิปสติกทีไรก็ตกร่องจนเซ็ง!

ไม่ต้องเครียดไปค่ะซิส! เพราะป้ารู้ว่าลิปสติกนี่แหละคือไม้เท้าวิเศษ ที่ช่วยเสกให้ใบหน้าเราดูสดใส มีชีวิตชีวาขึ้นได้ทันตา แต่พออายุเลข 4 ขึ้นไป ริมฝีปากเราก็ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ไม่ใช่ทาอะไรก็ได้แล้วจะปังเหมือนสมัยสาวๆ แล้วนะจ๊ะ

ปัญหาคือ... ลิปสติกในตลาดตอนนี้มีเยอะยิ่งกว่าจำนวนแฟนเก่า! (อุ๊ปส์!) 😂 จะเลือกยังไงให้ได้ลิปที่สีสวยถูกใจ แถมยังช่วยบำรุงปากเหี่ยวๆ ย่นๆ ไม่ให้ตกร่องอีกต่างหาก? นี่แหละคือภารกิจของเราในวันนี้ค่ะ!

บทความนี้ ป้าขออาสาเป็นพี่เลี้ยง (กูรูจำเป็น) พาไปส่อง 10 อันดับ ลิปสติก สำหรับวัย 40+ ที่บำรุงปาก ไม่ตกร่อง ปี 2025 นี้ บอกเลยว่าคัดมาแล้วเน้นๆ อ่านจบปุ๊บ พุ่งตัวไปช้อปได้เลย ไม่มีผิดหวังแน่นอน!

ตลาดลิปสติกในไทย: ของมันต้องมีทุกวัย!

บอกเลยว่าตลาดเครื่องสำอางในไทย โดยเฉพาะลิปสติกนี่คึกคักตลอดเวลา ไม่ว่าจะวัยไหนก็ขาดลิปสติกไม่ได้จริงๆ ค่ะ ยิ่งช่วงหลังๆ เทรนด์ความงามจากเกาหลีและญี่ปุ่นมาแรง ทำให้ลิปสติกเนื้อฉ่ำวาว ลิปบาล์มมีสี หรือลิปที่เน้นส่วนผสมบำรุงจากธรรมชาติเป็นที่นิยมมากๆ

แบรนด์ที่ครองตลาดก็มีทั้งแบรนด์อินเตอร์เจ้าใหญ่ๆ อย่าง Maybelline, L'Oreal, Bobbi Brown หรือ Kiko Milano และแบรนด์เกาหลี ญี่ปุ่นที่ฮิตในหมู่วัยรุ่นจนถึงวัยทำงาน แต่ที่น่าจับตามองมากๆ คือ แบรนด์ไทย ค่ะซิส! แบรนด์ไทยหลายแบรนด์พัฒนาลิปสติกคุณภาพดี ราคาเข้าถึงง่าย แถมยังเข้าใจผิวและสภาพอากาศของคนไทยเป็นอย่างดี มีทั้งลิปแมตต์ที่ไม่ทำให้ปากแห้ง และลิปฉ่ำๆ บำรุงแน่นๆ

พฤติกรรมผู้บริโภคไทยก็ชอบช้อปปิ้งออนไลน์กันเป็นชีวิตจิตใจ แพลตฟอร์มอย่าง Lazada Shopee นี่คือแหล่งรวมลิปสติกทุกยี่ห้อ ทุกราคา มีโปรโมชั่นให้กดตลอดปี ส่วนสายที่อยากลองสี ลองเนื้อก่อน ก็พุ่งตัวไปที่ร้านเครื่องสำอางหรือเคาน์เตอร์แบรนด์ในห้างสรรพสินค้า หรือร้านมัลติแบรนด์อย่าง Watsons, Eveandboy, Beautrium ได้เลย

เลือก "ลิปสติก" วัย 40+ ยังไงให้ "รอด" ไม่ใช่ "ร่วง"!

