โน๊ตบุ๊ค Asus Vivobook 14 และ 15 ราคาล่าสุด รุ่นไหนสเปคคุ้มค่า

สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องโน๊ตบุ๊คตัวจี๊ด สเปคคุ้มราคา ที่หลายคนกำลังเล็งๆ กันอยู่ นั่นก็คือ Asus Vivobook 14 และ Asus Vivobook 15 นั่นเอง! ใครที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่ไว้เรียน ทำงาน หรือจะไถฟีดดูซีรีส์แบบสบายๆ มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาเจาะลึกราคาล่าสุด พร้อมส่องรุ่นไหนที่บอกเลยว่าคุ้มค่า จนต้องร้องว้าว!

1. ผลิตภัณฑ์นี้มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับซีรีส์ Vivobook จาก Asus กันก่อนเลยจ้า พูดง่ายๆ มันก็คือ โน๊ตบุ๊คสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ที่เน้นความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพ ดีไซน์ และราคาที่เข้าถึงง่าย แบรนด์ Asus เนี่ย เค้าเป็นแบรนด์ใหญ่มาจากไต้หวันนะ มีชื่อเสียงด้านอุปกรณ์ไอทีมานานมากกก โดยเฉพาะเมนบอร์ดนี่ตัวท็อปเลย แล้วโน๊ตบุ๊คเขาก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กันเลยจ้า

สำหรับ Vivobook 14 และ 15 เนี่ย ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต่างกันที่ขนาดหน้าจอ โดยรุ่น 14 ก็จะหน้าจอ 14 นิ้ว ส่วนรุ่น 15 ก็ 15.6 นิ้ว เลือกได้ตามความชอบและไลฟ์สไตล์เลยจ้า จุดเด่นของ Vivobook คือความหลากหลายของสเปค มีตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นราคาเบาๆ ไปจนถึงรุ่นที่สเปคจัดเต็มขึ้นมาหน่อย ทำให้ตอบโจทย์ได้หลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นน้องๆ นักเรียน นักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊คไปทำรายงาน พรีเซนต์ หรือเรียนออนไลน์ หรือจะเป็นวัยทำงานที่ต้องการเครื่องคู่ใจไว้ทำงานเอกสาร ท่องเว็บ ประชุมออนไลน์ ด้วยดีไซน์ที่ไม่ได้เชย แถมยังมีหลายสีให้เลือก ก็ถือเป็นโน๊ตบุ๊คที่ดูดี พกไปไหนมาไหนก็ไม่อายใครเลยล่ะ

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! เรื่องราคาของ Asus Vivobook 14 และ 15 ในตลาดไทยเนี่ย ต้องบอกเลยว่ามีตั้งแต่หลักหมื่นต้นๆ ไปจนถึงสองหมื่นกลางๆ ปลายๆ เลยนะ ขึ้นอยู่กับสเปคและรุ่นย่อยมากๆ เลยจ้า เช่น ใช้ CPU Intel Core i3, i5, i7 หรือ AMD Ryzen 3, 5, 7 มีแรมเท่าไหร่ (8GB, 16GB) SSD กี่ GB (256GB, 512GB, 1TB) หรือบางรุ่นอาจจะมีจอ OLED สีสวยสดใสด้วย อันนี้ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก

ถ้าให้ลองสำรวจราคาตามแหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตในไทยนะ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่อย่าง Lazada กับ Shopee หรือร้านไอทีเจ้าประจำอย่าง JIB, Banana IT และ Power Buy ก็จะมี Vivobook วางขายอยู่หลายรุ่นเลยจ้า ราคาที่เจอคร่าวๆ จะประมาณนี้:

• รุ่นเริ่มต้น (Intel Celeron / Pentium หรือ AMD Athlon / Ryzen 3 แรม 4-8GB SSD 256-512GB): ราคาอาจจะเริ่มต้นตั้งแต่ 10,000 - 15,000 บาท
• รุ่นระดับกลาง (Intel Core i3 / i5 หรือ AMD Ryzen 5 แรม 8-16GB SSD 512GB): ราคาก็จะขยับมาอยู่ที่ประมาณ 15,000 - 25,000 บาท
• รุ่นสเปคสูงหน่อย (Intel Core i5 / i7 หรือ AMD Ryzen 7 ขึ้นไป แรม 16GB+ SSD 512GB+ หรือมีจอ OLED): ราคาก็อาจจะไปถึง 25,000 - 3x,xxx บาทได้เลย

ซึ่งราคานี้ก็เป็นราคาตามหน้าเว็บ หรือหน้าร้านทั่วไปนะ บางช่วงอาจจะมีโปรโมชั่นลดราคาอีก ก็ต้องคอยติดตามดีๆ จ้า ส่วนเรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนกับราคาต่างประเทศเนี่ย ด้วยความที่โน๊ตบุ๊คมันมีเรื่องภาษีและค่าขนส่งเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้ราคาในไทยอาจจะไม่ได้เท่ากับแปลงค่าเงินตรงๆ ซะทีเดียว แต่โดยรวมแล้ว Asus Vivobook ก็ยังคงอยู่ในกลุ่มโน๊ตบุ๊คที่เน้นความคุ้มค่าในตลาดบ้านเรานะ

3. แล้วเทียบกับรุ่นอื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ถ้าเอา Asus Vivobook 14 และ 15 ไปเทียบกับโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่นในสเปคและช่วงราคาใกล้เคียงกัน เช่น Acer Aspire, HP Pavilion, หรือ Lenovo IdeaPad เนี่ย ต้องบอกว่า Vivobook ก็เป็นตัวเลือกที่ แข่งขันในตลาดได้ดีมากๆ เลยนะ ด้วยความที่มีหลากหลายสเปค ทำให้สามารถเลือกชนกับคู่แข่งได้เกือบทุกระดับราคาเลย

บางทีในสเปคที่พอๆ กัน Vivobook อาจจะมีราคาที่ย่อมเยากว่าเล็กน้อย หรือบางรุ่นอาจจะมีฟีเจอร์เด่นที่แบรนด์อื่นไม่มีในราคาเท่ากัน เช่น บางรุ่นให้ SSD มาเยอะกว่า หรือบางรุ่นมีจอ OLED ที่สีสันสวยงามมากๆ ซึ่งถ้าเทียบกับราคาที่จ่ายไป ถือว่าได้ความคุ้มค่าเพิ่มขึ้นเยอะเลยล่ะ แต่ถ้าไปเทียบกับโน๊ตบุ๊คระดับพรีเมี่ยมกว่านั้น เช่น Asus Zenbook หรือแบรนด์อื่นๆ ที่เน้นความหรูหรา วัสดุดีเยี่ยม พกพาสะดวกสุดๆ อันนั้นราคาก็จะโดดไปอีกระดับเลยนะ Vivobook จะเน้นที่ความสมดุล ใช้งานทั่วไปได้ดี ในราคาที่จับต้องได้ มากกว่าเน้นความหรูหราเป็นหลักจ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาซื้อ Asus Vivobook เครื่องใหม่แกะกล่องเนี่ย สิ่งที่เราจะได้มาหลักๆ ก็จะมี ตัวเครื่องโน๊ตบุ๊ค, อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ และคู่มือต่างๆ นะจ๊ะ แต่ที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ เลยก็คือ การรับประกัน นี่แหละ ซึ่ง Asus เค้าก็ค่อนข้างจัดเต็มนะ โดยทั่วไปแล้ว Vivobook ที่ขายในไทยมักจะมาพร้อมกับการรับประกันแบบ Onsite Service 2 ปี หมายถึงถ้าเครื่องมีปัญหา เจ้าหน้าที่ก็จะเข้ามาซ่อมให้ถึงที่บ้านหรือที่ทำงานเราเลย สะดวกมากๆ ไม่ต้องยกเครื่องไปร้านให้ยุ่งยาก แถมบางรุ่นยังมี Perfect Warranty 1 ปีแรก ด้วยนะ อันนี้คือคุ้มสุดๆ เพราะจะคุ้มครองความเสียหายจากอุบัติเหตุ เช่น ทำน้ำหกใส่ ตกพื้น อะไรแบบนี้ด้วย ต้องลองเช็ครายละเอียดรุ่นที่เราสนใจอีกทีว่ามีประกันตัวนี้ให้ด้วยไหม

