อัปเดตราคาที่นอนสปริง ปี 2025 ยี่ห้อไหนดี นอนสบาย ไม่ปวดหลัง?


สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องสำคัญใกล้ตัวที่เกี่ยวกับการนอนหลับของเราโดยตรงเลยจ้า นั่นก็คืออออ "ที่นอนสปริง" นั่นเอง! เชื่อว่าหลายๆ คนกำลังมองหาที่นอนใหม่ หรืออยากอัปเกรดที่นอนเดิมให้หลับสบายขึ้น ไม่ต้องทนปวดหลังตื่นมาบ่นตอนเช้าอีกแล้วใช่ไหมล่ะ? ปี 2025 นี้มีที่นอนสปริงยี่ห้อไหนน่าสนใจ ราคาเป็นยังไงบ้าง แล้วจะเลือกแบบไหนให้นอนฟิน ไม่ปวดหลัง วันนี้เราจะมาอัปเดตให้ฟังแบบหมดเปลือก พร้อมเคล็ดลับช้อปปิ้งฉบับคนไทยใจนักสู้ ไปดูกันเลย!
1. รู้จักกับที่นอนสปริง... สวรรค์ของการพักผ่อน?
เอาล่ะ เริ่มต้นกันที่เจ้า ที่นอนสปริง นี่มันคืออะไร? พูดง่ายๆ มันคือที่นอนที่มีโครงสร้างหลักเป็น "สปริง" หรือขดลวดโลหะนั่นแหละจ้า ซึ่งเจ้าสปริงนี่แหละที่เป็นหัวใจหลักในการรองรับน้ำหนักตัวของเราเวลาที่นอนลงไป โดยทั่วไปที่นอนสปริงก็จะมีหลายแบบนะ แต่ที่นิยมๆ ก็จะมี Bonnel Spring ที่สปริงเชื่อมต่อกันทั้งผืน จะมีความเด้งๆ หน่อย กับ Pocketed Spring ที่สปริงแต่ละลูกจะถูกห่อหุ้มด้วยผ้าแยกกันอิสระ แบบนี้จะช่วยลดการสั่นสะเทือนได้ดีกว่า ถ้าคนนอนข้างๆ พลิกตัว เราก็จะไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ เหมาะสำหรับคนที่มีคู่นอนจ้า
ที่นอนสปริงเหมาะกับใครน่ะเหรอ? ก็เหมาะกับคนที่ชอบความรู้สึกแบบ เด้งๆ คืนตัวไว ไม่จมจนเกินไป แล้วก็ต้องการ การรองรับน้ำหนักที่ดี ยิ่งที่นอนสปริงคุณภาพดีๆ เนี่ย จะช่วยกระจายน้ำหนักได้ดี ทำให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรง ไม่ปวดเมื่อยตอนตื่นจ้า นอกจากนี้ ที่นอนสปริงยังมีข้อดีเรื่อง การระบายอากาศที่ดี กว่าที่นอนประเภทอื่น เพราะมีช่องว่างระหว่างสปริง ทำให้นอนแล้วไม่ค่อยร้อน เหมาะกับอากาศเมืองไทยสุดๆ!
ส่วนเรื่องยี่ห้อที่นอนสปริงดังๆ ในตลาดไทยก็มีเพียบเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ไทยที่คุ้นเคยกันดี หรือแบรนด์ต่างประเทศที่นำเข้ามา อย่างเช่น Dunlopillo, Slumberland, Sealy, Omazz, Lady Americana, Synda, Lotus, Satin, Akemi Sleepselect และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ละยี่ห้อก็จะมีเทคโนโลยีสปริงและวัสดุเสริมที่แตกต่างกันไป ทำให้ได้ฟีลลิ่งการนอนที่ไม่เหมือนกันเลยจ้า
2. อัปเดตราคาที่นอนสปริง ปี 2025... งบเท่าไหร่ดีนะ?