ปัญหาหลักๆ ของริมฝีปากวัย 40+ คือฮอร์โมนและคอลลาเจนที่ลดลง ทำให้ปากแห้ง ขาดความชุ่มชื้น และเกิดริ้วรอย ร่องปากได้ง่าย ดังนั้น การเลือกลิปสติกสำหรับวัยนี้ ต้องเน้นคุณสมบัติเหล่านี้เป็นพิเศษค่ะ

ลองดูเช็คลิสต์ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อได้เลย:

• ส่วนผสมบำรุง: สำคัญอันดับหนึ่ง! มองหาส่วนผสมที่ช่วยเติมและกักเก็บความชุ่มชื้น เช่น Hyaluronic Acid (ไฮยาลูรอน), Shea Butter, น้ำมันจากธรรมชาติ (เช่น Jojoba Oil, Olive Oil), วิตามิน E, วิตามิน C, Peptide หรือ Ceramide ส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยให้ปากนุ่ม ไม่แห้ง ไม่ลอก และลดการตกร่อง
• เนื้อสัมผัส: เลือกเนื้อที่ไม่ทำให้ปากแห้ง เช่น เนื้อครีม, เนื้อซาติน, เนื้อกลอส, ลิปบาล์มมีสี หรือลิปแมตต์สูตรที่ไม่ทำให้ปากแห้งตึง หลีกเลี่ยงลิปแมตต์ที่แห้งสนิท เพราะมีโอกาสตกร่องสูงมาก
• สีสัน: เลือกสีที่ช่วยขับผิวและทำให้ใบหน้าดูสดใส อาจเลือกโทน MLBB (My Lips But Better) หรือสีที่ไม่เข้มหรืออ่อนจนเกินไป
• คุณสมบัติพิเศษ: ลิปสติกบางรุ่นอาจมีคุณสมบัติ Anti-Aging ช่วยลดเลือนริ้วรอย หรือมีสารกันแดด (SPF) ช่วยปกป้องริมฝีปากจากความหมองคล้ำ ซึ่งเป็นเรื่องดีมากๆ สำหรับวัยเราค่ะ
• รีวิวจากผู้ใช้จริง: ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรอ่านรีวิวจากคนที่เคยใช้ โดยเฉพาะรีวิวจากคนไทย จะช่วยให้เห็นภาพมากขึ้นว่าลิปรุ่นนั้นๆ เหมาะกับสภาพผิวและอากาศบ้านเราไหม
• ช่องทางการซื้อและราคา: เลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีโปรโมชั่นน่าสนใจ และอยู่ในงบประมาณที่เราตั้งไว้

เปิดกรุ! 10 อันดับ ลิปสติกบำรุงปาก ไม่ตกร่อง สำหรับวัย 40+ ปี 2025

และแล้วก็มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ป้าคัดมาให้แล้ว 10 ลิปสติกตัวเด็ด ที่ตอบโจทย์สาวๆ วัย 40+ เน้นเรื่องบำรุง ไม่ตกร่อง สีสวยปังแน่นอนค่ะ (ข้อมูลอัปเดตล่าสุดเท่าที่จะหาได้ในปี 2025 นะจ๊ะ)

1. KIKO MILANO - Unlimited Double Touch

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอางจากอิตาลี คุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงง่าย
• สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Unlimited Double Touch
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: เป็นลิป 2 หัว ด้านหนึ่งเป็นลิปสีแมตต์ที่เม็ดสีชัด ติดทน อีกด้านเป็นกลอสใสที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ปากดูอวบอิ่ม ไม่แห้งตกร่อง ติดทนนานถึง 16 ชั่วโมง
  • ข้อเสีย: ต้องรอให้ลิปสีแมตต์เซ็ตตัวก่อนลงกลอส
• เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการลิปสีชัด ติดทนมากๆ แต่ก็อยากได้ความชุ่มชื้น ไม่ทำให้ปากแห้ง
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee
  • ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ KIKO MILANO
• ช่วงราคา: ประมาณ 300 - 500 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "สีสวย ติดทนมากจริงๆ ค่ะ ทาทับด้วยกลอสแล้วปากไม่แห้งเลย ปลื้ม!"

2. KATE TOKYO - Lip Monster

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอางยอดนิยมจากญี่ปุ่น
• สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Kate Tokyo Lip Monster
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: เป็นลิปเนื้อทินต์ที่ให้สีระเรื่อเป็นธรรมชาติ แต่ติดทนมากๆ แม้ไม่ใส่แมสก์ก็ไม่เลือน ที่สำคัญคือเนื้อดีมาก ไม่ทำให้ปากแห้งหรือตกร่อง มีส่วนผสมช่วยบำรุง มีเฉดสีให้เลือกเยอะ
  • ข้อเสีย: สีอาจจะไม่ได้ชัดเจนเท่าลิปแมตต์บางรุ่น
• เหมาะกับใคร: คนที่ชอบลิปสีเป็นธรรมชาติ บำรุงปากไปในตัว และติดทน ไม่ตกร่อง
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee
  • ออฟไลน์: Watsons, Matsumoto Kiyoshi, Tsuruha, เคาน์เตอร์ KATE TOKYO
• ช่วงราคา: ประมาณ 400 - 600 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ใช้ Lip Monster แล้วชอบมาก ปากไม่แห้งเลย สีสวยกำลังดี ติดทนมากๆ ค่ะ"

