logo

เครื่องพิมพ์ Dot Matrix ราคาล่าสุด ปี 2568 เลือกซื้อรุ่นไหนดี ทนทาน ใช้งานคุ้ม

user avatar
ธนวัฒน์ อัครธนากุล·07/14/2025T05:16Z
点赞
เครื่องพิมพ์ Dot Matrix ราคาล่าสุด ปี 2568 เลือกซื้อรุ่นไหนดี ทนทาน ใช้งานคุ้ม

สวัสดีค่ะพี่น้องชาวไทยหัวใจไอที! วันนี้เจ๊จะพามาคุยเรื่องปริ้นเตอร์รุ่นเก๋า แต่ยังเก๋าไม่เลิกอย่าง "เครื่องพิมพ์ Dot Matrix" หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า "เครื่องพิมพ์หัวเข็ม" นั่นเอง! หลายคนอาจจะงงว่าสมัยนี้ยังมีคนใช้อีกเหรอ? บอกเลยว่า "มีจ้า!" โดยเฉพาะพี่ๆ ที่ทำธุรกิจที่ยังต้องพิมพ์ใบเสร็จ ใบกำกับภาษี หรือเอกสารสำคัญที่มีสำเนาในตัวเนี่ย เจ้า Dot Matrix นี่แหละคือฮีโร่ตัวจริงเสียงจริง! ปี 2568 แล้ว จะเลือกซื้อรุ่นไหนดี ให้ทนทาน ใช้งานคุ้มค่า วันนี้เจ๊จะมาเม้าท์ให้ฟังแบบหมดเปลือก พร้อมทริคการช้อปปิ้งสไตล์คนไทยแท้ๆ ไปดูกันเลย!

1. เครื่องพิมพ์ Dot Matrix มันคืออะไรกันนะ? แล้วใครเหมาะกับมัน?

เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับเจ้าเครื่องพิมพ์หัวเข็มกันก่อน มันคือเครื่องพิมพ์ที่ใช้หลักการง่ายๆ แต่โคตรทน นั่นคือการใช้ "หัวเข็ม" เล็กๆ ยิงไปที่ผ้าหมึก (Ribbon) ทำให้เกิดจุดหมึกไปกระทบกระดาษ จนประกอบกันเป็นตัวอักษรหรือรูปภาพขึ้นมา ฟังดูโบราณเนอะ แต่ความเจ๋งของมันคือ "มันสามารถพิมพ์บนกระดาษแบบฟอร์มที่มีสำเนาในตัวได้" หรือที่เราเรียกว่าพิมพ์แบบก็อปปี้ในตัวได้หลายๆ ชั้นพร้อมกันนั่นแหละจ้า! อันนี้แหละคือจุดเด่นที่เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทหรือเลเซอร์ทำไม่ได้เด้อ!

แล้วใครล่ะที่เหมาะกับเจ้าเครื่องนี้? ก็คือ ธุรกิจต่างๆ ไงล่ะจ๊ะ! ไม่ว่าจะเป็น:

  • ร้านค้าปลีก: พิมพ์ใบเสร็จ ใบกำกับภาษี
  • บริษัทขนส่ง/โลจิสติกส์: พิมพ์ใบนำส่งสินค้า ใบปะหน้ากล่อง
  • หน่วยงานราชการ: พิมพ์เอกสารสำคัญที่ต้องมีสำเนา
  • โรงงานอุตสาหกรรม: พิมพ์เอกสารควบคุมคุณภาพ หรือเอกสารที่มีสำเนา
  • ธุรกิจที่ยังใช้กระดาษต่อเนื่อง: เช่น เอกสารทางบัญชี

ถ้างานของคุณยังเกี่ยวข้องกับการพิมพ์เอกสารที่มีสำเนา หรือต้องใช้กระดาษแบบต่อเนื่อง เจ้า Dot Matrix นี่แหละคือคำตอบ! แบรนด์ดังๆ ในตลาดบ้านเราที่เห็นบ่อยๆ ก็จะมี Epson อันนี้เจ้าตลาดเลย มีมานานและขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน ตามมาด้วย OKI และ Panasonic บางรุ่นก็ยังมีให้เห็นอยู่บ้างจ้า แบรนด์เหล่านี้ส่วนใหญ่ก็มาจากญี่ปุ่นนะ เค้าเน้นความทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน เป็นที่ไว้วางใจของภาคธุรกิจไทยมานานนมแล้วล่ะ