มาถึงเรื่องสำคัญที่ทุกคนอยากรู้! ราคาที่นอนสปริงในปี 2025 นี้เนี่ย บอกเลยว่ามีหลากหลายมากๆ จ้า ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยสุดๆ ทั้งยี่ห้อ รุ่น เทคโนโลยีสปริง วัสดุเสริมที่ใช้ (เช่น ยางพารา เมมโมรี่โฟม) ความหนา และขนาดของที่นอน (3.5 ฟุต, 5 ฟุต, 6 ฟุต)
ถ้าเอาแบบคร่าวๆ สุดๆ นะ ราคาที่นอนสปริงในตลาดไทยปีนี้เนี่ย เริ่มต้นตั้งแต่หลัก พันบาทกลางๆ ไปจนถึงหลักหมื่นปลายๆ หรืออาจจะทะลุหลักแสน ไปเลยก็มีจ้า
- รุ่นเริ่มต้น/ราคาเข้าถึงง่าย: พวกนี้มักจะเป็นสปริงแบบ Bonnel หรือสปริงที่ไม่ได้ซับซ้อนมาก ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 - 15,000 บาท (฿)
- รุ่นมาตรฐาน/ยอดนิยม: มักจะเป็น Pocketed Spring ที่มีคุณภาพดีขึ้น มีการเสริมวัสดุอื่นๆ เข้าไปช่วยรองรับ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 15,000 - 40,000 บาท (฿)
- รุ่นพรีเมียม/ไฮเอนด์: ใช้เทคโนโลยีสปริงขั้นสูง มีการเสริมวัสดุธรรมชาติหรือเมมโมรี่โฟมเกรดดี มีความหนาเป็นพิเศษ ราคาก็จะพุ่งไปที่ 40,000 บาท (฿) ขึ้นไป จนถึงหลักแสนเลยจ้า
แหล่งที่เราจะไปส่องราคาที่นอนสปริงได้ง่ายๆ ก็แน่นอนว่าต้องเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่ในไทยเลยจ้า ไม่ว่าจะเป็น Lazada, Shopee หรือจะเป็นเว็บของห้างสรรพสินค้าอย่าง Central Online, Robinson Online หรือตามเว็บไซต์ของร้านค้าใหญ่ๆ อย่าง Big C Online, The Mall Online ก็มีให้เลือกเพียบเลยนะ ลองใช้ฟิลเตอร์เลือกประเภทยี่ห้อ หรือช่วงราคาที่เราตั้งไว้ได้เลย สะดวกสุดๆ!
ส่วนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างราคานานาชาติกับราคาขายในไทยเนี่ย ก็เป็นเรื่องปกติจ้า เพราะต้องมีเรื่องภาษี ค่าขนส่ง ค่าการตลาดต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้บางทีราคาในไทยอาจจะสูงกว่าราคาในต่างประเทศเล็กน้อย อันนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้นะ
3. เทียบราคากับยี่ห้ออื่น... อันไหนคุ้มกว่ากันนะ?
ทีนี้ลองมาดูกันว่าถ้าเทียบที่นอนสปริงยี่ห้อต่างๆ หรือเทียบกับที่นอนประเภทอื่นในราคาใกล้เคียงกัน อันไหนจะคุ้มค่ากว่ากันนะ?
สมมติว่าเราตั้งงบไว้ที่ประมาณ 20,000 บาท สำหรับที่นอนขนาด 5 ฟุต เราอาจจะได้ที่นอนสปริงแบบ Pocketed Spring จากยี่ห้อระดับกลางๆ ที่มีโฟมหรือใยสังเคราะห์เสริมด้านบน เพื่อเพิ่มความนุ่มสบาย
ในขณะที่ถ้ามองหายี่ห้อพรีเมียมในราคานี้ อาจจะได้แค่รุ่นเริ่มต้นของยี่ห้อนั้นๆ ซึ่งอาจจะยังไม่ใช่เทคโนโลยีสปริงขั้นสูง หรือวัสดุเสริมเกรดท็อปสุดของเค้า
หรือถ้าเทียบกับที่นอนยางพาราแท้ในงบ 20,000 บาท อาจจะได้แค่ความหนาที่ไม่มากนัก หรือเป็นยางพาราแบบฉีดขึ้นรูป ไม่ใช่ยางพาราอัดแน่นทั้งก้อน ซึ่งความแน่นและการรองรับก็จะแตกต่างกันไป
ดังนั้น การเปรียบเทียบราคาเนี่ย ต้องดูที่ สเปก เป็นหลักเลยจ้า ไม่ใช่แค่ยี่ห้อหรือราคาอย่างเดียว บางทียี่ห้อที่อาจจะไม่ดังเท่าแบรนด์อินเตอร์ แต่ให้สเปกสปริงและวัสดุเสริมที่ดีกว่าในราคาเท่ากัน ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าก็ได้นะ หรือบางยี่ห้ออาจจะเน้นความหรูหรา ดีไซน์สวยงาม ใช้ผ้าหุ้มอย่างดี ราคาก็อาจจะสูงกว่าสเปกที่ใกล้เคียงกันของยี่ห้ออื่นจ้า
4. ซื้อที่นอนแล้วได้อะไรแถมบ้าง? ประกันเป็นไง?