3. rom&nd - Glasting Melting Balm

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอางจากเกาหลีที่โด่งดังเรื่องลิปสติก
• สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Glasting Melting Balm
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ลิปบาล์มเนื้อนุ่มละลายไปกับปาก ให้ความชุ่มชื้นฉ่ำวาวแบบไม่เหนียวเหนอะหนะ มีส่วนผสมของออยล์จากพืชช่วยบำรุง สีโปร่งสบาย ให้ลุคสุขภาพดี
  • ข้อเสีย: ความติดทนอาจจะไม่เท่าลิปทินต์หรือลิปแมตต์
• เหมาะกับใคร: คนที่ปากแห้งมากๆ ต้องการลิปที่เน้นบำรุง ให้ความชุ่มชื้น และให้สีสันเป็นธรรมชาติ
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee
  • ออฟไลน์: ร้านมัลติแบรนด์ K-Beauty, Eveandboy, Beautrium
• ช่วงราคา: ประมาณ 300 - 500 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ลิปรุ่นนี้คือดีต่อใจคนปากแห้งมากค่ะ ชุ่มชื้นสุดๆ ทาแล้วปากดูอิ่มฟู สีก็น่ารัก"

4. Maybelline - Super Stay Vinyl Ink Lipstick

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอาง Drugstore ยอดนิยมจากอเมริกา หาซื้อง่าย คุณภาพดี
• สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Super Stay Vinyl Ink Lipstick
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ให้ฟินิชฉ่ำวาว สีสดชัด ติดทนนานมากถึง 16 ชั่วโมง ไม่ทำให้ปากแห้งตึง มีสีให้เลือกหลากหลาย
  • ข้อเสีย: อาจจะต้องรอให้เซ็ตตัวเล็กน้อย
• เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการลิปสีชัด ติดทนสุดๆ ในราคาน่ารัก แต่ยังให้ความฉ่ำวาว ไม่ทำให้ปากแห้ง
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee
  • ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Beautrium, ซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป (Big C, Tops), ร้านสะดวกซื้อ (บางสาขา)
• ช่วงราคา: ประมาณ 200 - 400 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ติดทนแบบตะโกน! กินข้าว กินน้ำก็ไม่หลุด ปากยังดูฉ่ำอยู่เลยค่ะ สีสวยเยอะมากด้วย"

5. BOBBI BROWN - Crushed Lip Color

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอาง High-End จากอเมริกา ขึ้นชื่อเรื่องผลิตภัณฑ์เบสเมคอัพและลิปสติก
• สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Crushed Lip Color
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: เนื้อสัมผัสแบบซอฟต์แมตต์กึ่งลิขวิด บางเบา สบายปาก ให้สีชัดแต่ดูเป็นธรรมชาติ มีส่วนผสมบำรุงช่วยให้ปากนุ่ม ไม่ทำให้ปากแห้งตึง
  • ข้อเสีย: ติดทนปานกลาง ต้องเติมระหว่างวันบ้าง
• เหมาะกับใคร: คนที่ชอบลิปเนื้อซอฟต์แมตต์ที่ให้ความรู้สึกเบาสบายปาก สีสวยดูแพง และช่วยบำรุงไปในตัว
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada (บางร้านค้าทางการ)
  • ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Bobbi Brown ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
• ช่วงราคา: ประมาณ 1,000 - 1,300 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "Crushed Lip Color คือลูกรัก! เนื้อดีมาก เบาสบายปาก สีสวยทุกสีเลยค่ะ"