2. ราคาในตลาดไทย ปี 2568 เป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ กันบ้าง สำหรับราคาเครื่องพิมพ์ Dot Matrix ในตลาดไทย ปี 2568 เนี่ย ต้องบอกว่ามีหลายระดับเลยจ้า ขึ้นอยู่กับรุ่น สเปก ความเร็วในการพิมพ์ และจำนวนสำเนาที่พิมพ์ได้ โดยทั่วไปแล้ว ราคาจะเริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ หลักพันปลายๆ ไปจนถึงหลักหมื่น หรือหลายหมื่นบาท (฿) เลยนะ

  • รุ่นเล็ก (พิมพ์ 1-2 สำเนา, ความเร็วพื้นฐาน): ราคาอาจจะอยู่ในช่วง 7,000 - 15,000 บาท
  • รุ่นมาตรฐาน (พิมพ์ 3-4 สำเนา, ความเร็วปานกลาง): ราคาขยับขึ้นมาหน่อย อยู่ในช่วง 15,000 - 30,000 บาท
  • รุ่นใหญ่/รุ่นอุตสาหกรรม (พิมพ์หลายสำเนา, ความเร็วสูง, รองรับงานหนัก): ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก อาจจะมีตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป จนถึงหลักแสนบาท ก็มีจ้า

แหล่งช้อปปิ้งที่เราจะเจอเจ้าเครื่องพิมพ์พวกนี้ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นร้านขายอุปกรณ์ไอทีสำหรับธุรกิจ หรือร้านคอมพิวเตอร์ใหญ่ๆ เช่น JIB, Banana IT, Power Buy พวกนี้จะมีโซน Business Solution หรืออุปกรณ์สำหรับสำนักงานอยู่ ลองไปเดินดูได้เลย หรือจะสะดวกกว่านั้นก็ต้องไปดูตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ในไทยอย่าง Lazada หรือ Shopee ก็มีร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่าย หรือร้านที่นำเข้ามาขายเยอะแยะเลยจ้า สามารถเปรียบเทียบราคาได้ง่ายมากๆ บางทีก็มีร้านค้าอย่าง OfficeMate หรือร้านขายอุปกรณ์สำนักงานอื่นๆ ที่มีขายด้วยนะ ส่วนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนถ้าเทียบกับราคานอกนี่อาจจะไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ราคาในไทยมันจะรวมค่าขนส่ง ภาษี และการบริการหลังการขายไปแล้วจ้า

3. เทียบราคากับเครื่องพิมพ์แบบอื่น เป็นไงบ้างนะ?

ถ้าเอาเจ้าเครื่องพิมพ์ Dot Matrix ไปเทียบราคากับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทหรือเลเซอร์เนี่ย ต้องบอกว่า ราคาเริ่มต้นของ Dot Matrix มักจะสูงกว่า จ้า เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทหรือเลเซอร์สำหรับใช้งานทั่วไป ราคาเริ่มต้นมีตั้งแต่หลักพันต้นๆ ก็หาได้แล้ว แต่ Dot Matrix ส่วนใหญ่จะสตาร์ทที่หลักพันปลายๆ ขึ้นไป

แต่! อย่าเพิ่งดูแค่ราคาเครื่องนะ ต้องมองที่ "ต้นทุนการใช้งาน" ด้วย! ผ้าหมึกของ Dot Matrix ราคาถูกมากๆ เมื่อเทียบกับตลับหมึกอิงค์เจ็ทหรือโทนเนอร์เลเซอร์ แถมยังพิมพ์ได้จำนวนเยอะมากๆ ต่อการเปลี่ยนผ้าหมึกหนึ่งครั้ง ทำให้ ต้นทุนต่อแผ่นในการพิมพ์ของ Dot Matrix โคตรถูก ถ้าเทียบกับการพิมพ์สำเนาหลายๆ ชั้นเนี่ย Dot Matrix กินขาดเลยจ้า เพราะมันพิมพ์ไปทีเดียวได้สำเนาออกมาเลย ไม่ต้องไปถ่ายเอกสารซ้ำซ้อนเหมือนเครื่องพิมพ์อื่นๆ

