Nike GS 360 ราคาล่าสุด ปี 2568 รองเท้าฟุตบอลระดับโปรที่นักเตะควรมี

สวัสดีแฟนลูกหนังชาวไทยหัวใจไนกี้ทุกคนจ้า! วันนี้เราจะมาพูดถึงรองเท้าฟุตบอลในตำนานที่หลายคนยังคงตามหา นั่นก็คือ Nike GS 360 นั่นเอง! บอกเลยว่าไม่ใช่รองเท้าธรรมดาๆ นะจ๊ะ แต่มันคือรองเท้าที่เคยสร้างปรากฏการณ์มาแล้ว และในปี 2568 นี้ มันยังน่าสนใจอยู่ไหม? ราคาเป็นยังไง? ตามมาดูกันแบบเจาะลึก ไม่มีกั๊ก สไตล์เป็นกันเอง!

1. รองเท้าในตำนานรุ่นนี้ มันคืออะไรกันแน่?

เอาล่ะ! มาทำความรู้จักกับเจ้า Nike GS 360 กันก่อนเลย สำหรับคอลเลกชัน "GS" ย่อมาจาก "Green Speed" ที่ไนกี้เค้าเปิดตัวครั้งแรกในปี 2012 โดยมีคอนเซ็ปต์รักษ์โลกจ้า! รุ่นแรกนี่บอกเลยว่าเบาหวิวมากๆ แค่ 160 กรัมเท่านั้นเอง และทำจากวัสดุรีไซเคิลเป็นหลัก โดยเฉพาะรุ่นปี 2018 ที่เราพูดถึงนี่แหละ ที่เป็นการนำตำนาน GS ปี 2012 กลับมาปัดฝุ่นใหม่บนโครงสร้างของ Mercurial Superfly 360 ในตอนนั้น เน้นเรื่องความเบา และความกระชับแบบ 360 องศาเหมือนชื่อรุ่นเป๊ะๆ เหมือนมีถุงเท้ามาหุ้มเท้าเราไว้เลย ใครที่ชอบรองเท้าฟุตบอลสายสปีด จี๊ดจ๊าด วิ่งไวเหมือนติดเทอร์โบ เจ้าตัวนี้แหละใช่เลย!

กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะกับรองเท้าตัวนี้ก็แน่นอนว่าต้องเป็นนักเตะที่เน้นความเร็ว ต้องการรองเท้าที่รู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่อะไรเลยบนเท้า ช่วยให้พลิกบอล เลี้ยงบอล และออกตัวได้อย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ แถมแบรนด์ Nike นี่ไม่ต้องพูดถึงเนอะ เป็นแบรนด์ระดับโลกจากอเมริกา ที่อยู่คู่วงการกีฬามาอย่างยาวนาน สร้างสรรค์นวัตกรรมรองเท้าและอุปกรณ์กีฬาล้ำๆ มาตลอด ประวัติศาสตร์เค้าแน่นจริงจ้า

2. ราคาล่าสุดปี 2568 ในตลาดไทยอยู่ที่ประมาณไหน?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้! ราคาของ Nike GS 360 ในปี 2568 เนี่ย ต้องบอกเลยว่าเนื่องจากเป็นรองเท้า Limited Edition ที่ผลิตออกมาจำนวนจำกัดมากๆ เพียงแค่ 2,018 คู่ทั่วโลกเท่านั้นเอง การจะหาสภาพ "มือหนึ่ง" แบบวางขายทั่วไปในช็อปคงเป็นเรื่องยากมากๆ แล้วล่ะจ้า ราคาในตลาดตอนนี้ส่วนใหญ่จึงเป็นราคาที่ขึ้นอยู่กับสภาพความสมบูรณ์ ความหายาก และความต้องการของนักสะสมมากกว่า ซึ่งราคามันแกว่งมากๆ เลยนะ

ถ้าลองไปส่องตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ ในไทยอย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย อาจจะเจอคนนำมาปล่อยขายในหมวดรองเท้ามือสอง หรือร้านค้ารีเซลล์ต่างๆ ราคาที่เคยเห็นมาก็มีตั้งแต่หลักพันปลายๆ (อาจจะเป็นงานที่ไม่ผ่าน QC หรือสภาพไม่สมบูรณ์) ไปจนถึงหลักหมื่นเลยก็มีนะ ขึ้นอยู่กับไซส์ สี และสภาพล้วนๆ บางทีเจอร้านที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ราคาก็อาจจะสูงกว่าราคาป้ายเดิมไปอีกนะ ซึ่งราคาป้ายเดิมตอนเปิดตัวปี 2018 ก็อยู่ที่ประมาณ 155 ปอนด์ หรือประมาณ 6,100 บาทไทย (ในตอนนั้น) แต่ตอนนี้ปี 2568 แล้ว ราคาในตลาดรีเซลล์มันไปไกลกว่านั้นเยอะจ้า! ส่วนร้านค้าปลีกใหญ่ๆ อย่าง Central, Big C, The Mall, Supersports หรือ Ari Football Concept Store เนี่ย อาจจะต้องลองไปสอบถามดูว่ามีหลงเหลืออยู่บ้างไหม แต่ส่วนใหญ่เค้าจะเน้นขายรุ่นปัจจุบันมากกว่านะจ๊ะ

