OBD2 Bluetooth ราคาล่าสุด ซื้อรุ่นไหนดี เช็คข้อมูลรถง่ายๆ ด้วยตัวเอง

สวัสดีค่าาา พ่อแม่พี่น้องชาวสองล้อ เอ้ย! สี่ล้อทั้งหลาย วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่อง Gadget เจ๋งๆ ที่คนมีรถต้องร้องว้าววว กับเจ้า OBD2 Bluetooth Adapter หรือเรียกง่ายๆ ว่า "หมอประจำรถแบบพกพา" ที่จะช่วยให้เราเช็คข้อมูลรถได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ไม่ต้องง้อช่างตลอดเวลา แถมประหยัดตังค์ในกระเป๋าไปได้อีกเพียบ! ใครที่ชอบดูแลรถเอง อยากรู้เรื่องรถตัวเองให้มากขึ้น หรือแค่ขี้เกียจไปศูนย์บ่อยๆ มามุงตรงนี้เลยจ้าาา

1. เจ้ากล่องจิ๋วนี้มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับเจ้า OBD2 Bluetooth Adapter กันก่อนเลย มันคืออุปกรณ์ขนาดเล็กๆ ที่เสียบเข้ากับช่อง OBD2 Port ของรถเรา (ส่วนใหญ่จะอยู่แถวๆ ใต้พวงมาลัย) แล้วเชื่อมต่อกับมือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ของเราผ่านทาง Bluetooth ความเจ๋งของมันคือ มันสามารถดึงข้อมูลต่างๆ จากกล่อง ECU (Engine Control Unit) หรือสมองกลของรถออกมาแสดงผลได้ ไม่ว่าจะเป็นรหัสความผิดปกติ (Diagnostic Trouble Codes - DTCs) ที่ทำให้ไฟ Check Engine โชว์, ค่าการทำงานต่างๆ ของเครื่องยนต์แบบ Real-time เช่น รอบเครื่อง, อุณหภูมิหม้อน้ำ, ความเร็ว, แรงดันแบตเตอรี่, อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน และอีกเพียบ!

เจ้าเครื่องนี้เหมาะมากๆ สำหรับ คนรักรถ ที่อยากรู้ใจรถตัวเอง, สาย DIY ที่ชอบซ่อมแซมดูแลรถเอง, หรือแม้แต่ คนใช้รถทั่วไป ที่อยากรู้ว่าอาการผิดปกติเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นมันคืออะไร ก่อนตัดสินใจนำรถเข้าอู่ เทคโนโลยี OBD หรือ On-Board Diagnostics เนี่ยมีมานานแล้วนะ เป็นมาตรฐานที่รถยนต์ส่วนใหญ่ทั่วโลกใช้เพื่อให้ช่างสามารถเข้าถึงข้อมูลรถเพื่อการซ่อมบำรุงได้ แต่พอมาเป็นเวอร์ชัน OBD2 ที่ใช้ร่วมกับ Bluetooth Adapter เนี่ย ก็ทำให้คนธรรมดาๆ อย่างเราเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ง่ายขึ้นเยอะเลยจ้า

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องสำคัญที่ทำให้หลายคนตาลุกวาว นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ OBD2 Bluetooth Adapter ในตลาดไทยเนี่ย ต้องบอกเลยว่ามีหลากหลายราคามากๆ ตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักพัน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ, คุณภาพชิป (ส่วนใหญ่จะใช้ชิปตระกูล ELM327), เวอร์ชัน Bluetooth (มีตั้งแต่ V1.5, V2.1, ไปจนถึง Bluetooth 4.0 หรือ 5.1) และฟังก์ชันเสริมต่างๆ

ถ้าเอาแบบเริ่มต้น งบน้อยๆ ก็มีตั้งแต่ ไม่ถึงร้อยบาท (฿) ก็หาซื้อได้แล้วจ้า! อันนี้จะเป็นรุ่นพื้นฐานที่ใช้ชิป ELM327 V2.1 หรือ V1.5 เก่าหน่อย แต่ก็พออ่านและลบโค้ดพื้นฐานได้นะ ส่วนรุ่นที่คุณภาพดีขึ้นมาหน่อย รองรับ Bluetooth เวอร์ชันใหม่ๆ เสถียรขึ้น ก็จะขยับราคาขึ้นมาเป็น หลักร้อยบาท (฿) ประมาณ 300-800 บาท ไปจนถึงรุ่นแบรนด์ดีๆ หรือมีฟังก์ชันพิเศษ เช่น รองรับรถบางยี่ห้อเป็นพิเศษ หรือมีแอปเฉพาะของตัวเอง ก็อาจจะราคา หลักพันบาท (฿) ขึ้นไปเลยก็มีนะ (เช่น OBDLink MX+ ราคาเป็นพันกว่าบาท หรือบางรุ่นหลายพันเลย)