สรุปคือ ถ้างานของคุณคือการพิมพ์เอกสารที่มีสำเนาเยอะๆ หรือต้องพิมพ์บนกระดาษต่อเนื่องแบบม้วน ต้นทุนโดยรวมแล้ว Dot Matrix จะ คุ้มค่ากว่าในระยะยาว ถึงแม้ราคาเครื่องจะสูงกว่าในตอนแรก แต่ถ้าเป็นการพิมพ์เอกสารทั่วไปที่ไม่ต้องการสำเนา หรือพิมพ์รูปภาพ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทหรือเลเซอร์ก็จะเหมาะสมกว่าจ้า!

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง? มีประกันไหม?

ปกติแล้ว เวลาซื้อเครื่องพิมพ์ Dot Matrix คุณจะได้:

  • ตัวเครื่องพิมพ์: แน่นอนอยู่แล้ว!
  • สายไฟ: สำหรับเสียบปลั๊กใช้งาน
  • สายเชื่อมต่อ: ส่วนใหญ่จะเป็นสาย USB หรือ Parallel (รุ่นเก่าๆ อาจจะยังใช้ Parallel อยู่นะ!)
  • ผ้าหมึก (Ribbon Cartridge): ส่วนใหญ่จะมีแถมมาให้ 1 ตลับสำหรับเริ่มใช้งาน
  • คู่มือการใช้งาน: อันนี้สำคัญมากๆ ควรอ่านก่อนใช้นะจ๊ะ
  • แผ่นไดรเวอร์ (Driver): สำหรับติดตั้งกับคอมพิวเตอร์ (เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่มักจะดาวน์โหลดออนไลน์ได้แล้ว)

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ตามแพลตฟอร์มใหญ่ๆ ส่วนใหญ่จะมีตัวเลือกให้เลือกค่าส่ง หรือบางทีมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนดนะ แต่ถ้าเป็นเครื่องใหญ่ๆ หรือซื้อจากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายสำหรับธุรกิจ อาจจะมีบริการจัดส่งและติดตั้งให้ถึงที่เลยก็มี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของร้านจ้า

เรื่อง การรับประกัน นี่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ! สำหรับเครื่องพิมพ์ Dot Matrix ส่วนใหญ่จะมีการรับประกันจากผู้ผลิตนะ ระยะเวลาก็จะแตกต่างกันไปแล้วแต่รุ่นและแบรนด์ ส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 1 ปี หรือ 2 ปี แต่รุ่นที่เน้นงานหนักๆ สำหรับอุตสาหกรรม อาจจะมีการรับประกันที่ยาวกว่านั้น หรือมีบริการ On-site Service คือมาซ่อมให้ถึงที่เลยก็มี ต้องเช็ครายละเอียดดีๆ ก่อนซื้อนะจ๊ะ

ส่วน ของแถม อุปกรณ์เสริม คูปอง หรือโปรโมชั่น อันนี้แล้วแต่ร้านเลยจ้า บางร้านอาจจะมีแถมกระดาษต่อเนื่องให้เล็กน้อย หรือมีส่วนลดพิเศษถ้าซื้อพร้อมผ้าหมึกสำรอง ก็ต้องลองสอบถามหรือดูโปรโมชั่นของร้านนั้นๆ เลยนะ

5. ช่วงไหนน่าซื้อ? มีโปรโมชั่นเด็ดๆ ไหมนะ?