ส่วนเรื่องของแถมหรือโปรโมชั่นอื่นๆ เนี่ย อันนี้แล้วแต่ร้านและช่วงเวลาเลยจ้า บางทีซื้อที่ร้าน อาจจะได้เมาส์ กระเป๋า หรือแผ่นรองเมาส์แถมมาด้วย หรือซื้อออนไลน์ช่วงโปรโมชั่น อาจจะมีโค้ดส่วนลด หรือของแถมพิเศษให้ ก็ต้องคอยส่อง คอยเช็คเงื่อนไขของแต่ละร้านให้ดีๆ นะจ๊ะ เรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่ร้านใหญ่ๆ มักจะมีโปรส่งฟรีให้ด้วยนะ แต่ก็ต้องดูยอดซื้อขั้นต่ำ หรือเงื่อนไขอื่นๆ ประกอบด้วยจ้า

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

อยากได้ Vivobook ในราคาคุ้มๆ ต้องรอช่วงไหน? บอกเลยว่าช่วง โปรโมชั่น นี่แหละคือโอกาสทอง! ในประเทศไทยเรามีช่วงเทศกาลลดราคาใหญ่ๆ หลายช่วงเลยจ้า เช่น ช่วง Double Digit Sale ยอดฮิตอย่าง 11.11 และ 12.12 ที่ Lazada กับ Shopee เค้าจัดแคมเปญกันแบบจัดเต็ม มีทั้งส่วนลดจากร้านค้า ส่วนลดจากแพลตฟอร์ม โค้ดส่งฟรี หรือผ่อน 0% ก็มีนะ นอกจากนี้ก็ยังมีโปรโมชั่นในช่วงเทศกาลอื่นๆ ของไทยด้วย เช่น ช่วงปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือช่วงเปิดเทอม ที่ร้านค้าไอทีมักจะจัดโปรโมชั่นเอาใจนักเรียน นักศึกษา

ส่วนร้านค้าไอทีใหญ่ๆ อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy บางทีก็มีโปรโมชั่นลดราคา หรือของแถมพิเศษในช่วงเวลาของเขาเองนะ หรือถ้าเป็นช่วงงานคอมพิวเตอร์ใหญ่ๆ อย่าง Commart อันนี้ยิ่งน่าไปเดินเลย เพราะจะมีโปรโมชั่นจากหลายแบรนด์ หลายร้านมาแข่งกัน ลด แลก แจก แถม กันแบบจัดเต็มสุดๆ ไปเลยจ้า สรุปคือ ถ้าไม่รีบมากนัก การรอซื้อช่วงโปรโมชั่น จะช่วยให้เราได้ Vivobook ในราคาที่คุ้มค่ากว่าปกติแน่นอน!

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากการลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวหรือคอมเมนต์จากผู้ใช้งาน Asus Vivobook ในไทยเนี่ย เสียงส่วนใหญ่ค่อนข้างไปในทางบวกนะ จุดที่คนไทยมักจะปลื้มกับ Vivobook ก็คือ:

• ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับสเปค: หลายคนบอกว่าในงบเท่านี้ ได้สเปคที่แรงพอใช้งานได้สบายๆ ถือว่าคุ้มมากๆ
• ใช้งานได้หลากหลาย: เหมาะทั้งกับการเรียน ทำงานเอกสาร ดูหนัง ฟังเพลง เล่นโซเชียล หรือบางรุ่นสเปคดีๆ หน่อยก็พอเล่นเกมเบาๆ ได้ด้วย
• ดีไซน์สวย น้ำหนักเบาพอพกพา: ถึงแม้จะไม่ใช่สาย Ultrabook บางเบาสุดๆ แต่ Vivobook ก็ออกแบบมาได้ดูดี ไม่เทอะทะเกินไป น้ำหนักกำลังดีพอที่จะพกพาไปเรียน ไปทำงานข้างนอกได้สะดวก
• คีย์บอร์ดพิมพ์ง่าย: หลายคนชมว่าคีย์บอร์ดของ Asus พิมพ์งานได้สบายมือ มีระยะกดกำลังดี
• มีฟีเจอร์เล็กๆ น้อยๆ ที่มีประโยชน์: เช่น บานพับที่กางได้ 180 องศา ทำให้แชร์หน้าจอให้เพื่อนดูง่าย หรือมีที่ปิดกล้องเว็บแคมช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัว
• จอภาพสีสวย (โดยเฉพาะรุ่น OLED): รุ่นที่เป็นจอ OLED ได้รับคำชมเยอะมากเรื่องสีสันที่สดใส คมชัด เหมาะกับการดูหนัง ดูรูปสุดๆ

แต่ก็มีบางความเห็นที่อาจจะติเรื่องวัสดุที่อาจจะไม่ได้พรีเมี่ยมเท่ารุ่นแพงๆ หรือเรื่องแบตเตอรี่ที่อาจจะไม่ได้อึดเท่าโน๊ตบุ๊คบางรุ่น แต่โดยรวมแล้วสำหรับราคาที่จ่ายไป ผู้ใช้งานชาวไทยส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างพอใจกับประสิทธิภาพและความคุ้มค่าที่ได้จาก Asus Vivobook จ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

ช่องทางการซื้อ Asus Vivobook ในไทยนี่มีให้เลือกเพียบเลยจ้า สะดวกแบบไหน จัดไปเลย!

• ร้านค้าออนไลน์ขนาดใหญ่: Lazada และ Shopee นี่คือแหล่งรวม Vivobook เลยก็ว่าได้ มีร้านค้า official ของ Asus เอง และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ อีกมากมาย ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะมากกก เปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีโปรโมชั่น โค้ดส่วนลดเพียบ และส่งตรงถึงหน้าบ้านได้เลย แต่ข้อเสียคือเราไม่ได้เห็นเครื่องจริงก่อนซื้อ ก็ต้องดูรีวิวร้าน หรือเลือกร้านที่น่าเชื่อถือนะจ๊ะ
• ร้านค้าไอทีชั้นนำ: เช่น JIB, Banana IT, Power Buy ร้านพวกนี้ก็มี Asus Vivobook วางขายหลากหลายรุ่นเลย ข้อดีคือเราสามารถไปดู ไปจับ ไปลองเล่นเครื่องจริงก่อนตัดสินใจซื้อได้เลย มีพนักงานให้คำแนะนำ และมีบริการหลังการขายที่น่าเชื่อถือ แต่ราคาก็อาจจะไม่ได้ถูกเท่าซื้อออนไลน์ช่วงจัดโปรหนักๆ นะ
• ร้านค้า Official Store ของ Asus: บนเว็บไซต์ของ Asus ประเทศไทย ก็มีให้เลือกซื้อนะ บางทีมีโปรโมชั่นพิเศษ หรือรุ่นที่อาจจะไม่มีในร้านอื่น ข้อดีคือมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ มีการรับประกันครบถ้วน แต่ตัวเลือกอาจจะไม่เยอะเท่าในแพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่ๆ
• งาน Commart: ถ้ามีช่วงที่จัดงาน Commart ที่ไบเทค บางนา อันนี้ห้ามพลาดเลยนะ! เป็นงานรวมสินค้าไอทีที่ใหญ่มากๆ มีร้านค้ามาออกบูธเยอะแยะเลย รับรองว่าเจอ Vivobook รุ่นที่ต้องการแน่นอน แถมโปรโมชั่นในงานก็เด็ดสุดๆ ไปเลยจ้า!