3. เทียบราคากับรองเท้าสายสปีดรุ่นอื่น คุ้มมั้ย?

ถ้าเทียบ Nike GS 360 กับรองเท้าสายสปีดรุ่นท็อปปัจจุบันของ Nike เองอย่าง Mercurial Vapor หรือ Superfly รุ่นล่าสุด หรือเทียบกับแบรนด์คู่แข่งอย่าง Adidas X หรือ Puma Ultra เนี่ย ราคาเปิดตัวของ GS 360 ตอนปี 2018 ถือว่าไม่ได้แพงเว่อร์วังเท่าไหร่เลยนะ ประมาณ 6,100 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับราคารองท็อปหรือรุ่นท็อปบางตัวของปัจจุบันด้วยซ้ำ แต่ถ้ามองในตลาดปี 2568 ที่มันกลายเป็นรองเท้าหายากไปแล้วเนี่ย ราคามันจะกระโดดขึ้นไปอีกจ้า ทำให้มันอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ "คุ้มค่า" ในแง่ของราคาต่อประสิทธิภาพการใช้งานเพียวๆ ถ้าเทียบกับรองเท้าสายสปีดรุ่นใหม่ๆ ที่มีเทคโนโลยีล่าสุดครบครันกว่าในราคาใกล้เคียงกัน หรือถูกกว่า

แต่ถ้ามองในมุมของความพิเศษ ความเป็น Limited Edition และดีไซน์ที่เป็นตำนานที่หลายคนตามหาล่ะก็ การยอมจ่ายในราคารีเซลล์ที่สูงกว่าราคาป้าย มันก็อาจจะคุ้มค่าทางใจมากๆ สำหรับนักสะสมนะจ๊ะ! มันเหมือนได้ครอบครองของแรร์นั่นแหละ!

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

อันนี้เป็นอีกจุดที่ต้องเช็คให้ดีมากๆ เวลาซื้อ Nike GS 360 โดยเฉพาะถ้าซื้อแบบมือสองนะจ๊ะ สิ่งที่ปกติควรจะได้มาก็คือตัวรองเท้าเอง และกล่องรองเท้า ซึ่งกล่องของรุ่น Limited มักจะมีดีไซน์พิเศษ บางทีอาจจะมีถุงผ้าสำหรับใส่รองเท้าแถมมาด้วย ส่วนเรื่องอื่นๆ นี่ต้องดูตามที่ผู้ขายระบุเลยจ้า:

• ค่าขนส่ง: ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่ก็มีค่าส่งนะ นอกจากร้านจะมีโปรโมชั่นส่งฟรี ก็ต้องดูเงื่อนไขดีๆ
• ระยะเวลารับประกัน: อันนี้สำคัญสำหรับคนไทย! แต่เนื่องจากเป็นรองเท้า Limited และส่วนใหญ่เป็นมือสอง ไม่มีประกันศูนย์ไทย แน่นอนจ้า ถ้าซื้อจากร้านรีเซลล์หรือร้านหิ้ว อาจจะต้องสอบถามว่ามีประกันร้านให้เล็กน้อยไหม เช่น รับเปลี่ยนคืนถ้าสินค้ามีปัญหาภายใน 7 วัน แต่ส่วนใหญ่ถ้าซื้อกับผู้ขายรายย่อยตรงๆ ก็คือไม่มีประกันเลยนะจ๊ะ ต้องทำใจและเช็คของให้ละเอียดก่อนจ่ายเงิน
• ของแถม/คูปอง/โปรโมชั่น: อันนี้แล้วแต่ผู้ขายเลย บางทีอาจจะมีเชือกสำรองสีอื่น หรือของเล็กๆ น้อยๆ แถมมาให้ แต่ไม่การันตีจ้า ส่วนคูปองหรือโปรโมชั่นลดราคาสำหรับรุ่นนี้ในตลาดรีเซลล์อาจจะไม่ค่อยมีนะ นอกจากผู้ขายอยากปล่อยของจริงๆ