ถ้าเป็นเครื่องพิมพ์ Dot Matrix ที่เน้นตลาดธุรกิจเนี่ย อาจจะไม่ได้มีโปรโมชั่นถล่มทลายเหมือนพวกมือถือหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภคทั่วไปในช่วงเทศกาลอย่าง 12.12 หรือสงกรานต์มากนักนะ

แต่! ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลยนะเออ! ลองจับตาดูช่วง:

  • ปลายปี: บางบริษัทอาจจะมีงบประมาณที่ต้องใช้ให้หมดในช่วงปลายปี หรือมีการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายก่อนปิดงบ
  • ช่วงงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับไอทีหรือสำนักงาน: บางทีผู้จำหน่ายอาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษในงาน
  • โปรโมชั่นจากร้านค้าตัวแทนจำหน่าย: ร้านค้าไอทีใหญ่ๆ หรือร้านขายอุปกรณ์สำนักงาน บางทีก็มีโปรโมชั่นลดราคา หรือของแถมเมื่อซื้อเครื่องพิมพ์ Dot Matrix บางรุ่น
  • โปรโมชั่นในแพลตฟอร์มออนไลน์: ถึงแม้จะไม่ใช่สินค้าเน้นผู้บริโภค แต่บางร้านค้าบน Lazada หรือ Shopee ก็อาจจะร่วมกับแพลตฟอร์มจัดโปรโมชั่นส่วนลด หรือโค้ดส่วนลดพิเศษได้เหมือนกัน ก็ต้องคอยเข้าไปส่องๆ ดูในช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ ของแพลตฟอร์มนะ

สรุปคือ ถ้าไม่รีบมากนัก ลอง รอช่วงปลายปี หรือ ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นจากร้านค้าไอทีและร้านขายอุปกรณ์สำนักงานใหญ่ๆ ดูก่อน ก็อาจจะมีโอกาสได้เครื่องพิมพ์ Dot Matrix ในราคาที่คุ้มค่าขึ้นจ้า

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงบ้างนะ? รีวิวจากผู้ใช้งานจริง!

จากที่เจ๊แอบไปส่องๆ ดูตามรีวิวหรือฟีดแบ็กจากผู้ใช้งานเครื่องพิมพ์ Dot Matrix ในไทยเนี่ย เสียงส่วนใหญ่เค้าจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า:

  • "โคตรทน!" นี่คือจุดเด่นอันดับหนึ่งเลยจ้า หลายคนบอกว่าใช้มาหลายปีแล้วยังไม่มีปัญหาจุกจิกเลย ทำงานได้สมบุกสมบันจริงอะไรจริง
  • "เหมาะกับงานพิมพ์เอกสารมีสำเนา" อันนี้คือเหตุผลหลักที่คนยังใช้อยู่ มันตอบโจทย์งานพิมพ์ใบเสร็จ ใบกำกับภาษี ที่ต้องมีสำเนาหลายๆ ชั้นได้ดีเยี่ยม
  • "ผ้าหมึกถูก ใช้งานคุ้ม" ถึงแม้ราคาเครื่องจะสูง แต่ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนผ้าหมึกนั้นถูกมากๆ ทำให้ต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นต่ำ
  • "พิมพ์ต่อเนื่องได้สบาย" ใครที่ต้องพิมพ์เอกสารยาวๆ บนกระดาษต่อเนื่อง เจ้า Dot Matrix นี่แหละคือเพื่อนคู่ใจ
  • "เสียงดังไปหน่อย" อันนี้เป็นข้อเสียที่หลายคนพูดถึง เวลาพิมพ์เสียงค่อนข้างดังรบกวนได้บ้าง แต่ถ้าอยู่ในออฟฟิศก็อาจจะไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่มาก
  • "ความเร็วไม่เท่าเลเซอร์" แน่นอนว่าความเร็วในการพิมพ์เทียบกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ไม่ได้ แต่ก็เพียงพอสำหรับงานที่เน้นปริมาณและฟังก์ชันสำเนา

โดยรวมแล้ว ผู้ใช้งานในไทยที่ยังจำเป็นต้องใช้เครื่องพิมพ์ Dot Matrix เนี่ย ส่วนใหญ่จะพอใจกับ ความทนทาน, ความสามารถในการพิมพ์สำเนา และ ความคุ้มค่าในระยะยาว มากๆ เลยจ้า

7. จะไปหาซื้อได้ที่ไหนดีล่ะ?