เวลาซื้อที่นอนเนี่ย นอกจากจะได้ที่นอนแล้ว เรามักจะได้ของแถมหรือบริการเสริมมาด้วยนะ อันนี้ก็เป็นอีกจุดที่คนไทยอย่างเราให้ความสำคัญมากๆ เลย เพราะรู้สึกว่าได้อะไรเพิ่มเติมนอกเหนือจากสินค้าหลัก อิอิ
สิ่งที่ควรถามหรือเช็คตอนซื้อที่นอนสปริงก็คือ:
- ค่าจัดส่ง: ส่วนใหญ่ร้านค้าใหญ่ๆ หรือ Official Store บนออนไลน์มักจะมีบริการ จัดส่งฟรี ให้ถึงบ้านเลยนะ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนต่างจังหวัดก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือมีเงื่อนไขเรื่องระยะทาง ก็ต้องเช็คดีๆ จ้า บางทีมีบริการยกขึ้นห้องให้ด้วยนะ อันนี้ดีงามมาก เพราะที่นอนใหญ่และหนักสุดๆ!
- ระยะเวลารับประกัน: อันนี้ สำคัญมากกกก! ที่นอนสปริงคุณภาพดีมักจะมีการรับประกันโครงสร้างสปริงที่ยาวนานมากๆ เลยนะ ตั้งแต่ 10 ปี ไปจนถึง 15 ปี หรือบางยี่ห้ออาจจะรับประกันตลอดอายุการใช้งาน ก็มีจ้า! การรับประกันครอบคลุมอะไรบ้าง? ส่วนใหญ่จะรับประกันเรื่องโครงสร้างสปริงที่ยุบตัวผิดปกติจนเห็นได้ชัด (ตามเงื่อนไขของแต่ละยี่ห้อ) ไม่ใช่เรื่องความนุ่มแน่นที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา หรือการใช้งานที่ไม่ถูกต้องนะจ๊ะ อ่านรายละเอียดการรับประกันให้เข้าใจก่อนซื้อนะจ๊ะ
- ของแถม: อันนี้แล้วแต่โปรโมชั่นเลยจ้า แต่ของแถมยอดฮิตที่มักจะมาพร้อมที่นอนก็คือ หมอนหนุน (บางทีให้มา 1-2 ใบ), หมอนข้าง (ถ้าซื้อไซส์ใหญ่), ผ้ารองกันเปื้อนที่นอน หรือบางทีก็มี ชุดเครื่องนอน (ผ้าปู ปลอกหมอน) แถมมาให้ด้วยนะ อันนี้ก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะเลยจ้า
- คูปอง/โปรโมชั่นอื่นๆ: เช็คให้ดีว่ามีคูปองส่วนลดเพิ่ม หรือมีโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต หรือผ่อน 0% ได้ด้วยหรือเปล่า อันนี้ก็ช่วยให้เราจ่ายสบายกระเป๋ามากขึ้นจ้า
5. โปรโมชั่นไหนเด็ด? ซื้อช่วงไหนคุ้มสุด?
ถ้าอยากได้ที่นอนสปริงในราคาที่ดีที่สุด ช่วงเวลาแห่งโปรโมชั่นนี่แหละคือโอกาสทองของเราจ้า! ร้านค้าออนไลน์และห้างสรรพสินค้าในไทยเค้าจัดหนักจัดเต็มกันเกือบทั้งปีเลยนะ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลช้อปปิ้งยอดฮิต:
- Double Digit Sales: ไม่ว่าจะเป็น 3.3, 4.4, 5.5 ไปจนถึงมหาศึกแห่งปีอย่าง 11.11 และ 12.12 บน Lazada และ Shopee ช่วงนี้คือลดราคากันแบบไม่ลืมหูลืมตา! แบรนด์ที่นอนต่างๆ ก็มักจะเข้าร่วมโปรโมชั่นด้วยนะ มีทั้งส่วนลดสินค้า โค้ดส่วนลดจากแพลตฟอร์ม โค้ดส่วนลดจากร้านค้า แถมบางทีมีของแถมพิเศษเพิ่มอีกด้วยนะ
- เทศกาลไทย: อย่างช่วง ปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือ ปีใหม่สากล ก็มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาเพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขจ้า เป็นช่วงที่เราจะได้ช้อปของใหม่เข้าบ้านรับปีใหม่พอดีเลย
- Mid-Year Sale: ช่วงกลางปีก็เป็นอีกช่วงที่นิยมจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าต่างๆ รวมถึงที่นอนด้วยนะ
- โปรโมชั่นจาก Official Store/Flagship Store: บน Lazada และ Shopee เนี่ย แบรนด์ที่นอนดังๆ เค้ามักจะมี Official Store หรือ Flagship Store เป็นของตัวเอง ซึ่งร้านเหล่านี้มักจะมีโปรโมชั่น หมุนเวียนมาให้เราช้อปบ่อยๆ เลยนะ ไม่ต้องรอถึงช่วงเทศกาลใหญ่ๆ ก็มีส่วนลดให้เห็นอยู่เรื่อยๆ จ้า
สรุปแล้ว ถ้าไม่รีบมากๆ การ รอซื้อช่วงโปรโมชั่น เนี่ย คุ้มค่ากว่าแน่นอนจ้า! ติดตามข่าวสารจากร้านค้า หรือแบรนด์ที่เราสนใจไว้ให้ดี จะได้ไม่พลาดดีลเด็ดๆ นะ!