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

สำหรับ Nike GS 360 ที่เป็นรองเท้า Limited Edition หายากแบบนี้ ช่วงเวลาที่น่าซื้อเป็นพิเศษอาจจะไม่ใช่ช่วงเทศกาลลดราคาใหญ่ๆ เหมือนสินค้าแฟชั่นทั่วไปนะจ๊ะ แต่จะเป็นช่วงเวลาที่นักสะสมหรือคนที่ได้รองเท้าไปเค้าตัดสินใจปล่อยของออกมามากกว่า! ซึ่งมันคาดเดาได้ยากมากๆ

อย่างไรก็ตาม การติดตามร้านค้ารีเซลล์ใหญ่ๆ หรือกลุ่มซื้อขายรองเท้าฟุตบอล Limited ในไทย หรือบนแพลตฟอร์มอย่าง Shopee และ Lazada ในช่วงเทศกาลใหญ่ๆ อย่าง 11.11, 12.12 หรือแม้แต่ช่วงเทศกาลไทยๆ อย่างสงกรานต์ หรือปีใหม่ ก็อาจจะมีเซอร์ไพรส์เจอคนนำมาปล่อยในราคาที่ดีกว่าปกติก็ได้นะจ๊ะ เพราะบางทีเค้าก็อยากเคลียร์ของเหมือนกัน ก็ต้องอาศัยความไวและการเข้าไปส่องบ่อยๆ นั่นแหละ!

6. นักเตะไทยเค้าใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

แม้จะหายาก แต่ก็มีนักเตะไทยบางส่วน หรือคนที่ชื่นชอบรองเท้าฟุตบอลจริงๆ ที่ได้ลองสัมผัสเจ้า Nike GS 360 ตัวนี้ เสียงตอบรับส่วนใหญ่ที่เคยได้ยินมา (จากการแปลรีวิวหรือพูดคุยกัน) เนี่ย จะเน้นไปที่จุดเด่นเรื่อง:

• ความเบา: อันนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนพูดถึงเป็นเสียงเดียวกันว่าเบามากๆ ใส่แล้วรู้สึกคล่องตัว วิ่งสบาย
• ความกระชับ: ด้วยเทคโนโลยี 360 ที่หุ้มเท้า ทำให้รู้สึกกระชับเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเท้าจริงๆ
• สัมผัสบอล: หลายคนบอกว่าสัมผัสบอลได้ดี รู้สึกถึงลูกบอลได้ชัดเจน เหมาะกับคนชอบเลี้ยงบอล
• ดีไซน์: ลวดลายสี Volt/Black อันเป็นเอกลักษณ์มันเตะตามากๆ ใส่แล้วดูโดดเด่นในสนาม

แต่บางรีวิวก็อาจจะบอกว่าด้วยความที่มันเน้นความเบามากๆ วัสดุอาจจะไม่ได้หนาและทนทานเท่ารองเท้ารุ่นปกติ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องแลกกันระหว่างประสิทธิภาพสูงสุดกับความทนทานนั่นแหละจ้า โดยรวมแล้ว คนที่ได้ใช้มักจะประทับใจในเรื่องฟีลลิ่งความเบาและสปีดที่ได้จากรองเท้าตัวนี้มากๆ

7. จะไปตามล่าหาซื้อได้จากช่องทางไหนบ้าง?

อย่างที่เกริ่นไปว่าหาซื้อ "มือหนึ่ง" ยากแล้ว ช่องทางหลักๆ ที่แนะนำให้ไปตามล่าหาเจ้า Nike GS 360 ในปี 2568 ก็คือ:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดฮิต: Shopee และ Lazada คือแหล่งใหญ่เลยจ้า ลองใช้คีย์เวิร์ดค้นหาดีๆ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อาจจะเจอร้านค้ารีเซลล์ หรือผู้ขายรายย่อยนำมาลงขาย ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาได้สะดวก แต่ต้องเช็คโปรไฟล์ผู้ขายและสอบถามรายละเอียดให้ชัดเจนมากๆ ก่อนโอนเงินนะจ๊ะ
• กลุ่มซื้อขายรองเท้าฟุตบอลใน Facebook: กลุ่มลับ กลุ่มสาธารณะต่างๆ ที่เกี่ยวกับการซื้อขายรองเท้าฟุตบอล Limited Edition หรือรองเท้ามือสอง เป็นแหล่งที่ดีมากๆ ในการเจอผู้ขายโดยตรง อาจจะได้ราคาดีกว่าซื้อจากร้าน แต่ก็ต้องระวังมิจฉาชีพด้วยนะจ๊ะ พยายามนัดเจอเพื่อเช็คของก่อนจ่ายเงินจะปลอดภัยที่สุด
• ร้านค้ารีเซลล์รองเท้าโดยเฉพาะ: ปัจจุบันมีร้านที่รับซื้อขายรองเท้า Sneaker และรองเท้ากีฬา Limited Edition โดยเฉพาะในไทยหลายร้าน ลองติดตามร้านเหล่านี้ดู บางทีเค้าอาจจะมีเจ้า GS 360 หลงเข้ามาบ้าง ข้อดีคือมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ และอาจจะเช็คสภาพได้ละเอียดกว่า แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าช่องทางอื่นนะจ๊ะ
• eBay: เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่นักสะสมมักจะนำรองเท้า Limited หายากมาลงขาย อาจจะมีตัวเลือกเยอะกว่าในไทย แต่ก็ต้องพิจารณาเรื่องค่าส่งระหว่างประเทศและภาษีนำเข้าด้วยนะจ๊ะ