สำหรับช่องทางการซื้อเครื่องพิมพ์ Dot Matrix ในไทย มีหลายที่เลยจ้า ที่เจ๊แนะนำก็คือ:

  • ร้านค้าไอทีขนาดใหญ่: เช่น JIB, Banana IT, Power Buy พวกนี้จะมีบางสาขาหรือแผนกที่ขายอุปกรณ์สำหรับธุรกิจ สามารถไปดูสินค้าจริง สอบถามข้อมูล และบางทีมีบริการจัดส่งพร้อมติดตั้ง
  • แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยม: อย่าง Lazada และ Shopee นี่แหละคือแหล่งรวมร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายเลย ข้อดีคือสะดวก เปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นให้ดู มีระบบการจ่ายเงินที่ปลอดภัย แต่ต้องเลือกซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือนะจ๊ะ
  • ร้านขายอุปกรณ์สำนักงาน: เช่น OfficeMate หรือร้านอื่นๆ ที่เน้นขายอุปกรณ์สำหรับสำนักงานโดยเฉพาะ พวกนี้ก็มีเครื่องพิมพ์ Dot Matrix ให้เลือกซื้อเหมือนกัน
  • ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: ถ้าอยากได้ความมั่นใจสูงสุด เรื่องการรับประกันและบริการหลังการขาย แนะนำให้ซื้อจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์นั้นๆ โดยตรง สามารถเข้าไปดูรายชื่อตัวแทนจำหน่ายได้จากเว็บไซต์ของแบรนด์จ้า

เรื่องความสอดคล้องของราคาแต่ละช่องทาง ส่วนใหญ่ราคาในร้านค้าออนไลน์มักจะมีความยืดหยุ่นและมีการแข่งขันสูง อาจจะเจอราคาที่ถูกกว่าร้านค้าปลีกบ้าง แต่ก็ต้องแลกกับการที่เราไม่ได้เห็นสินค้าจริงก่อนซื้อนะจ๊ะ

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เลือกซื้อรุ่นไหนดี?

สรุปเลยนะจ๊ะ เครื่องพิมพ์ Dot Matrix ยังน่าซื้อมากๆ สำหรับใครที่ ทำธุรกิจที่ยังต้องพิมพ์เอกสารที่มีสำเนาในตัว หรือต้อง พิมพ์บนกระดาษต่อเนื่อง และต้องการเครื่องพิมพ์ที่ ทนทานสุดๆ ใช้งานได้ยาวนานในสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน เจ้าเครื่องนี้คือเพื่อนคู่คิดมิตรคู่ธุรกิจตัวจริงเสียงจริงจ้า!

แต่ถ้างานของคุณคือการพิมพ์เอกสารทั่วไปในบ้าน หรือพิมพ์รูปภาพสวยๆ ไม่ได้ต้องการสำเนา ก็ข้ามเจ้า Dot Matrix ไปได้เลยจ้า ไปมองหาเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทหรือเลเซอร์ที่ตอบโจทย์กว่านะ

ส่วนจะเลือกซื้อรุ่นไหนดีระหว่างรุ่นเล็ก รุ่นมาตรฐาน หรือรุ่นใหญ่ ก็ให้ดูจาก "ปริมาณงานพิมพ์", "จำนวนสำเนาที่ต้องการ" และ "ความเร็วในการพิมพ์" เป็นหลักจ้า

  • ถ้างานไม่เยอะมาก ต้องการพิมพ์สำเนา 1-2 ชั้น รุ่นเล็กๆ ราคาไม่กี่พันก็เอาอยู่
  • ถ้างานปานกลาง ต้องการพิมพ์สำเนา 3-4 ชั้น มีปริมาณงานพอสมควร เลือกรุ่นมาตรฐานจะเหมาะสมกว่า
  • ถ้าเป็นงานอุตสาหกรรม งานหนักๆ ต้องพิมพ์เอกสารจำนวนมหาศาล ต้องการความเร็วสูง พิมพ์สำเนาหลายชั้น ก็ต้องลงทุนกับรุ่นใหญ่ ราคาหลักหมื่นขึ้นไป เพื่อความทนทานและประสิทธิภาพสูงสุดจ้า