6. คนไทยใช้แล้วว่าไงบ้าง? รีวิวจากผู้ใช้จริง!
จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวของคนไทยที่ใช้ที่นอนสปริงมาเนี่ย เสียงตอบรับก็มีหลากหลายนะจ๊ะ ทั้งดีและที่ต้องพิจารณา
ข้อดีที่คนไทยมักจะพูดถึง:
- เด้งๆ นอนสบาย: หลายคนชอบฟีลลิ่งของที่นอนสปริงที่เด้งคืนตัวได้ดี ไม่รู้สึกจมเกินไป
- ไม่ร้อน: ด้วยความที่สปริงมีช่องว่างเยอะ ทำให้ระบายอากาศได้ดี นอนแล้วไม่ค่อยอบ ไม่ร้อนหลัง
- ราคาเข้าถึงง่าย: มีตัวเลือกหลากหลายช่วงราคา ทำให้คนที่มีงบประมาณจำกัดก็สามารถซื้อที่นอนสปริงดีๆ ได้
- รองรับน้ำหนักได้ดี (ในรุ่นที่ดี): ที่นอนสปริงคุณภาพดีจะช่วยรองรับสรีระและน้ำหนักได้ดี ทำให้ไม่ปวดหลัง
ข้อที่ต้องพิจารณา (และบางคนเจอว่าปวดหลัง):
- สปริงยุบ/ยวบ: ถ้าเลือกที่นอนสปริงที่คุณภาพไม่ดี หรือใช้ไปนานๆ สปริงอาจจะเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดการยุบตัวเป็นแอ่งตรงกลาง ซึ่งนี่แหละคือสาเหตุหลักของอาการปวดหลังเลยจ้า!
- สั่นสะเทือน: ถ้าเป็นสปริงแบบ Bonnel เวลาคนนอนข้างๆ พลิกตัว อาจจะรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ชัดเจน ทำให้นอนหลับไม่สนิท
- ขอบที่นอนไม่แข็งแรง: บางรุ่นขอบที่นอนอาจจะไม่แน่น ทำให้เวลาเรานั่งตรงขอบแล้วจะไหลลง หรือรู้สึกไม่มั่นคง
ดังนั้น การเลือกที่นอนสปริงที่ดี และเหมาะกับสรีระของเรา เป็นเรื่องสำคัญมากๆ เลยนะ! การอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริงในไทยตามแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ก็ช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเยอะเลยจ้า
7. จะไปสอยที่นอนสปริงได้ที่ไหนบ้าง?
ช่องทางการซื้อที่นอนสปริงในไทยก็มีให้เลือกเยอะเลยนะจ๊ะ ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์:
- Official Website ของแบรนด์: แบรนด์ที่นอนส่วนใหญ่จะมีเว็บไซต์ของตัวเอง ซึ่งเราสามารถเข้าไปดูรายละเอียดสินค้า เช็คราคา และสั่งซื้อโดยตรงได้เลย ข้อดีคือมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้แน่นอน
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่: อย่างที่บอกไปแล้วว่า Lazada และ Shopee เนี่ยคือแหล่งรวมที่นอนสปริงจากหลากหลายยี่ห้อมากๆ ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีระบบการจ่ายเงินที่ปลอดภัย และมักจะมีโปรโมชั่นดีๆ อยู่เสมอ แต่ข้อเสียคือเราไม่ได้เห็นของจริงก่อนซื้อ ต้องพึ่งพารูปภาพ รายละเอียด และรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่น
- ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าเฟอร์นิเจอร์: อันนี้เป็นช่องทางออฟไลน์ที่เราสามารถไป ทดลองนอน ที่นอนจริงได้เลย! อันนี้สำคัญมากๆ นะ เพราะการได้นอนลองเองจะช่วยให้เรารู้ว่าที่นอนรุ่นนั้นนุ่มหรือแน่นแค่ไหน การรองรับเป็นยังไง เหมาะกับเราหรือเปล่า ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ เช่น Central, The Mall, Robinson มักจะมีแผนกเครื่องนอนที่มีที่นอนจากหลากหลายยี่ห้อให้เราเลือกดู เลือกนอนได้เต็มที่เลยจ้า นอกจากนี้ก็มีร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ใหญ่ๆ เช่น Index Living Mall, SB Design Square ที่มีที่นอนขายด้วยเหมือนกัน
- ร้านตัวแทนจำหน่าย: บางแบรนด์ก็จะมีร้านตัวแทนจำหน่ายกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ซึ่งก็เป็นอีกช่องทางที่เราสามารถไปดูสินค้าจริงได้นะ
ถ้าเป็นไปได้ การไป ทดลองนอนจริง ที่ร้านค้าก่อนตัดสินใจซื้อออนไลน์ก็เป็นไอเดียที่ดีมากๆ เลยนะจ๊ะ จะได้เลือกที่นอนที่ถูกใจและเหมาะกับสรีระของเราจริงๆ!