6. 4U2 - Mineral Tint Oil / Balm Dewy Tint Balm

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอางไทยยอดนิยม คุณภาพดี ราคาเป็นมิตร
• สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Mineral Tint Oil, Balm Dewy Tint Balm
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: เป็นลิปทินต์ออยล์/บาล์มที่ให้ความฉ่ำวาว ปากดูอวบอิ่มแบบสาวเกาหลี มีส่วนผสมบำรุง เช่น วิตามิน E, แร่ธาตุ หรือ Hyaluron ช่วยลดริ้วรอย ร่องปาก ทำให้ปากไม่แห้งแตก สีสวยชัด กลบสีปากเดิมได้ ราคาถูกและดี หาซื้อง่ายมาก
  • ข้อเสีย: ความติดทนอาจจะน้อยกว่าลิปแมตต์ แต่ยังทิ้งสเตนสีไว้
• เหมาะกับใคร: คนที่มองหาลิปบำรุงปากราคาหลักร้อย คุณภาพดี ให้ความฉ่ำวาวแบบธรรมชาติ ไม่ทำให้ปากแห้ง
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee
  • ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Beautrium, ร้านเครื่องสำอางทั่วไป
• ช่วงราคา: ประมาณ 100 - 300 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "4U2 Mineral Tint Oil ดีมาก! ปากดูฉ่ำ ไม่แห้งเลย สีสวยทุกสี ที่สำคัญคือถูกมากกก" "Balm Dewy Tint Balm คือลูกรักคนใหม่ ปากอิ่มน้ำ สีระเรื่อๆ สวยกำลังดีค่ะ"

7. Cathy Doll - Filler Lip Booster / Hyaluron Lip Mask

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอางไทยที่โด่งดังและเป็นไวรัลบ่อยๆ
• สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Filler Lip Booster, 2% Hyaluron Lip Mask
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: Filler Lip Booster ช่วยให้ปากดูอิ่มฟู ส่วน Hyaluron Lip Mask เป็นลิปมาสก์เนื้อฉ่ำที่อัดแน่นด้วย Hyaluron 2%, Vitamin E, Ceramide ช่วยบำรุงปากที่แห้งลอกให้ชุ่มชื้น นุ่มฟูข้ามคืน ราคาเป็นมิตรสุดๆ
  • ข้อเสีย: Filler Lip Booster อาจจะไม่ได้ให้สีชัดมากนัก เน้นเรื่องความอิ่มฟู
• เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการลิปที่ช่วยเรื่องปากอิ่มฟู หรือลิปมาสก์สำหรับบำรุงปากแห้งเป็นพิเศษ ในราคาประหยัด
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee
  • ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Beautrium, Karmarts Shop, ร้านสะดวกซื้อ (7-Eleven บางสาขา)
• ช่วงราคา: ประมาณ 100 - 300 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ซื้อ Filler Lip Booster ตามรีวิว ดีจริงค่ะ ปากดูอิ่มขึ้นทันที" "Hyaluron Lip Mask ใช้แล้วปากนุ่มฟูมากตอนตื่นนอนค่ะ"

8. Eglips - Melting Matte Lipstick (อาจต้องพรีออเดอร์หรือหาในร้านที่นำเข้า)

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอางจากเกาหลี คุณภาพดี ราคาเข้าถึงง่าย (แม้จะไม่ฮิตเท่าเมื่อก่อน แต่บางรุ่นยังน่าสนใจ)
• สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Melting Matte Lipstick
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: เป็นลิปแมตต์เนื้อนุ่มละลาย ทาง่าย ไม่ทำให้ปากแห้งตกร่อง เม็ดสีชัดเจน ติดทนพอสมควร
  • ข้อเสีย: อาจจะต้องหาซื้อยากกว่าแบรนด์ที่วางขายทั่วไปในไทย
• เหมาะกับใคร: คนที่ชอบลิปแมตต์เนื้อดี ไม่แห้งตกร่อง
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Shopee, Lazada (ร้านค้าที่นำเข้าสินค้าเกาหลี)
• ช่วงราคา: ประมาณ 200 - 400 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "เคยใช้ Eglips Melting Matte แล้วชอบเนื้อมาก มันแมตต์แต่ไม่แห้งเลย สีก็สวยค่ะ"