แหล่งช้อปปิ้งหลักๆ ในไทยที่หาซื้อเจ้าสิ่งนี้ได้ง่ายสุดๆ ก็คือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Lazada หรือ Shopee เข้าไปเสิร์ชคำว่า "OBD2 Bluetooth" หรือ "ELM327 Bluetooth" ได้เลย เพียบ! ส่วนร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือร้านขายอะไหล่รถยนต์บางทีก็มีขายนะ แต่ตัวเลือกอาจจะไม่เยอะเท่าออนไลน์

ส่วนเรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างราคานานาชาติกับราคาไทยเนี่ย สำหรับเจ้าพวก OBD2 Adapter รุ่นทั่วไปที่ราคาไม่สูงมาก ส่วนใหญ่ราคาในไทยก็จะใกล้เคียงหรือบวกเพิ่มค่าขนส่ง/ภาษีเล็กน้อย ไม่ได้มีส่วนต่างหวือหวาเหมือนสินค้าเทคโนโลยีราคาสูงๆ จ้า

3. เทียบราคากับสินค้าประเภทเดียวกันแล้วเป็นไง?

ถ้าให้เทียบราคากับอุปกรณ์สแกนรถยนต์แบบมืออาชีพที่อู่ซ่อมรถใช้กันเนี่ย เจ้า OBD2 Bluetooth Adapter ราคาหลักร้อยถึงหลักพันถือว่า ถูกกว่าเยอะมากๆ เลยนะ! เครื่องสแกนแบบเต็มรูปแบบบางทีราคาเป็นหมื่นเป็นแสนก็มี ซึ่งฟังก์ชันมันก็จะละเอียดกว่า ทำอะไรได้เยอะกว่าพวก OBD2 Bluetooth ทั่วไปอยู่แล้ว แต่ถ้าเทียบกับ "สมาร์ทเกจ" ที่เป็นจอแยกออกมาแสดงค่าต่างๆ อันนั้นก็มีทั้งแบบที่ใช้ OBD2 เหมือนกัน ราคาจะหลากหลายตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันปลายๆ หรือหลายพันเลย อันนั้นจะเน้นการแสดงผลค่าต่างๆ บนหน้าจอแยกมากกว่า บางทีมีเมนูภาษาไทยในตัวด้วย แต่โดยรวมแล้ว ถ้าเน้นแค่การอ่าน/ลบโค้ด หรือดูค่าพื้นฐานแบบ Real-time ผ่านมือถือ เจ้า OBD2 Bluetooth Adapter เนี่ยถือว่า คุ้มค่า ที่สุดในแง่ราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงง่ายมากๆ จ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

อันนี้ต้องทำใจก่อนเลยว่าถ้าซื้อรุ่นราคาเบาๆ เนี่ย ส่วนใหญ่จะได้มาแค่ ตัว Adapter เพียวๆ เลยจ้า บางทีอาจจะมีแผ่น CD ที่มี Driver หรือโปรแกรมเก่าๆ แถมมาให้ (ซึ่งส่วนใหญ่แทบไม่ได้ใช้แล้ว) สิ่งที่เราต้องเตรียมเองหลักๆ คือ แอปพลิเคชัน บนมือถือสำหรับใช้คู่กับ Adapter ซึ่งก็มีให้เลือกเยอะมากๆ ทั้งฟรีและเสียเงิน เช่น Torque Pro (สำหรับ Android), Car Scanner ELM OBD2 (ใช้ได้ทั้ง Android และ iOS) หรือแอปอื่นๆ

ส่วนเรื่อง ค่าขนส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่จะมีให้เลือกทั้งแบบมีค่าส่งกับส่งฟรี ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของร้านค้าและแพลตฟอร์มนะ คนไทยอย่างเราชอบของฟรีอยู่แล้ว ก็ต้องเล็งร้านที่จัดโปรส่งฟรีสิ ถูกต้องมะ!

เรื่อง การรับประกัน เนี่ยสำหรับรุ่นราคาถูกมากๆ จากผู้ขายรายย่อยบนออนไลน์ ส่วนใหญ่จะ ไม่มีประกันศูนย์ จ้า อาจจะมีแค่ประกันร้านเล็กๆ น้อยๆ เช่น 7 วัน หรือ 30 วันแรก ซึ่งก็ต้องเช็คกับผู้ขายดีๆ แต่ถ้าเป็นรุ่นแบรนด์ดีๆ หน่อย หรือซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือมากๆ อาจจะมีประกันนานขึ้น เช่น 1 ปี หรือ 3 ปีก็มีนะ อันนี้แล้วแต่รุ่นและแหล่งที่ซื้อเลยจ้า คนไทยเราให้ความสำคัญกับการรับประกันมากๆ เพราะกลัวซื้อมาแล้วเสียไงล่ะเนอะ

ของแถมหรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีนะ อาจจะมีบ้างสำหรับบางร้านที่จัดโปรโมชั่น เช่น แถมซองใส่ หรือคูปองส่วนลดสำหรับการซื้อครั้งต่อไป อันนี้ต้องลองส่องๆ ดูเอาจ้า

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าใจเย็นได้ อยากได้ราคาดีๆ ก็ต้องเล็งช่วง โปรโมชั่นใหญ่ๆ ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเลยจ้า! เทศกาลลดราคาสุดฮิตของไทยอย่าง 11.11 หรือ 12.12 เนี่ย ร้านค้าต่างๆ มักจะงัดโปรโมชั่นเด็ดๆ มาลดราคาเพียบ รวมถึงเจ้า OBD2 Bluetooth Adapter ด้วย นอกจากนี้ ช่วงเทศกาลอื่นๆ เช่น สงกรานต์, ปีใหม่, หรือแม้แต่ โปรโมชั่นกลางเดือน ปลายเดือน ของแต่ละแพลตฟอร์มก็มีโอกาสเจอราคาดีๆ ได้เหมือนกันนะ

ร้านค้าบน Lazada หรือ Shopee เองก็มีจัดโปรโมชั่นลดราคาของตัวเองอยู่เรื่อยๆ ไม่จำเป็นต้องรอถึงเทศกาลใหญ่เสมอไปนะ ลองกดติดตามร้านค้าที่สนใจไว้ก็ได้ เผื่อมีโค้ดส่วนลดพิเศษเด้งมาให้ใช้

สรุปง่ายๆ คือ ถ้าไม่รีบใช้มากๆ การ รอซื้อช่วงโปรโมชั่น เนี่ยแหละคือทางเลือกที่ดีที่สุด มีโอกาสได้ของถูกลงเยอะเลยจ้า!

6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทยเป็นยังไงบ้างนะ?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวใน Shopee, Lazada หรือตามเว็บบอร์ดต่างๆ เสียงตอบรับจากผู้ใช้ในไทยเกี่ยวกับ OBD2 Bluetooth Adapter ส่วนใหญ่ค่อนข้างหลากหลายนะ ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ซื้อและราคาที่จ่ายไป แต่จุดที่คนไทยส่วนใหญ่พูดถึงบ่อยๆ คือ:

• ราคาถูก คุ้มค่า: อันนี้เป็นจุดเด่นที่สุดเลยจ้า เพราะในราคาไม่กี่ร้อยบาท ก็สามารถอ่าน/ลบโค้ดที่ทำให้ไฟเครื่องโชว์ได้แล้ว ถือว่าประหยัดเงินค่าเข้าอู่ไปได้เยอะ
• ใช้งานง่าย: แค่เสียบเข้าช่อง OBD2 แล้วเชื่อม Bluetooth กับมือถือ จากนั้นใช้แอปพลิเคชันสแกน ขั้นตอนไม่ซับซ้อนมาก คนที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถก็ทำได้
• ขนาดเล็ก พกพาง่าย: ตัว Adapter มีขนาดเล็กมากๆ จะเสียบทิ้งไว้ในรถตลอดก็ได้ หรือจะพกพาใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนก็สะดวก
• ช่วยให้รู้ปัญหารถเบื้องต้น: เวลาที่ไฟ Check Engine โชว์ มันช่วยให้เรารู้ได้ว่าโค้ดที่ขึ้นคืออะไร มีปัญหาตรงไหนเบื้องต้น ก่อนนำไปให้ช่างดู ทำให้เราพอมีความรู้ติดตัว ไม่โดนหลอกง่ายๆ
• ดูค่า Real-time ได้: หลายคนชอบฟังก์ชันดูค่าต่างๆ ขณะขับรถ เช่น อุณหภูมิหม้อน้ำ (สำคัญมากๆ ในเมืองไทยที่อากาศร้อน) รอบเครื่อง ความเร็ว ทำให้เรามอนิเตอร์สถานะรถได้ตลอด

แต่ก็มีข้อสังเกตบ้าง เช่น บางทีการเชื่อมต่อ Bluetooth อาจจะไม่เสถียรบ้างในบางรุ่น, แอปพลิเคชันบางตัวอาจจะต้องเสียเงินซื้อเวอร์ชันเต็มถึงจะใช้งานได้เต็มที่, หรือบางรุ่นอาจจะไม่รองรับรถบางยี่ห้อหรือบางรุ่นปี ก็ต้องเช็คข้อมูลรถตัวเองกับผู้ขายก่อนซื้อด้วยนะ

7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าแหล่งซื้อหลักๆ คือ ออนไลน์ จ้า โดยเฉพาะแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Shopee และ Lazada เหตุผลที่แนะนำสองที่นี้คือ:

• มีตัวเลือกเยอะมาก: มีร้านค้าและผู้ขายให้เลือกเพียบ หลายราคา หลายยี่ห้อ หลายสเปก
• เปรียบเทียบราคาได้ง่าย: สามารถกดเข้าไปดูราคาแต่ละร้าน เปรียบเทียบโปรโมชั่นก่อนตัดสินใจซื้อได้เลย
• มีรีวิวจากผู้ซื้อคนไทย: สามารถอ่านรีวิวจากคนที่เคยซื้อไปใช้จริงในไทยได้ ทำให้เราเห็นภาพรวมของสินค้าและบริการของร้านนั้นๆ
• ระบบการชำระเงินปลอดภัย: มีตัวเลือกการชำระเงินหลากหลาย และมีระบบที่ช่วยคุ้มครองผู้ซื้อ
• มีโปรโมชั่นและโค้ดส่วนลดบ่อยๆ: อย่างที่บอกไปว่ามีโปรตามเทศกาลหรือโปรโมชั่นของร้านค้าเอง ทำให้ได้ราคาดี

นอกจากนี้ ถ้าอยากเห็นของจริง ลองจับดูก่อน ก็ลองดูตามร้านขายอุปกรณ์ประดับยนต์ หรือร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เฉพาะทาง แต่จำนวนร้านที่ขายและตัวเลือกอาจจะน้อยกว่าออนไลน์นะ ส่วนราคาอาจจะสูงกว่าออนไลน์เล็กน้อย เพราะมีค่าใช้จ่ายในการหน้าร้านด้วยจ้า

8. สรุปหรือคำแนะนำเรื่องราคา

สรุปเลยนะ เจ้า OBD2 Bluetooth Adapter เนี่ย เป็น Gadget ที่ คุ้มค่ามากๆ ถ้าเทียบกับราคาที่จ่ายไป ไม่ว่าจะซื้อมารุ่นถูกๆ หลักร้อย หรือรุ่นดีๆ หลักพัน มันช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูลรถเบื้องต้นได้ง่ายขึ้น ประหยัดเงินค่าเข้าอู่ในบางกรณี และทำให้เรารู้ใจรถตัวเองมากขึ้น เหมาะสุดๆ กับคนที่อยากเริ่มต้นดูแลรถเอง หรืออยากมีอุปกรณ์ติดรถไว้เช็คความผิดปกติยามฉุกเฉิน

ถามว่าควรซื้อรุ่นไหนดี? ถ้า งบน้อย หรือแค่อยากลองใช้ดูก่อน รุ่นพื้นฐานราคาไม่กี่ร้อยบาทก็เพียงพอแล้วจ้า แค่เน้นว่าเลือกรุ่นที่ผู้ขายระบุว่ารองรับรถเรา และเลือกร้านที่มีรีวิวดีๆ หน่อย แต่ถ้าอยากได้ความเสถียรมากขึ้น รองรับ Bluetooth เวอร์ชันใหม่กว่า หรือมีฟังก์ชันพิเศษสำหรับรถยี่ห้อเราโดยเฉพาะ ก็อาจจะขยับไปดูรุ่นที่ราคาหลักร้อยปลายๆ หรือหลักพันต้นๆ รุ่นแพงมากๆ ก็มีนะ แต่ถ้าไม่ได้ต้องการฟังก์ชันระดับช่างมืออาชีพจริงๆ ก็อาจจะไม่จำเป็นสำหรับคนทั่วไปจ้า

โดยรวมแล้ว ซื้อเถอะ! มีติดรถไว้ไม่เสียหาย แถมยังช่วยให้เราเป็นเจ้าของรถที่ใส่ใจสุขภาพรถตัวเองมากขึ้นด้วยนะ!

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจเลือกซื้อ OBD2 Bluetooth Adapter ได้ง่ายขึ้นนะจ๊ะ ขอให้สนุกกับการเช็คข้อมูลรถ และดูแลรถคู่ใจให้อยู่กับเราไปนานๆ จ้า! ไปแล้วน้าาาา!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• อ่านค่าผิดปกติรถยนต์ผ่านมือถือ ราคาไม่ถึง 100 บาท
• รุ่นไหนใช้ได้บ้าง obd2 bluetooth elm327 มาฟังกันครับ ลบไฟโชว์ ...
• C-Drive MyCar อุปกรณ์ OBDII พร้อม Application ตัวเล็กแต่อ็อฟชัน ...
• ลองเล่น ELM327 OBD2 Bluetooth​Scanner​ ตัวล่ะ 115 บาท ...
• [Creader 3001] ลองใช้ OBD2 ลบ Code ดูตัวนี้ใช้ได้จริง ราคาไม่แพง