ส่วนร้านค้าทางการของ Nike ในไทย ส่วนใหญ่ตอนนี้จะไม่มีรุ่นนี้วางขายแล้วจ้า

8. สรุปแล้วน่าตำไหม? เหมาะกับใครกันแน่นะ?

สรุปเลยนะจ๊ะ Nike GS 360 ในปี 2568 เนี่ย ถ้าถามว่าน่าซื้อไหม? คำตอบคือ น่าซื้อมากสำหรับบางคน! เหมาะกับ:

• นักสะสมรองเท้าฟุตบอล Limited Edition: ถ้าคุณคือนักสะสมตัวจริงเสียงจริง เจ้า GS 360 คืออีกหนึ่ง Must-Have ที่ควรมีไว้ในคอลเลกชัน เพราะมันคือตำนานบทหนึ่งของ Nike ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ความเบาและความรักษ์โลก
• นักเตะที่ต้องการรองเท้าสายสปีดที่เบาหวิวเป็นพิเศษ: ถ้าคุณให้ความสำคัญกับฟีลลิ่งความเบา ความกระชับ และต้องการรองเท้าที่ช่วยเสริมความเร็วในการเล่นจริงๆ และยอมรับได้กับเรื่องความทนทานที่อาจจะไม่เท่ารุ่นปกติ เจ้าตัวนี้ก็ยังตอบโจทย์ได้ดีมากๆ แม้จะเป็นรุ่นเก่าแล้วก็ตาม
• คนที่ชอบดีไซน์ Volt/Black อันเป็นเอกลักษณ์: ถ้าหลงใหลในสีสันและลวดลายสุดคลาสสิกของรุ่นนี้ ใส่แล้วรู้สึกมั่นใจ โดดเด่นในสนาม

แต่ถ้าคุณคือนักเตะที่เน้นความทนทาน ต้องการเทคโนโลยีล่าสุดของ Nike หรือมีงบประมาณจำกัดมากๆ การเลือกรองเท้าสายสปีดรุ่นท็อปรุ่นปัจจุบัน อาจจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและหาซื้อง่ายกว่าในแง่ของการใช้งานเพียวๆ นะจ๊ะ

โดยรวมแล้ว Nike GS 360 ไม่ใช่รองเท้าที่หาซื้อง่ายหรือมีราคาถูกอีกต่อไปแล้วในปี 2568 แต่มันคือรองเท้าที่มีคุณค่าทั้งในแง่ของประสิทธิภาพความเบาและสปีด รวมถึงคุณค่าทางจิตใจของความเป็น Limited Edition และเป็นตำนานจ้า! หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับการตัดสินใจนะทุกคน! ขอให้ได้รองเท้าที่ถูกใจไปวาดลวดลายในสนามจ้า!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• วิธีแก้หัวแง้ม พื้นเปิด กับกาวติดรองเท้า ตัวเทพจากญี่ปุ่น 🇯🇵
• Puma Orbita Serie A 2023/24: ประสบการณ์บอลที่ยิ่งใหญ่
• สอนทำปั้มเหล็กสำหรับรองเท้าสตั๊ด
• คลิปสอนผูกเชือกรองเท้าแบบที่ผมทำในคลิป ผมเห็นมีคนคอมเมนท์ขอ ...
• 👟แม่ค้ารุ้ง รองเท้ามือสอง✌️ พิกัดร้าน :เส้นลงหาดพัทยาใต้ รองเท้ามือ ...