8. สรุป... ที่นอนสปริงน่าซื้อไหม? ใครควรกดใส่ตะกร้า?
มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ที่นอนสปริงยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในปี 2025 นี้อยู่ไหม? คำตอบคือ ยังน่าซื้อมากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่:
- ชอบที่นอนที่มีความยืดหยุ่น เด้งๆ คืนตัวไว
- ต้องการที่นอนที่ระบายอากาศได้ดี ไม่ร้อน
- มีงบประมาณที่หลากหลาย ตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสน
- ต้องการที่นอนที่มีการรองรับน้ำหนักที่ดี (แต่ต้องเลือกที่คุณภาพดีนะ!)
ที่นอนสปริงตอบโจทย์แน่นอนจ้า! มันมีความ คุ้มค่า ในแง่ของราคาต่อประสิทธิภาพการรองรับและการระบายอากาศ โดยเฉพาะในรุ่น Pocketed Spring คุณภาพดีๆ
ใครที่ควรกดที่นอนสปริงใส่ตะกร้า?
- คนที่ชอบฟีลลิ่งแบบเด้งๆ ไม่จม
- คนที่นอนขี้ร้อน เหงื่อออกง่าย
- คนที่มีงบประมาณที่ต้องการความคุ้มค่า
- คนที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องปวดหลังมาก่อน (หรือถ้ามี ก็ต้องเลือกรุ่นที่เน้นการรองรับเป็นพิเศษ)
แล้วถ้ามีปัญหาปวดหลังล่ะ? ถ้าคุณมีปัญหาปวดหลังเรื้อรัง อาจจะต้องพิจารณาที่นอนสปริงรุ่นที่เน้นการรองรับสรีระเป็นพิเศษ หรืออาจจะต้องมองหาที่นอนประเภทอื่น เช่น ที่นอนยางพารา หรือที่นอนไฮบริดที่ผสมผสานสปริงกับวัสดุอื่นๆ เพื่อให้ได้การรองรับที่เหมาะสมกับอาการปวดหลังของคุณโดยเฉพาะจ้า การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องที่นอน หรือคุณหมอก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามนะ!
โดยรวมแล้ว ที่นอนสปริงยังคงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนจำนวนมาก ด้วยความหลากหลายของราคาและสเปก ทำให้เราสามารถเลือกที่นอนที่เหมาะกับงบและความต้องการของเราได้ไม่ยากเลยจ้า!
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อที่นอนสปริงในปี 2025 ของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้นอนหลับฝันดี ไม่ปวดหลังกันทุกคนค่า! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ครีม Smooth E ราคาล่าสุดปี 2025 แก้ปัญหาผิว จุดด่างดำ รอยแผลเป็น ได้จริงไหม?
Toyota Sienna ราคาล่าสุดในไทย อัปเดตทุกรุ่นย่อยก่อนใคร!
Physiogel AI Cream ราคาล่าสุด หาซื้อได้ที่ไหน ลดราคาอยู่ไหม?
มอเตอร์ไซค์ Kawasaki Z400 ราคาล่าสุด ผ่อนดาวน์เริ่มต้นเท่าไหร่?
ราคา Dice Cup อุปกรณ์เสริมสำหรับ Board Game ซื้อแบบไหนดี
เป๊ปซี่ขวดเล็ก ราคาล่าสุด ซื้อแบบแพ็คถูกกว่าจริงไหม คุ้มกว่า?