9. Revlon - Super Lustrous Lipstick (Creme / Pearl)

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอาง Drugstore เก๋าเกมจากอเมริกา มีลิปสติกในตำนานหลายรุ่น
• สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Super Lustrous Lipstick เนื้อ Creme หรือ Pearl
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: เป็นลิปสติกเนื้อครีม/มุก ที่ให้ความชุ่มชื้น ไม่ทำให้ปากแห้ง สีสวยชัด ราคาดี หาซื้อง่ายมาก มีเฉดสีให้เลือกเยอะมากๆ
  • ข้อเสีย: อาจจะไม่ติดทนเท่าลิปแมตต์หรือลิปทินต์ ต้องเติมระหว่างวัน
• เหมาะกับใคร: คนที่ชอบลิปสติกเนื้อครีม/มุก ที่ให้ความชุ่มชื้น สีสวยคลาสสิก และหาซื้อง่ายในราคาเบาๆ
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee
  • ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Beautrium, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านสะดวกซื้อ
• ช่วงราคา: ประมาณ 100 - 300 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "Revlon Super Lustrous คือลิปสามัญประจำบ้าน เนื้อดี สีสวย ราคาถูก ใช้มาตั้งแต่สาวๆ แล้วค่ะ"

10. L'Oreal Paris - Color Riche Series (เน้นรุ่นที่ให้ความชุ่มชื้น)

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอางยักษ์ใหญ่จากฝรั่งเศส มีผลิตภัณฑ์หลากหลายและคุณภาพดี
• สินค้ารุ่น/ซีรีส์เด่น: Color Riche (เลือกรุ่นที่เน้นความชุ่มชื้น เช่น Creamy, Satin, Shine)
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: มีลิปสติกหลายเนื้อหลายสูตรให้เลือก หลายรุ่นมีส่วนผสมบำรุงที่ช่วยให้ปากไม่แห้ง สีสวย เม็ดสีชัด หาซื้อง่าย คุณภาพดีสมราคา
  • ข้อเสีย: ต้องเลือกรุ่นดีๆ เพราะบางรุ่นอาจจะไม่ได้เน้นความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ
• เหมาะกับใคร: คนที่มองหาลิปสติกคุณภาพดีจากแบรนด์น่าเชื่อถือ มีสีและเนื้อให้เลือกเยอะ ในราคาที่เข้าถึงง่าย
• แนะนำช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee
  • ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Beautrium, ซูเปอร์มาร์เก็ต, เคาน์เตอร์ L'Oreal
• ช่วงราคา: ประมาณ 200 - 500 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ลิป L'Oreal Color Riche รุ่นเนื้อครีมคือดีมากค่ะ สีสวย บำรุงปากได้ดี ไม่ตกร่องเลย"

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์สาว 40+!

Q: ปากแห้งมาก เป็นร่องลึก ควรใช้ลิปสติกเนื้อแบบไหนดีคะ?
A: แนะนำให้เน้นลิปสติกที่มีส่วนผสมบำรุงเยอะๆ ค่ะ เช่น ลิปบาล์มมีสี, ลิปเนื้อครีม, เนื้อซาติน หรือลิปออยล์ เลี่ยงลิปแมตต์ที่แห้งสนิทไปก่อนนะคะ หรือถ้าชอบลิปแมตต์จริงๆ ให้ทาลิปบาล์มบำรุงแบบหนาๆ ก่อน แล้วซับออกเบาๆ ค่อยลงลิปแมตต์สูตรที่ระบุว่าไม่ทำให้ปากแห้งค่ะ

Q: ทาลิปสติกแล้วสีไม่สวยเหมือนตอนลองที่เคาน์เตอร์ ทำไงดีคะ?
A: สีปากจริงของแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ ก่อนทาลิปสติกสี ให้ลองทา ลิปคอนซีลเลอร์ หรือรองพื้นที่เหลือจากการทาหน้า กลบบริเวณริมฝีปากเบาๆ ก่อน เพื่อปรับสีปากให้เป็นสีเดียวกัน จะช่วยให้ทาสีลิปสติกออกมาตรงกับเฉดจริงมากขึ้นค่ะ หรืออีกวิธีคือเลือกเฉดสีลิปที่ใกล้เคียงกับสีปากธรรมชาติของเรา (MLBB)

Q: ซื้อลิปสติกออนไลน์จากร้านที่ไม่ใช่ Official Store ไว้ใจได้ไหมคะ?
A: ต้องระวังค่ะ! โดยเฉพาะแบรนด์ดังๆ อาจมีของปลอมระบาด ถ้าไม่ใช่ร้าน Official Store ให้เช็คชื่อร้าน รีวิวร้าน และรีวิวสินค้าจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ เปรียบเทียบราคากับร้านอื่นๆ ด้วย ถ้าถูกจนน่าตกใจให้สงสัยไว้ก่อนค่ะ ทางที่ดีที่สุดคือซื้อจากร้านค้าทางการหรือตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้