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องพิมพ์ Dot Matrix ของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้ได้เครื่องที่ถูกใจ ใช้งานคุ้มค่า ทำมาค้าขึ้นกันทุกคนเลยจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดีจ้าสายฟุตบอลทุกคน! วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องรองเท้าสตั๊ดในตำนานที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ หรือบางคนอาจจะเคยเห็นน้องผ่านๆ มาบ้าง นั่นก็คือ Nike GS 360 นั่นเอง! แค่ชื่อก็รู้สึกถึงความพิเศษแล้วใช่ไหมล่ะ วันนี้เราจะมาเจาะลึกว่าเจ้ารองเท้
Nike GS 360 ราคาล่าสุด ปี 2568 รองเท้าฟุตบอลระดับโปรที่นักเตะควรมี
สวัสดีครับทุกคนนน! วันนี้จะพามาทำความรู้จักกับรถยนต์ในฝันของใครหลายๆ คน นั่นก็คือ BMW Series 8 Coupe รุ่นปี 2568 หรือปี 2025 ล่าสุดนี่เอง! บอกเลยว่านี่ไม่ใช่รถบ้านๆ ทั่วไปนะจ๊ะ แต่เป็นรถสปอร์ตคูเป้สุดหรูที่ผสมผสานความแรง ความสง่างาม และเทคโ
BMW Series 8 Coupe ราคาล่าสุด ปี 2568 รถสปอร์ตหรู แรง ดีไซน์เฉียบคม
สวัสดีค่าาา ทุกคน วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องไอเทมสุดฮิตที่คนรักสุขภาพต้องมีติดบ้าน นั่นก็คือ หม้อทอดไร้น้ำมัน นั่นเอง! บอกเลยว่าเจ้าเครื่องนี้เค้าไม่ได้มีดีแค่ทอดแบบไม่ต้องใช้น้ำมันเยอะๆ นะ แต่ยังทำได้สารพัดเมนู แถมราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อย
หม้อทอดไร้น้ำมัน ราคาล่าสุด ปี 2568 ทำอาหารอร่อยได้สุขภาพดี ราคาดี

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ! สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนมือสองคุณภาพดีในงบประมาณที่คุ้มค่า วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึง Samsung Galaxy A9s หรือที่รู้จักกันในชื่อ Samsung Galaxy A9 (2018) กันครับ โทรศัพท์รุ่นนี้เคยสร้างความฮือฮาในตลาดมาแล้วด้วยฟ
โทรศัพท์ Samsung Galaxy A9s ราคามือสองล่าสุดตอนนี้เท่าไหร่
สวัสดีค่ะทุกคน! วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง แหวนทอง 2 กรัม กันค่ะ ใครที่กำลังมองหาเครื่องประดับทองคำชิ้นเล็กๆ น่ารักๆ ที่สวมใส่ได้ทุกวัน หรืออยากจะเริ่มต้นเก็บออมทองคำในรูปแบบที่จับต้องได้ ห้ามพลาดเลยนะคะ เพราะแหวนทอง 2 กรัม ถือเป็นตัวเลือกที
แหวนทอง 2 กรัม ราคาเท่าไหร่? อัปเดตราคาล่าสุดและลายยอดนิยม
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเครื่องดนตรีไทยประเภทเครื่องตีที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์อย่าง "อังกะลุง" กันค่ะ ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นเครื่องดนตรีที่มักใช้ในการเรียนการสอน หรือพบเห็นตามงานแสดงวัฒนธรรมต่างๆ
อังกะลุงราวและอังกะลุงเดี่ยว ราคาเท่าไหร่? ซื้อที่ไหนได้มาตรฐาน

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ

เครื่องพิมพ์ Dot Matrix ราคาล่าสุด ปี 2568 เลือกซื้อรุ่นไหนดี ทนทาน ใช้งานคุ้ม - Thaihomeshopping