แต่ละช่องทางก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไปนะ ลองเลือกที่เหมาะกับความสะดวกและความสบายใจของตัวเองได้เลยจ้า

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปแล้ว! ถามว่า Asus Vivobook 14 และ 15 น่าซื้อไหม? ถ้าคุณกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คที่ คุ้มค่าในราคาที่เข้าถึงง่าย สำหรับการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเรียน ทำงาน หรือใช้ในชีวิตประจำวัน บอกเลยว่า น่าซื้อมากๆ เลยจ้า!

มันเหมาะสุดๆ กับ:

• นักเรียน นักศึกษา: ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คไว้ทำรายงาน พรีเซนต์ เรียนออนไลน์ หรือใช้เพื่อความบันเทิงเบาๆ ในงบที่ไม่สูงมาก
• วัยทำงาน: ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเครื่องที่สอง หรือโน๊ตบุ๊คสำหรับงานที่ไม่หนักมาก เช่น งานเอกสาร อีเมล ประชุมออนไลน์ ท่องเว็บ
• ผู้ใช้งานทั่วไป: ที่มองหาโน๊ตบุ๊คเครื่องแรก หรือเปลี่ยนเครื่องใหม่ ที่เน้นความสมดุลระหว่างราคา ประสิทธิภาพ และดีไซน์

สำหรับคำถามว่าควรเลือกรุ่น 14 หรือ 15 นิ้ว หรือควรเลือกรุ่นสเปคสูงหรือต่ำดี อันนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณเลยจ้า:

• ถ้าเน้น พกพาสะดวก ชอบเครื่องเล็กๆ หน่อย Vivobook 14 คือคำตอบ
• ถ้าเน้น พื้นที่หน้าจอเยอะ ชอบดูหนัง หรือทำงานที่ต้องการเห็นข้อมูลเยอะๆ Vivobook 15 อาจจะเหมาะกว่า
• ถ้าเน้นแค่ ใช้งานพื้นฐาน ไม่ได้ใช้โปรแกรมหนักๆ หรือเล่นเกมจริงจัง รุ่นเริ่มต้นสเปคกลางๆ ก็เพียงพอแล้ว และช่วยประหยัดงบได้เยอะเลย
• ถ้าต้องการ ประสิทธิภาพสูงขึ้น เผื่อใช้ทำงานที่หนักขึ้น หรืออยากได้ฟีเจอร์เจ๋งๆ เช่น จอ OLED รุ่นสเปคสูงขึ้นมาหน่อยก็คุ้มค่าที่จะลงทุนเพิ่มนะ

สรุปแล้ว Asus Vivobook 14 และ 15 เป็นโน๊ตบุ๊คที่ตอบโจทย์คนส่วนใหญ่ในไทยได้เป็นอย่างดี ด้วยราคาที่หลากหลายและสเปคที่ครอบคลุม การเลือกรุ่นไหนให้คุ้มที่สุดก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณในกระเป๋าของคุณนั่นแหละจ้า ขอให้ทุกคนได้โน๊ตบุ๊คที่ถูกใจ เอาไปใช้ประโยชน์กันได้เต็มที่เลยนะ! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• แนะนำ 7 โน๊ตบุ๊ค ASUS ตัวคุ้มรุ่นใหม่ เริ่มต้นที่ 15990 บาท อัพเดท ...
• โน้ตบุ๊คไม่ถึงหมื่น ทำอะไรได้บ้าง ?? | ASUS VIVOBOOK GO 15
• รีวิว ASUS Vivobook 15 M1502YA โน๊ตบุ๊คงบ 15990 คุ้มจริงไหม ...
• โน๊ตบุ๊คงบ 12990.- ASUS Vivobook GO 15 X1504GA-NJ322W ...
• โน้ตบุ๊ค Core Ultra Series 2 ในราคาเข้าถึงง่าย ?? | ASUS ...