Q: นอกจากลิปสติกแล้ว มีผลิตภัณฑ์บำรุงปากอะไรที่ควรใช้เสริมไหมคะ?
A: มีค่ะ! แนะนำให้ใช้ ลิปมาสก์ ทาหนาๆ ก่อนนอน จะช่วยฟื้นฟูริมฝีปากที่แห้งเสียได้ดีมาก หรือ ลิปออยล์ ที่มีส่วนผสมบำรุง ก็ช่วยให้ปากชุ่มชื้นดูอิ่มฟูระหว่างวันได้ค่ะ

สรุปและคำแนะนำ: เลือก "ลิปสติก" คู่ใจวัย 40+

เป็นไงกันบ้างคะสาวๆ พอจะได้ไอเดียลิปสติกแท่งใหม่สำหรับปี 2025 กันแล้วเนอะ? การเลือกลิปสติกสำหรับวัย 40+ ไม่ได้ยากอย่างที่คิด แค่ใส่ใจเรื่องการบำรุงเป็นพิเศษ และเลือกเนื้อสัมผัสที่เหมาะกับริมฝีปากเราค่ะ

• ถ้า ปากแห้งมาก เน้นบำรุงฉ่ำๆ แนะนำ rom&nd Glasting Melting Balm, 4U2 Mineral Tint Oil / Balm Dewy Tint Balm หรือ Cathy Doll 2% Hyaluron Lip Mask ค่ะ
• ถ้า อยากได้สีชัด ติดทน แต่ไม่ทำให้ปากแห้ง ต้องลอง KIKO MILANO Unlimited Double Touch (ใช้คู่กลอส), KATE TOKYO Lip Monster หรือ Maybelline Super Stay Vinyl Ink ค่ะ
• ถ้าชอบ เนื้อซอฟต์แมตต์ เบาสบายปาก แนะนำ BOBBI BROWN Crushed Lip Color ค่ะ
• ถ้ามองหา ลิปสติกคลาสสิก คุณภาพดี หาซื้อง่าย ในราคาเป็นมิตร ลองดู Revlon Super Lustrous หรือ L'Oreal Paris Color Riche รุ่นเน้นชุ่มชื้นค่ะ
• ถ้าอยาก สนับสนุนแบรนด์ไทย คุณภาพเกินราคา พุ่งตัวไปที่ 4U2 หรือ Cathy Doll ได้เลยค่ะ

สิ่งสำคัญคืออย่าลืมดูแลริมฝีปากอย่างสม่ำเสมอ ทาลิปบาล์มบำรุงทั้งกลางวันและกลางคืน ดื่มน้ำเยอะๆ และถ้าต้องออกแดด อย่าลืมมองหาลิปที่มีสารกันแดดด้วยนะคะ! จะได้มีปากสวยๆ อวบอิ่ม ไม่ตกร่อง ทาลิปสติกสีไหนก็สวยปังสมวัยค่ะ!

มาเม้าท์มอยกันหน่อย! แชร์ลิปสติกตัวโปรดหน่อยค่า!

สาวๆ คนไหนมีลิปสติกตัวไหนที่เป็นลูกรักวัย 40+ หรือมีเคล็ดลับดูแลริมฝีปากยังไงไม่ให้ตกร่อง มาแชร์ประสบการณ์กันในคอมเมนต์ได้เลยนะคะ! ป้าและเพื่อนๆ คนอื่นรออ่านอยู่น้าาา 👇

ถ้าใครอยากได้พิกัดร้านค้าออนไลน์ หรือลิงก์โปรโมชั่นเด็ดๆ ของลิปสติกที่ป้าแนะนำ พิมพ์คำว่า "อยากได้พิกัด!" ไว้เลย เดี๋ยวป้าจะรวบรวมมาให้เป็นพิเศษจ้า!

แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ ขอให้ทุกคนมีริมฝีปากสวยอิ่มฟู ดูอ่อนเยาว์กันทุกคนค่า! สวัสดีค่า 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• ลิปปากสวยที่สุดของปี✨ FAVORITE 'Lipstick' of the year 2024 ...
• 【23 Lipsticks💄🏆 of 2024】รีวิวลิปทั้งหมดที่ซื้อมาทั้งปี เลือก1 ...
• ลิปบำรุงปากแห้งที่ถูกและดีสุดๆ 💖
• รีวิวลิปสีฉ่ำสุดปัง ที่ทุกคนต้องลอง!
• ปากแตก ทาลิปไม่สวย สิ่งนี้ช่วยได้!